ความเชื่อเรื่อง อุทกภัย

ความเชื่อเรื่อง อุทกภัย

ความเชื่อเรื่อง อุทกภัย

 

วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับ ความเชื่อเรื่อง “อุทกภัย” มาฝากกัน.. น้ำ เป็นปัจจัยสำคัญของโลก และสิ่งมีชีวิตมานานแสนนาน เราทั้งหลายต่างเคยเรียนรู้กันมาแล้วว่า โลกใบนี้มีน้ำอยู่มากกว่าผืนดิน ทว่าเวลาผ่านไปมนุษย์มักพยายามที่จะเพิ่มปริมาณผืนดินขึ้นมาแทนที่ผืนน้ำ เพื่อทำการปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า โรงงาน รวมถึงเพิ่มพื้นที่การเพาะปลูก ด้วยวิธีการที่ผิด คือการตัดต้นไม้ และการถมคูคลองแหล่งน้ำต่างๆ ให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับใช้สอย ทำให้แหล่งกักเก็บน้ำในธรรมชาติมีน้อยลง ปริมาณต้นไม้ที่จะสามารถช่วยดูดซับน้ำฝนก็น้อยลง

 

จนหลายปีมานี้ ภัยธรรมชาติทั้งหลายได้เข้ามารุมล้อม ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนไปมาก สำหรับประเทศไทยก็เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ขึ้นในปี 2554 นี้ อย่างมิอาจป้องกันได้ มนุษย์มิอาจปฏิเสธได้เลยว่า ภัยร้ายที่เกิดขึ้นนั้น มีสาเหตุมาจากการบุกทำลายธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลายาวนาน จนธรรมชาติขาดสมดุล และคำตอบที่ได้ก็คือ ไม่มีมนุษย์หน้าไหน ฝืนธรรมชาติได้สำเร็จ

อันที่จริงเราอยู่กับน้ำมานาน เหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ ก็มิใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น ไม่ว่าจะปี พ.ศ.2526 หรือ พ.ศ. 2538 มวลน้ำต่างก็เคยเข้ามาเยี่ยมเยียนกันไปแล้วหลายหลังคาเรือน แต่ในปี พ.ศ. 2554 นี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่หลายคนไม่คาดฝันว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ในยุคที่การพัฒนาทางเทคโนโลยีก้าวไปไกลแล้ว ใครจะคิดว่ามนุษย์ผู้มีความรู้ความสามารถทั้งหลาย จะปล่อยให้ประเทศไทยพบกับวิกฤติอีกครั้ง

เมื่อครั้งอดีตคนเราไม่รู้วิธีที่จะจัดการกับน้ำ จึงปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ สิ่งที่ทำได้มีเพียงพิธีกรรมและความเชื่อต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับน้ำ ต่อเนื่องมายาวนาน กระทั่งในวันนี้ ก็มีพิธีความเชื่อบางอย่างหวนกลับมา

ทำให้ผู้คนในยุคปัจจุบัน รู้สึกแปลก

 

เมื่อถึงคราวที่ต้องหวั่นไหวกับเหตุการณ์น้ำท่วมอีกครั้ง จึงทำให้ใครหลาย ๆ คนก็ไม่พ้นต้องหาที่พึ่งพิงทางใจ พิธีกรรม ความเชื่อ ความศรัทธา ทั้งหลายแหล่ อาจดูเป็นเรื่องงมงายในสายตาบางคน แต่กับบางคนมันก็ช่วยให้เกิดความรู้สึกดี ๆ ขึ้นมาได้ และมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ ถึงแม้บ้านเมืองของเราวันนี้ ต้องเผชิญกับปัญหาอุกทกภัยอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่เราควรมีคือความสามัคคี ไม่ว่าจะมีความคิดแนววิทยาศาสตร์ แนวโหราศาสตร์ หรือไสยศาสตร์ หากมีความสามัคคีกันแล้ว ก็สามารถนำความคิดที่แตกต่างนั้นมาร่วมกันแก้ไขปัญหาได้

 

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

ขอบคุณที่มา : praphansarn.com

ภาพ : Pixabay

เรื่องน่าสนใจ

ความเชื่อเรื่องการนอนของคนญี่ปุ่น

ความเชื่อเรื่องการนอนของคนญี่ปุ่น

ความเชื่อเรื่องการนอนของคนญี่ปุ่น   ตามความเชื่อแบบเดิม ๆที่หลายๆ คนรู้มาแต่ไหนแต่ไรและถูกสั่งสอนแต่เด็กว่าไม่ควรนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก ด้วยเหตุผลที่เชื่อกันมานมนานตั้งแต่เราเกิดมาได้รับการปลูกฝังว่าไม่ควรนอนไปยังทิศนี้ เพราะพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตก   การนอนทิศตะวันตกจึงไม่นิยม อันเนื่องจากแฝงความรู้สึกถึงความอ้างว้างและสิ้นสุด และมืดมน และสืบทอดกันเป็นความเชื่อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นคนไทยเชื่อกันมานาน แต่สิ่งเหล่านี้ในดินแดนแห่งซามูไรมีความเชื่ออย่างไร เหมือนกับบ้านเราหรือเปล่า มาดูกัน ชาวญี่ปุ่นนั้นก็เชื่อในทิศหันหัวในการนอนเช่นกัน แต่มันคนละทิศละทางกับความเชื่อบ้านเรา ซึ่งความเชื่อของเขานั้น เชื่อว่าไม่ควรนอนหันศีรษะไปยังทิศเหนือ ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ก็คือ ทิศเหนือเป็นทิศสำหรับคนตายเท่านั้น ฉะนั้นเวลานอนคนญี่ปุ่นจะไม่นอนหันศีรษะไปยังทิศเหนือ   ความเชื่อเรื่องดาวเหนือ ซึ่งเป็นดาวประจำทิศเหนือ ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นดาวแห่งความตาย ฉะนั้นการหันศีรษะไปทางทิศเหนือ ก็เสมือนหันไปทิศแห่งความตาย ถือว่าเป็นสิ่งไม่มงคล ฉะนั้นเขาจึงหลีกเลี่ยงที่จะนอนทางทิศนี้ ความเชื่อเหล่านี้คงคล้าย ๆกับของไทยที่ว่า ห้ามขึ้นบ้านใหม่ในวันเสาร์อย่างใดอย่างนั้น หรือห้ามเผาผีในวันศุกร์ทำนองนั้น ส่วนความเชื่อที่ว่าคนญี่ปุ่นเป็นลูกหลานของพระอาทิตย์ และนับถือเทพแห่งดวงอาทิตย์ นั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งในเรื่องนี้ ด้วยทิศที่พระอาทิตย์แสดงแสนยานุภาพมากสุดก็เมื่อผ่านทางทิศใต้นั้นเป็นช่วงที่สว่าง   และร้อนมากสุดสร้างความมีชีวิตชีวาและแสงสว่างนำทางอย่างใดอย่างนั้น ส่วนทิศเหนือซึ่งเป็นทิศตรงข้ามก็เหมือนว่าอยู่ในทิศตรงข้ามกับสิ่งที่เขานับถือ ให้ความรู้สึกห่างเหินกับเทพที่เขานับถือที่สุด นี้จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาจึงหลีกเลี่ยงในทิศเหนือนี้ ก็หวังว่าบทความนี้จะทำให้ท่านผู้อ่านเข้าใจเรื่องความเชื่อ การนอนมันสัมพันธ์กันอย่างใดได้ดียิ่งขึ้น     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล […]

ฝันว่าได้หว่านข้าว ฝันว่าได้ทำนา ทำนายฝัน เลขเด็ดให้โชค

ฝันว่าได้หว่านข้าว ฝันว่าได้ทำนา ทำนายฝัน เลขเด็ดให้โชค

ตีความฝัน ฝันว่าได้หว่านข้าว ฝันนี้มีความหมายว่าอย่างไร สามารถนำไปตีเลขเด็ดเสี่ยงดวงงวดนี้ เพื่อรับโชคได้หรือไม่ รวมคำทำนาย ฝันว่าได้หว่านข้าว ฝันว่าหว่านข้าวเปลือก ฝันว่าหว่านข้าวแล้วฝนตก ฝันว่าหว่านข้าวแล้วไถกลบ ฝันว่าหว่านข้าวลงนาตม ฝันว่าหว่านข้าวแห้ง ความฝันแต่ละแบบกำลังจะบอกอะไรแก่ผู้ฝัน เพราะข้าวและชาวนาเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นเคยและมีความสำคัญต่อประเทศอย่างมาก ทาง เลขเด็ดออนไลน์ ได้รวบรวมมาให้แล้ว ไปดูกันเลย. บทสวด คาถาแก้ดวงตก คาถาสะเดาะเคราะห์ แก้ดวงชะตา เสริมโชคลาภ ฝันเห็นจอมปลวก รวมเลขเด็ด หวย โชคลาภ ทำนายฝัน พร้อมบอกความหมาย ฝันเห็นจอมปลวก รวมเลขเด็ด หวย โชคลาภ ทำนายฝัน พร้อมบอกความหมาย ฝันว่าได้หว่านข้าว ฝันว่าได้ทำนา ทำนายฝัน เลขเด็ดให้โชค หวยงวดนี้ ฝันว่าได้หว่านข้าว ทำนายฝัน หากคุณฝันว่าได้หว่านข้าว แสดงว่าในอีกไม่ช้าชีวิตคุณมีแนวโน้มที่จะได้รับทรัพย์เพิ่มมากขึ้น รายรับรายจ่ายคล่องตัว หมุนเงินได้ไม่มีปัญหาติดขัด ยิ่งถ้าในความฝันคุณหว่านไปได้ไกลมากเท่าไหร่ ก็มีแนวโน้มที่โชคก้อนใหญ่จะหล่นทับคุณมากเท่านั้น เลขเด็ดนำโชคน่าซื้อ เลขเด็ด ฝันว่าได้หว่านข้าว : ควรมีเลข 3 0 และ 5. เลขเด็ด 2 […]

หายสงสัย! ทำไมคนโบราณห้ามนอนใต้ขื่อบ้าน

หายสงสัย! ทำไมคนโบราณห้ามนอนใต้ขื่อบ้าน

ทำไมคนโบราณห้ามนอนใต้ขื่อบ้าน ที่มาของอาถรรพ์ขื่อบ้าน สืบเนื่องมาจากในสมัยก่อน คนโบราณมักจะโค่นต้นไม้ใหญ่ในป่ามาสร้างบ้านเรือน โดยทำพิธีขอขมาและขออนุญาตดวงวิญญาณที่สถิตย์อยู่ในต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นนางไม้ เทพาอารักษ์ ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อนำไม้มาสร้างบ้าน จึงทำให้มีวิญญาณติดมาด้วย จึงทำให้คนโบราณสอนลูกหลานไม่ให้นอนหรือนั่งใต้ขื่อ เพราะอาจจะพบเจอกับอาถรรพ์ร้าย หรือพบเจอกับสิ่งไม่ดี เช่น  ฝันร้าย  เห็นผี  ผีอำ  หรืออาการปวดตามร่างกาย การห้ามนอนใต้ขื่อนั้น ถือเป็นกุศโลบายของคนสมัยก่อน เพราะขื่อบ้านต้องแบกรับน้ำหนักไว้ค่อนข้างมาก หากชำรุดขึ้นมา อาจทำให้เกิดอันตรายจนถึงแก่ชีวิตกับคนที่นอนใต้ขื่อนั่นเอง แต่ในปัจจุบันมักจะสร้างบ้านโดยมีผนังฝ้าเพดาน ทำให้มองไม่เห็นขื่อ ซึ่งมีความเชื่อว่า จะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความเชื่อนี้ได้ เพราะหากนอนใต้ขื่อ แต่ไม่เห็นขื่อ ก็จะไม่เจ็บป่วย ไม่โดนผีหลอก ไม่ถูกผีอำ  ฉะนั้นบ้านใครที่เห็นขื่อแบบชัดเจนก็ควรหาฝ้าเพดานมาปิดไว้ เพราะเมื่อมองไม่เห็นขื่อแล้ว ก็ย่อมเกิดความสบายใจแก่ผู้อยู่อาศัย ในตำราฮวงจุ้ยก็เช่นกัน ถ้าขื่อปรากฏอยู่ตรงหน้าประตูบ้านก็ไม่ดี เชื่อว่าจะทับให้โชคลาภไม่ไหลเข้าบ้าน ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com *เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*       เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม. *** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย […]

ตำนาน ความเชื่อเรื่องเจ้าแม่ไทรทอง

ตำนาน ความเชื่อเรื่องเจ้าแม่ไทรทอง

ตำนาน ความเชื่อเรื่องเจ้าแม่ไทรทอง   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับ “เจ้าแม่ไทรทอง” มาให้ได้ทราบกัน เจ้าแม่ไทรทอง เป็นชื่อ “นางไม้” ที่มีผู้เชื่อกันว่าได้สิงสถิตอยู่ที่ต้นไทรขนาดใหญ่ในบริเวณโรงเรียนตันหยง มัส ต้นไทรต้นนี้มีลักษณะคล้ายเป็นต้นคู่แฝดที่ติดกันและมีกิ่งใหญ่แผ่กว้างสาขา หลายกิ่ง ต้นไทรวัดโดยรอบประมาณ ๒๒ หลา เจ้าแม่ไทรทองมีอยู่หลายตนและสิงสถิตอยู่ที่กิ่งใหญ่กิ่งละ ๑ ตน โดยมีหัวหน้าซึ่งในอดีตเคยเป็นหมอตำแยโปรดปรานพวงมาลัยและผ้าสีต่าง ๆ ทำให้ผู้ที่บนบานได้รับความสำเร็จก็จะนำสิ่งเหล่านี้มาแก้บน   เจ้าแม่ไทรทอง มีความสำคัญต่อคนทั่วไปที่มีความเชื่อถือเมื่อได้บนบานแล้วได้ รับความสำเร็จและได้รับโชคลาภ เช่น นายอำเภอระแงะในสมัยนั้นได้นอนฝันไปว่า “เจ้าแม่ไทรทองขอร้องอย่าให้โค่นต้นไทรต้นนี้ เพราะ “เจ้าแม่” ไม่มีที่อยู่ นายอำเภอจึงห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่โค่น ทำให้นายอำเภอได้รับโชคลาภเป็นจำนวนมาก   นอกจากนั้นยังทำให้คนมีความเลื่อมใสศรัทธาและให้การเคารพนับถือ “เจ้าแม่ไทรทอง” ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารต่าง ๆ เช่น เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐ มีการจัดอบรมหมอตำแย หัวหน้าของผู้จัดอบรม เห็นงูใหญ่เลื้อยเข้ามาในสถานที่จัดอบรม หัวหน้าผู้จัดอบรม (นางแมะ) จึงได้กล่าวคำขอโทษแก่เจ้าแม่ไทรทองว่า “ขอโทษที่ผู้เข้ารับการอบรมไม่ได้บอกกล่าวเจ้าแม่ เพราะทางราชการจัดอบรมไม่ใช่พวกเธอจัดเอง หากผิดพลาดประการใดก็ขอให้อภัยด้วย” งูก็เลื้อยไปโคนต้นไทร เมื่อ […]