ตายแล้วไปไหน ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร?
โดยความเป็นจริงแล้วนั้น คนที่ตายแล้วจะไปเกิดที่ใดนั้นขึ้นอยู่กับวาระสุดท้ายของจิต หากขาดใจตายขณะจิตเศร้าหมอง ปฏิสนธิวิญญาณก็จะนำไปเกิดในทุคติภพหรืออบายภูมิ 4 อันมีนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน (จิตฺเตสงฺกิลิฏฺเฐฺ ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา) หากตอนจะตาย จิตผ่องใส ปฏิสนธิวิญญาณก็จะนำไปเกิดในสุคติภพ อันมีมนุษย์ 1 สวรรค์ 6 ชั้น พรหม 20 ชั้น (จิตฺเต อสงฺกิลิฏฺเฐฺ สุคติ ปาฏิกงฺขา) หาก จิตหมดกิเลสตัณหา คือจิตของพระอรหันต์ ก็ไม่มีการเกิดอีก คนตายจะไปเกิดหรือไม่ และไปเกิด ณ ที่ใดนั้น ขึ้นอยู่กับสภาวะจิตของเขา หาใช่มีผู้อื่นมาลิขิตไม่ ใครสร้างเหตุไว้เช่นใดย่อมจะได้รับผลเช่นนั้น พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ว่าด้วยเหตุและผลสอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์
ด้วยเหตุนี้ นักวิทยาศาสตร์ เช่น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (ค.ศ. 1879-1955) จึงยอมรับและกล่าวถึงพุทธศาสนาว่า “ศาสนาในอนาคตควรจะเป็นศาสนาที่เป็นสากล (cosmic religion) โดยไม่ยึดติดกับพระเจ้าหรือกฎเกณฑ์ข้อปฏิบัติอันเคร่งครัด จะต้องเป็นศาสนาที่มีพื้นฐานมาจากประสบการณ์ของทุกสรรพสิ่ง ทั้งที่เป็น ธรรมชาติและจิตวิญญาณ ที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งหมดนี้จะหาคำตอบได้จากพุทธศาสนา
เรื่องคนตายไปแล้วจะไปเกิดหรือไม่นั้น มีความเข้าใจกันไปหลายกระแส บางท่านก็เข้าใจว่า ร่างกายของคนเรานี้ประกอบขึ้นด้วยรูปหรือวัตถุ ดังนั้น เมื่อคนตาย ร่างกายก็ฝังจมดินไป ไม่สามารถจะไปเกิดอีกได้ บางท่านเข้าใจว่าตายแล้วก็ต้องไปเกิดอีก
ในบรรดาผู้ที่เข้าใจว่าตายแล้วไปเกิดอีกได้นี้ ก็มีความเข้าใจแตกแยกออกไปมาก เช่นผู้ตายจะต้องไปเกิดอยู่ในสวรรค์หรือในนรก ก็แล้วแต่ผลแห่งการกระทำของตน และสวรรค์นรกนั้น ได้มีผู้สร้างขึ้นสำหรับลงโทษ หรือให้รางวัลตลอดนิรันดร โดยไม่กลับมาเป็นมนุษย์อีก บางท่านเข้าใจว่าคนที่ตายจะต้องไปเกิดเป็นคนเท่านั้น ไปเกิดเป็นสัตว์ไม่ได้ แต่บางท่านว่าไปเกิดเป็นคนหรือสัตว์ก็ได้ บางคนเข้าใจว่า จิตหรือวิญญาณ หรือเจตภูตินี้เป็นอมตะ เมื่อร่างกายของคนแตกดับไปแล้ว วิญญาณก็จะออกจากร่างกายล่องลอยไปเกิดใหม่ บางคนที่ศึกษาวิชาทางโลก ทางวิทยาศาสตร์มามาก ๆ ก็เข้าใจว่า ถ้าบุคคลใดมีลูกเต้าสืบต่อไปอีกเรื่อย ๆ ก็จะไปเกิดได้อีก ตามหลักของชีววิทยา เพราะลูกทุก ๆ คนนี้ก็สืบต่อมาจากเซลล์ของพ่อแม่นั่นเอง เมื่อสืบต่อไปหลาย ๆ ชั่วคนแล้ว ชีวิตเดิมก็จะปรากฏขึ้นมาอีก แต่บางคนกลับมีความเห็นว่า ร่างกายนั้นประกอบไปด้วยรูปหรือวัตถุ ความรู้สึกนึกคิดนั้นเป็นหน้าที่ของมันสมอง ซึ่งได้วิวัฒนาการทีละน้อย ๆ มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ จนมีอำนาจในการนึกคิดและรู้สึกได้ แต่เมื่อตายแล้ว ก็เป็นอันหมดเรื่องกัน ไม่สามารถที่จะเกิดได้อีก
เรื่องนี้เป็นเรื่องมากคนก็มากความคิดเห็น แม้เจ้าของลัทธิศาสนาใหญ่ ๆ หลายศาสนา ก็มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน เพราะเรื่องคนเกิดหรือคนตายเราเห็นได้ง่าย ๆ แต่เรื่องตายแล้วไปเกิดหรือไม่ เป็นเรื่องลึกลับเป็นปัญหาโลกแตกมาจนบัดนี้
ที่มา : mthai.com
รูปภาพจาก : medium.com
อย่างไรก็ตามสิ่งที่พราย ได้นำมาเล่าให้ทุกคนฟังในวันนี้
ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่านด้วยนะคะ
* สามารถติดตามบทความเรื่องลี้ลับออนไลน์ได้เพิ่มเต็มทางเว็บไซต์ เลขเด็ดออนไลน์ *