ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว

 

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว “อิน จัน มั่น คง”เพื่อให้วิญญาณคอยเฝ้ารักษาป้องกันภัย ตลอดไป..

บันทึกตามตำนาน อิน จัน มั่น คง ได้เผยเรื่องราวที่เล่าสืบกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โบราณถือว่าพิธีสร้างพระนครหรือสร้างบ้าน สร้างเมือง ต้องฝังอาถรรพ์ ๔ประตูเมือง ต้องฝังเสาหลักเมือง การฝังเสาหลักเมืองและเสามหาปราสาท ต้องเอาคนที่มีชีวิตทั้งเป็น ลงฝังในหลุม เพื่อให้เป็นผู้เฝ้าทวารมหาปราสาทบ้านเมือง ป้องกันอริราชศัตรูมิให้มีโรคภัย ไข้เจ็บเกิดแก่เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ผู้ครองนครบ้านเมือง ในการทำพิธีกรรมดังกล่าว ต้องเอาคนที่ชื่อ อิน จัน มั่น คง มาฝังลงหลุม จึงจะศักดิ์สิทธิ์และขณะที่นายนครวัดเที่ยวเรียกชื่อ อิน จัน มั่น คง ไปนั้น ใครโชคร้ายขานรับขึ้นมาก็จะถูกนำตัวไปฝังในหลุม หลุมเสาหลักเมืองนั้น จะผูกเสาคานใหญ่ชักขึ้นเหนือหลุมนั้นในระดับสูงพอสมควร โยงไว้ด้วยเส้นเชือกสองเส้นหัวท้ายให้เสาหรือซุงนั้นแขวนอยู่ตามทางนอนเหมือนอย่างลูกหีบ ครั้นถึงวันกำหนดที่จะกระทำการอันทารุณนี้ ก็เลี้ยงดูผู้เคราะห์ร้ายให้อิ่มหนำสำราญแล้ว แห่แหนนำไปที่หลุมนั้น พระเจ้าแผ่นดินมีรับสั่งให้บุคคลทั้งสามนั้นเฝ้าประตูเมืองไว้ด้วย และให้เร่งแจ้งข่าวให้รู้กันทั่ว เมื่อคนมาชุมนุมกันเขาก็ตัดเชือกปล่อยให้เสาหรือซุงหล่น ลงมาบนศีรษะผู้เคราะห์ร้าย ผู้ตกเป็นเหยื่อของการถือโชคถือลางนั้น บี้แบนอยู่ในหลุม

 

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว

 

โดยคนไทยโบราณเชื่อว่าผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้จะกลายสภาพเป็นอารักษ์จำพวกที่เรียกว่า ผีราษฎร คนสามัญบางคนก็กระทำการฆาตกรรมแก่ทาสของตนในทำนองเดียวกันนี้ เพื่อใช้ให้เป็นผีเฝ้าขุมทรัพย์ที่ตนฝังซ่อนไว้

ตัวอย่าง การสร้างราชธานีใหม่ของพม่า เมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมจึงมีกำแพงกันสี่ด้าน แต่ละด้านมีประตูเมือง ๓ ประตู รวมเป็น๑๒ ประตูด้วยกัน การฝังอาถรรพ์ก็เป็นคนเป็นล้วนๆ ถึง ๕๒ คน ฝังตามประตูเมืองประตูละ๓ คน ๑๒ ประตูก็เป็นทั้งหมด๓๖ คน และเฉพาะใต้พระที่นั่งในท้องพระโรงต้องฝังถึง ๔ คน

และคนที่ถูกฝังทั้งเป็นเพื่อเป็นผีคอยรักษาเมืองและพระราชวังนั้นต้องเลือกให้ได้ลักษณะตามที่โหรพราหมณ์กำหนด ไม่ใช้นักโทษที่ต้องโทษประหาร แต่จะเป็นคนที่อยู่ในวัยต่างๆ กัน มีตั้งแต่คนมีอายุจนถึงเด็กทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทุกคนต้องมีฐานะดีเป็นที่ยกย่องในกลุ่มชน และต้องเกิดตามที่โหรกำหนด ถ้าเป็นชายต้องไม่มีรอยสัก ผู้หญิงต้องไม่เจาะหู เมื่อสั่งเสียร่ำลาญาติพี่น้องแล้วก็จะถูกนำตัวไปลงหลุม ญาติพี่น้องก็จะได้รับพระราชทานรางวัล

นอกจากนี้ ในบันทึกของ วันวลิต ชาวฮอลันดาที่เดินทางมาพำนักอยู่ในกรุงศรีอยุธยา สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง กล่าวไว้ในบันทึกของเขาตอนหนึ่งว่า ที่กรุงศรีอยุธยามีพิธีก่อนการสร้างประตูเมืองที่น่าสะพรึงกลัวเรื่องหนึ่งคือ การโยนผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ลงไปในหลุมแล้วตอกเสาลงไปให้ตายทั้งเป็น โดยหวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะกลายเป็นผีรักษาเฝ้าประตูวัง(เมือง)

วันวลิต บันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “….พระเจ้าแผ่นดินองค์ปัจจุบันทรงเปลี่ยนประตูทั้งหมด…(ประตูเหล่านี้)ถือเป็นที่ๆ ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศสยาม พระเจ้าแผ่นดินทรงสั่งให้โยนหญิงมีครรภ์ 2 คน ลงใต้เสาแต่ละเสา จำเป็นต้องใช้หญิงมีครรภ์ถึง ๖๘ คน สำหรับประตู ๑๗ ประตูนี้…”

 

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น.

 

อย่างไรก็ตามวันวลิต เล่าต่อไปว่า หลังจากได้นำผู้หญิงตั้งครรภ์ทั้งหมดมาเตรียมการทำพิธีพร้อมแล้ว กลับมีหญิง ๕ คน คลอดบุตรเสียก่อน ทำให้เกิดความสังเวชขึ้นในพระบรมมหาราชวัง ออกญาจักรีจึงกราบทูลฯ ขอให้ปล่อยผู้หญิงเหล่านั้นไป คงเหลือตัวแทนเพียง ๔ คนเท่านั้น ที่ถูกโยนลงหลุมแทน

วันวลิตยังเล่าอีกว่า ไม่เพียงแต่ประตูวังเท่านั้น การสร้างที่ประทับในพระบรมมหาราชวังก็ได้ทำพิธีนี้เช่นเดียวกัน ดังบันทึกตอนหนึ่งว่า “ถ้าสร้างพระราชวัง หอสูง หรือที่ประทับ…ใต้เสาแต่ละต้น…ต้องโยนหญิงมีครรภ์คนหนึ่งลงไป…หญิงผู้ตายในเวลาใกล้คลอดยิ่งดี…เชื่อว่าผู้หญิงเหล่านี้เมื่อตายแล้วจะกลับเป็นผีปีศาจที่ดุร้าย ไม่เพียงคอยปกป้องเสาซึ่งตนถูกโยนลงมาข้างใต้ แต่ยังช่วยให้ทั้งบ้านพ้นจากโรคร้าย…”

พิธีน่าสะพรึงกลัวนี้ ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ก็พบว่ายังมีเรื่องเล่าถึงพิธีนี้อยู่ โดยเล่ากันว่าในการก่อสร้างประตูเมืองและการตั้งเสาหลักเมือง กรุงเทพฯ ก็มีการโยนหญิงมีครรภ์ลงไปในหลุมเสาก่อนการสร้างเช่นเดียวกัน

แม้วันวลิตจะย้ำว่า “…เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ…” แต่เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด

 

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น.

 

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

ขอขออบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้ แอพเกจิ – AppGeji

เรื่องน่าสนใจ

คาถาบูชาพระพุทธไสยาสน์ กราบไหว้ให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข ขอพรเรื่องความรักจะสมหวังอีกด้วย

คาถาบูชาพระพุทธไสยาสน์ กราบไหว้ให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข ขอพรเรื่องความรักจะสมหวังอีกด้วย

คาถาบูชาพระพุทธไสยาสน์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร  จังหวัดกรุงเทพมหานคร พระพุทธไสยาสน์ หรือที่เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า พระนอนวัดโพธิ์ เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ศิลปะรัตนโกสินทร์ สร้างโดยการก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง ขนาดขององค์พระยาว 46 เมตร ความสูงจากพื้นถึงยอดพระเกตุมาลา 15 เมตร ถือว่าเป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร และใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย พระนอนวัดโพธิ์มีลักษณะพิเศษอันเป็นมงคลยิ่งคือ บริเวณฝ่าพระบาทขององค์พระซึ่งยาว 5 เมตร สูง 3 เมตรนั้น มีการประดับมุกประณีตศิลป์เป็นรูป อัฎฐตดรสตมงคล หรือ มงคล 108 ประการ ซึ่งเป็นคติความเชื่อจากคัมภีร์ของลังกาว่าเป็นพระบาทของเจ้าชายสิทธัตถะหรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คราวเมื่อประสูตได้ 5 วัน โดยรูปมงคลต่างๆนั้น มีทั้งรูปลักษณะแห่งโชคลาภและความอุดสมบูรณ์จำพวกหม้อน้ำ , ปลาคู่ หรือดอกบัว กับรูปมงคลเครื่องเสริมพระบารมีต่างๆ อาทิ สัตตรัตนะ 7 , บัลลังก์ , เครื่องยศ และรูปมงคลพระภูมิต่างๆ ได้แก่ เขาจักรวาล หรือป่าหิมพานต์ เป็นต้น โดยลักษณะอันเป็นมงคลนี้เอง จึงเชื่อกันว่า การกราบไหว้พระนอนวัดโพธิ์จะทำให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข นอกจากนี้ยังมีความเชื่อจากศาสตร์แห่งตัวเลขว่า ผู้ที่อายุย่างเข้าเลข 3 นั้นหากไปขอพรเรื่องความรักกับพระนอนวัดโพธิ์จะสมหวังอีกด้วย   คาถาบูชาพระพุทธไสยาสน์ กราบไหว้พระนอนวัดโพธิ์จะทำให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข ประวัติความเป็นมา   […]

บทขออโหสิกรรม ลดกรรมทันตา ชีวิตดีขึ้นแบบรวดเร็ว ขออโหสิกรรม ชีวิตติดขัดไม่ราบรื่น

บทขออโหสิกรรม ลดกรรมทันตา ชีวิตดีขึ้นแบบรวดเร็ว ขออโหสิกรรม ชีวิตติดขัดไม่ราบรื่น

บทขออโหสิกรรม ลดกรรมทันตา ชีวิตดีขึ้นแบบรวดเร็ว บทขออโหสิกรรม ลดกรรมทันตา ชีวิตดีขึ้นแบบรวดเร็ว  ในชีวิตของคนเราเวลาที่มีความสุข ได้โชคลาภ ได้อะไรๆ ที่ต้องการมาจากที่ผลบุญที่ทำมานั้นได้ส่งผล แต่เวลาพบกับความทุกข์ พบกับอุปสรรคต่างๆ ไร้คนช่วยเหลือเหลียว มองไปทางไหนก็มืดมน เหมือนมีอะไรมาฉุดรั้งชีวิตให้ตกต่ำลงเรื่อยๆ รวมถึงมีปัญหาความเดือนร้อนรู้สึกว่าจะมีเข้ามาอยู่บ่อยๆ ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด โดนเอารัดเอาเปรียบ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ปัญหาเหล่านี้ในเรื่องของความเชื่อ อาจจะเป็นวิบากกรรมที่เราเคยทำไว้แต่ชาติปางก่อนก็เป็นได้ ที่ส่งผลให้ชีวิตมีแต่อุปสรรค์ ทำอะไรก็ติดขัดไม่ราบรื่น มีแต่ปัญหาต่างๆเข้ามารุมล้อม หากคุณเป็นอย่างนั้นอยู่ละก็ต้องลองอ่านก่อนนะครับ ตั้งใจอ่านให้ดีนะค่ะ อ่านจบอย่าเก็บไว้คนเดียวช่วยแชร์ต่อบอกบุญเพื่อเป็นมหากุศล? เรื่องมีอยู่ว่า จากประสบการณ์ในการสวดบทสวด ขอขมา เจ้ากรรมนายเวร และบทขอขมา อโหสิกรรม ปกติคนที่สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนจะท่องเฉพาะบท “นโมตัสสะ ฯลฯ” กราบ 3 ครั้ง แล้วนอนเลยหลังปีใหม่ ได้หนังสือสวดมนต์มา ก็เลยได้ลองสวดบทขอขมาอโหสิกรรม เจ้ากรรมนายเวร ตอนสวดครั้งแรก ก็ไม่คิดอะไรมาก คิดแค่ว่า เป็นบทที่น่าสวดดี?แต่พอสวดหลายๆ วันต่อเนื่องนั้น ?   มีอยู่คืนหนึ่งหลังจากสวดเสร็จ?คืนนั้น ฝันเห็นผู้หญิงใส่ชุดสีชมพูแดง มานั่งคุยด้วย เธอบอกว่า เมื่อก่อนโกรธเรามาก แต่มาวันนี้ ไม่โกรธแล้ว พอเราตื่นขึ้นมา เรารู้สึกว่าอิ่มเอมใจแบบอธิบายไม่ถูก […]

บนบาน " ท้าวเวสสุวรรณ "เมื่อชีวิตไม่ราบรื่น เคล็ด(ไม่)ลับ วิธีบนบาน ไม่นานดีขึ้นแน่นอน !!

บนบาน ” ท้าวเวสสุวรรณ “เมื่อชีวิตไม่ราบรื่น เคล็ด(ไม่)ลับ วิธีบนบาน ไม่นานดีขึ้นแน่นอน !!

บนบาน ” ท้าวเวสสุวรรณ “เมื่อชีวิตไม่ราบรื่น  เมื่อชีวิตไม่ราบรื่น อุปสรรคมากมาย..ตั้งใจทำตาม หมดทุกข์แน่นอน ไม่นานเกินรอ เห็นผลทันที.. เคล็ดไหว้ขอบารมีท่านท้าวเวสสุวรรณเมื่อเกิดความติดขัดในชีวิต‏ สำหรับ ใครแก้ไขด้วยตนเองแล้วยังไม่ดีขึ้นสักที ทั้งเรื่องการงาน การเงิน โชคลาภ แนะนำให้ให้ท่านบนบานศาลกล่าวหรือไหว้ ต่อท่านท้าวเวสสุวรรณ โดยวิธีนี้ท่านสามารถ ไหว้ได้เองที่บ้านโดยจะมี รูปท่านท้าวเวสสุวรรณเป็นผ้ายันต์หรือ ลอยองค์ก็ได้ บนบาน ” ท้าวเวสสุวรรณ “เมื่อชีวิตไม่ราบรื่น เคล็ด(ไม่)ลับ วิธีบนบาน กระทำดังนี้ ให้ท่านอาบน้ำ แต่งกายให้สะอาดสุภาพ จากนั้น ให้เข้าห้องพระ สมาทานศีล ๕ จากนั้น จึงสวดมนต์ โดยสวดบูชาพระรัตนตรัย พาหุง ชินบัญชร แล้วให้ท่าน เตรียมธูปหอมมา ๙ดอก พวงมาลัยควรเป็นดาวเรืองหรือกุหลาบ๑พวง ให้จุดธูปหอมและพนมมือสวดพระคาถาท้าวเวสสุวรรณดังนี้ ( นะโมฯ ๓ จบ ) จากนั้นสวดคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ อิติปิ โส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ […]

วิธีปลูกบอนกระดาด ไว้ตรงไหนทิศใด เสริมฮวงจุ้ย

วิธีปลูกบอนกระดาด ไว้ตรงไหนทิศใด เสริมฮวงจุ้ย

วิธีปลูกบอนกระดาด ไว้ตรงไหนทิศใด เสริมฮวงจุ้ย   ทำไมไม้ประดับทำเงิน อย่าง บอนกระดาด เริ่มนิยมมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพราะเสริมดวงฮวงจุ้ยสุขภาพยาม โควิดระบาด ปลูกแก้ฮวงจุ้ยร้ายตามบ้านเรือนอย่างง่าย ๆ แบบไม่ต้องทุบไม่ต้องรื้อ ปลูกตรงไหน อย่างไร ไปดูกันเลย..   บอนกระดาด คือพืชลักษณะใกล้เคียงบอน พืชล้มลุกใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงวนกันแบบกระจุกจากปลายลำต้น ใบรูปไข่แกมหัวใจ ปลายแหลมโคนเว้นลึก แคบ ขอบเรียบเส้นแขนงใบข้างละประมาณสิบเซนติเมตร ปลูกไว้ทางทิศตะวันออกจะเสริมดวงมงคลคนอาชีพเกษตรกร และคนธาตุไม้มีความกล้าคิดกล้าทำ ก้าวร้าว ชอบวางแผน มีความต้องการความสำเร็จสูง ควบคุมอารมณ์โกรธแบบเฉียบพลันไม่ได้     ฉะนั้นใครพูดเสียงดังฟังชัด แสดงสีหน้าชัดเจนเมื่อมีอาการเหนื่อยล้า มีความเชื่อมั่นสูงและตัดสินใจเร็วและคนธาตุไฟ มีความสนุกสนาน ผสมอารมณ์เศร้า สีผิวมักจะออกสีแดง ไม่ชอบอากาศหนาว แสดงอารมณ์ตกใจชัดเจน เมื่อตนเองได้รับความสนใจจะรู้สึกว่า ตนเองมีคุณค่าชอบให้คนสรรเสริญชอบอาศัยผู้อื่น อ่อนล้าแบบคนขี้เกียจ มีกลิ่นตัวคล้ายกลิ่นไหม้ ควรเลือกปลูกบอนกระดาดไว้เสริมฮวงจุ้ย ควรปลูกบนที่ดินข้างริมรั้วบ้านโดยเตรียมดินขุดหลุมหนึ่งฟุตรองก้นหลุม ด้วยปุ๋ยคอกขุดห่างกันสองเมตร เรียงไว้ข้างรั้วเริ่มใส่ปุ๋ยเมื่อสองเดือนผ่านไป ระวังอย่าให้ยางโดนมือ รดน้ำให้ชุ่ม   พืชล้มลุกบางชนิดเสริมฮวงจุ้ยบ้านที่อยู่ เพราะบ้านใครฮวงจุ้ยไม่เหมาะสมจะไปทุบไปรื้อ บางครั้งงบ ประมาณไม่มี แต่บอนกระดาดเหมาะสมต่างกันขึ้นอยู่กับบุคลิก อาชีพเจ้าของบ้าน […]