ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

 

หมู่เกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟ หรือ Ring of Fire ซึ่งเป็นแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลกทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกจึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวอยู่ตลอดทั้งปี

ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อสืบทอดกันมาแต่โบราณว่าอาการดิ้นพล่านของปลาดุกเป็นสัญญาณเตือนว่าจะเกิดแผ่นดินไหว โดยชาวญี่ปุ่นแต่ครั้งโบราณมีความเชื่อว่าในใต้พิภพนี้มีปลาดุกยักษ์อาศัยอยู่ เมื่อปลาดุกดิ้นครั้งใด ก็จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ความเชื่อนี้หาได้เป็นสิ่งที่เลื่อนลอยไม่

ในปีคศ.2011 หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงทางชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น คณะกรรมาธิการวุฒิสภาตรวจสอบการบริหารราชการ ได้เชิญศาสดาจารย์ท่านหนึ่งจากมหาวิทยาลัยโกเบ เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างปลาดุกกับแผ่นดินไหว

ศาสดาจารย์ท่านนั้นได้ให้ข้อมูลว่า ปลาดุก เป็นสัตว์ที่มีความไวต่อกระแสไฟฟ้าและความสั่นสะเทือน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะรับรู้ถึงการเกิดแผ่นดินไหวก่อนที่มนุษย์จะรู้สึก แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า อาการดิ้นพล่านของปลาดุก กับปฏิกริยาที่ไวต่อกระแสไฟฟ้าและการสั่นสะเทือนนี้ จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำนายการเกิดแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้าหรือไม่อย่างไร

สัตว์หลายชนิดมีสัญชาติญาณและประสาทสัมผัสที่ไวต่อการรับรู้ถึงความผิดปกติของภัยธรรมชาติ เช่น การที่มดขนไข่หนีก่อนที่จะเกิดฝนตกน้ำท่วม เป็นต้น

   ภัยแผ่นดินไหวเองก็เช่นกัน เรามักได้จะยินข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมประหลาดๆของสัตว์ ในยามก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าสิ่งเหล่านี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

ที่จังหวัด Ibaragi ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว มีศาลเจ้าแห่งหนึ่งสร้างขึ้นในสมัย 660 ปีก่อนคริสตกาล ศาลเจ้าแห่งนี้ชื่อว่า Kashima (鹿島神宮 : Kashima jinguu) เป็นสถานที่บูชาเทพเจ้า Kashima เพื่อขอให้พิทักษ์ภัยจากแผ่นดินไหว โดยการใช้หินขนาดใหญ่เรียกว่า Kaname ishi (要石) กดทับปลาดุกยักษ์นั้นไว้

ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ จะมีแท่งหินฝังลึกลงไปในดิน โดยเทพเจ้าจะใช้หินนี้กดทับหัวและหางของปลาดุกยักษ์ใต้พิภพเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว

แต่ยามใดที่เทพเจ้าชะล่าใจหรือต้องไปเข้าเฝ้าเทพเจ้าองค์อื่นหินที่กดทับไว้ก็จะหลวม ทำให้ปลาดุกยักษ์ขยับตัว และเกิดแผ่นดินไหวขึ้น

หินส่วนที่โผล่ขึ้นมาบนพื้นดินมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ส่วนที่ฝังอยู่ใต้ดินนั้น เล่ากันว่ามีขนาดใหญ่โตมาก ไม่มีทางที่จะขุดออกมาได้โดยเด็ดขาด ถึงขนาดที่ Tokugawa Mitsukuni เจ้าเมืองมิโตะ ได้สั่งให้คนขุดหินนั้นขึ้นมา โดยใช้เวลาถึง 7 วัน 7 คืน ก็ยังไม่สามารถขุดถึงโคนหินได้

ความเชื่อเรื่องปลาดุกยักษ์กับแผ่นดินไหว จะเริ่มขึ้นเมื่อใดไม่มีหลักฐานบันทึกไว้โดยแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าน่าจะมีมาแต่โบราณแล้ว เพียงแต่เริ่มเชื่อถือมากขึ้นในช่วงต้นของสมัยเอโดะ (คศ. 1603-1867) เนื่องจากทุกครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว เมืองขนาดใหญ่ เช่น เอโดะ (คือโตเกียวในปัจจุบัน) จะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จึงนำเรื่องนี้มาเล่าขานสืบต่อ จนกลายเป็นความเชื่อฝังใจในปลายสมัยเอโดะ และเป็นตำนานเล่าขานสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้

ในปี คศ.1855 เมื่อครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว Ansei Edo ซึ่งมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 4,700 – 11,000 คน ได้มีการพิมพ์ภาพสีเป็นรูปปลาดุกยักษ์ โดยมีหินขนาดใหญ่ คือ Kaname ishi กดทับเพื่อสะกดแผ่นดินไหวไว้ ออกมาจำหน่ายจ่ายแจกเป็นจำนวนมาก จึงยิ่งทำให้ความเชื่อนี้แพร่สะพัดมากยิ่งขึ้น

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่ง คือ บันทึกประสบการณ์อันเซ (安政見聞誌 : Ansei kenbunshi) ซึ่งเขียนขึ้นในปีที่ 3 ของสมัยอันเซ (คศ.1856) คือหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว Ansei Edo ผ่านไป 1 ปี

ในบันทึกนี้ได้กล่าวไว้ว่า

“ชายผู้หนึ่งนามว่า Shinozaki เป็นคนที่ชอบจับปลา ทุกเย็นจะต้องไปจับปลาที่แม่น้ำอยู่เสมอ ตอนค่ำวันที่ 2 (ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุแผ่นดินไหว) ชายผู้นี้ได้ออกไปจับปลาไหลโดยเครื่องมือที่เตรียมไว้ แต่ปรากฏว่าคืนนี้ปลาดุกดิ้นพล่านเป็นการใหญ่ ทำให้ปลาไหลหนีไปหมด จับไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว จึงตกปลาดุกขึ้นมาได้ 3 ตัว และรู้สึกประหลาดใจว่าคืนนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมปลาดุกจึงได้ดิ้นพล่านดั่งนี้ และนึกขึ้นได้ว่า เคยได้ยินว่าการที่ปลาดุกดิ้นพล่าน เป็นสัญญาณบอกเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งถ้าเกิดแผ่นดินไหวอย่างหนัก คงจะลำบากเป็นแน่แท้ จึงรีบกลับบ้าน และขนเครื่องเรือนทรัพย์สมบัติต่างๆออกมาไว้ข้างนอกบ้าน ข้างฝ่ายภรรยาเห็นเช่นนั้น ก็หัวเราะเพราะเห็นเป็นเรื่องขบขัน แต่หลังจากนั้น ก็เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงจนบ้านพังราบหมด แต่ทรัพย์สินที่ขนมาไว้ข้างนอกปลอดภัย ฝ่ายเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ข้างๆ ก็เป็นคนที่ชอบจับปลา คืนนั้นก็ออกไปหาปลาที่แม่น้ำ และเห็นปลาดุกดิ้นพล่านเช่นกัน แต่ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงหาปลาต่อไป จนกระทั่งเกิดแผ่นดินไหว จึงรีบกลับบ้านด้วยความตกใจ แต่พบว่าทั้งบ้านและโกดังพังพินาศลงหมดแล้ว สูญเสียทรัพย์สมบัติทุกอย่างไปหมด…”

ซึ่งถ้าบันทึกนี้ เป็นความจริงปรากฏการณ์นี้ก็ถือเป็นการพยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้หลายชั่วโมงเลยทีเดียว

ในปี คศ.1923 หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว Kantou ซึ่งเป็นครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์กว่า 100,000 คน มหาวิทยาลัย Touhoku ได้ทำการทดลองความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นดินไหวกับปลาดุก และได้สรุปผลวิจัยว่า ก่อนเกิดแผ่นดินไหวประมาณไม่กี่ชั่วโมงล่วงหน้า จะเกิดสัญญาณผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งของปลาดุกประมาณ 80%

ในปี คศ.1976-1992 สถานีทดลองทางทะเลของกรุงโตเกียว ก็ได้ทำการค้นคว้าวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นดินไหวกับปลาดุก รวมระยะเวลาทั้งสิ้นเป็นเวลา 16 ปี โดยติดตั้งระบบตรวจสอบอาการผิดปกติของปลาดุกตลอด 24 ชั่วโมง

ผลการศึกษาวิจัยพบว่า ระหว่างปี คศ.1978-1992 เกิดแผ่นดินไหวซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนที่กรุงโตเกียวได้สูงกว่าระดับ 3 รวมทั้งสิ้น 91 ครั้ง แต่มี 4 ครั้งที่ไม่ได้ทำการทดลอง

ผลการทดลอง 87 ครั้ง พบว่าในจำนวนนี้ ปลาดุกมีอาการแสดงความผิดปกติอย่างชัดเจนล่วงหน้าภายในเวลาไม่เกิน 10 วันก่อนการเกิดแผ่นดินไหว เป็นจำนวน 27 ครั้ง หรือเท่ากับ 31%

จากที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ปลาดุก เป็นสัตว์ที่มีความไวในการรับรู้กระแสไฟฟ้าเป็นอย่างยิ่ง โดยจะรับรู้กระแสไฟฟ้าได้ไวกว่ามนุษย์หรือปลาคาร์ปถึง 1 ล้านเท่า หากโยนถ่านไฟฟ้าลงไปในทะเลสาบ เพียง 1 ก้อน ปลาดุกที่อยู่ไกลออกไปหลายกิโลเมตร ก็สามารถรับรู้ถึงกระแสไฟฟ้าจากถ่านไฟฉายก้อนนั้นได้

การเกิดแผ่นดินไหวหรือการขยับเลื่อนของเปลือกโลก ย่อมต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้น การที่ปลาดุกจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าใต้พื้นดิน และแสดงอาการดิ้นพล่านผิดปกติ จึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

แต่ทว่าการแสดงอาการผิดปกติของปลาดุก ไม่ได้จำกัดเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าใต้พื้นดินเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่นๆอีกมาก จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เหตุการณ์ทั้ง 2 สิ่งนี้ จะมีความสัมพันธ์กันมากน้อยเพียงใด

แต่ขณะเดียวกัน ก็คงไม่สามารถปฏิเสธความเชื่อแต่ครั้งโบราณ เรื่องปลาดุกกับแผ่นดินไหวของชาวญี่ปุ่นได้เช่นเดียวกัน

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

ที่มา.. j-campus

เรื่องน่าสนใจ

คาถาปลดหนี้ เร่งด่วน เรียกทรัพย์ สวดแล้วเงินทองไหลมาทันตาเห็น (คาถาหลวงปู่ทวด)

คาถาปลดหนี้ เร่งด่วน เรียกทรัพย์ สวดแล้วเงินทองไหลมาทันตาเห็น (คาถาหลวงปู่ทวด)

คาถาปลดหนี้ เรียกทรัพย์ คาถาพารวย (คาถาของหลวงปู่ทวด) คาถาปลดหนี้ เป็นคาถาของหลวงปู่ทวดที่นิยม เลขเด็ดออนไลน์ ได้นำข้อมูลมาให้ ใช้สวดในผู้ที่ทำมาค้าขาย สวดก่อนเสี่ยงดวง ด้วยบารมีขององค์หลวงปู่ทวดคาถานี้จะช่วยให้ท่านมีเงินทองคล่องมือ ค้าขายเจริญก้าวหน้า จนสามารถตั้งเนื้อตั้งตัวจนปลดเปลื้องหนี้สินต่าง ๆ ที่รุมเร้าให้บางเบาลง และหายไปได้หากหมั่นสวดเป็นประจำด้วยความศัทธา คาถา แปลว่า ถ้อยคำที่ร้อยกรอง ถ้อยคำที่ผูกไว้ ถ้อยคำที่ขับร้อง ท่อง สวด ในคำวัดหมายถึงคำประพันธ์ ภาษาบาลี ประเภทฉันทลักษณ์ที่แต่งครบ ๔ บาทหรือ ๔ วรรค ๑ คาถามี ๔ บาท แต่ละบาทมีจำนวนคำต่างกันไปตามชื่อฉันท์ เช่น อินทรวิเชียรฉันท์ แต่ละบาทมี ๑๑ คำ ๔ บาทก็มี ๔๔ คำ ๑ คาถาของอินทรวิเชียรฉันท์จึงมี ๔๔ คำ ในเวสสันดรชาดก มี ๑,๐๐๐ คาถา จึงเรียกว่าคาถาพัน ในภาษาไทยหมายถึงคำเสกเป่าที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ คาถารวยไม่จำกัดเวลา […]

เลขเด็ดความฝัน ทำนายฝันฝันว่าเสริมจมูกแล้วพัง แม่นๆ

เลขเด็ดความฝัน ทำนายฝันฝันว่าเสริมจมูกแล้วพัง แม่นๆ

ฝันว่าทำจมูกแล้วพัง สื่อถึงอะไร?  เว็บเลขเด็ดออนไลน์ หาคำตอบมาให้จากตำรา ทำนายฝัน เลยทีเดียว ทางเว็บไซต์ของเราได้รวบรวมมาให้ท่านแล้วและได้มาพบกับบริการใหม่กับทางเว็บไซต์ เกมส์พนันออนไลน์ , เว็บพนันออนไลน์  ถูกต้องตามกฏหมายของคนไทย วันนี้เราได้รวบรวมความสุขมาให้คุณแล้ว สำหรับลูกค้าที่ชอบในการซื้อหวยออนไลน์ หรือ ล็อตเตอรี่ออนไลน์ก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อ เลือกชมที่เว็บไซต์ของ กองสลากพลัส, กองสลาก.com , หงส์ทอง.com , และ มังกรฟ้า ซึ่งเป็นเเหล่งซื้อขายหวยดิจิทัลที่ถูกต้องตามกฏหมายและราคาก็ได้ตามที่รัฐบาลตั้งไว้ ฝันว่าทำจมูกแล้วพัง ทำนายว่า จะได้รับข่าวจากญาติมิตรทางไกล หรือจะได้รับโชคจากทางไกล ช่วงนี้อย่าพยายามที่จะฝืนทำอะไรโดยที่ไม่มีคนช่วย อย่าทำอะไรคนเดียวเด็ดขาด และระยะนี้จะมีปัญหาด้านสุขภาพ เจ็บๆ หายๆ การงานราบรื่น สิ่งดีๆกำลังเข้ามา จะมีข่าวดีในช่วงต้นปีหน้า ความรักยังทำให้หลายๆคน อิจฉาอยู่เสมอ บางครั้งความอิจฉาก็ไปเตะตาแฟนเก่า ระวังเรื่องรักสามเส้าด้วย อยากหาเงิน หารายได้ รับโชครับทรัพย์ เรื่องการงาน คุณมีโอกาสที่จะขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน ขอให้อดทนและทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปให้ดี เพื่อไม่ให้หัวหน้าตำหนิคุณได้ เรื่องการเงิน ถือได้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เงินหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย เรื่องความรัก คนที่โสดอยู่จะต้องให้เพื่อนยื่นมือเข้ามาช่วยแล้ว หากช่วงนี้มีปัญหาคาใจอยู่กับใครก็ค่อย ๆ ปรับ ค่อย ๆ แก้กันไป อย่างใช้อารมณ์นำ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่คุณพยายามมาจะพังลงได้ คุณจะมีความรักที่หึงหวงกันมากขึ้น มีเรื่องที่ทำให้ผิดใจกันอยู่บ่อย […]

ตัวเลขไหนในเบอร์โทร เสี่ยงเป็นโรคเครียด โรคประสาท อาการซึมเศร้า

ตัวเลขไหนในเบอร์โทร เสี่ยงเป็นโรคเครียด โรคประสาท อาการซึมเศร้า

ตัวเลขไหนในเบอร์โทร เสี่ยงเป็นโรคเครียด โรคประสาท อาการซึมเศร้า   บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับตัวเลข มาให้อ่านกัน เคยสงสัยไหมว่าทำไมคุณต้องประสบปัญหาชีวิตอย่างหนี้สินล้นตัว หาเงินรายรับไม่พอจ่าย ทำงานโดนกลั่นแกล้งจากหัวหน้างาน เจอแต่เพื่อนร่วมงานขี้อิจฉา บางคนค้าขายไม่รุ่งเรือง โดนโกงเจอลูกค้าซื้อยาก ขายยาก ขณะที่บางคนสุขภาพไม่ดีเจ็บป่วยบ่อย มีลูกติดสารเสพติด ไม่อยู่ในโอวาท คนที่มีความรักเจอปัญหาแฟนแอบมีชู้ อาจเพราะผลกรรม บ้างก็ว่าเพราะเจ้ากรรมนายเวรตามจองเวร ขณะที่บางคนกลับคิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่มีชีวิตใครสมบูรณ์ทุกเรื่อง แล้วทำใจต้องทนกับความเครียดเพราะรับกรรม ความจริงองค์ประกอบสำคัญชีวิตมี 3 ประการคือฟ้า ฟ้าเปรียบเหมือนดวงชะตา กรรมเก่าที่ติดตัวมาแต่ปางก่อน คน เป็นตัวกำหนดการกระทำ กล่าวคือทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และดินคือสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย ปัญหาชีวิตที่ว่ามีความสัมพันธ์กับองค์ประกอบสำคัญชีวิตทั้งสาม การเปลี่ยนตัวเลขเบอร์โทรศัพท์จะออกแบบดวงชะตา ในการสร้างความสมดุล และความลงตัว ปรับสิ่งที่ไม่สมดุล เติมเต็มในสิ่งที่ขาด บรรเทาผลกรรมความเครียดที่ประสบอยู่กับชีวิตจนบางคนต้องมีอาการทางประสาท ซึมเศร้า   การเสริมดวงของผู้ใช้เบอร์มงคลความสำเร็จอย่างมีเหตุผลเพราะตัวเลขแต่ละตัวรับอิทธิพลดวงดาวบนท้องฟ้า คติความเชื่อคนโบราณเชื่อว่า โหราจารย์สมัยก่อนจะจับยามสามตาจากตัวเลข ใช้กระดานชนวนเขียนตัวเลข แล้วคำนวณ โดยเฉพาะเลข 7 เลขที่รับอิทธิพลจากดาวเสาร์ และเรียงเลข 7 ร่วมกับบางตัวเลขจะมีอิทธิพลกับผู้ใช้ ส่งผลด้านร้าย […]

3 ลักษณะร้ายบนใบหน้า ที่โบราณว่าคือ สาวอาภัพรัก

3 ลักษณะร้ายบนใบหน้า ที่โบราณว่าคือ สาวอาภัพรัก

3 ลักษณะร้ายบนใบหน้า ที่โบราณว่าคือ สาวอาภัพรัก   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ มาฝากกัน คนจีนโบราณมีการบันทึกลักษณะเด่นด้อยบนใบหน้าหญิงสาว แล้วจะทำนายผู้หญิงรุ่นใหม่อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะเรื่องโชควาสนาผู้หญิงคนไหนร้ายหรือดีจะมีลักษณะเด่นแต่ละคน ผู้หญิงคนไหนวาสนาดีมีสามีรวยจะมีลักษณะที่คล้าย ๆ กันส่วนผู้หญิงคนไหนมีลักษณะร้ายขึ้นคาน โดนแฟน โดนสามีทิ้งจะมีลักษณะเด่นที่คล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน แล้วสาวที่มีแววว่าจะโดนทิ้งมีลักษณะแบบไหน ตรงกับคุณไหมรีบเช็ค        หญิงสาวมีโหนกแก้มสูง โหนกแก้มที่คนจีนโบราณบันทึกไว้ว่าสูงคือโครงกะโหลกศีรษะบริเวณใต้ตาสูงยาวพาดไปจรดใบหู โดยที่คนอื่นสังเกตได้ชัด แม้ว่าสาวคนนั้นจะมีรูปร่างสมส่วน ร่างกายไม่ผอมแต่เนื้อบริเวณที่ว่ากลับไม่มี คติความเชื่อคนจีนโบราณว่าคือผู้หญิงกินผัว ชายใดที่อยู่กินจะโดนข่มเหงโดนรังแก สามีหรือแฟนที่คบหาต้องหนี ต้องเลิกรากันไป   ใบหูเบี้ยว คนจีนโบราณว่าสาวคนไหนที่มีใบหูเบี้ยว และใบหูด้านในปลิ้นออกมา คือหญิงที่มีลักษณะสันดานหยาบคาย อบรมสั่งสอนยาก มีเรื่องทำให้สามีเดือดร้อน ความเชื่อจีนคนโบราณว่าไม่นานสามีหรือแฟนที่คบหาต้องมีเหตุเลิกรากันไป   คิ้วต่อ สาวคนไหนมีบริเวณขนคิ้วทั้งสองข้างมีขนยาวต่อกัน คนจีนโบราณว่าคือหญิงสาวที่มีลักษณะใจดำ โกรธง่าย โทสะง่ายใจน้อย มีอารมณ์ทางเพศสูงกว่าหญิงสาวปกติ ยากที่สามีหรือแฟนที่คบหาจะอยู่จะเอาใจไม่นานต้องเลิกรากันไป     สรุป : หญิงชายที่จะครองคู่กันได้นาน คนโบราณเชื่อว่าชาติก่อนต้องทำบุญร่วมกันมา บางคู่อาจเคยเป็นเพื่อนรักญาติสนิท บางคู่อาจเคยเป็นพี่น้อง แต่การคบหา การศึกษาวิธีคิด ทัศนคติ […]