วันนี้วันพระ วันห้ามมีเซ็กส์ ความเชื่อ วันพระใหญ่

วันนี้วันพระ วันห้ามมีเซ็กส์

วันนี้วันพระ วันห้ามมีเซ็กส์

 

คนไทยกับความเชื่อแยกกันไม่ออกสักที วันนี้มาดามจึงนำความเชื่อเรื่อง ห้ามมีเซ็กส์ ในวันพระมาเล่าสู่กันฟัง  ใครที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยได้ยินมาก่อน จงรู้เอาไว้เลยว่าแม้เซ็กส์จะเป็นเรื่องเสรีและคนพูดถึงกันแบบเปิดเผยได้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน แต่ความเชื่อที่มาดามนำมาบอกนี้ยังแข็งแกร่งในความคิดของหลายคน

ความเชื่อที่ว่า “ห้ามมีเซ็กส์ในวันพระ” เป็นสิ่งที่คนโบราณห้ามกันมาแต่นานนม ถ้าให้มาดามคิดเอง อธิบายเองหลังจากที่ได้ยินความเชื่อนี้เป็นครั้งแรกคงบอกว่า เพราะวันพระคือวันที่ควรถือศีล ควรเข้าวัด  ซึ่งปรากฏว่าสิ่งที่คิดก็แอบตรงกับสิ่งที่คนโบราณอธิบายอยู่หน่อยๆ เพราะคำอธิบายในความเชื่อนี้มีว่า

วันพระ คือ วันมงคล ซึ่งคนไทยถือว่าเป็นวันบริสุทธิ์ที่มนุษย์อย่างเราๆ ควรจะหยุดกระทำการทุกสิ่งที่นับว่าเป็นเรื่องคาวโลกีย์ และถ้าคุณกำลังคิดว่า ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อแต่งงานแล้ว เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำไมจะมีเซ็กส์ในวันนี้ไม่ได้ มาดามก็ขออธิบายเหตุผลของคนโบราณให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้

 

เนื่องจากวันพระที่มี 1 วันในสัปดาห์ เป็นวันที่เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ถือศีล 5 อย่างจริงๆ จังๆ และได้ใช้วันนี้เป็นโอกาสเข้าวัดทำบุญฟังธรรม รวมถึงมีกิจกรรมในเชิงทำนุบำรุงศาสนา แต่การมีเซ็กส์ในวันพระถือว่าเป็นการกระทำที่อัปรีย์จัญไร ไม่เป็นสิริมงคลต่อชีวิตและครอบครัวและว่ากันว่ายังส่งผลให้เทวดาประจำตัวมีฤทธิ์เดชน้อยลงจนไม่สามารถปกป้องคุณได้เท่าที่ควร เพราะการมีเซ็กส์ที่กิเลสกำลังครอบงำจิตใจถือเป็นช่องว่างให้จิตอ่อนแอจนสิ่งชั่วร้ายเข้ามาใกล้ได้นั่นเอง

นอกจากนี้ยังเชื่อว่า วันพระคือวันปล่อยผี ในวันนี้วิญญาณทั้งหลายจะออกเที่ยวไปในที่ต่างๆ เมื่อผ่านมาเห็นภาพที่คุณกำลังจัดเซ็กส์กันอยู่ จะโกรธ ไม่พอใจและจะพากันสาปแช่งให้สิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับคุณ แถมเจ้าผีร้ายวิญญาณหลอนบางตนที่ถูกปล่อยให้เที่ยวเล่นกันในวันนี้ อาจจะหลง (หรือตั้งใจ) ลงมาปฏิสนธิเป็นบุตรน้อยในท้องของคุณก็เป็นได้

เอาล่ะ ไหนๆ ก็พูดถึงวันที่ห้ามมีเซ็กส์ในวันพระกันแล้ว ขอทิ้งท้ายนิดๆ กับความเชื่อของคนโบราณที่ว่า ถ้าอยากมีลูกน้อยนิสัยดีอยู่ในโอวาท จะต้องไม่มีเซ็กส์ในเดือนกันยายน เพราะเชื่อว่าเป็นเดือนที่มีการปล่อยเปรตออกมาเพ่นพ่านมากเป็นพิเศษ ถ้าเผลอทำลูกในช่วงนี้ เด็กน้อยที่คลอดออกมาก็จะเป็นเด็กไม่ดี

 

ทั้งหมดนี้คือความเชื่อของคนโบราณที่เชื่อกันต่อๆ มา มาดามว่าเชื่อไว้ไม่เสียหาย แต่ไม่ต้องถึงขนาดกล่อมตัวเองให้เชื่อจนไม่กล้าจัดเซ็กส์ เดี๋ยวชีวิตรักจะไม่สนุก ถึงวันพระก็จูงมือไปไหว้พระทำบุญ รักษาศีลให้เสมอกัน รับรองว่าสิ่งใดก็มาทำอะไรคุณไม่ได้

 

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

เรื่อง : Madam Hong Hern

ภาพสวยๆจาก : Pixabay

เรื่องน่าสนใจ

ที่มาของบทสวด นะโม 3 จบ นะโม ตัสสะ ไม่ธรรมดา

ที่มาของบทสวด นะโม 3 จบ นะโม ตัสสะ ไม่ธรรมดา

ที่มาของบทสวด นะโม 3 จบ ที่มาของ นะโม ตัสสะ ไม่ธรรมดา นะโม ตัสสะ บทสวดที่ชาวพุทธตั้งแต่เด็กเล็กยังผู้สูงอายุต่างสวดเป็น “ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ” แปลว่า “ขอนอบน้อม แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง” คุ้นกันไหม เชื่อว่าคุ้น แต่มีใครบ้างที่จะทราบว่า กว่าจะเป็นบทสวดสรรเสริญพระพุทธเจ้าบทนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย   ที่มาของบทสวด นะโม 3 จบ ความหมายและที่มาของบทสวด ในคัมภีร์ฎีกานะโม เรียกง่าย ๆว่า คัมภีร์อธิบายความหมายของนะโม เล่าถึงความเป็นมาของบทสวดนี้ไว้ว่า ครั้งสมัยพุทธกาล มีเทพเจ้า 5 พระองค์เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตามลำดับ เทพเจ้าพระองค์แรกคือ “สาตาคิรียักษ์” เป็นเทวดาประเภทภุมมเทวดา (พระภูมิ) สถิตอยู่ที่เขาสาตาคีรี ในหิมวันตประเทศ มีหน้าที่เฝ้าประตูของป่าหิมพานต์ทางทิศเหนือ เป็นหนึ่งในคณะบริวารของพระเวสสุวัณ สาตาคิรียักษ์เมื่อได้ฟังพระธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วบังเกิดจิตเลื่อมใสจึงเปล่งวาจาขึ้นว่า “นะโม” (ขอนอบน้อม) ต่อมาพระอสุรินทราหูทราบว่าพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของโลก ทรงโปรดให้มนุษย์และเทวดาบรรลุธรรมเป็นจำนวนมาก จึงปรารถนาจะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม แต่ด้วยพระองค์มีรูปร่างใหญ่โต […]

ความเชื่อทำไมคนจีนโบราณ ชอบใช้กิ่งทับทิมในงานพิธีต่าง ๆ

ความเชื่อทำไมคนจีนโบราณ ชอบใช้กิ่งทับทิมในงานพิธีต่าง ๆ

ความเชื่อทำไมคนจีนโบราณ ชอบใช้กิ่งทับทิมในงานพิธีต่าง ๆ   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อ ที่สืบทอดกันตั้งแต่โบราณ มาฝากกัน ผู้ที่มีเชื้อสายจีนเคยสังเกตไหมว่าทำไม คนเฒ่าคนแก่ชอบนำกิ่งทับทิมมาปักไว้ที่เครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้า ใช้ในงานมงคลสมรส นำมาล้างหน้า พกติดตัว ใส่อ่างอาบน้ำ คนจีนจะนำกิ่งทับทิมที่มีก้านแดงมาใช้ลดพลังร้ายปรับพลังดี ให้ชีวิตไม่ว่างานมงคลและอวมงคลจะนำกิ่งทับทิมที่มีลักษณะที่ว่ามา ใช้ในงาน เช่น เซ่นไหว้เทพเจ้า คนจีนโบราณจะนำกิ่งทับทิมมาปักไว้ที่เครื่องเซ่นไหว้ แสดงความคารวะ และเชื่อว่าเทพเจ้าจะดลบัลดาลให้ พรที่ขอไว้สมประสงค์   นำมาล้างหน้า คติความเชื่อคนจีนโบราณเชื่อว่า การไปงานศพคืองานอวมงคล งานแห่งความโศกเศร้าเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะจัดงานศพ รวมทั้งไปงานศพ จนกระทั่งมีการห้ามต่าง ๆ หญิงตั้งครรภ์ คนมีแผลสด การไปงานศพอย่าชวนคนกลับบ้านโดยไม่เอ่ยชื่อ อย่ามองลอดหว่างขาตนเอง เพราะความเชื่อว่าจะมีผลเสียกับตัวเอง การพบเจอผี ตามลำดับ ฉะนั้นการไปงานศพคนโบราณเชื่อว่าจะมีแต่โชคร้าย ความเชื่อคนจีนโบราณว่าก่อนไปงานศพ ควรเตรียมกิ่งทับทิมแช่น้ำไว้ ก่อนเข้าบ้านผู้ที่ไปงานกลับมาจะได้ล้างหน้า เมื่อกลับมาล้างหน้าจากน้ำกิ่งทับทิมที่แช่น้ำไว้ แล้วทิ้งซองแดงนั้นก่อนเข้าบ้านเป็นการขับไล่สิ่งชั่วร้าย   ใส่อ่างอาบน้ำ เชื่อว่าจะขับไล่สิ่งชั่วร้าย กรณีนักโทษเพิ่งพ้นโทษออกจากที่คุมขัง ไปงานศพแล้วเข้าบ้านก่อนอาบน้ำนำเสื้อผ้าที่ใส่ไปซักและอาบน้ำก่อน ขณะอาบให้นำกิ่งทับทิมมาใส่ลงไปเพ่งจิตว่าน้ำที่อาบไหลมาจากสวรรค์ช่วยชำระสิ่งไม่ดีไปจากตัวสักประมาณห้านาทีเมื่อฟอกสบู่เสร็จ   ใช้ในงานมงคลสมรส พิธีมงคลสมรสคนจีนจะนำกิ่งทับทิมมาปักไว้ที่เครื่องเซ่นไหว้ เจ้าที่ เจ้าทางเพราะเชื่อว่า จะคอยปกป้องรักษา ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายไปจากตัวคู่สมรส […]

"คาถาเมตตามหานิยม'' สวดภาวนา ผู้คนรักใคร่เมตตา จาก ''หลวงปู่ขาว อนาลโย''

“คาถาเมตตามหานิยม” สวดภาวนา ผู้คนรักใคร่เมตตา จาก ”หลวงปู่ขาว อนาลโย”

“คาถาเมตตามหานิยม” สวดภาวนา ผู้คนรักใคร่เมตตา “คาถาเมตตามหานิยม” สวดภาวนา ผู้คนรักใคร่เมตตา หลวงปู่ขาว อนาลโย” หลวงปู่ขาว อนาลโย พระอริยสงฆ์แห่ง วัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู หลวงปู่ขาวได้รับความศรัทธาจากสาธุชนอย่างกว้างขวาง เพราะท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในการปฏิบัติกรรมฐานตามรอยพระอาจารย์ในสายกรรมฐาน คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ธุดงค์วิเวกไปยังสถานที่ต่างๆ ตามป่าเขาลำเนาไพร   เพื่อปฏิบัติอบรมจิตใจให้รู้แจ้งตามความเป็นจริง ตลอดจนการอบรมสั่งสอนญาติโยมให้ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม ขณะเดียวกันในด้านการสวดมนต์บทคาถาต่างๆ ของหลวงปู่ขาว อนาลโย ท่านก็ให้ไว้เช่นกัน หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก คือ “คาถาเมตตามหานิยม” ซึ่งปรากฏในหนังสือ ประวัติหลวงปู่ขาว และเผยแผ่โดย เพจ : วัดป่าบ้านเหล่า เชียงราย ก่อนสวด ตั้งนะโม 3 จบแล้วว่าดังนี้ พุทธะเมตตัง จิตตังมะมะ พุทธะพุทธา นุภาเวนะ ธัมมะเมตตัง จิตตังมะมะ ธัมมะธัมมา นุภาเวนะ สังฆะเมตตัง จิตตังมะมะ สังฆะสังฆา นุภาเวนะ […]

วิธีการเดินแก้โรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้อเข่าเสื่อม การป้องกัน

วิธีการเดินแก้โรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้อเข่าเสื่อม การป้องกัน

วิธีการเดินแก้โรคข้อเข่าเสื่อม   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ จะนำเสนอความรู้ให้ท่านได้ทราบ เกี่ยวกับ “วิธีการเดินแก้โรคข้อเข่าเสื่อม” ยิ่งเดินมาก ยิ่งทำให้ข้อเสื่อม จริงหรือ ใครว่ายิ่งเดินมาก ยิ่งทำให้ข้อเสื่อม ต้องบอกเลยว่า ความเชื่อนี้เชยไปแล้ว จากงานวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่พบว่า การเดินหรือวิ่งอย่างถูกต้อง และต่อเนื่องจะช่วยป้องกันข้อเสื่อม ส่วนการไม่เดินไม่วิ่ง หรือขาดการออกกำลังกายกลับเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อเสื่อม เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น คำตอบคือ การเดินหรือวิ่งก่อให้เกิดแรงกดที่กระดูกอ่อนผิวข้อ ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำคอยรับแรงกระแทกในข้อ แรงกดและปล่อยอย่างเป็นจังหวะจากการเดินและวิ่ง จะเป็นการเพิ่มการหมุนเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อ น้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อมีความสำคัญ เพราะสารอาหารของเซลล์กระดูกอ่อนไม่มีเลือดมาเลี้ยง จึงได้รับสารอาหารและออกซิเจนจากน้ำหล่อเลี้ยงข้อเท่านั้น การเคลื่อนไหวข้อที่ทำให้เกิดแรงกดที่กระดูกอ่อนอย่างเหมาะสม และสม่ำเสมอ จึงเป็นการให้สารอาหารแก่กระดูกอ่อน กระตุ้นการสร้างและซ่อมส่วนที่สึกหรอ ช่วยลดความเสี่ยงข้อเสื่อมได้   สรุป : การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย ทำได้ทุกเวลา โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำให้เดินอย่างน้อยวันละ 10,000 ก้าว หรือเดินอย่างน้อยวันละ 30 นาที สะสมให้ได้สัปดาห์ละ 150 นาที     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล […]