รู้หรือไม่ ต่อให้เรารักษาศีลถึง 100 ปี ก็สู้การทำ 1 สิ่งนี้ไม่ได้

รู้หรือไม่ ต่อให้เรารักษาศีลถึง 100 ปี ก็สู้การทำ 1 สิ่งนี้ไม่ได้

 

รู้หรือไม่ ต่อให้เรารักษาศีลถึง 100 ปี ก็สู้การทำ 1 สิ่งนี้ไม่ได้

 

“บุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า ลูกเอ๋ย ก่อนที่จะเข้าไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือบารมีของตนลงทุนไป

ก่อนเมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด

เพราะหนี้สินในบุญบารมีที่ไปเที่ยวขอยืมมาจนพ้นตัว?”

รู้หรือไม่ ต่อให้เรารักษาศีลถึง 100 ปี ก็สู้การทำ 1 สิ่งนี้ไม่ได้

การเจริญภาวนานั้นเป็นการสร้างบุญสะสมไว้ที่ถือได้ว่าได้บุญบารมีมากที่สุด และยิ่งใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนาถือว่า

เป็นแก่นแท้และได้บุญสูงกว่าฝ่ายศีลมากนัก เพราะว่าการเจริญภาวนาเป็นการเน้นระงับการทำความชั่วทาง “ใจ”

คือเป็นการซักฟอกจิตให้สะอาดบริสุทธิ์

พระพุทธองค์กล่าวเอาไว้ว่า

“แม้จะรักษาศีล 227 ข้อให้ไม่ด่างพร้อยถึง 100 ปีก็สู้การทำสมาธิภาวนาเพียงแค่ชั่วไก่กระพือปีกหรือช้างกระดิกหูไม่ได้”

การเจริญภาวนานั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. การทำสมาธิด้วยสมถะภาวนา

การทำสมาธิแบบสมถะภาวนาคือ การกำหนดใจให้นิ่งกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่เป็นอารมณ์เดียว ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตามขอให้เพียงแต่ใจอยู่นิ่งไม่

วอกแวกก็คือเป็นสมาธิ ถ้าเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดและคนไทยเราคุ้นเคยที่สุดก็คือ “การไหว้พระสวดมนต์”

รู้หรือไม่ ต่อให้เรารักษาศีลถึง 100 ปี ก็สู้การทำ 1 สิ่งนี้ไม่ได้

การกำหนดจิตด้วยการสวดมนต์นี้จะทำให้จิตนิ่งอยู่ที่บทสวดก็เรียกได้ว่าเป็นการทำสมาธิระดับต้นขั้นที่หนึ่ง (ขณิกสมาธิ)

2. การเจริญปัญญา

การเจริญปัญญานั้นต่างไปจากความเป็นสมาธิ ตรงที่สมาธิเป็นเพียงการทำใจให้สงบนิ่งอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแต่เพียงอารมณ์เดียวแน่นิ่งอยู่อย่าง

นั้นโดยไม่ได้นึกคิดอะไร แต่การเจริญปัญญา (คำพระท่านว่า วิปัสสนา) ไม่ใช่ทำให้แค่จิตใจตั้งมั่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเท่านั้น

การเจริญปัญญานั้นเป็นการคิด “ใคร่ครวญ” เพื่อหาเหตุผลในสภาวะที่เป็นธรรมและความจริงในแต่ละสรรพสิ่งว่า สิ่งทั้ง

หลายในโลกนี้เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ดับไป (อนิจจัง) ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นทุกข์ (ทุกขัง) คือทุกอย่างเป็น

สภาพที่ไม่อาจทนอยู่ในสภาพเดิมได้ เกิดขึ้นแล้วไม่อาจทรงตัวต้องเปลี่ยนแปลงไป ทำให้อารมณ์เกิดความเปลี่ยนแปลง

ไปตามวัตถุซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ตามมา และ สุดท้ายคือ ทุกสิ่งไม่มีตัวตนและไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนหรือเป็นของๆ ใครใดๆ ทั้งสิ้น (อนัตตา)

ผลของการเจริญสมาธิและปัญญาจะทำให้พบความสุขที่แท้จริงได้อย่างไร

ความสุขที่ได้จากการเจริญภาวนานั้นเป็นความสุขที่เรียกได้ว่า “ละเอียด” กว่าความสุขทางกายมากมายนัก และมีถึง 3 ขั้นคือมีความสุขใน

ปัจจุบัน สุขในโลกหน้า และมีความสุขเป็นที่สุดคือนิพพาน

1. ความสุขในปัจจุบัน

เมื่อฝึกทำสมาธิได้ในระดับเบื้องต้นเพียงแค่ปล่อยวางใจให้ผ่อนคลายกับเรื่องราวต่างๆ ได้ก็เกิดผลบุญขึ้นคือ ใจเป็นสุขที่ได้ปล่อยวางได้พบกับ

ความสุขใจขั้นพื้นฐานได้แก่ เมื่อหลับก็เป็นสุข ตื่นก็เป็นสุข จะนั่ง นอน ยืน หรือเดิน ไม่ว่า

อิริยาบถไหนๆ ก็มีความสุขทั้งสิ้น สุขไม่ต้องเลือกเวลาและสถานที่เพราะว่าจิตใจของเรานิ่งเป็นสุขแล้ว (พระท่านว่า “นัตถิ สันติปะรัง สุขัง”

สุขอื่นนอกจากหยุดนิ่งนั้นไม่มี

2. ความสุขในโลกหน้า

ความสุขในระดับขั้นต่อไปคือ เมื่อได้ละจากโลกนี้ไปแล้วจะได้ไปเสวยสุขในภพภูมิที่เป็นสุขขึ้นไปในโลกหน้า เพราะการที่เราจะไปสู่ “สุคติ”

หรือภพที่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับความหมองหรือความใสของจิตเป็นหลักหากก่อนจากไปมีจิตใจที่ผ่องใส

เป็นสุข ก็มีสุคติเป็นที่ไป หากก่อนจากไปจิตมีความขุ่นข้องเป็นทุกข์ก็มี ทุคติเป็นที่ไปตามหลักกรรมแห่งอาสันนกรรม

3. ความสุขอันเป็นนิพพาน

การเจริญภาวนานั้นเป็นเหตุให้หลุดพ้นจากกิเลส หากหมั่นเพียรฝึกฝนจนกระทำสำเร็จจนสิ้นกิเลสในภพชาติปัจจุบันก็จะทำให้จิตหลุดพ้นไม่ต้อง

กลับไปเวียนว่าย ในสังสารวัฏอีก อันหมายถึงพระนิพพาน ซึ่งความสุขแบบนี้มีแต่พระพุทธเจ้ากับเหล่าพระอรหันต์เท่านั้นที่สามารถไปถึงได้

หากเราต้องการที่จะไปถึงความสุขพ้นทุกข์ไปตลอดกาล ในภพชาติปัจจุบันก็ต้องพยายามฝึกฝนไปเรื่อยๆ หากไม่ถึงนิพพานในชาตินี้ชาติหน้าก็

จะถึงได้แน่นอนต้องหมั่นสะสมบุญบารมีไปและต้องมีเคล็ดวิธีการฝึกสมาธิและการเจริญปัญญาที่ถูกต้องจากผู้ที่รู้จริงเท่านั้น

การสร้างและสั่งสมบุญนั้นจึงเป็น “งานสำคัญของชีวิต” ควรที่เราจะต้องกระทำให้เป็นนิสัยจนกระทั่งกลายเป็นส่วนหนึ่งไปเลยดังที่บรรพบุรุษของ

เราเคยกระทำมาโดยคนโบราณนั้นถึงกับมีคติในการสร้างบุญบารมีเอาไว้ว่า

“เช้าใดยังไม่ได้ให้ทานหรือทำทาน เช้านั้นก็อย่าเพิ่งกินข้าว”

“วันใดที่ยังไม่ได้สมาทานศีลเพื่อที่จะตั้งใจรักษาศีล วันนั้นก็อย่าเพิ่งออกจากบ้าน”

“คืนใดที่ยังไม่ได้สวดมนต์ นั่งเจริญสมาธิภาวนาคืนนั้นก็อย่าเพิ่งเข้านอน”

ลองถ้าเราตั้งเงื่อนไขการสร้างบุญซึ่งไม่ใช่เรื่องทำยากเลยไว้เช่นนี้เมื่อทำจนเป็นนิสัยมันก็จะติดตัวเราไปและยังประโยชน์ให้เกิดกับคนรอบข้าง

ไปด้วยเพราะเขาจะพบเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแล้วก็จะเริ่มเกิดศรัทธาหันมาทำตามเป็นการพากันสร้างบุญกลุ่มให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไป

เมื่อสร้างบุญมาดีแล้ว บุญนี้จะเก็บไว้กับตัวเสียก่อน เมื่อสร้างให้มากๆ ยิ่งดีเพราะเมื่อถึงเวลานำไปใช้แล้วจะได้มีใช้ไม่ขาดแคลน

ดังคำสอนของสมเด็จของพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสีที่ท่านกล่าวเป็นอมตะวาจาว่า

“บุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า ลูกเอ๋ย ก่อนที่จะเข้าไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือบารมีของตนลงทุนไป

ก่อนเมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะ

หนี้สินในบุญบารมีที่ไปเที่ยวขอยืมมาจนพ้นตัว เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมดไม่มีอะไรเหลือติดตัวแล้วเจ้าจะมี

อะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง จงจำไว้นะเมื่อยังไม่ถึงเวลา

เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นเมื่อถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน

เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลยจะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า”

หมั่นสร้างบุญอย่างสม่ำเสมอให้มากพอและยาวนานพอส่วนจะนำบุญไปใช้ให้เกิดผลเร็วๆ อย่างไรนั้นจะกล่าวในบทของ

เคล็ดของการนำบุญมาใช้ต่อไป

 

 

 

 

 

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูล : gangbeauty.com

และภาพจาก Pixabay

เรื่องน่าสนใจ

กราบไหว้ขอพร องค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว (คลองสาน) ที่ ล้ง 1919 (LHONG) การงานมั่นคง มั่นมีเงินทอง

กราบไหว้ขอพร องค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว (คลองสาน) ที่ ล้ง 1919 (LHONG) การงานมั่นคง มั่นมีเงินทอง

กราบไหว้ขอพร องค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว   กราบไหว้ขอพร องค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว การงานมั่นคง มั่งมีเงินทอง กราบไหว้ขอพร องค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว (คลองสาน) ที่ ล้ง 1919 (LHONG) องค์นี้ คือองค์เจ้าแม่หม่าโจ้วที่มีพลังและความศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะได้ประดิษฐานอยู่คู่มาตั้งแต่ต้นตระกูลของผู้ดูแลรักษา และผู้ที่ได้อัญเชิญองค์เจ้าแม่หม่าโจ้วตั้งแต่เริ่มนั้น ต่อมาได้ประสบความสำเร็จความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งเรียกว่า “มั่งมีพลัง มั่งคั่งความสำเร็จ” ลักษณะและวิธีการไหว้องค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว (คลองสาน) 1. ปางจุ้ยบ๋วยเนี้ย หรือ ปางเด็กสาว ในอดีตคือช่วงยังเป็นเด็กสาว “องค์โม่เหนียง” (หลงหนี่ว์) ตำนานเล่าว่าท่านชอบปฏิบัติธรรม ในตอนเช้าจะไปเก็บน้ำค้างมารักษาผู้คน จุดสังเกตคือ ใบหน้าจะอ่อนเยาว์กว่าปางอื่นๆ และประทับอยู่ด้านซ้ายมือเรา ผู้มาสักการะจะขอพรเรื่องการเดินทางให้ราบรื่น ไร้อุปสรรค และมีความรักที่สดชื่น 2. ปางให่ตั้งหม่า หรือ ปางผู้ใหญ่ ในอดีตคือช่วงที่เป็นเซียนแล้วชื่อ “องค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว” จุดสังเกตคือจะมีองค์ขนาดใหญ่ ประทับอยู่ตำแหน่งขวามือเรา นิยมขอพรเรื่องการค้าขาย เงินทอง ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง 3. ปางเทียนโหวเซี่ยบ้อ หรือ ปางเทพ ในอดีตคือตอนที่ได้ยกย่องเป็น “องค์เทียนโหวเซี่ยบ้อ” […]

ความเชื่อเรื่องคงกระพันชาตรี มีจริงหรือแค่เรื่องเล่า

ความเชื่อเรื่องคงกระพันชาตรี มีจริงหรือแค่เรื่องเล่า

ความเชื่อเรื่องคงกระพันชาตรี มีจริงหรือแค่เรื่องเล่า   บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อเรื่องคงกระพันชาตรี มาให้ได้อ่านกัน มีเรื่องเล่าว่าสมัยโบราณมีนักรบที่ฟันแทงไม่เข้า อยู่ยงคงกระพันเรื่องนี้จริงหรือไม่ และพวกเขาใช้วิธีอย่างไรกับร่างกายของพวกเขาบ้าง วันนี้ เราจะมาให้ความกระจ่าง   เรื่องมันมีอยู่ว่าครั้งหนึ่งสมัยอยุธยาเป็นราชธานีในแผ่นดินของพระนารายมหาราช ประวัติศาสตร์ได้บันทึกว่าเคยส่งพระยาโกษาธิบดี(ปาน) ราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสได้นำทหารที่มีรอยสักติดตามไปประมาณสิบกว่าคนแล้วได้แสดงความคงกระพันด้วยการให้ทหารฝรั่งเศสใช้ปืนไฟยิงเข้าที่ผิวหนังแต่ไม่ระคายผิว ทหารเสือพระเจ้าตาก ก็มีวิชานี้เช่นกัน และพวกวีรชนเหล่านั้นได้ใช้วิชานี้ปกป้องพระเจ้าตากและกอบกู้เอกราช นอกจากนี้นักเลงรุ่นเก่า ๆ ยังใช้วิชานี้ป้องกันตัวอีกเช่นกัน     วิชานี้มีที่มาที่ไปผู้เรียนวิชานี้ใช้วิธีแรก คือลงอาคมผ่านอักขระสีดำจนเป็นรูปรอยสักยันต์ตามผิวตรงแผ่นหลัง ตัวอักขระมีลักษณะเป็นระเบียบรวมกันเป็นรูปยันต์ต่างกัน แต่ละสำนักอาจารย์ วิธีที่สองคือใช้ของขลัง คือตะกรุด หวายลูกนิมิต ที่ลงอาคมจากสำนักอาจารย์มาไว้กับตัว วิธีสุดท้ายใช้ว่านบางชนิด อย่างว่านไพลดำ ว่านนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่ใช้ในการนี้จะต้องมีศีลขั้นสูงมีลักษณะเป็นไม้พวกเหง้า สำต้นแบบไพล หัวว่านสีม่วงกลิ่นฉุน ก้านใบสีเข้มออกดำ ลำต้นสูงใบเรียว ดอกเหลือง วิธีใช้เหง้าตากแห้งบดละเอียด สำนักอาจารย์จะขูดขีดตัวหนังสือประจำองค์เทพประจำสำนักอาจารย์และนำผงนี้ผสมน้ำมันว่านลูบลงบนผิว จะคงกระพันชาตรี ทั้งนี้จะต้องทำการบริกรรมโดยผู้ทรงศีลเท่านั้น สุดท้ายผู้ที่ได้รับการบริกรรมจะฟันแทงไม่เข้า เมื่อต้องอาญาแผ่นดินก็จะต้องประหารชีวิตแบบวิธีพิสดารโดยใช้หลาวเสียบทวารเท่านั้น         ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว […]

วิธีเสริมดวงด้วยการเดินทาง ให้ดวงดีส่งท้ายปี การงานรุ่งเรือง

วิธีเสริมดวงด้วยการเดินทาง ให้ดวงดีส่งท้ายปี การงานรุ่งเรือง

วิธีเสริมดวงด้วยการเดินทาง ให้ดวงดีส่งท้ายปี การงานรุ่งเรือง   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ จะแนะนำวิธีเสริมดวงด้วยการเดินทาง มาแนะนำ เมื่อโรคระบาดเริ่มหมดไป หลายคนเคยเคร่งเครียดทำงาน บางคนตกงาน บางคนทำธุรกิจล้มเหลวอยากเสริมดวงดีตอนปลายปี กระตุ้นพลังดีมีความสุข บางคนอาจคิดว่าดวงตนเองไม่ดีเพราะชีวิตมีแต่ความสับสน        ภูเขา คนทำงานเคร่งเครียด กดดันจากการทำงาน โดนเจ้านายดุด่าประจำ ต้องเสริมดวงโดยการท่องเที่ยวเดินทางแบบปีนเขาขึ้นที่สูงมองไกล ๆ จะเสริมดวงโชคลาภจากการทำงานเพราะการปีนที่สูงจะเสริมเรื่องการยกระดับดวง ทะเล ใครทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ ด้านการตลาด ออกแบบ การไปเที่ยวทะเลช่วยเปิดมุมมองชีวิต เรื่องการงานทะเลกระตุ้นด้านความคิดนอกกรอบ คนสมัยก่อนเชื่อว่าการเที่ยวทะเล เดินทางไปพักผ่อนชายทะเลจะเสริมดวงเรื่องการเติบโตทางความคิด นอกจากทะเลจะเสริมดวงที่กล่าวแล้วการเที่ยวทะเลจะเสริมดวงเรื่องความสัมพันธ์ เที่ยวป่า เจ้าผู้ครองนครสมัยก่อนจะชอบออกไปล่าสัตว์ เพราะเชื่อว่าจะเสริมดวงเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ป่าไม้คือบ้านใหญ่ที่สรรพสัตว์ ออกหาอาหาร ฉะนั้นป่าเปี่ยมไปพร้อมด้านพลังชีวิต การไปท่องเที่ยวป่าทำให้สมองปลอดโปร่ง   วัดโบราณ นักเรียน นักศึกษาคนไหนต้องแข่งขันกันเรียน แล้วสอบปลายภาคเตรียมสำเร็จการศึกษา การไปเที่ยวตามหอศิลปะ วัดโบราณจะเสริมดวงด้านการเรียนเพราะ ศิลปะมีอำนาจลึกลับเรื่องการชำระจิตใจ ยกระดับความรู้ วัดโบราณเสริมดวง ด้านกระบวนการคิด เชื่อไหมว่าการเรียนจะได้ผลดีที่สุดเมื่อผู้เรียนคิดอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ใครคนไหนจะไปเที่ยวแห่งใดควรตระหนักเรื่องการอนุรักษ์ไว้ เพราะการคงสภาพป่าไม้ ทะเล และแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นการอนุรักษ์สมดุลสิ่งแวดล้อม       […]

พระอาทิตย์ทรงกลดความเชื่อมงคล

พระอาทิตย์ทรงกลดความเชื่อมงคล

พระอาทิตย์ทรงกลดความเชื่อมงคล   พระอาทิตย์ทรงกลด (Halo) มีหลักการเกิดเช่นเดียวกับดวงจันทร์ทรงกลด คือเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดในบรรยากาศโลก เมื่อบรรยากาศระดับสูงมีเกล็ดน้ำแข็ง จำนวนมาก แสงจากดวงอาทิตย์ส่องไปกระทบ เกิดการสะท้อนและหักเหมาเข้าตา ผู้สังเกตบนโลกแต่เนื่องจากแสงอาทิตย์มีความสว่างจ้ามาก อาทิตย์ทรงกลดจึงไม่ได้มี เฉพาะแสงเรือง 1 วง หรือ 2 วงเท่านั้น บางครั้งอาจมีแสงเรือง เป็นแนวโค้ง หลากหลายรูปแบบปรากฏให้เห็นได้ จะเห็นได้ก็เฉพาะผู้ที่แหงนหน้ามองท้องฟ้าบ่อย ๆ เท่านี้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ท้องฟ้าปลอดโปร่ง มีโอกาสเห็นอาทิตย์ทรงกลดในเวลากลางวัน และดวงจันทร์ทรงกลดในเวลากลางคืน อาทิตย์ทรงกลดมองดู ได้ ด้วยตาเปล่า แต่ห้ามมองตรงไปที่ดวงอาทิตย์ ส่วนแสงสีที่ตามองเห็นนั้น จะขึ้นกับการทำมุมของแสงอาทิตย์และเกล็ดน้ำแข็ง แต่โดยทั่วไปเรามักจะเห็นเป็นแสงสีเหลืองอ่อนๆ มากที่สุด สำหรับขนาดของ พระอาทิตย์ทรงกลดจะมีขนาดแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนมากจะมีขนาดเฉลี่ย 30 องศา โดยการลากเส้นตรง 2 เส้น มาบรรจบกันที่ดวงตาผู้มอง ได้แก่ เส้นตรงที่ลากจากกึ่งกลาง ของปรากฏการณ์มาที่ตาผู้มอง และเส้นตรงที่ลากจากขอบของปรากฏการณ์มาที่ดวงตาผู้มอง ซึ่งเป็นหลักการวัดระยะเชิงมุมของวัตถุต่างๆ บนท้องฟ้า เช่น ดวงดาว เป็นต้น ส่วนความถี่ในการเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดนั้น […]