พระพุทธชัยมงคลคาถา อัศจรรย์บทสวดพาหุง สวดทุกวัน หลุดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง

พระพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง มหากา)

      ๑. พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง,ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท, ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ

      ๒. มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง, โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขังขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท, ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ

      ๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง, ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตังเมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท, ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ

      ๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง, ธาวันติโย ชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง  อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท, ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ

      ๕. กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา, จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท, ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ

      ๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง, วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท, ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ

      ๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง, ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท, ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ

      ๘. ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง, พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท, ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ

เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา         โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที

หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ                 โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญฯ

 

พระพุทธชัยมงคลคาถา

 

พระพุทธชัยมงคลคาถา คำแปล (พาหุงมหากา)

คำแปล  มีอยู่ 8 บท และมีความมุ่งหมายแตกต่างกันทั้งแปดบท กล่าวคือ

บทที่ 1 สำหรับเอาชนะศัตรูหมู่มาก เช่น ในการสู้รบ
บทที่ 2 สำหรับเอาชนะใจคนที่กระด้างกระเดื่องเป็นปฏิปักษ์
บทที่ 3 สำหรับเอาชนะสัตว์ร้ายหรือคู่ต่อสู้
บทที่ 4 สำหรับเอาชนะโจร
บทที่ 5 สำหรับเอาชนะการแกล้ง ใส่ร้ายกล่าวโทษหรือคดีความ
บทที่ 6 สำหรับเอาชนะการโต้ตอบ
บทที่ 7 สำหรับเอาชนะเล่ห์เหลี่ยมกุศโลบาย
บทที่ 8 สำหรับเอาชนะทิฏฐิมานะของคน

 

 

บทสวดพาหุงฯ ที่เราหลายๆคนท่องได้แล้ว และบางคนกำลังหัดท่อง ชื่อเต็มๆมีชื่อว่า “ชัยมงคลคาถา” เป็นบทสวดมนต์ที่เรียงเรียงขึ้นถึงเหตุการณ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราได้ชนะพญามารในช่วงต่างๆ ถึง 8 เหตุการณ์ ตั้งแต่วันตรัสรู้ธรรม จนถึงเหตุการณ์ผกาพรหม เป็นต้น ซึ่งตามตำนานนั้น สมเด็จพระนเรศวรมหาราชของเราทรงสวดบทนี้ทุกครั้งเพื่อใช้ในการปกครองบ้านเมืองและทำราชการสงคราม เพื่อให้มีชัยเหนืออริราชศัตรู อย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเอาชัยชนะเหนือพญามารผู้ใจบาปได้

ในบทที่ 1 เป็นเหตุการณ์ช่วงผจญมาร ซึ่งมีเรื่องว่าในวันตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระยามารยกพลเสนามารใหญ่หลวงมา  พระยามารผู้นิรมิตแขนได้ตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่ช้างชื่อ ครีเมข พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องมา แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สามารถเอาชนะพญามารได้ด้วยการระลึกถึงบารมีทั้ง 30 ทัศ ที่ทรงเคยลำเพ็ญมาในอดีต

ในบทที่ 2 เรื่องเล่าว่า มียักษ์ตนหนึ่ง ชื่ออาฬะวกะ เป็นผู้มีจิตกระด้างและมีกำลังยิ่งกว่าเทวดาทั้งปวง อาฬะวกะยักษ์ผู้มีจิตกระด้าง ปราศจากความยับยั้ง พยายามเข้ามาประทุษร้ายพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ตลอดรุ่ง แต่พระองค์ก็สามารถปราบทิฏฐิของยักษ์ตนนี้ลงได้

ในบทที่ 3 มีเรื่องว่าเมื่อพระเทวทัตทรยศต่อพระพุทธเจ้า ได้จัดการให้คนปล่อยช้างสาร ที่กำลังตกมันชื่อนาฬาคีรี เป็นช้างเมามัน โหดร้ายเหมือนไฟไหม้ป่า มีกำลังเหมือนจักราวุธ เพื่อมาทำร้ายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เมื่อช้างมาถึง ด้วยพระบริสุทธิคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ทำให้ช้างนาฬาคีรี ได้สติและทำความเคารพต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ในบทที่ 4 เป็นเรื่องขององคุลีมาลซึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี ท่านเทศน์เอาไว้ใน 69 กัณฑ์ อย่างที่เรารู้กันแพร่หลาย คือ องคุลีมาลนั้นอาจารย์บอกไว้ว่า ถ้าฆ่าคนและตัดนิ้วมือมาร้อยเป็นสร้อยคอ ให้ได้ครบพัน ก็จะมีฤทธิ์เดชยิ่งใหญ่ องคุลีมาลฆ่าคนและตัดนิ้วมือได้ 999 เหลืออีกนิ้วเดียวจะครบพัน ก็มาพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ก็ทรงสามารถทรมานทิฏฐิองคุลีมาลเลิกเป็นโจร ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้อมตะวาจาเกิดขึ้น คือ “เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด” และองคุลีมารโจรก็ได้ออกบวชเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

ในบทที่ 5 หญิงคนหนึ่งมีนามว่า จิญจมาณวิกา ใส่ร้ายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการวางแผนให้ผู้คนเข้าใจผิด โดยในเวลาเย็นที่ชาวบ้านเดินออกจากวัดเชตวัน นางจืญจมาณวิกา ก็จะเดินเข้าวัดไป และในช่วงเช้าที่ชาวบ้านเข้าวัด ก็จะทำทีเป็นเดินสวนทางออกมา จนระยะเวลาผ่านไปไลานเดือน จึงเอาไม้กลมๆ ใส่เข้าที่ท้องแล้วก็ไปเที่ยวปล่อยข่าวให้เล่าลือว่าตั้งครรภ์กับพระสัมมาสัมพุทธพุทธเจ้า ซึ่งก็ทรงเอาชนะด้วยวิธีสงบ ระงับพระทัยในท่ามกลางหมู่คน ให้ความจริงปรากฏแก่คนทั้งหลายว่าเป็นเรื่องกล่าวร้ายใส่โทษพระองค์โดยแท้

ในบทที่ 6 เป็นเรื่องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเอาชนะสัจจะกะนิครนถ์ ผู้มีนิสัยละทิ้งความสัตย์ใฝ่ใจจะยกย่องถ้อยคำของตนให้สูงประหนึ่งว่ายกธงเป็นผู้มืดมัวเมา เป็นคนเจ้าโวหาร เข้ามาโต้ตอบกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์จีงตรัสเทศนาสั่งสอนสัจจะกะนิครนถ์ดังกล่าว

ในบทที่ 7 เป็นเรื่องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดให้พระมหาโมคคัลลานะ อัครมหาสาวกไปต่อสู้เอาชนะพญานาคชื่อ นันโทปนันทะ ผู้มีฤทธิ์มาก และมีเล่ห์เหลี่ยมในการต่อสู้มากมาย ซึ่งพระมหาโมคคัลลานะก็ได้ใช้ฤทธิ์เนรมิตกายเป็นพญานาค ไปปราบนนันโทปนันทะนาคราช ผู้มีฤทธิ์มากให้พ่ายแพ้ไป

ในบทที่ 8 เป็นเรื่องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเอาชนะ ผกาพรหม ผู้มีทิฏฐิแรงกล้าสำคัญว่าตนเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ประกอบด้วยคุณอันบริสุทธิ์  รู้แจ้งโลก โดยผลัดกันซ่อนผลัดกันหา ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแปลงกายให้เล็กเท่าธุลีแล้วเดินจงกรมอยู่บนมวยผมของผกาพรหม ในที่สุดเมื่อผกาพรหมหาไม่พบจึงได้ยอมลดทิฏฐิมานะ และฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

สรุป : บุคคลใดมีปัญญา ไม่เกียจคร้าน สวดและระลึกถึงพระพุทธชัยมงคล ๘ คาถาเหล่านี้ทุกๆ วัน บุคคลนั้นจะพึงละความจัญไรอันตรายทั้งหลายทุกอย่างเสียได้ และเข้าถึงความหลุดพ้น คือ พระนิพพานอันบรมสุข นั้นแลฯ

 

 

 

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมาให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

 

ขอขอบคุณ : กัลยาณมิตร

เรื่องน่าสนใจ

คาถาบูชาพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อโต) พระทองคำองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

คาถาบูชาพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อโต) พระทองคำองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

คาถาบูชาพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร พระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากร หรือ หลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย องค์พระสร้างขึ้นจากทองคำแท้ทั้งองค์ หน้าตักกว้าง 6 ศอก 5 นิ้ว สูง 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว (หรือประมาณ 3.04 เมตร) ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คส์ในปี 2534 ให้เป็นพระพุทธรูปทองคำที่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นพระพุทธรูปที่ได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ไปกราบไหว้บูชาขอพรเพื่อเสริมสร้างดวงชะตา กระทำกิจการงานเจริญรุ่งเรือง รวมถึงขอโชคลาภมงคลให้กับชีวิต คาถาบูชาพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร พระทองคำองค์ใหญ่ที่สุดในโลก แห่ขอพรกันอย่างคึกคัก ประวัติความเป็นมา ลักษณะพุทธศิลป์ของพระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากร จัดอยู่ในหมวดศิลปะสุโขทัย จึงสันนิฐานว่าองค์พระน่าจะถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยสุโขทัย และเป็นหนึ่งในพระสำคัญใจกลางเมืองสุโขทัยตามข้อความในศิลาจารึกหลักที่ 1 อย่างไรก็ดี เมื่อพระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากรปรากฏขึ้นอีกครั้งนั้น มีบันทึกว่าองค์พระมิได้เป็นทอง หากแต่เป็นปูนปั้นทั้งองค์ และลักษณะทางพุทธศิลป์ก็ไม่ได้งดงามนัก โดยประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดโชตินาราม หรือวัดพระยาไกรมาตั้งแต่ครั้งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จนกระทั่งในปี 2474  วัดพระยาไกรขาดการดูแล จึงกลายเป็นที่ร้าง และถูกบริษัทอีสต์เอเชียติก จำกัดขอเช่าพื้นที่เพื่อสร้างโรงเลื่อย จึงมีการเคลื่อนย้ายองค์พระของวัดพระยาไกรไปประดิษฐานยังวัดอื่นๆ โดยองค์พระปูนปั้นถูกนำมาประดิษฐานที่วัดสามจีน […]

เครื่องรางเสริมความรักให้พุ่งแรง เข้าทางสายมูเตลู

เครื่องรางเสริมความรักให้พุ่งแรง เข้าทางสายมูเตลู

เครื่องรางเสริมความรักให้พุ่งแรง   เครื่องรางเสริมความรัก เพราะรักนี้บางทีก็ต้องพึ่งดวง ใครที่ดวงความรักกำลังตก หรือโสดมานานจนคานถามหา ฟังทางนี้ เรามีตัวช่วย “10 เครื่องรางเสริมความรัก” พลิกชะตาคนโสด เสริมดวงความรักให้พุ่งแรงมาฝาก งานนี้สายมูเตลูทั้งหลายไม่ควรพลาด !     เครื่องรางเสริมความรัก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ดวงความรักตกสุด ๆ ไม่เจอเนื้อคู่สักที ความรักดี ๆ ก็ไม่เข้ามา หรือบางคนอาจมองหาเครื่องรางที่ช่วยสร้างเสริมเสน่ห์ เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความรัก ความเมตตา ทำให้โชคชะตาชีวิตก้าวหน้าขึ้น งานนี้เข้าทางสายมูแล้วล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นรีบมาดูกันเลยว่า 10 เครื่องรางเสริมความรัก มีอะไรเหมาะกับคุณบ้าง   1. ด้ายแดง ด้ายแดง เป็นความเชื่อของประเทศแถบตะวันออกอย่างญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ที่เชื่อกันว่าผู้ที่เป็นเนื้อคู่กันจะมีด้ายแดงที่มองไม่เห็น ผูกอยู่ที่นิ้วก้อยของทั้งคู่ จนนำพาให้มาเจอกัน เราจึงนำด้ายแดงมาเป็นเครื่องรางเสริมความรัก ที่นิยมก็คือด้ายแดงจากวัดหวังต้าเซียน ฮ่องกง ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าคนที่สวมใส่เป็นคนโสดก็จะได้พบเจอกับคนรัก ส่วนคนมีคู่อยู่แล้ว ความรักก็จะมั่นคงค่ะ   2. โรสควอตซ์ (Rose Quartz) หินสีชมพูหวานใส หรือ […]

3 เทคนิคสร้างบ้านโมเดิร์น แบบประหยัดพลังงาน

3 เทคนิคสร้างบ้านโมเดิร์น แบบประหยัดพลังงาน

3 เทคนิคสร้างบ้านโมเดิร์น แบบประหยัดพลังงาน   บ้านถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ก็ว่าได้ ดังนั้นบ้านที่ดีควรตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตครอบครัวได้อย่างครบครัน ซึ่งในปัจจุบันนี้ การออกแบบตกแต่งบ้านก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่มีผลกระทบต่อจิตใจของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะแบบบ้านโมเดิร์นที่เป็นที่ฮอทฮิตติดชาร์ทสำหรับรูปแบบบ้านสมัยใหม่ เนื่องจากบ้านสไตล์โมเดิร์นนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้กับตัวบ้าน และด้วยความทันสมัยของบ้านโมเดิร์นนี้เอง จึงทำให้การสร้างบ้านมีทางเลือกในการประหยัดพลังงานด้วย จากองค์ประกอบต่างๆ ทั้งการออกแบบและตกแต่งที่ช่วยซัพพอร์ทให้บ้านเป็นบ้านที่ร่มเย็นน่าอยู่อาศัยอีกทั้งยังได้ความสวยงามจากแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าไฟค่าน้ำได้ด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ดิน หรือ มีที่ดินอยู่ในมืออยู่แล้ว ก็เตรียมลงมือสร้างบ้านประหยัดพลังงานได้เลย เพราะวันนี้ทาง เลขเด็ดออนไลน์ จะมาแชร์เทคนิคดีดีที่จะทำให้การสร้างบ้านโมเดิร์นของคุณนั้นประหยัดพลังงานชนิดที่ว่าไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟเลยทีเดียว ก่อนจะสร้างบ้านหลังหนึ่งจำเป็นต้องมีการออกแบบ เรื่องทิศทางการวางบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับทิศทางลมและแสงจากธรรมชาติที่จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบ้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไฟหรือเครื่องปรับอากาศก็ตาม ทิศทางการวางบ้านจึงต้องดูเรื่องความร้อนจากดวงอาทิตย์เป็นหลัก ปกติดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันออกและอ้อมไปทางทิศใต้ไปจรดตกดินที่ทิศตะวันตก ดังนั้นการสร้างบ้านที่จะช่วยประหยัดพลังงานได้ดีและให้ออกมาเป็นบ้านแบบโมเดิร์น ควรจะทำให้บ้านมีช่องลมและบานหน้าต่างที่หันไปรับแสงทางทิศเหนือ และสามารถกันแดดด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ได้ ไม่ควรวางแนวบ้านให้กีดขวางทางลมธรรมชาติ เพราะจะทำให้บ้านอับความร้อน แต่ด้วยข้อดีของแบบบ้านโมเดิร์นที่เน้นความสวยงามด้วยดีไซน์ที่เน้นช่องลมหลายจุด รวมไปถึงวัสดุที่เป็นบานกระจกใหญ่ที่สามารถรับแสงธรรมชาติและกันความร้อนได้ดี ซึ่งโดยรวมวัสดุเหล่านี้จะช่วยทำให้บ้านประหยัดพลังงานและบ่งบอกความเป็นบ้านโมเดิร์นได้ไปในตัว   บ้านโมเดิร์นกับการเลือกวัสดุสร้างบ้านเพื่อถ่ายเทความร้อน วัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้านโมเดิร์นนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การเลือกวัสดุในการสร้างบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะการถ่ายเทความร้อนซึ่งจะเป็นประเด็นหลักในหัวข้อนี้ เนื่องจากการสร้างบ้านส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นบ้านแบบใดก็ตามมักจะใช้ผนังก่ออิฐหรือคอนกรีตเสริมเหล็กที่เป็นวัสดุที่มีมวลสารมากใช้เวลาถ่ายเทความร้อนนานทั้งการรับเข้าและการคลายออก ซึ่งทางเลือกของการจะช่วยประหยัดพลังงานให้กับบ้านได้ก็คือเลือกใช้วัสดุที่ระบายความร้อนช้าในการสร้างผนังบริเวณที่มีการใช้งานช่วงกลางวัน โดยช่วงกลางวันห้องจะเย็นสบายจากการถ่ายเทความร้อนช้า แต่พอตกเย็นห้องจะสะสมความร้อนและใช้เวลาถ่ายเทความร้อนนาน ดังนั้นห้องที่ใช้งานช่วงกลางคืน อาทิ ห้องนอน จึงควรเลือกใช้อิฐมวลเบาหรือผนังเบาในการประกอบห้องเป็นหลัก เพื่อที่เวลากลางคืนห้องจะได้เย็นสบายจากการถ่ายเทความร้อนได้เร็ว   ยิ่งไปกว่านั้นปัญหาหลักๆ ของแบบบ้านโมเดิร์นคือ ทรงหลังคาที่ปาดเรียบ แน่นอนว่าการทำทรงหลังคาแบบนี้จะประหยัดงบประมาณกว่าหลังคาซ้อนชั้นหรือที่มุงกระเบื้องเป็นจั่วตามแบบบ้านทั่วไป แต่ด้วยความที่ประเทศไทยเป็นประเทศเมืองร้อน […]

ทายนิสัยจากสีเสื้อผ้าที่ชอบใส่ แม่นแค่ไหนมาดูกันเลย! สไตล์การแต่งตัว บอกนิสัย

ทายนิสัยจากสีเสื้อผ้าที่ชอบใส่ แม่นแค่ไหนมาดูกันเลย! สไตล์การแต่งตัว บอกนิสัย

ทายนิสัยจากสีเสื้อผ้าที่ชอบใส่ ทายนิสัยจากสีเสื้อผ้าที่ชอบใส่ แม่นแค่ไหนมาดูกันเลย! สีเสื้อผ้าที่ชอบใส่กันดังนั้น รู้ไหมว่ามันแสดงถึงตัวตน และ นิสัยใจคอของคุณได้ ว่าแต่เพื่อนๆชอบใส่เสื้อสีอะไรกัน…วันนี้เรามีคำทำนาย ทายนิสัยสีเสื้อที่ชอบใส่กันคะ พร้อมแล้วเรามาเริ่มกัน… โทนสีขาว-ดำ สำหรับคนที่ชอบแต่งตัวแบบโทนสีขาว-ดำ มักเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับชีวิตค่อนข้างซีเรียสไปเสียทุกเรื่อง และไม่ค่อยมีอารมณ์ขัน มักจะสนใจและจะทุ่มเทกับการทำงานมากกว่าชีวิตในด้านอื่น จะมีความสุขเป็นพิเศษหากงานที่ตนทำนั้น ประสบความสำเร็จตามที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้     โทนสีมืด สำหรับคนที่ชอบแต่งตัวแบบโทนสีมืด มักเป็นคนที่มีความลับ ไม่ชอบการเปิดเผยเรื่องราวของตนเอง เป็นคนที่มีซับซ้อนอยู่ในตัวเองสูง สนใจในเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ เกี่ยวกับเรื่องจิตวิญญาณ ชอบแสวงหาความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับจิตใจอันซับซ้อนของคน สนใจในเรื่องการศึกษานิสัยใจคน เป็นคนฉลาดล้ำลึก   โทนสีสดใส สำหรับคนที่ชอบแต่งตัวแบบโทนสีสดใส มักเป็นคนนิสัยร่าเริง แจ่มใส มีชีวิตชีวา คุยเก่ง มีมนุษยสัมพันธ์กับคนรอบข้างเข้ากับคนอื่นได้ดี เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง ชอบการเป็นจุดเด่นให้คนอื่นสนใจ เป็นคนเฉลียวฉลาด ทำงานเก่ง เป็นคนมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามเป็นอย่างมากใครเห็นใครรัก   โทนสีพาสเทล สำหรับคนที่ชอบแต่งตัวแบบโทนสีพาสเทล (สีสว่าง ๆ ใสๆ อ่อนๆ) มักเป็นคนหัวอ่อน มองโลกในแง่ดี อารมณ์อ่อนไหว เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของความรักและเรื่องครอบครัวเป็นอย่างมาก เป็นคนที่เชื่อฟังผู้ใหญ่ ซึ่งมักจะไม่ค่อยมีความคิดเป็นของตนเอง […]