ประสบการณ์ขนหัวลุก
วันนี้พี่พราย ขออนุญาติมาแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุก ที่เกิดขึ้นจริงๆ (ไม่ใช้ตัวแสดงแทน) ซึ่งเรื่องที่พี่พราย จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆได้ฟังกันในวันนี้นั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยตรงกับตัวพี่พรายเอง เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยที่พี่พรายกำลังศึกษาอยู่ ณ มหาวิทยาลัย ชื่อดังแห่งหนึ่ง (ย่านรังสิต) วันนั้นเป็นวันที่ ทาง มหาลัย ได้ทำการจัดค่ายอาสา พานักศึกษาออกต่างจังหวัดเพื่อไปช่วยโรงเรียนที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน ปรับปรุง ซ่อมแซมห้องน้ำและบริจาคของใช้จำเป็นต่างๆแก่ทางโรงเรียน
ซึ่งจุดมุ่งหมายของการไปออกค่ายในวันนั้นคือ โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านชนบท อยู่โซนนอกเมืองของจังหวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ในแถบภาคอีสาน เดินทางโดย รถบัส 1 คัน คันล่ะ 50 คน ซึ่งโรงแรมที่ทาง มหาลัย ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้แก่นักศึกษานั้น คือโรงแรมใหญ่ที่สุด ในย่านนั้น บรรยากาศที่พักภายนอกนั้นดูเงียบๆ แม้จะตกแต่งตัวอาคารและบริเวณโดยรอบอย่างสวยงาม แต่น่าแปลกใจว่าทำไม ถึงไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ (ทราบภายหลังว่าโรงแรมแห่งนี้เคยปิดกิจการลงไปแล้ว1-2ปี และพึ่งจะมีนายทุนมารับช่วง ปรับปรุงและเปิดให้ใช้บริการอีครั้งในปีที่พี่พรายไปออกค่ายพอดี) และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้น่าแปลกใจไปยิ่งกว่านั้นก็คือ ทั้งโรงแรม มีพนักงานอยู่เพียงแค่ 4-5 คนเท่านั้น ซึ่งห้องที่เราจองไว้คือ 20ห้อง เมื่อได้กุญแจจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้าที่พักของตัวเอง
คืนนั้นบรรยากาศภายในห้อง ค่อนข้างเงียบสงบ จากความอ่อนล้าในการเดินทาง เพื่อนร่วมห้องของพี่พราย เมื่อเข้าห้องมา จัดการธุระของตัวเองเสร็จแล้ว ก็หลับไป แต่กลับกัน คืนนั้นทำไมตัวฉันถึงนอนไม่หลับ ข่มตายังไงก็ไม่หลับ กระสับกระส่าย จนเวลาผ่านไปสักพัก อาจจะด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวันจนทำให้ฉันหลับลงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในคืนนั้นเองเหตุการณ์อันน่าขนหัวลุกก็เกิดขึ้น
ในขณะที่กำลังหลับอยู่ ฉันรู้สึกเหมือนมีใครกำลังมายืนมองฉันอยู่จากปลายเตียง !! ด้วยความงัวเงียก็ตื่น ลืมตาขึ้นมามองดูรอบๆ ก็ไม่มีอะไร ก็เลยหลับต่อไป จนเวลาผ่านไปก็มีสิ่งที่ทำให้ ฉันลืมตา ลุกขึ้นมาดูอีกครั้ง… ฉันได้ยินเสียงเหมือนมีคนยืนคุยกันอยู่หน้าห้องน้ำและเหมือนมีคนใช้ห้องน้ำอยู่ (เสียงคนกดชักโครก !!) แต่สิ่งแรกที่คิดคือ เพื่อนเราอาจจะ คุยโทรศัพท์ หรือลุกเข้าห้องน้ำรึป่าว? ก็เลยล้มตัวนอนต่อ และในตอนนั้นเอง ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆ มานั่งอยู่ตรงปลายเตียง เพราะด้วยความยุบตัวของที่นอน ทำให้ฉันคิดไปว่าเพื่อนร่วมห้องคงมานั่งพัก เล่นโทรศัพท์ และทันใดนั้นเอง ด้วยความที่ตื่นลืมตามาสักพักแล้ว ทำให้ดวงตาปรับสภาพกับความมืดและสามารถมองเห็นสิ่งรอบข้างได้เล็กน้อย และสิ่งที่ให้ฉันต้องสตั๊นไป เพราะความกลัวที่สุดในชีวิตก็คือ การเห็นเพื่อนร่วมห้องอีกคนหนึ่ง นอนหลับอยู่ข้างๆฉันอย่างสบายใจ แล้วเสียงคนคุยกัน ,เสียงคนใช้ห้องน้ำ , ใครกันที่มานั่งอยู่ปลายเตียง ซึ่งแน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้นมันทำให้ใจฉันสั่น เต็นเร็วไม่เป็นจังหวะ รู้สึกเสียวสันหลังมาก ขนที่แบนลุก ซู่!! ต้องคุมผ้าห่มและนอนสวดมนต์ แบบนั้นตลอดคืน จนเผลอหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้น ต้องเก็บของ เตรียมตัวเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม และไม่พูดเรื่องนี้กับใครเลยสักคน จนรถเลื่อนออกจากโรงแรมไปได้สักพัก เพื่อนผู้ชายก็นั่งเล่น นั่งคุยกันว่า เมื่อคืนพวกมันนั่งดื่ม นั่งปาร์ตี้กันเลยไปชวนพี่ที่อยู่หน้าเค้าเตอร์มานั่งคุย นั่งดื่มด้วยกัน พี่เขาจึงเล่าให้พวกมันฟังกันว่า โรงแรมแห่งนี้เคยมีสองสามีภรรยาคู่หนึ่งมาพัก ภรรยาของเขาจับได้ว่า สามีกำลังมีผู้หญิงคนอื่นเลยวางยาให้สามีสลบและปาดคอสามีในเวลาต่อมา จากนั้นตัวเธอเองจึงผูกคอตายตามสามีไป และที่น่าเศร้าใจไปกว่านั้นก็คือ สาวผู้นั้นกำลังตั้งครรภ์อยู่ และหลังจากนั้นเอง ไม่ว่าใครที่เข้ามาพักในโรงแรมแห่งนี้ ก็จะต้องเจอกับเสียงและเหตุการณ์ระทึกขวัญแบบนี้เป็นประจำ จนทำให้เป็ฯข่าวลืมต่อๆกันไปและไม่มีใครเข้ามาใช้บริการอีกเลย ต่อมาได้มีลูกๆหลานๆ กลับมาปรับปรุงและเปิดอีกครั้ง แต่เหตุการณ์เช่นนี้ ก็ยังคงเกิดขึ้นต่อไป เพราะดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุดท้ายที่เขาทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันเป็นที่สุดท้าย จึงทำให้เขาหวงไม่อยากให้ใครเข้ามาและไม่ยอมออกไปไหนเช่นกัน…
ที่มารูปภาพ : clip.teenee.com
อย่างไรก็ตามสิ่งที่พราย ได้นำมาเล่าให้ทุกคนฟังในวันนี้
ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่านด้วยนะคะ
* สามารถติดตามบทความเรื่องลี้ลับออนไลน์ได้เพิ่มเต็มทางเว็บไซต์ เลขเด็ดออนไลน์ *