ประสบการณ์สยอง เรื่องหลอนๆ เตียงซ่อนผี
เรื่องที่พี่พรายเอามาเประสบการณ์สยองล่าต่อให้เพื่อนๆได้ฟังกันวันนี้นั้นถูกส่งเข้ามาจากคุณเบลส์ เกิดขึ้นเมื่อสมัยคุณเบลส์เรียนอยู่ชั้น ป.5 เล่าว่า…
ในตอนนั้นครอบครัวของฉันย้ายไปอยู่ที่ต่างจังหวัด พ่อแม่ฉันตัดสินใจเช้าบ้านอยู่แถวๆหน้าวัดชื่อดังของจังหวัด ซึ่งในขณะนั้น ยังไม่ค่อยเจริญมากนัก บ้านที่เช้าไว้เป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ รอบๆนั้นมีบ้านอยู่ไล่เลี่ยกันเพียง 4-5 หลัง
ชั้นบนที่เป็นไม้ ค่อนข้างมืดและมีกลิ่นอับๆ กลิ่นไม้เก่าๆ ค่อนข้างหลอนเลยทีเดียว บรรยากาศภายในบ้านแทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลย พ่อและแม่เลยพากันเข้าเมือง ไปหาซื้อของใช้เข้าบ้าน และพ่อก็ได้ไปสะดุดตากับเตียงไม้มือสองสภาพดีเตียงนึง ด้วยราคาที่แสนจะถูกทำให้แม่ไม่ขัดใจพ่อ แม้ว่าความรู้สึกของแม่จะไม่ค่อยชอบ และรู้สึกแปลกๆกับเตียงไม้นี้ อย่างอธิบายไม่ถูก เตียงนี้ตกลงกันว่าจะเอาไว้ในห้องห้องพ่อและแม่ก่อน แล้วห้องของฉัน พ่อจะซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้เดือนหน้า เราเลยต้องนอนห้องเดียวกัน 3 คนพ่อแม่ลูก ไม่นานนักพนักงานก็เอาเตียงมาส่งให้ที่บ้านแม่จึงออกไปตอนรับและคุยกับพนักงานกลุ่มนั้น
“อ้าว .. เจ๊มาส่งให้ด้วยตัวเองเลยหรอ? ”
พนักงานกลุ่มนั้น มองหน้ากัน แล้วรีบยกเตียงไม้เข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว เสร็จแล้วก็รีบขับรถกลับออกไป พอหัวค่ำเราได้ลงไปกินข้าวกันชั้นล่าง ระหว่างที่รอกินข้าว ฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรรูดกับแผ่นไม้ดัง ครืดคราด ครืดคราด !! ฉันมองไปที่พ่อกับแม่ แต่ท่านทั้งสองก็ไม่มีใครได้ยินเสียงนั้น หรือฉันจะหูฟาดไป? หลังจากกินข้าวเสร็จ เราก็ขึ้นไปนั่งดูทีวีข้างบนห้องนอนกัน หลังจากที่นั่งดูทีวีกันไปสักพัก ฉันก็ได้ยินเสียงประหลานนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง !! คราวนี้ทั้งพ่อแม่และฉัน ได้ยินเหมือนกันทั้ง 3คน พ่อจึงลดเสียงทีวีลง เพื่อจะหาตนตอที่มาของเสียงนี้ แต่มันก็เงียบไป
เหตุการณ์ก็ปกติ จนเวลาเกือบจะ 4ทุ่ม เราก็เริ่มง่วงเลยพากันเข้านอน หลังจากที่แม่ปิดไฟ ทุกอย่างก็เงียบกริบ ไฟจากข้างนอกส่องเข้ามาสลัวๆ ฉันกำลังเคลิ้มๆ จะหลับ อยู่ๆเสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง !! ครืดคราด ครืดคราด ขนมันเริ่มลุกตอนนี้ล่ะคะ เสียงมันดังใกล้มากๆ ฉันเลยหันไปหาแม่จะกอดแม่ จึงทำให้เห็นว่า แม่ยังไม่หลับเช่นกัน ฉันจึงกระซิบกับแม่ว่า
“ได้ยินเหมือนหนูไหมแม่ เสียงนี้มันมาอีกแล้ว..” ฉันกล่าว
“อย่าทักสิลูก มันไม่ดี” แม่พูดเสียงเอ็ดฉัน
ทำให้ฉันต้องข่มตานอน ขณะที่ฉันกำลังเคลิ้มจะหลับ ฉันพลิกตัวไปทางขอบเตียงโดยอัตโนมัติ จังหวะที่เปลี่ยนท่านอน ชัดเจนมากคะ เห็นเป็นผู้หญิงแก่นั่งหันหลังอยู่ที่ปลายเตียง กำลังนั่งใช้เล็บมืดขูดเตียงอยู่ ตอนนั้นทำให้ฉันขยับตัวไม่ได้ ตอนนั้นฉันทั้งช็อคและสั่นมากๆ อธิษฐานในใจว่า “อย่าหันมานะ” แต่ดูเหมือนมันจะไม่ผล เพราะทันใดนั้น มันหยุดเอาเล็บตะกุยเตียง แล้วข้างมองค้อนมาทางฉัน !!
วินาทีนั้นฉันแทบจะเหมือนคนตาย ทั้งช็อค ทั้งร้องไห้โดยไม่มีเสียง ฉันพูดอะไรออกมาไม่ได้ หายใจไม่ออก และมันเริ่มขยับเข้ามาหาฉัน นึกภาพคนแก่นอนที่ แล้วใช้แขนกับข้อศอกค่อยๆดันตัวเองขึ้นมาบนเตียงและเหมือนจะไม่หยุดขยับเข้ามาใกล้ฉันเลย เท่านั้นแหละ อยู่ๆฉันก็ร้องออกมาสุดเสียง จนทำให้พ่อกับแม่ตื่น
ฉันร้องไห้เหมือนคนจะเป็นบ้า รีบเล่าให้แม่ฟัง กอดแม่และพูดกับแม่แค่ว่า ไม่เอาแล้ว หนูไม่นอนที่นี่แล้ว !! ส่วนพวกกลับบอกว่าฉันไร้สาระ ดูทีวีมากเกินไป และบอกให้นอนกันต่อได้แล้ว โดนฉันได้เปลี่ยนที่นอนกับแม่ และแม่นอนกอดฉันเอาไว้ ร้องไห้จนเผลอหลับไป และครั้งนี้ฉันก็ต้องตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงพ่อ ตะโกนดังลั่น ร้องให้ช่วยด้วยๆ ฉันกับแม่รีบลุกขึ้นหันไปทางพ่อ เห็นพ่อนอนเอามือบีบคอตัวเอง แม่ไม่รู้จะทำยังไงเลยถอดสร้อยพระที่คอให้พ่อ แล้วพ่อก็สงบลง พวกเรารีบช่วยประครองพ่อลงมาชั้นล่าง โดยพวกเราไม่ได้คุยอะไรกันเลย
พอพ่อเริ่มหายใจคล่องขึ้น และตั้งสติได้แล้ว พ่อเลยเล่าให้ฟังว่า นอนอยู่ๆดีๆ ก็รู้สึกว่ามีคนมานอนข้างๆ ทีแรกพ่อนึกว่าเป็นแม่ พ่อหันมากอดแม่และได้ถามแม่ว่า ลูกหลับแล้วหรอ ? แต่จังหวะที่กอด กลับได้กลิ่นเหม็นๆ พอพ่อลืมตาเท่าน้นแหละ เห็นเป็นผู้หญิงแห้งๆ เบ้าตาลึก ด้วยความตกใจเลยร้องออกมา รู้ตัวอีกทีก็ตอนแม่ขึ้นมา
คืนนั้นพวกเราไม่มีใครกล้านอนกันต่อ พอเช้าวันรุ่งขึ้น 8โมง เห็นจะได้ พนักงานกลุ่มเดิมที่มาส่งเฟอร์นิเจอร์ก็มาที่บ้านฉันอีกครั้ง วินาทีที่พวกนั้นเห็นครอบครัวฉัน ก็ทำหน้าเหยงๆแล้วพูดว่า “เจอกันแล้วใช่ไหม ?” พ่อกับแม่เลยถามหาความจริง ทีแรกเขาก็จะไม่บอก จนแม่ฉันได้ขู่ว่าจะเอาเรื่อง แถมยังควักเงินให้อีกคนล่ะ 200 คาดคั้นให้บอกความจริงออกมา พนักงานจึงพาเราขึ้นไปชั้น 2 แล้วยืนไปที่เตียงและพลิกเตียงให้ดู เท่านั้นแหละค่ะ ทุกสิ่งชัดเจนเลย !! ใต้เตียงมีรอยแป้งสีขาว กรังๆเป็นรูปยันต์ แถมมีคราบน้ำเหลืองแห้งๆ ติดอยู่ ลักษณะเหมือนฝาโลงศพชัดๆ พนักงานบอกว่า
“จริงๆ อยากจะบอกกับพวกเราตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่กลัวเจ๊เจ้าของร้านจะด่าเอา เพราะจริงๆแล้ว เตียงนี้เป็นเตียงที่ประกอบเอง ที่เจ๊เจ้าของร้าน ได้ไปซื้อไม้ที่วัดมา เพราะมันมีราคาถูกมากกว่า ”
ซึ่งแน่นอนว่าวิญญาณยายแก่คนนั้น คงเป็นวิญญาณที่อยู่ในโรงศพไม้แผ่นนั้นเป็นแน่ วันนั้นพวกเราจึงเดินทางไปที่ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ และขอคืนเงิน แล้วได้เล่าทุกอย่างให้เจ้าของร้านฟัง โชดดีที่เจ๊เจ้าของร้านไม่ได้เถียง และหัวหมอใส่พวกเรา เรื่องก็เลยจบแบบง่ายๆ…
ที่มา : klangsayong.com
รูปภาพจาก : painaidii.com
อย่างไรก็ตามสิ่งที่พราย ได้นำมาเล่าให้ทุกคนฟังในวันนี้
ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่านด้วยนะคะ
* สามารถติดตามบทความเรื่องลี้ลับออนไลน์ได้เพิ่มเต็มทางเว็บไซต์ เลขเด็ดออนไลน์ *