ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว   หมู่เกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟ หรือ Ring of Fire ซึ่งเป็นแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลกทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกจึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวอยู่ตลอดทั้งปี ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อสืบทอดกันมาแต่โบราณว่าอาการดิ้นพล่านของปลาดุกเป็นสัญญาณเตือนว่าจะเกิดแผ่นดินไหว โดยชาวญี่ปุ่นแต่ครั้งโบราณมีความเชื่อว่าในใต้พิภพนี้มีปลาดุกยักษ์อาศัยอยู่ เมื่อปลาดุกดิ้นครั้งใด ก็จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว ความเชื่อนี้หาได้เป็นสิ่งที่เลื่อนลอยไม่ ในปีคศ.2011 หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงทางชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น คณะกรรมาธิการวุฒิสภาตรวจสอบการบริหารราชการ ได้เชิญศาสดาจารย์ท่านหนึ่งจากมหาวิทยาลัยโกเบ เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างปลาดุกกับแผ่นดินไหว ศาสดาจารย์ท่านนั้นได้ให้ข้อมูลว่า ปลาดุก เป็นสัตว์ที่มีความไวต่อกระแสไฟฟ้าและความสั่นสะเทือน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะรับรู้ถึงการเกิดแผ่นดินไหวก่อนที่มนุษย์จะรู้สึก แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า อาการดิ้นพล่านของปลาดุก กับปฏิกริยาที่ไวต่อกระแสไฟฟ้าและการสั่นสะเทือนนี้ จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำนายการเกิดแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้าหรือไม่อย่างไร สัตว์หลายชนิดมีสัญชาติญาณและประสาทสัมผัสที่ไวต่อการรับรู้ถึงความผิดปกติของภัยธรรมชาติ เช่น การที่มดขนไข่หนีก่อนที่จะเกิดฝนตกน้ำท่วม เป็นต้น    ภัยแผ่นดินไหวเองก็เช่นกัน เรามักได้จะยินข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมประหลาดๆของสัตว์ ในยามก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าสิ่งเหล่านี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ที่จังหวัด Ibaragi ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว มีศาลเจ้าแห่งหนึ่งสร้างขึ้นในสมัย 660 ปีก่อนคริสตกาล ศาลเจ้าแห่งนี้ชื่อว่า Kashima (鹿島神宮 : Kashima jinguu) เป็นสถานที่บูชาเทพเจ้า Kashima เพื่อขอให้พิทักษ์ภัยจากแผ่นดินไหว โดยการใช้หินขนาดใหญ่เรียกว่า Kaname ishi (要石) กดทับปลาดุกยักษ์นั้นไว้ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ จะมีแท่งหินฝังลึกลงไปในดิน […]

ความเชื่อเรื่องการขอพรพระจันทร์

ความเชื่อเรื่องการขอพรพระจันทร์   เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินมาบ้างแล้วเกี่ยวกับเรื่องการขอพรพระจันทร์หรือการขอพรในวันจันทร์เพ็ญและวันจันทร์ดับ หรือเรียกอีกอย่างว่า วันเดือนดับ ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายถึงวันเกิดจันทรคราส หรือ สุริยคราส แต่เป็นปรากฏที่เกิดขึ้นประจำเดือนละครั้ง สำหรับวันเดือนดับในทางโหราศาสตร์โบราณนั้นเรียกว่า”วันอมาวสี” ส่วนในภาษาอังกฤษเรียกว่า “วันนิวมูน” (New Moon) แต่วันจันทร์เพ็ญจะเรียกกันว่า “วันปุรณมี” ซึ่งวันนี้จะเป็นวันที่ตำแหน่งองศาของพระจันทร์กับพระอาทิตย์ทับกันสนิท เหมาะอย่างยิ่งที่จะทำการขอพรฟ้าหรือขอพรพระจันทร์ โดยความเชื่อนี้มีการปฏิบัติสืบเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลเลยทีเดียว หมายเหตุ ปฏิทินวันขอเงินจากพระจันทร์จะมีการปรับเปลี่ยนไปแต่ละปี ผู้ที่จะทำการขอพร ควรตรวจดูวันและเวลาที่แม่นยำตามปีพ.ศ.ปัจจุบัน      ปฏิทินวันขอเงินจากพระจันทร์ ประจำปี 2556 วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2556 ตรงกับ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 2 เวลา 02.45 น. วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556 ตรงกับ แรม 15 ค่ำ เดือน 2 เวลา 14.22 น. วันอังคารที่ 12 […]

เด็กเกิดใหม่กับธรรมเนียมการขอพรเทพเจ้าของชาวญี่ปุ่น

เด็กเกิดใหม่กับธรรมเนียมการขอพรเทพเจ้าของชาวญี่ปุ่น

เด็กเกิดใหม่กับธรรมเนียมการขอพรเทพเจ้าของชาวญี่ปุ่น   ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการขอพรเป็นอย่างมาก ล่าสุด! เพจ Osaka Convention & Tourism Bureau ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับธรรมเนียม การขอพรเทพเจ้าของเด็กเกิดใหม่ หรือที่เรียกกันว่า Omiya mairi โดยพิธีกรรมดังกล่าวจะทำในศาลชินโต สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว ทุกครั้งที่มีเด็กเกิด หรือโต ตามลำดับจนเป็นผู้ใหญ่ แต่งงานออกครัวเรือน ฯลฯ พ่อแม่มักพามาที่ศาลเพื่อรายงานให้เทพเจ้ารับทราบ และขอพรช่วยปัดเป่าอำนวยความสุขให้ทุกครั้งไป ตามธรรมเนียมดั้งเดิม พ่อแม่จะพาเด็กชายอายุ 30-31 วัน เด็กหญิงอายุ 32-33 วันมา ขอพรเทพเจ้า ที่ศาลเป็นครั้งแรกในชีวิต โดยใส่กิโมโนมา พร้อมชุดคลุมกิโมโนด้านนอกของแม่ เด็กชายจะเขียนอักษร “大” (Dai) เด็กหญิงจะเขียนอักษร “小” (Sho) ด้วยลิปสติคสีแดงไว้ที่หน้าผาก ว่ากันว่าเป็นธรรมเนียมเฉพาะของคนภูมิภาคคันไซ โดยเริ่มมาจากเกียวโตในสมัยเฮอัน “Dai” หมายความถึงให้เติบโตแข็งแรง “Sho” หมายความว่าให้เป็นคนจิตใจโอบอ้อมอารี นั่นเอง     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล […]

ความเชื่อเรื่องของตัวอุบาทว์

ความเชื่อเรื่องของตัวอุบาทว์

ความเชื่อเรื่องของตัวอุบาทว์   คนสมัยโบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่อง “ตัวอุบาทว์”มาช้านาน โดยส่วนใหญ่จะหมายถึงสิ่งที่แสดงออกเป็นลาง เช่น ฮุ้งลงกินน้ำในโอ่งภายในบ้าน ไก่ป่าบินเข้าบ้าน งูเลื้อยเข้าบ้าน นกตกลงมาตายต่อหน้า งูตกลงมาห้อยบ่า หมาจิ้งจอกเห่า นึ่งข้าวขาวกลายเป็นสีแดง หม้อนึ่งร้อง ควายนอนขี้สีก (ปลัก) ใต้ถุนบ้าน หมูจะขึ้นบ้าน กาโฉบหัว ฯลฯ เหล่านี้ก็คืออุบาทว์ คือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นลางไม่ดี โบราณมักจะพูดกับบุคคลที่พบกับสิ่งเหล่านี้ ว่านั้นแหละอุบาทว์กินหัวมัน ดังนั้น คำว่า “อุบาทว์” ก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นลางไม่ดีนั่นเอง การสวดอุบาทว์นั้นนิยมกันตามพิธีพุทธ คือนิมนต์พระมาสวดปริตรมงคลธรรมดา แต่เมื่อจบแล้วให้พระท่านอ่านหนงสืออุบาทว์ ถ้าไม่มีให้สวดไชยน้อย ไชยใหญ่ หรือสวดยันทุนนิมิตัง ฯลฯ 3 รอบ หรือ 7 รอบ แล้วแต่อุบาทว์นั้นน้อยใหญ่ขนาดไหน ให้ทำน้ำมนต์ และประพรมน้ำมนต์ด้วยชยันโต ฯลฯ เพื่อเป็นสิริมงคลซ้ำอีกดีนัก เวลาทำให้แต่งคายด้วยขัน 5 ขัน 8 (ดอกไม้ขาว 5 คู่ เทียน 5 […]

ความเชื่อญี่ปุ่น 12สาวนำโชคแห่งความรัก

ความเชื่อญี่ปุ่น 12สาวนำโชคแห่งความรัก

ความเชื่อญี่ปุ่น 12สาวนำโชคแห่งความรัก   วัดShoman-in ( Aizendo ) ซึ่งเป็นที่มาและสถานที่จัดเทศกาลAizen Matsuri หนึ่งในเทศกาลลือชื่อหน้าร้อนของโอซาก้า ( Aizen Meio ) เรื่องราวของเทศกาลที่มาอยู่ว่า พระประธานที่เรียก Aizen Myo-o ของวัด Shoman-in ที่ดูน่ากลัว แต่แท้จริงแล้วเป็นสัญลักษณ์แห่งความโอบอ้อมอารีและความรัก ซึ่งมีผู้คนนับถือมากได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ ผู้คนส่วนใหญ่จึงมักเรียกวัดนี้ตามชื่อ พระประธานว่าวัด Aizendo ในอดีตมีบรรดาเกอิชาและนักร้องนักแสดงต่างพากันมากราบไหว้ เพื่อขอให้ตนเองเป็นที่รักเอ็นดูของคนที่มาชมแสดงหรือบรรดาแฟนเพลง ที่ลานหน้าวัดมีต้นไม้ใหญ่ซึ่งเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ คู่รักคู่ใดที่ให้คำมั่นสัญญากันที่ใต้ต้นไม้นี้จะมีความสุขเป็นคู่ ครองอยู่เย็นเป็นสุขไปตลอดชีวิต ภายในลานวัดยังมีบ่อน้ำใต้ดินที่มีป้ายเขียนไว้ว่า “ดื่มแล้ว จะทำให้เป็นที่รักที่เอ็นดูของทุกๆคน” คนที่มานมัสการขอพรแล้วก็จะต้องไปดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้วย เพื่อให้พรนั้นสมหวัง   ภายในวัดมีสวนสมุนไพรปลูกเพื่อใช้แจกจ่ายให้กับผู้ยากจน โดยมีโรงจ่ายยาAizendo เป็นโรงจ่ายยาในพุทธศาสนาแห่งแรกของญี่ปุ่น สร้างเมื่อค.ศ.593 ทำหน้าที่แจกจ่ายยาสมุนไพรให้กับผู้ป่วยที่ยากจนมาขอรับการรักษา ทุกปีวันที่ 30 มิถุนายนถึงวันที่ 2 กรกฏาคม ทางวัดจะจัดฉลองเทศกาลAizen-matsuri โดยคัดสาวงามจำนวน 12 คน ซึ่ง สาวนำโชคแห่งความรัก (Aizendo Musume) จะทำหน้าที่ให้พรแก่ผู้คนที่มานมัสการพระประธาน Aizen Myo-o […]

ความเชื่อเรื่องการนอนของคนญี่ปุ่น

ความเชื่อเรื่องการนอนของคนญี่ปุ่น

ความเชื่อเรื่องการนอนของคนญี่ปุ่น   ตามความเชื่อแบบเดิม ๆที่หลายๆ คนรู้มาแต่ไหนแต่ไรและถูกสั่งสอนแต่เด็กว่าไม่ควรนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก ด้วยเหตุผลที่เชื่อกันมานมนานตั้งแต่เราเกิดมาได้รับการปลูกฝังว่าไม่ควรนอนไปยังทิศนี้ เพราะพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตก   การนอนทิศตะวันตกจึงไม่นิยม อันเนื่องจากแฝงความรู้สึกถึงความอ้างว้างและสิ้นสุด และมืดมน และสืบทอดกันเป็นความเชื่อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นคนไทยเชื่อกันมานาน แต่สิ่งเหล่านี้ในดินแดนแห่งซามูไรมีความเชื่ออย่างไร เหมือนกับบ้านเราหรือเปล่า มาดูกัน ชาวญี่ปุ่นนั้นก็เชื่อในทิศหันหัวในการนอนเช่นกัน แต่มันคนละทิศละทางกับความเชื่อบ้านเรา ซึ่งความเชื่อของเขานั้น เชื่อว่าไม่ควรนอนหันศีรษะไปยังทิศเหนือ ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ก็คือ ทิศเหนือเป็นทิศสำหรับคนตายเท่านั้น ฉะนั้นเวลานอนคนญี่ปุ่นจะไม่นอนหันศีรษะไปยังทิศเหนือ   ความเชื่อเรื่องดาวเหนือ ซึ่งเป็นดาวประจำทิศเหนือ ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นดาวแห่งความตาย ฉะนั้นการหันศีรษะไปทางทิศเหนือ ก็เสมือนหันไปทิศแห่งความตาย ถือว่าเป็นสิ่งไม่มงคล ฉะนั้นเขาจึงหลีกเลี่ยงที่จะนอนทางทิศนี้ ความเชื่อเหล่านี้คงคล้าย ๆกับของไทยที่ว่า ห้ามขึ้นบ้านใหม่ในวันเสาร์อย่างใดอย่างนั้น หรือห้ามเผาผีในวันศุกร์ทำนองนั้น ส่วนความเชื่อที่ว่าคนญี่ปุ่นเป็นลูกหลานของพระอาทิตย์ และนับถือเทพแห่งดวงอาทิตย์ นั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งในเรื่องนี้ ด้วยทิศที่พระอาทิตย์แสดงแสนยานุภาพมากสุดก็เมื่อผ่านทางทิศใต้นั้นเป็นช่วงที่สว่าง   และร้อนมากสุดสร้างความมีชีวิตชีวาและแสงสว่างนำทางอย่างใดอย่างนั้น ส่วนทิศเหนือซึ่งเป็นทิศตรงข้ามก็เหมือนว่าอยู่ในทิศตรงข้ามกับสิ่งที่เขานับถือ ให้ความรู้สึกห่างเหินกับเทพที่เขานับถือที่สุด นี้จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาจึงหลีกเลี่ยงในทิศเหนือนี้ ก็หวังว่าบทความนี้จะทำให้ท่านผู้อ่านเข้าใจเรื่องความเชื่อ การนอนมันสัมพันธ์กันอย่างใดได้ดียิ่งขึ้น     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล […]

ความเชื่อเรื่อง การห้ามถอดพวงมาลัย ของชาวฮาวาย

ความเชื่อเรื่อง การห้ามถอดพวงมาลัย ของชาวฮาวาย

ความเชื่อเรื่อง การห้ามถอดพวงมาลัย ของชาวฮาวาย   ข้อห้าม คือ สิ่งที่ห้ามปฏิบัติหรือห้ามทำ โดยเฉพาะข้อห้ามบางข้อห้ามเพราะหากทำแล้วอาจส่งผลไม่ดีต่อตนเองและผู้อื่น ดังเช่นข้อห้ามที่เกี่ยวการ “ห้ามถอดพวงมาลัย” ของชาวฮาวาย ที่ถือว่าเป็นกฎเหล็กสำหรับคนที่ไปเป็นแขกของชาวฮาวาย เพราะคนชาตินี้เขาบ้าใส่พวงมาลัยให้แขกเอามากๆ ตั้งแต่เหยียบเข้าไปในโรงแรมก็จะมีพนักงานสาวๆ เอาพวงมาลัยมาคล้องให้คุณแล้ว และถ้าแขกคนไหนทะเล้นถอดออกต่อหน้าเจ้าภาพ จะถือว่าไม่อยากเป็นเพื่อนกับเขา เพราะพวงมาลัยสำหรับที่นี่คือสัญลักษณ์ของมิตรภาพและการยินดีต้อนรับ นอกจากนี้พอได้พวงมาลัยไปแล้วห้ามเอาไปแขวนไว้ต่ำกว่าเอว ถ้ามือไม่ว่างหรือขี้เกียจถือก็ให้คล้องคอหรือไม่ก็พาดไว้บนบ่า ใครบังอาจลบหลู่พวงมาลัย ชาวฮาวายมีเคืองจริงๆ ด้วย     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม. *** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน *** ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<     ที่มา : Spicy ภาพ : Pixabay

ความเชื่อเกี่ยวกับหินชารอยต์

ความเชื่อเกี่ยวกับหินชารอยต์

ความเชื่อเกี่ยวกับหินชารอยต์   คนส่วนใหญ่เชื่อว่าหินชนิดนี้เป็นประโยชน์ต่อจิตใจ อารมณ์ที่จะนำไปสู่ความรัก และความไม่เห็นแก่ตัวช่วยขจัดปัญหาที่ตกตะกอนอยู่ในจิตใจและทำความสะอาดอารมณ์ ความรู้สึกที่ขุ่นข้องให้สดใส ช่วยให้เรารู้นึกว่าโลกนี้น่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ และยังสามารถใช้ในการติดต่อสื่อสารกับจิตวิญญาณเบื้องสูง รำลึกอดีตชาติได้ ส่วนใหญ่คุณประโยชน์ที่แท้จริงของชารอยต์นั้นเป็นการใช้ในแนวทางการบำบัดรักษา ใช้ในการทำสะกดจิตบำบัดเพื่อรักษาผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยทางจิตใจขั้นรุนแรงบาดเจ็บทางอารมณ์ และไม่สามารถหาเหตุผลให้กับความทุกข์เศร้าที่ตัวเองเป็นอยู่ได้ และยังช่วยหยุดยั้งไม่ให้เราเดินเข้าไปสู่อันตรายหรือพบกับอุปสรรคเสียก่อนที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ชารอยต์จะสามารถช่วยบำบัดให้ผู้ที่สูญเสียกำลังกายกำลังใจให้สามารถแข็งแรงฟื้นตัวได้ในเร็ววัน เหมาะสำหรับผู้ที่นอนป่วยอยู่นาน ๆ ให้หายจากโรคหรือบำบัดให้มีพลังมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้คนที่ผ่าตัดฟื้นคืนสุขภาพร่างกายได้เร็ว ในคนที่เป็นโรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ ชารอยต์จะช่วยให้ระบบการหายใจที่มีปัญหาค่อย ๆ ดีขึ้น ช่วยลดอาการอักเสบ เจ็บปวด และบำบัดอาการปวดหัว     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม. *** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน *** ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<     ที่มา : Student.nu.ac.th

ความเชื่อเรื่องพิธีปิด เปิดยุ้งฉาง

ความเชื่อเรื่องพิธีปิด เปิดยุ้งฉาง

ความเชื่อเรื่องพิธีปิด เปิดยุ้งฉาง   พิธีปิดยุ้ง เป็นการขอให้แม่โพสพบันดาลให้ข้าวมีมากมาย กินไม่รู้จักหมด พิธีนี้จะทำเมื่อนวดข้าวเสร็จเรียบร้อย และนำข้าวเก็บเข้ายุ้งฉางแล้ว โดยจะเหลือข้าวไว้ที่ลานนวดข้าว 1 ขันเพื่อทำพิธี ในการทำพิธีจะทำในวันศุกร์ มีเครื่องสังเวยเป็นขนมต้มขาว ข้าวปากหม้อและไข่ โดยจะเลือกชายหรือหญิงที่เกิดปีมะโรงตามความเชื่อโบราณที่ว่า ปีมะโรงเป็นนักษัตรที่ไม่ทำอันตรายแก่พืชธัญญาหาร เป็นผู้ทำพิธีที่ลานนวดข้าว โดยเอาทัพพีตักข้าวเปลือกที่เหลือในลานข้าวใส่ในขัน ตักไปพลางพูดไปว่า “ขอให้แม่โพสพช่วยบันดาลให้มีข้าวมากมาย ตักตวงเท่าไหร่ไม่หมด” เมื่อได้ข้าวเต็มขันแล้ว นำขันข้าวไปเทใส่ลงในยุ้งที่เก็บข้าวเป็นข้าวเชื้อของแม่โพสพ เมื่อเซ่นสังเวยเสร็จก็เป็นอันเสร็จพิธีปิดยุ้ง ส่วนพิธีเปิดยุ้ง จะเกี่ยวกับการขายข้าวออกจากยุ้ง ห้ามทำในวันศุกร์ พิธีเปิดยุ้งทำโดยเอาขันตักบาตรตักข้าวเปลือกไว้ 1 ขันแล้วเอ่ยคำบอกแม่โพสพว่า “อย่าตระหนกตกใจขอเชิญมิ่งขวัญอยู่กับเหย้าเฝ้ากับนา ตักตวงข้าวให้ได้ร้อยเกวียน พันเกวียน” กล่าวเสร็จแล้วก็ตักข้าวขายต่อไปได้ ส่วนข้าวที่ตักไว้ขันหนึ่งนั้น นำไปสีซ้อมเป็นข้าวสาร แล้วหุงใส่บาตรถวายพระให้หมด ในบางท้องถิ่นเช่นจังหวัดราชบุรีถือเคล็ดว่าเมื่อนำข้าวขึ้นยุ้งแล้วจะไม่ เปิดยุ้งเอาข้าวออกมาบ่อยๆ จะเปิดเมื่อจำเป็นต้องใช้ข้าวจำนวนมาก หรือเมื่อจะขายข้าวเท่านั้น เพราะเกรงว่าแม่โพสพจะโกรธและหนีไป ดังนั้นก่อนการนำข้าวขึ้นยุ้งจะต้องแบ่งข้าวไว้กินให้พอต่อความต้องการจะได้ ไม่ต้องเปิดยุ้งโดยไม่จำเป็น       ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย […]

ความเชื่อเรื่องผีแม่หม้ายป้องกันได้ด้วย "หุ่นคน"

ความเชื่อเรื่องผีแม่หม้ายป้องกันได้ด้วย “หุ่นคน”

ความเชื่อเรื่องผีแม่หม้ายป้องกันได้ด้วย “หุ่นคน”   ชาวจังหวัดชุมพรที่อาศัยตามชนบทมีความเชื่อเรื่องผีแม่หม้ายตามกระแสที่ได้ รับจากชุมชนอื่น ๆ กล่าวคือ ถ้าในหมู่บ้าน หรือชุมชนนั้นมีคนตายในระยะใกล้เคียงกัน จากสาเหตุใดก็ตาม สันนิษฐานว่ามีผีแม่หม้ายมาคอยเอาดวงวิญญาณของคนในหมู่บ้าน เพื่อเป็นการป้องกัน จึงได้จัดทำหุ่นคนขึ้นไว้หน้าบ้านเพื่อหลอกผีแม่หม้ายไม่ให้มาเอาชีวิต สมาชิกในครอบครัว การทำหุ่นคนไว้หน้าบ้าน ส่งผลทางจิตวิทยาให้ผู้อาศัยมีความรู้สึกปลอดภัยว่าจะไม่เสียชีวิตโดยไร้สาเหตุ      พิธีกรรม ใช้วัสดุในการทำ ได้แก่ 1. ลูกมะพร้าว หรือกระป๋องพลาสติก 2. หมวกผ้าหรือหมวกกันน็อค 3. ไม้ไผ่สำหรับทำลำตัว 4. เสื้อผ้า 1 ชุด เพื่อประกอบเป็นหุ่นคนปักไว้หน้าบ้านและทำป้ายแขวนข้อความที่ต้องการสื่อสาร ถึงผีแม่หม้าย เช่น บ้านนี้ไม่มีคนเกิดปีมะ (กรณีที่มีคำเล่าลือว่าคนเกิดปีมะเมีย มะแม มะโรง มะเส็ง จะต้องตาย/บ้านนี้ไม่มีเด็ก กรณีที่มีคำเล่าลือว่าบ้านที่มีเด็กจะต้องเสียชีวิต/บ้านนี้ไม่มี ผู้ชาย กรณีที่เชื่อว่าสมาชิกในบ้านเพศชายต้องเสียชีวิต ข้อความจะเปลี่ยนแปลงไปตามความเชื่อว่าผีแม่หม้ายจะเอาชีวิตคนกลุ่มใด) และบอกกับหุ่นว่า ถ้าผีแม่หม้ายมาให้เอาหุ่นไป เพราะคนในบ้านไม่มีคุณสมบัติที่ผีแม่หม้ายต้องการ       ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว […]

ชาวซาไก ความเชื่อเรื่องวิญญาณและภูติผี

ชาวซาไก ความเชื่อเรื่องวิญญาณและภูติผี

ชาวซาไก ความเชื่อเรื่องวิญญาณและภูติผี   เชื่อว่าคนตายไปแล้วยังมีวิญญาณเหลืออยู่ และอาจจะเที่ยวหลอกหลอนญาติพี่น้อง ทำอันตรายแก่คนที่วิญญาณไม่ชอบ ดังนั้นเมื่อมีคนตายลง พวกเขาจะย้ายทับหรือที่อยู่ทันที เมื่อฝังศพเสร็จ เชื่อว่าตามต้นไม้ใหญ่ๆมีผีสิงอยู่ ความเชื่อที่สืบเนื่องมาจากประเพณีปฏิบัติในพิธี ฝังศพของพวกเขา คือ เมื่อฝังศพเสร็จหมดผีจะนำเอาวิญญาณให้ไปอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ เชื่อว่า ต้นไม้นั้นจะเป็นที่อยู่ของดวงวิญญาณนั้นต่อไป เชื่อว่า “ลัตว์ล่าง” หรือสัตว์เดินดินทุกชนิด มีรังควานแรง ดังนั้นเมื่อยิงสัตว์เดินดินตายลง จะต้องทำพิธีถอนรังควาน คล้ายกับว่าทำเชื่อว่าวิญญาณของสัตว์นั้น จะเข้าสิงในร่าง ของผู้ยิง แล้วผู้นั้นจะมีกิริยาอาการเหมือนสัตว์นั้นจะวิ่งเข้าป่าไป และจะถูกสัตว์ชนิดเดียวกันนั้นทำร้าย ถึงแก่ชีวิต เชื่อว่าสัตว์ทุกชนิดเป็นบริวารของผีตนหนึ่ง “โต๊ะปาวั่ง” ดังนั้นก่อนจะยิงสัตว์ทุกครั้ง จะต้องเอ่ยคำขอจากโต๊ะวั่งเสียก่อน เชื่อว่าผีกลัวหัวไพล เมื่อเวลาฝังศพหมดผีจะเสกหัวไพลให้เจ้าของศพเคี้ยวพ่นลงศพก่อนฝัง เชื่อว่าวิญญาณจะไม่มาหลอกหลอน และเมื่อแม่คลอดบุตร จะเอาหัวไพลมาผูกไว้ ที่หูของแม่ เชื่อว่าผีจะไม่มารบกวน และทำให้แม่แข็งแรงดี       ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน […]

กระต่ายตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น

กระต่ายตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น

กระต่ายตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อของ กระต่าย สัตว์เลี้ยงน่ารักที่ใครหลายๆคนชื่นชอบ แต่นอกเหนือจากการเป็นสัตว์เลี้ยงสุดโปรดแล้วนั้น กระต่ายยังเป็นสัตว์ในความเชื่อของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย โดยกระต่ายตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นนั้นแสดงถึงการสมหวังในความรักและความสุข ดังนั้น การมอบรูปลักษณ์ของกระต่ายจึงถือเป็นการมอบความปรารถนาให้โชควาสนาให้แก่กัน..   ตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์ ครั้งหนึ่งชายชราบนดวงจันทร์ได้มองลงมาที่ป่าใหญ่บนโลกมนุษย์ เขาเห็นกระต่าย ลิง และ สุนัขจิ้งจอก ทั้งสามอาศัยอยู่ด้วยกันที่นั่น และต่างเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ชายชราอยากรู้ว่าสัตว์ตัวไหนใจดีที่สุดจึงแปลงตัวเป็นขอทาน แล้วลงจากดวงจันทร์ไปยังป่าที่สัตว์ทั้งสามอาศัยอยู่นั้น    ” โปรดช่วยผมด้วย ผมหิว หิวเหลือเกิน” เขาพูดกับสัตว์ทั้งสาม สัตว์ทั้งสามรู้สึกสงสาร ต่างแยกกันไปหาอาหารมาให้ขอทาน ลิงนำผลไม้มาจำนวนมาก สุนัขจิ้งจอกจับได้ปลาตัวใหญ่ แต่กระต่ายไม่สามารถหาสิ่งใดมาได้เลย กระต่ายร้องคร่ำครวญ แต่แล้วก็ได้ความคิดขึ้นมา         ” ได้โปรดเถอะ คุณลิง ช่วยกรุณานำไม้ฟืนมาให้ฉันหน่อย ส่วนคุณสุนัขจิ้งจอก ขอได้โปรดนำไม้ฟืนกองนั้นก่อไฟกองใหญ่ให้ฉันด้วย” สัตว์ทั้งสองทำตามคำขอของกระต่าย เมื่อไฟลุกไหม้สว่างดีแล้ว กระต่ายก็พูดกับขอทานว่า ” ผมไม่มีสิ่งใดจะให้คุณ ดังนั้นผมจะโยนตัวเองลงไปในกองไฟนี้ จากนั้นเมื่อผมถูกไฟเผาจนสุกดีแล้ว ขอให้คุณกินเนื้อของผมแทนก็แล้วกัน” กระต่ายเตรียมพร้อมที่จะกระโจนลงไปในกองไฟและย่างตัวเอง แต่ทันใดนั้นขอทานก็เปลี่ยนร่างเป็นชายชราบนดวงจันทร์ตามเดิม […]

ความเชื่อของชาวอีสาน ปลูกเฮือนเดือนใดดี?

ความเชื่อของชาวอีสาน ปลูกเฮือนเดือนใดดี?

ความเชื่อของชาวอีสาน ปลูกเฮือนเดือนใดดี?   หลักการสร้างบ้าน เฮือน (เรือน) หรือที่อยู่อาศัยนั้นมีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อของชาวอีสานมาช้านาน โดยเฉพาะการเลือกวัน เวลา เดือน ปี โสกหรือโฉลก และวิธีปลูกบ้าน ให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมโบราณนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง ปลูกเฮือนเดือนใดดี? เดือนอ้าย (เดือน 1)   ท่านว่า จะทำมาค้าขึ้น จะได้เป็นเศรษฐี เพราะกิจการค้านั้น เดือนยี่ (เดือน 2)      ท่านว่าดี มีศิริในการป้องกันศัตรูทั้งมวล เดือนสาม                 ท่านห้ามปลูก จะมีภัย ศัตรูเบียนเบียด เดือนสี่                     ท่านว่า ปลูกดีจะมีลาภ จะมีความสุขกายสบายใจ เดือนห้า                   ท่านว่าจะเกิดทุกข์ร้อนไม่สบายใจ เดือนหก                  ท่านว่าประเสริฐ จะส่งผลให้เงินทองไหลมาเทมา เดือนเจ็ด                  ท่านห้ามปลูก จะเป็นอันตรายแก่ทรัพย์ที่หาไว้ได้แล้ว จักถูกโจรลัก หรือไฟไหม้ เดือนแปด                ท่านห้ามปลูกเฮือนในเดือนนี้ เงินทองข้าวของที่เก็บไว้ จะมิอยู่คงที่แล […]

ความเชื่อล้านนาเกี่ยวกับ ยันต์ข่ม

ความเชื่อล้านนาเกี่ยวกับ ยันต์ข่ม

ความเชื่อล้านนาเกี่ยวกับ ยันต์ข่ม   ผู้หญิงบางคนมีปัญหากับสามีที่เป็นคนเห็นแก่ตัว ชอบเอารัดเอาเปรียบภรรยา บางคนชอบข่มขู่และทำร้ายร่างกาย มีการลงไม้ ลงมือตบตีภรรยา บางคนทิ้งให้ภรรยาทำงานทั้งในบ้านและนอกบ้านราวภรรยาเป็นทาส หรือสามีบางคนนอกจากไม่ใส่ใจดูแลภรรยา คู่ทุกข์คู่ยากของตัวเองแล้ว ยังย่ำยีจิตใจของภรรยาอีกด้วย โดยการแอบไปมีภรรยาน้อย ปล่อยให้ภรรยาเหี่ยวเฉาเลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน ไม่มีทางใดที่ผู้หญิงจะไปสู้รบปรบมือกับชายที่เป็นสามีได้ และไม่มีทางที่จะร้องขอความเป็นธรรมจากสังคมในอดีต หญิงบางคน จึงพึ่งพาไสยศาสตร์เข้าแก้ปัญหา เพื่อให้ความคับแค้นที่ฝังอยู่ในใจผ่อนคลายลง ศาสตร์ที่หญิงใช้กับชายในอดีตนั้น คือการ “ข่ม” คำว่า “ข่ม” หมายถึง การกดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ให้เผยอขึ้น กดให้ลง กดทับ การบังคับ แต่ในที่นี้หมายถึง การกระทำด้วยอาคม เพื่อให้ผู้อื่นลดอำนาจ และยอมอยู่ใต้อำนาจของผู้กระทำ ชายใดถ้าถูกหญิงข่มโดยการจุดเทียน ถึงจะเป็นคนดุร้ายอย่างไรก็จะอ่อน ปวกเปียก ยอมทำตามทุกอย่างที่ฝ่ายหญิงต้องการ บอกให้อยู่หรือให้ไปก็จะทำตามโดยไม่ขัดขืน รูปยันต์ข่มเขียนลงบนกระดาษสาทำเป็นไส้เทียน รูปยันต์นี้ลงใส่กระดาษสา ตรงหว่างขานั้นเขียนชื่อผู้ชายที่เป็นเป้าหมาย จากนั้นตัดชายผ้าถุงใส่ข้างใน แล้วม้วนกระดาษสา ให้เป็นแท่ง เพื่อทำเป็นไส้เทียน นำขี้ผึ้งตากแดดให้อ่อนตัวแล้วจึงนำมาหุ้ม ฟั่นให้เป็นแท่งเหมือนเทียน แล้วนำไปจุดใต้บันไดบ้าน ของผู้หญิงที่เป็นคนกระทำ ใช้สุ่มไก่ครอบเทียน แล้วใช้ผ้าถุงของผู้หญิงคลุมข้างบนสุ่มไก่อีกทีหนึ่ง ชายใดถ้าถูกหญิงข่มโดยการจุดเทียน ถึงจะเป็นคนดุร้ายอย่างไรก็จะ อ่อนปวกเปียกยอมทำตามทุกอย่างที่หญิงนั้นต้องการ บอกให้อยู่หรือให้ไปก็จะทำตามโดยไม่ขัดขืน […]

ความเชื่อดอกจำปีบูชาพระ วันเข้าพรรษา

ความเชื่อดอกจำปีบูชาพระ วันเข้าพรรษา

ความเชื่อดอกจำปีบูชาพระ วันเข้าพรรษา   ชาวไทยกับดอกจำปีผูกพันกันมานานตั้งแต่สมัยคุณตาคุณยายยังเด็ก ฤาเพราะกลิ่นหอมรัญจวนใจ ที่ไม่มีพฤกษาใดในปฐพีจะเทียบเทียมได้ คนโบราณเชื่อว่าผู้ใดได้กลิ่นดอกจำปีจะต้องมีอันต้องมนเสน่ห์อย่างไม่จืดจาง ดังนั้นเข้าพรรษาปีนี้ชาวพุทธใดเลือกดอกจำปีบูชาพระแล้ว คนโบราณเล่าขานกันชั่วลูกหลานว่าส่งผลดีอย่างไร ลองอ่าน จำปีคือไม้ขนาดกลาง ลำต้นไม่สูงนักลำต้นสีน้ำตาล ออกดอกลักษณะเรียวยาว ดอกริ้วสีครีมประมาณแปดกลีบ มีกลิ่นหอมฟุ้ง เพราะกลิ่นหอมเอกลักษณ์แห่งไม้ดอกจำปีนี้เอง ยังประโยชน์เป็นยารักษาอาการวิงเวียนศีรษะ นอกจากนี้เวลาอยู่ใต้ให้ร่มเงา ลมพัดโชยมาจะทำให้ผู้ได้กลิ่นหลงใหลเสน่ห์แห่งดอกจำปีแบบไม่ลืมหูลืมตาเลยทีเดียว จนกระทั่งชาวชนบทบางจังหวัดจะให้ธิดาสาวโสดที่มีอายุมาก ๆ แต่ยังไม่แต่งงานนำดอกจำปีมาผูกที่ปลายเส้นผม ห้อยเป็นระย้าไว้สำหรับให้ชายโสดมาตกหลุมรัก และหญิงสาวโบราณที่มีคู่แล้วก็จะใช้วิธีเดียวกันนี้ผูกใจหนุ่มคนรักไว้ไม่ให้ไปหลงรักสาวอื่น จากความเชื่อว่ากลิ่นหอมดอกจำปีเย้ายวนชวนฝันนักแล ดอกจำปีคือดอกไม้โบราณอยู่คู่กับรูปแบบการดำเนินชีวิตชาวไทยมานานแสนนาน จะพบวรรณคดีหลายเรื่องได้กล่าวขานในทำนองว่าดอกจำปีเป็นตอกไม้ประจำชนชั้นสูงและเป็นไม้มงคล เพราะกิจกรรมสำคัญ ตัวละครใดมีบรรดาศักดิ์ เจ้าขุนมูลนายจะนำดอกจำปีประกอบกิจกรรมนั้นเสมอ ส่วนใหญ่แล้วคนโบราณจะเชื่อว่าจำปีเป็นไม้มงคลสำหรับผู้ที่เกิดราศีตุลย์ โดยเฉพาะผู้ที่เกิดวันเสาร์และวันพฤหัส ลักษณะเด่นคือมีความเชื่อมั่นในตนเองสูง มีเหตุมีผล รักความยุติธรรม แต่การตัดสินใจช้า เพราะเสียเวลาพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบ เมื่อมีกำลังใจในการทำงานแล้วชาวราศีตุลย์จะมีความรับผิดชอบเรื่องงานสูงกว่าชาวราศีอื่น ดังนั้นผู้ที่เกิดราศี และวันดังกล่าวควรปลูกจำปีไว้ทางทิศใต้ หรือทิศตะวันออกจะทำให้หน้าที่การงานก้าวหน้า มีแต่ความรุ่งเรือง ปราศจากปัญหาใดๆ แต่มีข้อห้ามปลูกต้นจำปีคู่กับต้นจำปาเพราะจะทำให้สามีภรรยาจะต้องเลิกรากัน ในโอกาสวันสำคัญอย่างวันพระ วันสำคัญทางพุทธศาสนา คนโบราณจะนำดอกจำปีใส่พานหรือกระทงใบตองวางไว้บูชาพระที่หิ้งพระ เป็นศิริมงคลนักแล โดยเฉพาะข้าราชการที่ต้องการให้ตำแหน่งการงานตนก้าวหน้า ทุกปีในปลายฤดูฝนคนโบราณจะปลูกจำปี ทำให้เติบโตได้ง่าย ต้นจำปีเริ่มออกดอกเมื่อต้นจำปีมีอายุหนึ่งปี ปุ๋ยที่ใส่ควรใส่ปุ๋ยคอกเพราะมูลสัตว์มีสารประกอบสำคัญบำรุงดอกและรดน้ำวันละสองครั้ง     ติดตามอ่านความเชื่อ […]