เปิดประวัติ เตาอั้งโล่ เตามหาเศรษฐี มีที่มาอย่างไร

เปิดประวัติ เตาอั้งโล่ เตามหาเศรษฐี มีที่มาอย่างไร

เปิดประวัติ เตาอั้งโล่ เตามหาเศรษฐี มีที่มาอย่างไร

 

วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะพามาทำความรู้จักกับ เปิดประวัติ เตาอั้งโล่ ความเป็นมาของเตาหุงต้ม เตามหาเศรษฐีคืออะไร มีมาตั้งแต่สมัยไหน และใครเป็นคนคิดค้น

 

เตาอั้งโล่ ประวัติและความเป็นมา พลังงานที่ใช้หุงต้มในภาคครัวเรือนทั่วประเทศไทย ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล โดยเฉพาะจากถ่านไม้และฟืนซึ่งมีปริมาณการใช้รวมกันคิดเทียบเป็นไม้ฟืนไม่น้อยกว่า 40 ล้าน ต่อปี และมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าปีละ 7,500 ล้านบาท

เชื้อเพลิงไม้นี้หากจะต้องทดแทนด้วยผลิตภัณฑ์น้ำมัน หรือ ก๊าซหุงต้ม ทั้งหมดแล้ว รัฐจะต้องใช้เงินเพิ่มมากกว่ามูลค่าข้างบนถึงประมาณ 3 เท่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดจำหน่าย และขีดความสามารถในการซื้อหาของราษฎรที่ยากจนในชนบทเป็นอันมาก

ในขณะที่การขาดแคลนเชื้อเพลิงไม้ได้เกิดขึ้นแล้วในชนบทไทยหลายๆ แห่ง และนับวันจะเพิ่มมากขึ้น การใช้ เตาหุงต้ม ในครัวเรือนของประเทศสมัยก่อนส่วนใหญ่ยังคงเป็นเตาหุงต้มที่มีประสิทธิภาพต่ำ ทำให้ต้องใช้เชื้อเพลิงมากในการหุงต้มแต่ละครั้ง ทั้งเตาถ่าน เตาฟืน และเตาเศษวัสดุอื่นๆ

 

เปิดประวัติ เตาอั้งโล่ เตามหาเศรษฐี มีที่มาอย่างไร

 

ประวัติ เตาอั้งโล่ที่ทั่วโลกใช้

เตาอั้งโล่ ความเป็นมาของการใช้เตาหุงต้มในโลก เป็นที่แน่ชัดว่ามีการใช้เชื้อเพลิงชีวมวล คือไม้ เมื่อ 400,000 ปีมาแล้ว ได้ค้นพบภายในถ้ำของมนุษย์ปักกิ่ง การใช้เชื้อเพลิงชีวมวลในเวลานั้น สันนิษฐานว่าใช้เพื่อความอบอุ่น

สำหรับ เตาหุงต้ม เพื่อหุงหาอาหาร ซึ่งทำด้วย เครื่องปั้นดินเผา มาตั้งแต่ดั้งเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแบบมากจนถึงปัจจุบัน เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเตาสมัยใหม่แล้วจะเห็นว่าเตาหุงต้มชีวมวลยังมีประสิทธิภาพใช้งานต่ำห่างไกลกันมาก

ประสิทธิภาพใช้งานของเตาน้ำมันก๊าด หรือก๊าซหุงต้ม สูงถึง 45-48% ประสิทธิภาพใช้งานของเตาฟืนสูงสุดเพียง 25-27% ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพใช้งานจะขึ้นอยู่กับค่าความร้อนของไม้ซึ่งมีค่าต่ำ แต่ปัญหาสำคัญก็ยังขึ้นอยู่กับรูปแบบของเตาหุงต้มด้วย

 

เปิดประวัติ เตาอั้งโล่ เตามหาเศรษฐี มีที่มาอย่างไร

 

ประวัติ เตาอั้งโล่ในไทย

เตาอั้งโล่ ความเป็นมาของการใช้เตาหุงต้มในประเทศไทย จากการศึกษาและสำรวจก็พบว่ามีเตาหิน 3 ก้อน เป็นเตาหุงต้มโบราณ ซึ่งใช้กันมากในชนบทเช่นเดียวกันกับประเทศตะวันตกในระยะแรกๆ

เตาอั้งโล่ เป็นที่เชื่อกันว่ามาจากประเทศจีน เพราะคำว่า “อั้งโล่” มาจากภาษาแต้จิ๋ว แปลว่าเตาสีแดง (เป็นสีของดินเผา) ระยะเวลาที่มีการนำเตาอั้งโล่มาใช้ในประเทศไทยนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่า จะนำเข้ามาเมื่อประมาณ 1,000 ปีมาแล้ว เนื่องจากมีการค้าขายเริ่มแรกระหว่างประเทศไทย-จีน หรือ อีกนัยหนึ่งจะนำเตาอั้งโล่เข้ามาเมื่อตอนชาวจีนพวกหนึ่งอพยพเข้ามาในประเทศไทยเนื่องจากเกิดสงครามกลางเมืองในสมัยนั้นประมาณ 100 ปีมานี้เอง

 

เปิดประวัติ เตาอั้งโล่ เตามหาเศรษฐี มีที่มาอย่างไร

 

เตามหาเศรษฐี คือ สำหรับ เตามหาเศรษฐี ก็คือ เตาอั้งโล่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมีการปรับเปลี่ยนรูปทรงโดยใช้หลักวิชาการมากขึ้น มีรูปร่างเพียวลง สวยงาม และทนทานมากว่าเตาอั้งโล่แบบสมัยก่อน จุดไฟติดเร็วขึ้นไม่มีควันและแก๊สพิษที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ หุงต้มสุกเร็ว เก็บความร้อนได้นาน สามารถวางหม้อหรือภาชนะประกอบอาหารได้ถึง 9 ขนาด และมีคุณสมบัติที่สำคัญ คือ ประหยัดฟืนและถ่านได้มากกว่า เตาอั้งโล่ธรรมดาถึง 25 – 30%

 

เปิดประวัติ เตาอั้งโล่ เตามหาเศรษฐี มีที่มาอย่างไร

 

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

ขอบคุณข้อมูล : สำนักงานพลังงานแห่งชาติ กรมวิเทศสหการ

ขอบคุณภาพจาก : Pixabay , โซเชียลมีเดีย

เรื่องน่าสนใจ

ความเชื่อเรื่องนิมิตลาง ตอน อาการร้อนหน้าผ่าว

ความเชื่อเรื่องนิมิตลาง ตอน อาการร้อนหน้าผ่าว

ความเชื่อเรื่องนิมิตลาง ตอน อาการร้อนหน้าผ่าว   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับ “ความเชื่อเรื่องนิมิตลาง ตอน เขม่นคาง” มาให้ได้ทราบกัน.. คนในสมัยก่อนมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องการเขม่น ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับอวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายของเราอยู่เสมอ โดยอาการเขม่นหรือกระตุกตามกล้ามเนื้อ ส่วนต่างๆ สามารถบอกเหตุดี เหตุร้าย หรือที่เราเรียกกันว่า ลาง ให้เราทราบได้เช่นกัน..   หากคุณเกิดอาการร้อนหน้าผ่าวในยามเช้า คนโบราณท่านมีความเชื่อว่า คนผู้นั้นจะได้รับข่าวที่เป็นศุภมงคลจากญาติมิตรเพื่อนฝูง หรือหากเกิดอาการร้อนหน้าผ่าวในยามสาย คนโบราณท่านมีความเชื่อว่า คนผู้นั้นจะมีเรื่องให้ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ ระวังการมีปากเสียงกับญาติมิตรเพื่อนฝูง และ หากคุณเกิดอาการร้อนหน้าผ่าวในยามบ่าย คนโบราณท่านมีความเชื่อว่า คนผู้นั้นจะมีสิ่งที่กำลังคิดอยู่ในเวลานั้นจะสมประสงค์ ผู้หลักผู้ใหญ่จะให้การอุปถัมภ์ค้ำชู จะมีโชคลาภมาจากแดนไกล ส่วนคนที่มีอาการร้อนหน้าผ่าวในยามเย็น คนโบราณท่านมีความเชื่อว่า คนผู้นั้นจะเกิดการโต้เถียงทะเละวิวาทจนอาจถึงขึ้นโรงขึ้นศาลได้ บางตำราว่าจะมีลาภปากมาเยือนโดยไม่ต้องออกไปเสาะแสวงหา      สุดท้าย คือ คนที่มีอาการร้อนหน้าผ่าวในยามมืด คนโบราณท่านมีความเชื่อว่าคนผู้นั้นจะมีลาภจากการเสี่ยงโชค ตะได้ลาภหรือความสุขทางใจในเรื่องของความรัก คนโสดจะได้พบรักที่แสนถูกใจเป็นอย่างยิ่ง       ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน […]

คาถาบูชาพระพุทธชินสีห์ เสริมสร้างดวงชะตา และขอพรให้ชีวิตปราศจากอุปสรรคทั้งหลาย

คาถาบูชาพระพุทธชินสีห์ เสริมสร้างดวงชะตา และขอพรให้ชีวิตปราศจากอุปสรรคทั้งหลาย

คาถาบูชาพระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร พระพุทธชินสีห์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย จัดอยู่ในศิลปะสุโขทัย หมวดพระพุทธชินราช ถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองตั้งแต่ครั้งอดีต และยังเป็นพระประจำหรับผู้ที่เกิดในเดือนหกไทย (เดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม) เนื่องจากพระพุทธชินสีห์สร้างขึ้นจำลองจากเหตุการณ์ คราวเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเผชิญกับหมู่มารซึ่งมาขัดขวางไม่ให้พระองค์ทรงตรัสรู้ ก่อนจะทรงมีชัยเหนือพญามารทั้งหลายในที่สุด พระพุทธชินสีห์จึงเป็นพระที่ให้คุณในด้านของการเสริมสร้างดวงชะตา และขอพรให้ชีวิตปราศจากอุปสรรคเภทภัยทั้งหลาย นอกจากนี้ ใต้แท่นประดิษฐานของพระพุทธชินสีห์ ยังเป็นสถานที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพรักยิ่งของชาวไทยอีกด้วย คาถาบูชาพระพุทธชินสีห์ มาดูประวัติความเป็นมากันเลย ประวัติความเป็นมา จากพงศาวดารเมืองเหนือ ซึ่งเป็นเอกสารเล่าเรื่องตำนานเมืองเหนือในสมัยกรุงศรีอยุธยา กับลักษณะศิลปะของพระพุทธชินสีห์ ทำให้สันนิฐานได้ว่าพระพุทธชินสีห์ น่าจะถูกสร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20 หรือในช่วงสมัยสุโขทัย ในคราวเดียวกับที่สร้างพระพุทธชินราช ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเช่นกัน เดิมที พระพุทธชินสีห์ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก จนกระทั่งปี พ.ศ. 2372  สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ทรงสร้างวัดบวรนิเวศราชวรวิหารขึ้น และได้โปรดให้อัญเชิญพระพุทธชินสีห์มาประดิษฐานตราบจนปัจจุบันนี้ คาถาบูชาองค์พระ (ตั้งนะโมฯ 3 จบ) นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ […]

ความเชื่อโบราณ ดอกไม้ประจำราศีเมถุน

ความเชื่อโบราณ ดอกไม้ประจำราศีเมถุน

ความเชื่อโบราณ ดอกไม้ประจำราศีเมถุน   บทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะนำเสนอให้ท่านได้ทราบเกี่ยวกับความเชื่อของ “ดอกไม้ประจำราศีเมถุน” ศาสตร์แห่งดอกไม้หรือ Flora scope คือความเกี่ยวเนื่องระหว่างดอกไม้และดวงดาวแห่งจักรราศี เมื่อเรารู้ว่าดอกไม้ชนิดไหนเป็นดอกไม้ประจำตัวของเรา มันก็จะเป็นเครื่องบอกถึงบุคลิกภาพ ความรัก ความสัมพันธ์ และจิตวิญญาณของเรากับดอกไม้นั้นๆ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับเรื่องของการใช้คริสตัสเพื่อพลังบำบัดด้วย   ดอกไม้ประจำราศีเมถุน (สำหรับผู้เกิดวันที่ 21 พ.ค. – 20 มิ.ย..) ดอกเล็บมือนาง ดอกไม้ที่ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนในสวนแห่งชีวิตเพราะมักจะบานบ่อยๆ ด้วยเสน่ห์แบบง่ายๆ และความฉลาดเฉลียว เป็นดอกไม้ที่มีความงามแบบเฉพาะตัว เมื่อปลูกอยู่ในบ้านหรือริมรั้ว คนที่มีดอกไม้นี้เป็นประจำราศี มักจะเป็นคนมีความคิดเปิดกว้างและยืดหยุ่น แต่มีอารมณ์ที่ปรวนแปรง่ายโดยเฉพาะในเรื่องของความรัก อาชีพเด่นที่เหมาะมากสำหรับคนราศีนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความงาม ธุรกิจและงานของหนังสือสิ่งพิมพ์ต่างๆ      การเงิน เป็นพวกมีรสนิยมสูงรายได้ต่ำ จึงมักมีหนี้สินท่วมตัวอยู่บ่อยๆ      สุขภาพ มักจะหักโหมทำงานหนัก จึงมีปัญหาเรื่องความเหน็ดเหนื่อยและอาการระบบประสาทเป็นประจำ เพราะความเครียดสะสม      ความรัก เป็นคนอ่อนไหวง่าย ช่างเฟลิ้ตและเจ้าชู้ เพราะชอบความรักแบบตื่นเต้นตลอดเวลา      อาชีพ นักหนังสือพิมพ์ นักดนตรี ศัลยแพทย์ ช่างภาพ กวี นักสำรวจ นักการเมือง […]

ข้อห้ามหญิงตั้งครรภ์ ตามความเชื่อคนโบราณ

ข้อห้ามหญิงตั้งครรภ์ ตามความเชื่อคนโบราณ

ข้อห้ามหญิงตั้งครรภ์ ตามความเชื่อคนโบราณ   ข้อห้ามหญิงตั้งครรภ์ ตามความเชื่อคนโบราณ ดวงวันนี้ หากพูดถึงข้อห้ามและความเชื่อเกี่ยวกับหญิงตั้งครรภ์ตามความเชื่อของคนสมัยโบราณนั้น แน่นอนว่าย่อมมีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้อห้ามในเรื่องอาหารการกิน การปฏิบัติตน หรือแม้แต่ความรู้สึกนึกคิดใดๆ ดังต่อไปนี้ 1. หญิงตั้งครรภ์ห้ามทำการประกอบพิธีกรรม หรืออยู่ร่วมงานพิธีกรรมต่างๆ เช่น ย้ายบ้าน ย้ายเข้าบ้านใหม่ ย้ายสำนักงานใหม่ ตั้งพระ และที่สำคัญมากๆเลยก็คือห้ามหญิงที่ตั้งครรภ์ไปร่วมงานศพ หรือไปสุสาน เนื่องจากเชื่อว่าจะมีสิ่งที่ไม่ดีติดตามมาด้วย 2. หญิงตั้งครรภ์ห้ามซ่อมแซมบ้าน ที่อาศัย หรือที่ทำงาน เนื่องจากเชื่อว่าจะทำให้เด็กทารกเกิดมาพิการ หรือเสียชีวิต 3. หญิงตั้งครรภ์ห้ามทำการย้ายเตียง หรือทำความสะอาดใต้เตียง และห้ามเย็บปักถักร้อย เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่ออวัยวะส่วนต่างๆของร่างกายทารกในครรภ์ได้ 4. หญิงตั้งครรภ์ห้าม รังแกหรือทำร้ายสัตว์ ให้ได้รับความเจ็บปวด ทรมาน หรือไปว่ากล่าวลูกผู้อื่น เพราะผลของการกระทำนั้นจะตกมากาทารกในครรภ์เอง 5. หญิงตั้งครรภ์ห้ามพูดจาส่อเสียด หรือ ว่าร้ายผู้อื่น เพราะจะส่งผลให้ทารกเกิดมามีรูปร่างอัปลักษณ์ พูดไม่ชัด หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ 6. หญิงตั้งครรภ์ห้ามไปเยี่ยมคนป่วย ห้ามเข้าพิธีสวดขับไล่สิ่งไม่ดี (สวดภาณุยักษ์ หรือพิธีรับขันธุ์) เนื่องจากเชื่อว่าจะทำให้ไปติดพลังหรือกระแสที่ไม่ดี และส่งผลกระทบถึงทารกในครรภ์ได้     […]