คาถาชินบัญชร สวดเลย เสริมศิริมงคล เมตตามหานิยม ลาภผลเพิ่มพูล

คาถาชินบัญชร ประวัติที่มาของ คาถาชินบัญชร พระคาถาชินบัญชร เป็นคาถาหนึ่งที่มีความสำคัญมายาวนาน ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ช่วงรัชกาลที่ 2 จวบจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นบทสวดมนต์ที่ชาวไทยนิยมสวดเป็นประจำ ด้วยความหมายอันเป็นสิริมงคล และพุทธคุณอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระคาถาชินบัญชรนั่นเอง

แม้จะไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้แต่งพระคาถาชินบัญชร และมีหลายคนเข้าใจว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เป็นผู้แต่ง แต่ตามหลักฐานที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ระบุไว้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เป็นผู้ปรับบทสวดจากเดิมที่มีอยู่แล้ว มิได้เป็นผู้แต่งคนแรก

โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ได้ไปสวดพระคาถานี้ถวายองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพอพระทัยอย่างยิ่ง พร้อมรับสั่งว่าไพเราะและตรัสถาม “ขรัวโตได้มาจากไหน แต่งเองหรือเปล่า” สมเด็จพระพุฒาจารย์จึงได้ถวายพระพรตอบว่า “หามิได้ เป็นสำนวนเก่าของเมืองเหนือ นำมาแก้ไขดัดแปลงใหม่ ตัดตอนให้สั้นเข้า ของลังกายาวกว่านี้”

คาถาชินบัญชร

คาถาชินบัญชร ความหมายของ คาถาชินบัญชร

คำว่า ชินบัญชร นั้นมาจากภาษาบาลี  คำว่า ชิน หมายถึง พระพุทธเจ้า คำว่า บัญชร หมายถึง กรง หรือ เกราะ ความหมายโดยรวมของ คาถาชิญชร จึงแปลได้ว่า กรง หรือ เกราะป้องกันภัยของพระพุทธเจ้า ซึ่งเนื้อหาในคาถาในชินบัญชรเป็นการสวดอัญเชิญพระพุทธเจ้า จำนวน 28 พระองค์เสด็จมาสถิตอยู่ในทุกอณูของร่างกาย เปรียบเสมือนการอาราธนาพุทธคุณเป็นเกราะปกป้องคุ้มกันภัย และเสริมสิริมงคลนานาประการให้แก่ผู้สวดบูชานั่นเอง

จากนั้นจึงเป็นบทสวดอัญเชิญพระอรหันต์ที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าจำนวน 80 องค์ ผู้เลิศด้วยบารมีในด้านต่างๆ และอาราธนาพระสูตรอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ทรงอานุภาพในแต่ละด้าน มาสถิตในทุกส่วนของร่างกายจนรวมกันเป็นกำแพงแก้วคุ้มครอง 7 ชั้น รอบตัวในทุกทิศ จนไม่มีช่องว่างที่อันตรายจะเล็ดลอดเข้ามาได้

 

อานุภาพของ พระคาถาชินบัญชร

คาถาชินบัญชร นี้มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มาก คำโบราณได้เปรียบได้ว่า ฝอยท่วมหลังช้าง หมายถึง มากมากจนสุดที่จะประมาณได้หมด เพราะทั้งช่วยปกป้องคุ้มครอง ปัดเป่าเคราะห์ร้ายโรคภัยนานา เสริมสิริมงคล เสริมเมตตามหานิยมและโชคลาภ ช่วยขจัดภัยจากคุณไสยและภูติผีปีศาจ หากผู้ใดสวดมนต์ พระคาถาชินบัญชร เป็นประจำ ไม่ว่าจะแบบเต็มหรือแบบย่อ ก็เชื่อว่าสามารถช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง และคลาดแคล้วจากภัยนานาประการได้ ควรหมั่นสวดเป็นประจำเทอญ

คาถาชินบัญชร

พระคาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ตกทอดมาจากลังกา ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ ผู้ใดสวดภาวนาพระคาถานี้เป็นประจำสม่ำเสมอจะทำให้เกิดความสิริมงคลแก่ตนเอง ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัยตลอดจนคุณไสยต่างๆ เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึ้น ก่อนเจริญภาวนาให้ตั้งนะโม ๓ จบ นึกถึงหลวงปู่โตแล้วตั้งอธิษฐานว่า

คำภาวนาก่อนสวด

ตั้งนะโม 3 จบ  > ที่มาของบทสวด นะโม 3 จบ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

พระคาถาชินบัญชร ฉบับย่อ

ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา (ภาวนา 10 จบ)

 

พระคาถาชินบัญชร ฉบับเต็ม

ก่อนสวดให้นึกถึง หลวงปู่โต พรหมรังสี แล้วตั้งจิตอธิษฐาน ว่า

ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง   ธะนะกาโม ละเภธะนัง

อัตถิกาเย กายะ ญายะ   เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา

อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ

มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ

 

เริ่มสวดบทพระคาถาชินบัญชร 15 บท

  1. ชะยาสะนากะตา พุทธา     เชตวา มารัง สะวาหะนัง
    จะตุสัจจาสะภัง ระสัง        เย ปิวิงสุ นะราสะภา.
  2. ตัณหังกะราทะโย พุทธา    อัฏฐะวีสะติ นายะกา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง     มัตถะเกเต มุนิสสะรา.
  3. สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง        พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง      อุเร สัพพะคุณากะโร.
  4. หะทะเย เม อะนุรุทโธ        สารีปุตโต จะทักขิเณ
    โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง  โมคคัลลาโน จะ วามะเก.
  5. ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง       อาสุง อานันทะ ราหุโล
    กัสสะโป จะ มะหานาโม      อุภาสุง วามะโสตะเก.
  6. เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง        สุริโย วะ ปะภังกะโร
    นิสินโน สิริสัมปันโน          โสภิโต มุนิปุงคะโว
  7. กุมาระกัสสโป เถโร           มะเหสี จิตตะ วาทะโก
    โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง     ปะติฏฐาสิคุณากะโร.
  8. ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ        อุปาลี นันทะ สีวะลี
    เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา       นะลาเต ติละกา มะมะ.
  9. เสสาสีติ มะหาเถรา            วิชิตา ชินะสาวะกา
    เอเตสีติ มะหาเถรา             ชิตะวันโต ชิโนระสา
    ชะลันตา สีละเตเชนะ          อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.
  10. ระตะนัง ปุระโต อาสิ           ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ        วาเม อังคุลิมาละกัง
  11. ขันธะโมระปะริตตัญจะ         อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ         เสสา ปาการะสัณฐิตา
  12. ชินา นานาวะระสังยุตตา       สัตตัปปาการะ ลังกะตา
    วาตะปิตตาทะสัญชาตา        พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา.
  13. อะเสสา วินะยัง ยันตุ            อะนันตะชินะ เตชะสา
    วะสะโต เม สะกิจเจนะ          สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.
  14. ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ           วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
    สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ       เต มะหาปุริสาสะภา.
  15. อิจเจวะมันโต                     สุคุตโต สุรักโข
    ชินานุภาเวนะ                     ชิตุปัททะโว
    ธัมมานุภาเวนะ                   ชิตาริสังโฆ
    สังฆานุภาเวนะ                   ชิตันตะราโย
    สัทธัมมานุภาวะปาลิโต         จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.

 

 คำแปลพระคาถาชินบัญชร ทุกบท

  1. พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์ ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคือ อริยะสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์
  2. มี ๒๘ พระองค์คือ พระผู้ทรงพระนามว่า ตัณหังกรเป็นต้น พระพุทธเจ้าผู้จอมมุนีทั้งหมดนั้น
  3. ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนศีรษะ พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณอยู่ที่อก
  4. พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจพระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณทัญญะอยู่เบื้องหลัง
  5. พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย
  6. มุนีผู้ประเสริฐคือพระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสง อยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
  7. พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ
  8. พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี พระเถระทั้ง ๕ นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก
  9. ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือผู้มีชัยและเป็นพระโอรส เป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วน รุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่
  10. พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้าพระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง
  11. พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตร เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ
  12. อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น
  13. ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อม แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวะทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดีเป็นต้น เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ
  14. ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดีฉะนี้แล
  15. ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใดๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพ แห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ

 

 

 

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมาให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

ขอขอบคุณ :  S guru

เรื่องน่าสนใจ

สัญญาณเตือนภัยจากนก อันตรายพายุจะเข้า แผ่นดินไหว !!

สัญญาณเตือนภัยจากนก อันตรายพายุจะเข้า แผ่นดินไหว !!

สัญญาณเตือนภัยจากนก อันตรายพายุจะเข้า แผ่นดินไหว !!   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อมาให้ได้อ่านกัน ความเชื่อคนโบราณสอนลูกหลานให้สังเกตสัญชาตญาณของนกเมื่อจะมีเหตุร้าย นกจะมีพฤติกรรมอย่างไร และทำไมนกจึงมีพฤติกรรมอย่างที่ว่า หรือนกคือสัตว์ที่เทพเจ้าส่งมาเตือนภัยคน ความจริงคืออะไรกัน..   ความจริงนกมีการอพยพตามฤดูกาล เราจะมีความรู้สึกว่าทำไมนกจึงมีความจำที่ดี รู้เดือน วัน เวลา สถานที่ ได้แม่นยำทุกปี จะอพยพมาที่เดิมได้ทุกรุ่น และเมื่อสมัยโบราณเราใช้นกพิราบสื่อสาร ทำไมนกพิราบจึงบินกลับมาที่เดิมได้ ความจริงบนพื้นผิวโลกเรามีสนามแม่เหล็กที่ประกอบไปด้วยเส้นแรงแม่เหล็กโลกมากมาย จะมีคลื่นแม่เหล็กที่แผ่กระจายออกไปทั่ว ซึ่งตัวคนเราไม่มีความรู้สึกเพราะเกิดความเคยชินอีกทั้งมีปริมาณที่น้อยมากจนเราไม่รู้สึกตัว ในสมองของสัตว์จำพวกนกมีสารแมกเนไทซ์อยู่ สารนี้จะเหนี่ยวนำกับความเข้มของสนามแม่เหล็ก เนื่องจากบนโลกมนุษย์มีความเข้ม และจางของสนามแม่เหล็กโลกต่างกัน จึงทำให้สัตว์จำพวกนกสามารถรู้สึกได้ด้วยสารนี้เอง ที่สำคัญเป็ด ไก่ เป็นสัตว์จำพวกเดียวกับนก ลองสังเกตว่าหากเลี้ยงแบบไล่ทุ่งมันสามารถกลับเล้าได้เองเช่นกัน     ภัยธรรมชาติคาดเดาไม่ได้ แต่นกจะมีความรู้สึกกับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมได้ดี สัญชาตญาณไวทราบเหตุการณ์ผิดปกติ โดยเฉพาะนกพิราบป่าจะบินอพยพหนี บินลักษณะแตกตื่นบินวนอย่างไร้ทิศทางนกชนิดอื่นจะมีพฤติกรรมคล้าย ๆ กัน นกบ้านที่เลี้ยงไว้อย่างนกแก้วที่ไม่เคยมีพฤติกรรมแตกตื่น กลับทำท่าจะบินหนีออกจากกรง เพราะก่อนภัยธรรมชาติจะมา คลื่นแม่เหล็กจะแผ่กระจายออกไปแบบผิดปกติ ระบบประสาทนกจะไวกับความรู้สึกมากกว่าคน       ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com […]

7 ความเชื่อเรื่องวันลอยกระทง จริงหรือมั่ว !!

7 ความเชื่อเรื่องวันลอยกระทง จริงหรือมั่ว !!

7 ความเชื่อเรื่องวันลอยกระทง จริงหรือมั่ว !!   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีที่หลายๆคนรู้จัก มาให้ได้อ่านกัน.. ประเพณีกับความเชื่อย่อมเป็นของคู่กันอยู่แล้ว สำหรับเมืองไทย เช่นเดียวกับวันลอยกระทง ที่ก็มีความเชื่อมากมายไม่ต่างจากเทศกาลอื่นๆ ซึ่งจะจริงหรือมั่วนั้นก็ขึ้นกับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล   1. กระทงคว่ำ ชีวิตถึงช่วงหายนะ เป็นความเชื่อที่ฟังดูรุนแรงไปสักหน่อย เพราะคนสมัยก่อนนั้นเชื่อกันว่า หากลอยกระทงไปแล้ว แล้วอยู่ดีๆกระทงเกิดคว่ำขึ้นมา ด้วยอุบัติเหตุหรือฝีมือใครก็ตาม นั่นเป็นลางไม่ดี ที่เตือนว่าชีวิตคุณกำลังจะเกิดหายนะ! ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ผิดหวังกับทุกสิ่ง หรือซวยซ้ำซวยซ้อน 2. ไปลอยกระทง แล้วจะได้แฟน อันนี้ก็ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันยังไง ซึ่งถ้ามองตามหลักความเป็นจริง อาจเป็นเพียงกุศโลบายที่สร้างขึ้น เพื่อหลอกให้วัยรุ่นหันมาสนใจประเพณีไทยมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากใครเชื่อก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะก็เป็นเรื่องที่ดีที่จะสร้างกำลังใจให้คุณเจอรักที่สมหวัง 3. ใส่เหรียญในกระทง เป็นความเชื่อที่มีมานมนาน เพราะเชื่อกันว่าหากใส่เหรียญลงไปในกระทง จะช่วยเสริมดวงให้ชีวิตมีแต่ความมั่งคั่ง เงินทองไหลมาเทมาตลอดทั้งปี แต่ก่อนที่จะได้บุญ อาจจะต้องมีอารมณ์เสียกันบ้างกับพวกที่จ้องจะคว่ำกระทง เก็บเหรียญไปเป็นของตัวเองหน้าตาเฉย 4. ตัดเล็บลงกระทง เชื่อกันว่า หากตัดเล็บหรือเศษผมลงกระทง ก็เปรียบเสมือนการลอยเคราะห์ร้ายหรือสิ่งไม่ดีให้ออกไปจากชีวิต ทำให้ชีวิตของเราสว่างไสว ดีขึ้นกว่าเดิม 5. ห้ามชวนแฟนไปลอยสถานที่แห่งนี้ เพราะจะเลิกกัน […]

ความเชื่อเรื่อง การไหว้ผีในงานแต่งงานไทย

ความเชื่อเรื่อง การไหว้ผีในงานแต่งงานไทย

ความเชื่อเรื่อง การไหว้ผีในงานแต่งงานไทย   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อมาให้ได้อ่านกันเช่นเคย.. การไหว้ผีเหย้าผีเรือน และผีปู่ย่าตายายที่บ้าน ของฝ่ายเจ้าสาวนี้ เป็นการบอกกล่าวให้ทราบ และเพื่อให้ เจ้าบ่าว ทำการฝากเนื้อฝากตัว จะกระทำก่อน การตรวจนับสินสอด คือเมื่อขบวนขันหมากของเจ้าบ่าว ขึ้นบนเรือน แล้ว เฒ่าแก่ทั้งสอง ฝ่ายจำนำ คู่บ่าวสาวไปไหว้ผี โดยเฒ่าแก่ฝ่ายหญิง จูงมือเจ้าสาว เฒ่าแก่ฝ่ายชาย จูงมือเจ้าบ่าว ให้นั่งคู่กัน   การไหว้ผีนิยมไหว้ที่เสาดั้งกันเรือน หรือที่ตั้งของรูป ปู่ย่าตายายซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว การไหว้ผีนั้นนิยมใช้ธูป เพียงดอกเดียว ไม่ใช้สามดอกอย่างไหว้พระ นอกจากเครื่องเซ่นแล้ว อาจมีผ้าไหว้ ที่ทางเจ้าสาว จัดเตรียม หรือจัดมาไว้ด้วย การไหว้ผีในปัจจุบัน ก็ใช้มือพนมกราบธรรมดา ๓ ครั้ง แต่ในสมัยโบราณ จะมีคำกล่าว เป็นพิธีการ ยาวบ้าง สั้นบ้าง ตามแต่จะนิยม เป็นคำบอกกล่าว และขอพร ตามธรรมเนียมของคนไทย ซึ่งเมื่อจะกระทำ เรื่องอะไรก็ตาม ย่อมควรบอกกล่าว ปรึกษาผู้ใหญ่ให้ท่านรับรู้ […]

กระเป๋าแบบไหนที่ใช่? บ่งบอกลักษณะนิสัยในตัวคุณจากกระเป๋า ที่คุณใช้อยู่

กระเป๋าแบบไหนที่ใช่? บ่งบอกลักษณะนิสัยในตัวคุณจากกระเป๋า ที่คุณใช้อยู่

กระเป๋าบอกลักษณะนิสัยในตัวคุณ กระเป๋าบอกลักษณะนิสัยในตัวคุณ กระเป๋าแบบไหนที่ใช่? กระเป๋าถือที่สาวๆมักพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอดนั้น นอกจากจะบ่งบอกถึงรสนิยมของแต่ละคนแล้ว กระเป๋ายังสามารถบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยใจคอ ของผู้เป็นเจ้าของได้อีกด้วย วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จึงมีข้อมูลเกี่ยวกับการทายลักษณะนิสัยจากกระเป๋ามาฝากกันครับ ลองมาดูกันว่า หากคุณใช้กระเป๋าแบบนี้แปลว่าคุณเป็นคนแบบใด หรือจะแอบส่องดูของคนใกล้ตัวด้วยก็ได้ครับ   1. กระเป๋าใบเล็ก หากคุณเป็นคนชอบพกกระเป๋าใบเล็กๆ แปลว่าคุณเป็นคนมีระเบียบ พิถีพิถันในเรื่องการเลือกซื้อข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาเครื่องเเต่งกาย คุณเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง กระเป๋าใบเล็กที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย แสดงให้เห็นว่า คนที่ใช้เป็นคนช่างเลือกเพราะต้องเลือกแต่ของที่จำเป็นจริงๆมาใส่เท่านั้น   2. กระเป๋าสะพายข้าง กระเป๋าแบบนี้นิยมมากในหมู่สาวๆที่ต้องการความดูดี ดูมีระดับ และมีรสนิยม ในเชิงจิตวิทยาสาวที่เลือกใช้กระเป๋าแบบนี้จะเป็นคนประเภท ปลอดภัยไว้ก่อน ไม่ชอบเรื่องที่ต้องเสี่ยง มั่นใจในตัวเองใในระดับหนึ่ง ไม่ชอบโอ้อวดหรือเป็นจุดเด่น   3. กระเป๋าสะพายข้างใบใหญ่ ถึงแม้จะใบใหญ่แค่ไหน ก็มักจะเห็นสาวๆใส่ของลงไปจนแน่น ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ แบตสำรอง ไดอารี่ กระเป๋าสตางค์ หรือแม้แต่แปรงสีฟัน แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนรอบคอบ วิตกกังวลอยู่เล็กน้อย มักจะกลัวความผิดพลาด กลัวจะหลงลืมสิ่งสำคัญ เลยต้องพกทุกอย่างไว้ในกระเป๋าตลอดเวลา คนแบบนี้จะไม่ไปไหนแบบกระทันหันเพราะกลัวจะเตรียมตัวไม่ทัน   4. กระเป๋าขนาดใญ่ที่มีที่จับเล็ก ผู้ที่ใช้กระเป๋าแบบนี้เป็นคนที่อยากทำให้ตัวเองดูโดดเด่น […]