คาถาชินบัญชร สวดเลย เสริมศิริมงคล เมตตามหานิยม ลาภผลเพิ่มพูล

คาถาชินบัญชร ประวัติที่มาของ คาถาชินบัญชร พระคาถาชินบัญชร เป็นคาถาหนึ่งที่มีความสำคัญมายาวนาน ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ช่วงรัชกาลที่ 2 จวบจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นบทสวดมนต์ที่ชาวไทยนิยมสวดเป็นประจำ ด้วยความหมายอันเป็นสิริมงคล และพุทธคุณอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระคาถาชินบัญชรนั่นเอง

แม้จะไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้แต่งพระคาถาชินบัญชร และมีหลายคนเข้าใจว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เป็นผู้แต่ง แต่ตามหลักฐานที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ระบุไว้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เป็นผู้ปรับบทสวดจากเดิมที่มีอยู่แล้ว มิได้เป็นผู้แต่งคนแรก

โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ได้ไปสวดพระคาถานี้ถวายองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพอพระทัยอย่างยิ่ง พร้อมรับสั่งว่าไพเราะและตรัสถาม “ขรัวโตได้มาจากไหน แต่งเองหรือเปล่า” สมเด็จพระพุฒาจารย์จึงได้ถวายพระพรตอบว่า “หามิได้ เป็นสำนวนเก่าของเมืองเหนือ นำมาแก้ไขดัดแปลงใหม่ ตัดตอนให้สั้นเข้า ของลังกายาวกว่านี้”

คาถาชินบัญชร

คาถาชินบัญชร ความหมายของ คาถาชินบัญชร

คำว่า ชินบัญชร นั้นมาจากภาษาบาลี  คำว่า ชิน หมายถึง พระพุทธเจ้า คำว่า บัญชร หมายถึง กรง หรือ เกราะ ความหมายโดยรวมของ คาถาชิญชร จึงแปลได้ว่า กรง หรือ เกราะป้องกันภัยของพระพุทธเจ้า ซึ่งเนื้อหาในคาถาในชินบัญชรเป็นการสวดอัญเชิญพระพุทธเจ้า จำนวน 28 พระองค์เสด็จมาสถิตอยู่ในทุกอณูของร่างกาย เปรียบเสมือนการอาราธนาพุทธคุณเป็นเกราะปกป้องคุ้มกันภัย และเสริมสิริมงคลนานาประการให้แก่ผู้สวดบูชานั่นเอง

จากนั้นจึงเป็นบทสวดอัญเชิญพระอรหันต์ที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าจำนวน 80 องค์ ผู้เลิศด้วยบารมีในด้านต่างๆ และอาราธนาพระสูตรอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ทรงอานุภาพในแต่ละด้าน มาสถิตในทุกส่วนของร่างกายจนรวมกันเป็นกำแพงแก้วคุ้มครอง 7 ชั้น รอบตัวในทุกทิศ จนไม่มีช่องว่างที่อันตรายจะเล็ดลอดเข้ามาได้

 

อานุภาพของ พระคาถาชินบัญชร

คาถาชินบัญชร นี้มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มาก คำโบราณได้เปรียบได้ว่า ฝอยท่วมหลังช้าง หมายถึง มากมากจนสุดที่จะประมาณได้หมด เพราะทั้งช่วยปกป้องคุ้มครอง ปัดเป่าเคราะห์ร้ายโรคภัยนานา เสริมสิริมงคล เสริมเมตตามหานิยมและโชคลาภ ช่วยขจัดภัยจากคุณไสยและภูติผีปีศาจ หากผู้ใดสวดมนต์ พระคาถาชินบัญชร เป็นประจำ ไม่ว่าจะแบบเต็มหรือแบบย่อ ก็เชื่อว่าสามารถช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง และคลาดแคล้วจากภัยนานาประการได้ ควรหมั่นสวดเป็นประจำเทอญ

คาถาชินบัญชร

พระคาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ตกทอดมาจากลังกา ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ ผู้ใดสวดภาวนาพระคาถานี้เป็นประจำสม่ำเสมอจะทำให้เกิดความสิริมงคลแก่ตนเอง ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัยตลอดจนคุณไสยต่างๆ เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึ้น ก่อนเจริญภาวนาให้ตั้งนะโม ๓ จบ นึกถึงหลวงปู่โตแล้วตั้งอธิษฐานว่า

คำภาวนาก่อนสวด

ตั้งนะโม 3 จบ  > ที่มาของบทสวด นะโม 3 จบ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

พระคาถาชินบัญชร ฉบับย่อ

ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา (ภาวนา 10 จบ)

 

พระคาถาชินบัญชร ฉบับเต็ม

ก่อนสวดให้นึกถึง หลวงปู่โต พรหมรังสี แล้วตั้งจิตอธิษฐาน ว่า

ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง   ธะนะกาโม ละเภธะนัง

อัตถิกาเย กายะ ญายะ   เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา

อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ

มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ

 

เริ่มสวดบทพระคาถาชินบัญชร 15 บท

  1. ชะยาสะนากะตา พุทธา     เชตวา มารัง สะวาหะนัง
    จะตุสัจจาสะภัง ระสัง        เย ปิวิงสุ นะราสะภา.
  2. ตัณหังกะราทะโย พุทธา    อัฏฐะวีสะติ นายะกา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง     มัตถะเกเต มุนิสสะรา.
  3. สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง        พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง      อุเร สัพพะคุณากะโร.
  4. หะทะเย เม อะนุรุทโธ        สารีปุตโต จะทักขิเณ
    โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง  โมคคัลลาโน จะ วามะเก.
  5. ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง       อาสุง อานันทะ ราหุโล
    กัสสะโป จะ มะหานาโม      อุภาสุง วามะโสตะเก.
  6. เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง        สุริโย วะ ปะภังกะโร
    นิสินโน สิริสัมปันโน          โสภิโต มุนิปุงคะโว
  7. กุมาระกัสสโป เถโร           มะเหสี จิตตะ วาทะโก
    โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง     ปะติฏฐาสิคุณากะโร.
  8. ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ        อุปาลี นันทะ สีวะลี
    เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา       นะลาเต ติละกา มะมะ.
  9. เสสาสีติ มะหาเถรา            วิชิตา ชินะสาวะกา
    เอเตสีติ มะหาเถรา             ชิตะวันโต ชิโนระสา
    ชะลันตา สีละเตเชนะ          อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.
  10. ระตะนัง ปุระโต อาสิ           ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ        วาเม อังคุลิมาละกัง
  11. ขันธะโมระปะริตตัญจะ         อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ         เสสา ปาการะสัณฐิตา
  12. ชินา นานาวะระสังยุตตา       สัตตัปปาการะ ลังกะตา
    วาตะปิตตาทะสัญชาตา        พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา.
  13. อะเสสา วินะยัง ยันตุ            อะนันตะชินะ เตชะสา
    วะสะโต เม สะกิจเจนะ          สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.
  14. ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ           วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
    สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ       เต มะหาปุริสาสะภา.
  15. อิจเจวะมันโต                     สุคุตโต สุรักโข
    ชินานุภาเวนะ                     ชิตุปัททะโว
    ธัมมานุภาเวนะ                   ชิตาริสังโฆ
    สังฆานุภาเวนะ                   ชิตันตะราโย
    สัทธัมมานุภาวะปาลิโต         จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.

 

 คำแปลพระคาถาชินบัญชร ทุกบท

  1. พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์ ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคือ อริยะสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์
  2. มี ๒๘ พระองค์คือ พระผู้ทรงพระนามว่า ตัณหังกรเป็นต้น พระพุทธเจ้าผู้จอมมุนีทั้งหมดนั้น
  3. ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนศีรษะ พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณอยู่ที่อก
  4. พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจพระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณทัญญะอยู่เบื้องหลัง
  5. พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย
  6. มุนีผู้ประเสริฐคือพระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสง อยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
  7. พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ
  8. พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี พระเถระทั้ง ๕ นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก
  9. ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือผู้มีชัยและเป็นพระโอรส เป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วน รุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่
  10. พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้าพระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง
  11. พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตร เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ
  12. อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น
  13. ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อม แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวะทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดีเป็นต้น เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ
  14. ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดีฉะนี้แล
  15. ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใดๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพ แห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ

 

 

 

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมาให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

ขอขอบคุณ :  S guru

เรื่องน่าสนใจ

ตั้งชื่อลูกสาวตามวันเกิด ชื่อมงคลคนเกิดวันจันทร์

ตั้งชื่อลูกสาวตามวันเกิด ชื่อมงคลคนเกิดวันจันทร์

ตั้งชื่อลูกสาวตามวันเกิด ชื่อมงคลคนเกิดวันจันทร์   บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ เกี่ยวกับ วิธีตั้งชื่อลูก มาฝากกัน วิธีตั้งชื่อลูกทำได้อย่างไร ชื่อคนเกิดวันจันทร์ ตั้งชื่อลูกสาวตามวันเกิด ชื่อมงคลผู้หญิง จะใช้ชื่อไหนดี เอาไว้เสริมดวง เพิ่มความเป็นสิริมงคลกับชีวิต ตั้งชื่อ ตั้งชื่อลูก เปลี่ยนชื่อ ชื่อมงคล วิธีการตั้งชื่อลูกทำได้อย่างไร สำหรับการตั้งชื่อมงคล ตั้งชื่อลูก วิเคราะห์ชื่อ ตั้งชื่อตามวันเกิด วิธีตั้งชื่อตามวันเกิด ชื่อมงคลตามวันเกิด จะมีสิ่งที่ต้องคำนึงอยู่ ก็คือ บริวาร อายุ เดช ศรี มูละ อุตสาหะ มนตรี  และ ห้ามมี กาลกิณี ชื่อคนเกิดวันจันทร์  ตามตำราโบราณ การตั้งชื่อบุคคลนั้นจะต้องประกอบไปด้วยความหมายของทักษาที่ดี และยึดทักษาปกรณ์เป็นหลัก คือ ต้องใช้อักขระในวรรค บริวาร , อายุ , เดช , ศรี , มูละ , อุตสาหะ หรือ มนตรีเท่านั้น   คนเกิดวันจันทร์ ห้าม อักขระวรรคกาลกิณี คือ อ สระ โดยเด็ดขาด   ชื่อที่ดีควรมีความหมายที่ดีด้วย เมื่อได้ชื่อตามหลักทักษาปกรณ์แล้ว […]

ฝันว่าทะเลาะกับคนไม่รู้จัก ทำนายฝันหมายความว่าอย่างไร พร้อมเลขเด็ด แม่นๆ ที่เกี่ยวกับความฝัน เช็กเลย!

ฝันว่าทะเลาะกับคนไม่รู้จัก ทำนายฝันหมายความว่าอย่างไร พร้อมเลขเด็ด แม่นๆ ที่เกี่ยวกับความฝัน เช็กเลย!

ฝันว่าทะเลาะกับคนไม่รู้จัก หมายความว่าอย่างไรบ้าง ทำนายฝันโชคดีหรือร้าย ทำนายฝันถึงเลขโชคลาภเลขอะไรบ้างเช็กเลย  heng99 เรามีคำตอบมาฝากกันครับ ในบทความนี้ เว็บเลขเด็ดออนไลน์ เราจะพามาดูความหมายของการฝัน พร้อมส่องเลขเด็ด เลขนำโชคกัน   ฝันว่าทะเลาะกับคนไม่รู้จัก เมื่อฝันว่าทะเลาะกับคนอื่น สิ่งใดๆที่ตั้งใจเอาไว้อาจจะไม่สมหวังในตอนนี้ แต่ก็จะมีสิ่งดีๆบางสิ่งเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว ศนที่เคยไม่ถูกกันจะมาขอคืนดี ได้รับข่าวจากญาติหรือมิตรที่อยู่ห่างไกล มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า โชคลาภพอมีอยู่บ้างแต่อาจจะต้องลงแรงเองอยู่พอสมควร ความรัก ใครที่ยังโสดจะมีโอกาสได้พบเจอคนที่เข้ามาทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ แต่ตามคำทำนาย เขาหรือเธอคนนี้จะยังไม่ใช่คู่ชีวิตของคุณ ส่วนคนที่มีคู่อยู่แล้วอาจจะได้มีปากเสียงจากความไม่เข้าใจกัน ต้องพยายามที่จะทำความเข้าใจและให้อภัยซึ่งกันและกัน การงาน การเงิน การงานในช่วงนี้อาจจะหนักหนากันสักหน่อย เพราะจะมีปัญหาเข้ามาคอยกวนใจ มีเรื่องให้ต้องแก้ไขอย่างไม่หยุดหย่อน ตกอยู่ในภาวะกดดันบ่อยๆ แต่หากผ่านพ้นไปได้จะพบเจอกับเรื่องดี มีโอกาสเปลี่ยนแปลงหรือโยกย้ายที่ทำงาน แต่จะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม สำหรับด้านการเงินนั้น จะมีรายจ่ายที่ส่วนใหญ่ต้องเสียไปกับความช่วยเหลือที่มีคนมาร้องขอ มีโชคลาภจากความพยายาม ทั้งเงินพิเศษที่ได้จากการทำงาน การลงทุน หรือแม้แต่การเสี่ยงดวงอย่างหวยออนไลน์ และสลากกินแบ่งฯที่ได้ตรวจในวันหวยออก สุขภาพ ให้ระวังเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุห้ามประมาท ขากระดูกกล้ามเนื้อ การทำบุญกับโลงศพ การรักษาตัวสักระยะ เลขนำโชค ฝันเห็น “ทะเลาะกับคนไม่รู้จัก” เลขมงคล เด่นนำโชค 1 5 8 เลขมงคล เด่นรอง 36 61 84 […]

ดูดวงความรัก เผยลักษณะเนื้อคู่ ของคนแต่ละกรุ๊ปเลือด

ดูดวงความรัก เผยลักษณะเนื้อคู่ ของคนแต่ละกรุ๊ปเลือด

ดูดวงความรัก เผยลักษณะเนื้อคู่ ของคนแต่ละกรุ๊ปเลือด สาวโสด สาวมีคู่ รีบมาอ่านด่วนๆ “เลขเด็ดออนไลน์ ดูดวงวันนี้” จะมาเปิดดวงความรัก ทำนายลักษณะเนื้อคู่ที่เหมาะสม ของคนแต่ละกรุ๊ปเลือด ว่ามีสไตล์ความรัก สามารถคบกันได้หรือไม่ หรือหากคบกันแล้ว ควรระวังนิสัยด้านใดบ้าง? มาเช็กกันดีกว่า ว่าจะแม่นมากแค่ไหน ถ้าอยากรู้ ไปพิสูจน์พร้อมกันเลยครับ.. กรุ๊ป A ลักษณะพื้นฐานของคนเลือดกรุ๊ป A เป็นคนค่อนข้างรอบคอบเล่นตัวนิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับหยิ่ง มีความโดดเด่นในตัวมากกว่าคนอื่น เวลาจะทำอะไรชอบคิดวางแผนการไว้ล่วงหน้า และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี สไตล์ความรัก เรียกว่าคิดก่อนรัก รักแรกพบไม่ค่อยเกิดขึ้นกับคนกรุ๊ปเลือดนี้ แต่เมื่อตัดสินใจรักแล้วก็จะรักเลย รักเดียวใจเดียว ด้วยความที่เป็นคนรอบคอบ ความรักที่ผ่านกระบวนการคิดก่อนจึงไม่ค่อยเร่าร้อน แต่เป็นรักแท้ที่มั่นคง   กรุ๊ป B ลักษณะพื้นฐานของคนเลือดกรุ๊ป B เป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชอบความแตกต่าง ไม่ชอบลอกเลียนแบบใคร มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่ค่อยซีเรียสกับชีวิตเพราะเป็นคนไม่แคร์ต่อสิ่งรอบข้างเท่าไรนักดังนั้นจึงสดใสร่าเริงอยู่เสมอ สไตล์ความรัก เป็นเพราะความรักอิสระและคุณลักษณะโดดเด่นประจำตัวรูปแบบของความรักมักจะเป็นไปใน ลักษณะที่เอาแต่ใจตัวเอง ดังนั้นจุดเริ่มต้นของความรักของคนกรุ๊ปเลือดนี้จึงเป็นความรักที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบในความสัมพันธ์แบบอื่นก่อน คืออาจจะคบเป็นเพื่อนมาก่อนแล้วค่อยเป็นคู่รักทีหลัง กรุ๊ป AB เป็นคนที่เข้ากับคนง่าย ชอบช่วยเหลือผู้อื่นและมีความยุติธรรม สไตล์ความรัก เป็นความรักที่เรียบง่าย ไม่ชอบแสดงความรักต่อหน้าคนอื่น […]

พิธีลุยไฟ ความเชื่อจากคนโบราณ

พิธีลุยไฟ ความเชื่อจากคนโบราณ

พิธีลุยไฟ ความเชื่อจากคนโบราณ   เชื่อว่าคุณคงเคยได้ยินเรื่อง การลุยไฟเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์มามากแล้ว และพิธีกรรมต่าง ๆ ในศาสนาอาศัยการลุยไฟเป็นหนึ่งในพิธีที่แสดงความศักดิ์สิทธิ์ การลุยไฟจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์กับตัวเองได้หรือไม่ ไฟจะเผาคนบริสุทธิ์หรือเปล่า และเทคนิคการเดินจะเดินอย่างไรเมื่อเข้าพิธีลุยไฟ รับรองว่าคุณจะบริสุทธิ์หรือไม่ ไฟมิอาจทำอันตรายคุณได้ บทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะเสนอเทคนิคง่าย ๆ สำหรับผู้ที่อยากลองลุยไฟ      ความเชื่อคนโบราณ จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ว่าบุคคลใด ที่โดนกล่าวหาว่าทำผิด แต่บุคคลนั้นอ้างว่าตนเองมิได้ทำความผิด จะมีการพิสูจน์แสดงความบริสุทธิ์โดยวิธีการลุยไฟ การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยวิธีนี้ความเชื่อจากคนโบราณเชื่อว่าคนที่มีใจบริสุทธิ์จะเดินผ่านกองไฟได้โดยไม่มีอันตราย เริ่มโดยนำเชื้อไฟมากองไว้แล้วจุดไฟขึ้น ผู้โดนกล่าวหาว่าทำผิดตั้งจิตอธิฐานว่า “ตนบริสุทธิ์ขออย่าให้มีความร้อนจากกองไฟทำลายได้” จิตที่แน่วแน่ประกอบกับเทพเทวาจะเป็นพยานปกป้องร่างขณะเดินลุยไฟ นอกจากนี้ วรรณกรรมเรื่องดังมีตัวละครที่ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ของตนโดยวิธีลุยไฟ แต่การลุยไฟจะต้องใช้เท้าเปลือยเปล่าเหยียบไปที่กองเพลิง ว่ากันแล้วบุคคลที่โดนกล่าวหาจะบริสุทธิ์หรือไม่ อาจได้รับอันตรายด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นการจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ควรเลือกวิธีนี้ นอกจากพิธีทรงเจ้าแสดงความศักดิ์สิทธิ์ในเทศกาลกินเจแล้ว พิธีลุยไฟหรือเกี่ยโฮ้ยเป็นอีกพิธีหนึ่งสำหรับเทศกาลกินเจที่ใช้เรียกความศรัทธา พิธีนี้จะจัดขึ้นในวันที่เจ็ดเดือนเก้าตามปฏิทินจันทรคติของจีนหรือวันเก๊าวั่ยชิวชิค เจ้าหน้าที่โรงเจจะนำไม้เชื้อเพลิงวางไว้ที่ทางเดินยาวประมาณสิบเมตร สำหรับให้ผู้ที่กินเจเดินลุยไฟ คติความเชื่อจากคนจีนโบราณเชื่อว่าการลุยไฟเป็นการสะเดาะเคราะห์ ในพิธีกินเจวันดังกล่าว การวางไม้เชื้อเพลิงที่ว่านี้เจ้าหน้าที่จะเว้นที่ว่างสำหรับลงน้ำหนักเท้า การเดินผู้ที่จะเดินลุยไฟควรสำรวจเส้นทางเชื้อเพลิงก่อน เวลาร่วมพิธีผู้ที่จะเดินลุยไฟเลือกเหยียบบริเวณที่มอดไฟแล้ว สลับกับที่ว่างที่เว้นไว้ และการเดินลุยไฟควรเดินเท้าเปล่าที่แห้ง ไม่ควรเปียกน้ำเพราะน้ำจะเป็นตัวพาความร้อนสู่ฝ่าเท้าหรือบางคนไม่กล้าลุยก็ยืนร่วมพิธีอยู่ห่าง ๆ ก็ได้      ความเชื่อคนโบราณทุกชาติพรรณกับไฟ มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน เพราะเชื่อว่าไฟคือเทพองค์หนึ่งที่คอยชำระล้าง สิ่งที่ไม่ดี และเป็นสะพานส่งสรรพสิ่งสู่อีกปรโลก […]