ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

 

หมู่เกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟ หรือ Ring of Fire ซึ่งเป็นแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลกทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกจึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวอยู่ตลอดทั้งปี

ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อสืบทอดกันมาแต่โบราณว่าอาการดิ้นพล่านของปลาดุกเป็นสัญญาณเตือนว่าจะเกิดแผ่นดินไหว โดยชาวญี่ปุ่นแต่ครั้งโบราณมีความเชื่อว่าในใต้พิภพนี้มีปลาดุกยักษ์อาศัยอยู่ เมื่อปลาดุกดิ้นครั้งใด ก็จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ความเชื่อนี้หาได้เป็นสิ่งที่เลื่อนลอยไม่

ในปีคศ.2011 หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงทางชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น คณะกรรมาธิการวุฒิสภาตรวจสอบการบริหารราชการ ได้เชิญศาสดาจารย์ท่านหนึ่งจากมหาวิทยาลัยโกเบ เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างปลาดุกกับแผ่นดินไหว

ศาสดาจารย์ท่านนั้นได้ให้ข้อมูลว่า ปลาดุก เป็นสัตว์ที่มีความไวต่อกระแสไฟฟ้าและความสั่นสะเทือน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะรับรู้ถึงการเกิดแผ่นดินไหวก่อนที่มนุษย์จะรู้สึก แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า อาการดิ้นพล่านของปลาดุก กับปฏิกริยาที่ไวต่อกระแสไฟฟ้าและการสั่นสะเทือนนี้ จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำนายการเกิดแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้าหรือไม่อย่างไร

สัตว์หลายชนิดมีสัญชาติญาณและประสาทสัมผัสที่ไวต่อการรับรู้ถึงความผิดปกติของภัยธรรมชาติ เช่น การที่มดขนไข่หนีก่อนที่จะเกิดฝนตกน้ำท่วม เป็นต้น

   ภัยแผ่นดินไหวเองก็เช่นกัน เรามักได้จะยินข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมประหลาดๆของสัตว์ ในยามก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าสิ่งเหล่านี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

ที่จังหวัด Ibaragi ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว มีศาลเจ้าแห่งหนึ่งสร้างขึ้นในสมัย 660 ปีก่อนคริสตกาล ศาลเจ้าแห่งนี้ชื่อว่า Kashima (鹿島神宮 : Kashima jinguu) เป็นสถานที่บูชาเทพเจ้า Kashima เพื่อขอให้พิทักษ์ภัยจากแผ่นดินไหว โดยการใช้หินขนาดใหญ่เรียกว่า Kaname ishi (要石) กดทับปลาดุกยักษ์นั้นไว้

ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ จะมีแท่งหินฝังลึกลงไปในดิน โดยเทพเจ้าจะใช้หินนี้กดทับหัวและหางของปลาดุกยักษ์ใต้พิภพเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว

แต่ยามใดที่เทพเจ้าชะล่าใจหรือต้องไปเข้าเฝ้าเทพเจ้าองค์อื่นหินที่กดทับไว้ก็จะหลวม ทำให้ปลาดุกยักษ์ขยับตัว และเกิดแผ่นดินไหวขึ้น

หินส่วนที่โผล่ขึ้นมาบนพื้นดินมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ส่วนที่ฝังอยู่ใต้ดินนั้น เล่ากันว่ามีขนาดใหญ่โตมาก ไม่มีทางที่จะขุดออกมาได้โดยเด็ดขาด ถึงขนาดที่ Tokugawa Mitsukuni เจ้าเมืองมิโตะ ได้สั่งให้คนขุดหินนั้นขึ้นมา โดยใช้เวลาถึง 7 วัน 7 คืน ก็ยังไม่สามารถขุดถึงโคนหินได้

ความเชื่อเรื่องปลาดุกยักษ์กับแผ่นดินไหว จะเริ่มขึ้นเมื่อใดไม่มีหลักฐานบันทึกไว้โดยแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าน่าจะมีมาแต่โบราณแล้ว เพียงแต่เริ่มเชื่อถือมากขึ้นในช่วงต้นของสมัยเอโดะ (คศ. 1603-1867) เนื่องจากทุกครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว เมืองขนาดใหญ่ เช่น เอโดะ (คือโตเกียวในปัจจุบัน) จะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จึงนำเรื่องนี้มาเล่าขานสืบต่อ จนกลายเป็นความเชื่อฝังใจในปลายสมัยเอโดะ และเป็นตำนานเล่าขานสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้

ในปี คศ.1855 เมื่อครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว Ansei Edo ซึ่งมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 4,700 – 11,000 คน ได้มีการพิมพ์ภาพสีเป็นรูปปลาดุกยักษ์ โดยมีหินขนาดใหญ่ คือ Kaname ishi กดทับเพื่อสะกดแผ่นดินไหวไว้ ออกมาจำหน่ายจ่ายแจกเป็นจำนวนมาก จึงยิ่งทำให้ความเชื่อนี้แพร่สะพัดมากยิ่งขึ้น

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่ง คือ บันทึกประสบการณ์อันเซ (安政見聞誌 : Ansei kenbunshi) ซึ่งเขียนขึ้นในปีที่ 3 ของสมัยอันเซ (คศ.1856) คือหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว Ansei Edo ผ่านไป 1 ปี

ในบันทึกนี้ได้กล่าวไว้ว่า

“ชายผู้หนึ่งนามว่า Shinozaki เป็นคนที่ชอบจับปลา ทุกเย็นจะต้องไปจับปลาที่แม่น้ำอยู่เสมอ ตอนค่ำวันที่ 2 (ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุแผ่นดินไหว) ชายผู้นี้ได้ออกไปจับปลาไหลโดยเครื่องมือที่เตรียมไว้ แต่ปรากฏว่าคืนนี้ปลาดุกดิ้นพล่านเป็นการใหญ่ ทำให้ปลาไหลหนีไปหมด จับไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว จึงตกปลาดุกขึ้นมาได้ 3 ตัว และรู้สึกประหลาดใจว่าคืนนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมปลาดุกจึงได้ดิ้นพล่านดั่งนี้ และนึกขึ้นได้ว่า เคยได้ยินว่าการที่ปลาดุกดิ้นพล่าน เป็นสัญญาณบอกเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งถ้าเกิดแผ่นดินไหวอย่างหนัก คงจะลำบากเป็นแน่แท้ จึงรีบกลับบ้าน และขนเครื่องเรือนทรัพย์สมบัติต่างๆออกมาไว้ข้างนอกบ้าน ข้างฝ่ายภรรยาเห็นเช่นนั้น ก็หัวเราะเพราะเห็นเป็นเรื่องขบขัน แต่หลังจากนั้น ก็เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงจนบ้านพังราบหมด แต่ทรัพย์สินที่ขนมาไว้ข้างนอกปลอดภัย ฝ่ายเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ข้างๆ ก็เป็นคนที่ชอบจับปลา คืนนั้นก็ออกไปหาปลาที่แม่น้ำ และเห็นปลาดุกดิ้นพล่านเช่นกัน แต่ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงหาปลาต่อไป จนกระทั่งเกิดแผ่นดินไหว จึงรีบกลับบ้านด้วยความตกใจ แต่พบว่าทั้งบ้านและโกดังพังพินาศลงหมดแล้ว สูญเสียทรัพย์สมบัติทุกอย่างไปหมด…”

ซึ่งถ้าบันทึกนี้ เป็นความจริงปรากฏการณ์นี้ก็ถือเป็นการพยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้หลายชั่วโมงเลยทีเดียว

ในปี คศ.1923 หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว Kantou ซึ่งเป็นครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์กว่า 100,000 คน มหาวิทยาลัย Touhoku ได้ทำการทดลองความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นดินไหวกับปลาดุก และได้สรุปผลวิจัยว่า ก่อนเกิดแผ่นดินไหวประมาณไม่กี่ชั่วโมงล่วงหน้า จะเกิดสัญญาณผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งของปลาดุกประมาณ 80%

ในปี คศ.1976-1992 สถานีทดลองทางทะเลของกรุงโตเกียว ก็ได้ทำการค้นคว้าวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นดินไหวกับปลาดุก รวมระยะเวลาทั้งสิ้นเป็นเวลา 16 ปี โดยติดตั้งระบบตรวจสอบอาการผิดปกติของปลาดุกตลอด 24 ชั่วโมง

ผลการศึกษาวิจัยพบว่า ระหว่างปี คศ.1978-1992 เกิดแผ่นดินไหวซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนที่กรุงโตเกียวได้สูงกว่าระดับ 3 รวมทั้งสิ้น 91 ครั้ง แต่มี 4 ครั้งที่ไม่ได้ทำการทดลอง

ผลการทดลอง 87 ครั้ง พบว่าในจำนวนนี้ ปลาดุกมีอาการแสดงความผิดปกติอย่างชัดเจนล่วงหน้าภายในเวลาไม่เกิน 10 วันก่อนการเกิดแผ่นดินไหว เป็นจำนวน 27 ครั้ง หรือเท่ากับ 31%

จากที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ปลาดุก เป็นสัตว์ที่มีความไวในการรับรู้กระแสไฟฟ้าเป็นอย่างยิ่ง โดยจะรับรู้กระแสไฟฟ้าได้ไวกว่ามนุษย์หรือปลาคาร์ปถึง 1 ล้านเท่า หากโยนถ่านไฟฟ้าลงไปในทะเลสาบ เพียง 1 ก้อน ปลาดุกที่อยู่ไกลออกไปหลายกิโลเมตร ก็สามารถรับรู้ถึงกระแสไฟฟ้าจากถ่านไฟฉายก้อนนั้นได้

การเกิดแผ่นดินไหวหรือการขยับเลื่อนของเปลือกโลก ย่อมต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้น การที่ปลาดุกจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าใต้พื้นดิน และแสดงอาการดิ้นพล่านผิดปกติ จึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

แต่ทว่าการแสดงอาการผิดปกติของปลาดุก ไม่ได้จำกัดเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าใต้พื้นดินเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่นๆอีกมาก จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เหตุการณ์ทั้ง 2 สิ่งนี้ จะมีความสัมพันธ์กันมากน้อยเพียงใด

แต่ขณะเดียวกัน ก็คงไม่สามารถปฏิเสธความเชื่อแต่ครั้งโบราณ เรื่องปลาดุกกับแผ่นดินไหวของชาวญี่ปุ่นได้เช่นเดียวกัน

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

ที่มา.. j-campus

เรื่องน่าสนใจ

ฝันว่ากระเป๋าเงินหาย ลางบอกเหตุ ตีความเลขเด็ด ให้โชค

ฝันว่ากระเป๋าเงินหาย ลางบอกเหตุ ตีความเลขเด็ด ให้โชค

ในยุคสมัยที่เงิน และบัตรเครดิตเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์ เรามักจะเก็บของมีค่าเหล่านี้ไว้ในกระเป๋าเงิน แต่หากว่าถ้าเกิดเราดัน ฝันว่ากระเป๋าเงินหาย จะทำอย่างไร หรือจะเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่เราฝันนั้นอย่างไรได้บ้าง วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะพาไปดู ในทางโหราศาสตร์สามารถทำนายทายทักได้ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับเราได้บ้างเพราะแม้แต่ในฝัน การทำกระเป๋าเงินหายก็เป็นเรื่องเครียดอยู่พอสมควรไม่ว่าจะ ทั้งกระเป๋าเงิน และโทรศัพท์หาย แต่โชคดีหน่อยก็อาจจะมีคนเอามาคืน หรือหาเจอก็ได้ ฝันว่ากระเป๋าเงินหาย ลางบอกเหตุ ตีความเลขเด็ด ให้โชค ฝันว่ากระเป๋าเงินหาย ฝันว่ากระเป๋าเงินหายหรือว่ากระเป๋าตังค์หาย ทำนายฝันมีเกณฑ์ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น มีเหตุให้ต้องเดินทางบ่อยขึ้น ระวังอุบัติเหตุและ เคราะห์ร้ายที่จะเกิดกับคนที่อายุน้อยที่สุดภายในบ้าน คนทำงานช่วงนี้อาจต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นจากความเครียดและปัญหาภายใน รวมถึงปัญหาด้านการด้านเจรจา เลขนำโชคที่น่าซื้อ เลขเด็ดฝันว่ากระเป๋าเงินหาย : ควรมีเลข 1 4 และ 6 เลขเด็ด 2 ตัว : 14 46 64 เลขเด็ด 3 ตัว : 145 546 541 ฝันว่ากระเป๋าเงินหายโทรศัพท์หาย ฝันว่าโทรศัพท์หาย กระเป๋าตังค์หาย […]

ฝันเห็นร่างทรง จะมีโชคไหม? ทำนายฝัน พร้อมส่องเลขเด็ดงวดนี้

ฝันเห็นร่างทรง จะมีโชคไหม? ทำนายฝัน พร้อมส่องเลขเด็ดงวดนี้

รวมความหมาย ทำนายฝัน ฝันเห็นร่างทรง ฝันนี้ดีหรือร้าย เลขเด็ดออนไลน์ พร้อมแนะนำเลขเด็ดๆ ไปดูกันเลย ฝันเห็นร่างทรง อยู่ดี ๆ ก็ฝันเห็นร่างทรง ช่างเป็นฝันที่น่าสนใจและเป็นฝันที่แปลกเสียจริงง ร่างทรงมีลักษณะท่าทางแปลก ๆ ราวกับว่ามีสิ่งที่มองไม่เห็นเข้าประทับร่าง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มาเข้าฝันเพื่ออะไรกัน ความฝันนี้ มีความหมายว่าอย่างไร ฝันเห็นร่างทรงผู้ชาย ฝันเห็นร่างทรงผู้หญิง ฝันเห็น ร่างทรงหลายคน ฝันเห็นม้าทรง ความฝันเหล่านี้เราได้รวบรวมความหมายของความฝัน ในแต่ละรูปแบบมาให้แล้ว ทำนายฝันจะมีความหมายว่าอย่างไร พร้อมเลขเด็ด ๆ แนวทางในการซื้อหวย รับโชค อย่ารอช้า ฝันว่าเป็นขอทาน ทำนายฝัน เป็นลางร้ายหรือไม่ แนะนำเลขเด็ดนำโชค ฝันเห็นเงา ฝันนี้ดีหรือร้าย เลขเด็ดออนไลน์ พร้อมแนะนำเลขให้โชค ฝันว่าขี่รถล้ม ทำนาย ฝันนี้ดีหรือร้าย เลขเด็ดออนไลน์ พร้อมแนะนำเลขเด็ดๆ ฝันเห็นร่างทรง จะมีโชคไหม? ทำนายฝัน พร้อมส่องเลขเด็ดงวดนี้ ทำนายความฝัน ฝันเห็นร่างทรงตีเป็นเลข ทำนายว่า เป็นฝันไม่ค่อยดีนัก ให้ระวังเรื่องการพบปะผู้คน จะนำเรื่องเสียหายมาสู่ตนได้ ถ้าเป็นผู้ขายให้ระวังลูกค้า […]

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว   ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว “อิน จัน มั่น คง”เพื่อให้วิญญาณคอยเฝ้ารักษาป้องกันภัย ตลอดไป.. บันทึกตามตำนาน อิน จัน มั่น คง ได้เผยเรื่องราวที่เล่าสืบกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โบราณถือว่าพิธีสร้างพระนครหรือสร้างบ้าน สร้างเมือง ต้องฝังอาถรรพ์ ๔ประตูเมือง ต้องฝังเสาหลักเมือง การฝังเสาหลักเมืองและเสามหาปราสาท ต้องเอาคนที่มีชีวิตทั้งเป็น ลงฝังในหลุม เพื่อให้เป็นผู้เฝ้าทวารมหาปราสาทบ้านเมือง ป้องกันอริราชศัตรูมิให้มีโรคภัย ไข้เจ็บเกิดแก่เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ผู้ครองนครบ้านเมือง ในการทำพิธีกรรมดังกล่าว ต้องเอาคนที่ชื่อ อิน จัน มั่น คง มาฝังลงหลุม จึงจะศักดิ์สิทธิ์และขณะที่นายนครวัดเที่ยวเรียกชื่อ อิน จัน มั่น คง ไปนั้น ใครโชคร้ายขานรับขึ้นมาก็จะถูกนำตัวไปฝังในหลุม หลุมเสาหลักเมืองนั้น จะผูกเสาคานใหญ่ชักขึ้นเหนือหลุมนั้นในระดับสูงพอสมควร โยงไว้ด้วยเส้นเชือกสองเส้นหัวท้ายให้เสาหรือซุงนั้นแขวนอยู่ตามทางนอนเหมือนอย่างลูกหีบ ครั้นถึงวันกำหนดที่จะกระทำการอันทารุณนี้ ก็เลี้ยงดูผู้เคราะห์ร้ายให้อิ่มหนำสำราญแล้ว แห่แหนนำไปที่หลุมนั้น พระเจ้าแผ่นดินมีรับสั่งให้บุคคลทั้งสามนั้นเฝ้าประตูเมืองไว้ด้วย และให้เร่งแจ้งข่าวให้รู้กันทั่ว เมื่อคนมาชุมนุมกันเขาก็ตัดเชือกปล่อยให้เสาหรือซุงหล่น ลงมาบนศีรษะผู้เคราะห์ร้าย ผู้ตกเป็นเหยื่อของการถือโชคถือลางนั้น บี้แบนอยู่ในหลุม     โดยคนไทยโบราณเชื่อว่าผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้จะกลายสภาพเป็นอารักษ์จำพวกที่เรียกว่า ผีราษฎร […]

สีเคสเสริมดวง เรียกทรัพย์ รักหวาน เงินทองไหลมา

สีเคสเสริมดวง เรียกทรัพย์ รักหวาน เงินทองไหลมา

สีเคสเสริมดวง เรียกทรัพย์ รักหวาน เงินทองไหลมา ยุคนี้สมัยนี้ ใครๆก็ใช้โทรศัพท์มือถือในชีวิตประจำวัน ยิ่งใครที่ซื้อโทรศัพท์มือถือราแพง ก็ต้องดูแลรักษาทะนุถนอมเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งการใช้เคสโทรศัพท์มือถือ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่คนส่วนใหญ่ใช้ดูแลรักษาโทรศัพท์มือถือ สำหรับใครที่มักทะนุถนอมดูแลโทรศัพท์ด้วยการใช้เคส วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ มีเคล็ดลับดวงดีแบบง่ายๆด้วยการ “เลือกสีเคสเสริมดวง” เพื่อความเป็นมงคล เรียกทรัพย์โชคลาภ เสริมสร้างดวงความรักให้ดีขึ้น มาฝากกันจ้า ตามไปดูกันว่า คนเกิดวันไหน เลือกสีเคสเสริมดวงแบบถึงจะดี ดวงพุ่งปี๊ด ไปเช็กกันเลย   สีเคสเสริมดวง เรียกทรัพย์ รักหวาน เงินทองไหลมา   สีเคสเสริมดวงสำหรับคนเกิดวันจันทร์ สีเขียว ช่วยเสริมอำนาจในเรื่องอุปถัมภ์ และการเงิน สีน้ำเงิน ช่วยเสริมอำนาจในเรื่องการเงิน และ ความมั่นคง สีเคสที่ควรหลีกเลี่ยง สีทอง สีเงิน รวมไปถึงตัวเครื่องของโทรศัพท์ด้วย     สีเคสเสริมดวงสำหรับคนเกิดวันอังคาร สีเงิน ช่วยเสริมอำนาจในด้านการเงิน การเจรจา และอุบัติเหตุ สีทอง ช่วยเสริมอำนาจในเรื่องอำนาจ และคนอุปถัมภ์ สีเคสที่ควรหลีกเลี่ยง เคสที่มีรูปตัวการ์ตูนหรือรูปคน     สีเคสเสริมดวงสำหรับคนเกิดวันพุธ […]