คาถาแคล้วคลาด พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ เทวดาเมืองคอน จะเดินทาง เข้าป่า หมั่นภาวนา

คาถาแคล้วคลาด พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์

พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน
พุทธังแคล้วคลาด พระพุทธเจ้าย่างบาท อิติปิ โส ภะคะวา
ธรรมมังแคล้วคลาด พระพุทธเจ้าย่างบาท อิติปิ โส ภะคะวา
สังฆังแคล้วคลาด พระพุทธเจ้าย่างบาท อิติปิโส ภะคะวา ฯ|

คาถาบทนี้ เป็นคาถาที่พ่อท่านคล้าย ท่านใช้สวดภาวนาเวลาออกเดินทาง เดินธุดงค์ในป่า เดินบิณฑบาต หรือเมื่อจะเข้าผจญภัย เป็นคาถาแคล้วคลาดปลอดภัย ศักดิ์สิทธิ์นักแลฯ

คาถาแคล้วคลาด พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์

คาถาแคล้วคลาด พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ เทวดาเมืองคอน จะเดินทาง เข้าป่า หมั่นภาวนา เห็นผลทันตา

ประวัติพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน เทวดาเมืองคอน

พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน วัดพระธาตุน้อย พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือ ที่รู้จักกันทั่วไปว่า “พ่อท่านคล้าย” ประวัติพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เทวดาเมืองคอน วัตถุมงคลพ่อท่านคล้าย

พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า “พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์” นามตามสมณศักดิ์ท่านคือ พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช พ่อท่านคล้าย นามเดิมว่า “คล้าย สีนิล” เกิดตรงกับ วันที่27ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีชวด จ.ศ.1238 ร.ศ.95 ที่บ้านโคกทือ ตำบลช้างกลาง กิ่งอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายอินทร์ นางเหนี่ยว สีนิล มีพี่สาว 1 คน ชื่อนางเพ็งเป็นภรรยานายซ้าย เพ็ชรฤทธิ์ ไม่มีบุตรสืบสกุลแต่มีบุตรบุญธรรมหนึ่งคน ชื่อนายครื้น เพ็ชรฤทธิ์ พ่อท่านคล้าย มีลักษณะนิสัย เป็นคนมีมานะอดทน ขยันหมั่นเพียร อยู่ในโอวาทคำสั่งสอนของบิดามารดาและครูอาจารย์อย่างเคร่งครัด สุภาพ เรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย นิสัยอ่อนโยนละมุนละไม จึงเป็นที่รักของบิดามารดา ครูอาจารย์และญาติมิตรเป็นอันมาก เมื่ออายุ ๑๕ ปี หลวงพ่อคล้าย ประสบอุบัติเหตุในการถางป่าทำไร่กระดูกปลายเท้า สามนิ้วแตกละเอียด รักษาไม่หาย ด้วยกำลังใจที่เด็ดเดี่ยว พ่อท่านคล้ายได้ใช้มีดตัดปลายเท้าออกด้วยตัวเอง และใช้ยาพอกจนหายเป็นปกติ

ขาของพ่อท่านคล้ายนั้นเสียข้างหนึ่ง คือ ขาด้านซ้ายขาดตั้งแต่ตาตุ่มลงไป (เสียตั้งแต่สมัยเด็กๆ โดนต้นไม้ทับที่บ้านญาติของท่านที่ จ.กระบี่ ขาเป็นหนองเลยต้องตัดทิ้ง โดยท่านใช้มีดปาดตาลตัดเอง) ท่านเลยต้องใส่กระบอกไม้ไผ่แทน พ่อท่านคล้าย ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2438 (อายุ 19 ปี) บรรพชาที่วัดจันดี ต.หลักช้าง บรรพชาโดยอาจารย์ พระอธิการจันเจ้าอาวาสวัดจันดี (ทุ่งปอน) และพ่อท่านสามารถท่อง พระปาฏิโมกข์จนได้แม่นยำ

 

พ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณ พระเกจินครศรีธรรมราช

ครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ.2439 ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ อุทกุกเขปสีมา (ศาลาน้ำ) วัดวังม่วง โดยมีพระอาจารย์กราย คังคสุ วัณโณ เจ้าอาวาสวัดหาดสูง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สังข์ สิริรตโน เจ้าอาวาสวัดไม้เรียง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทอง ปทุมสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดวังม่วงเป็นพระอนุสาวนาจารย์ และมีพระอาจารย์ล้อม ถิรโชโต เป็นผู้ให้สรณคมน์และศีล ได้รับฉายาว่า จันทสุวัณโณ แล้วได้ไปจำพรรษา อยู่ที่วัดทุ่งปอน หรือวัดจันดี

การศึกษาเบื้องต้น พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เริ่มศึกษาเบื้องต้นที่บ้าน โดยบิดาเป็นผู้สอน เรียนวิชาคำนวณ และวิชาอักษรโบราณ จนสามารถอ่านออกเขียนชำนาญ ทั้งหนังสือไทยและหนังสือขอม ต่อมาศึกษาต่อในสำนักนายขำ ที่วัดทุ่งปอน บ้านโคกทือ จนจบหลักสูตร ต่อมาได้ไปฝึกหัดเล่นหนังตะลุงกับนายทองสาก ประกอบกับพ่อท่านคล้ายมีหน้าตาดี น้ำเสียงไพเราะ จึงมีคนติดใจการเล่นหนังตะลุงของท่านมาก

ต่อมาปี พ.ศ.2441 พ่อท่านคล้าย ได้เข้าศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี เรียนมูลกัจจายนะ ในสำนักพระครูกาแก้ว (ศรี) ณ วัดหน้าพระธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จบหลักสูตรมูล พอแปลบาลีได้ ศึกษาอยู่เป็นเวลา 2 พรรษา

ปี พ.ศ.2443 ต่อมาได้ศึกษาทางวิปัสสนากัมมัฎฐานที่สำนักวัดสามพัน อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีอาจารย์หนูเจ้าอาวาสเป็นผู้สอน

ปี พ.ศ.2445 พ่อท่านคล้าย ได้กลับมาอยู่จำพรรษาวัดหาดสูง ใกล้ตลาดทานพอ ในสำนักพระครูกราย ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของพ่อท่าน เพื่อศึกษาวิปัสสนาและไสยศาสตร์ โดยเหตุที่พระครูกราย เป็นอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนาและทรงวิชาคุณทางไสยศาสตร์ในสมัยนั้น

ปี พ.ศ.2447 พ่อท่านคล้าย ได้ไปจำพรรษาที่วัดมะขามเฒ่า อำเภอระโนด จังหวัดสงขลาเพื่อศึกษาภาลีและอภิธรรมเพิ่มเติม

ปีพ.ศ.2448 พ่อท่านกลับจากวัดมะขามเฒ่า มาจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งปอน (จันดี) ตลอดเวลาที่ท่านจำพรรษา ณ ที่ใดก็ตาม ท่านได้ศึกษาค้นคว้าภาษา บาลี วิชาโหราศาสตร์ และเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ติดต่อกันมาโดยมิได้ประมาท ด้านการก่อสร้างก็ได้สร้างใว้ตามวัดต่างๆพอสมควร

พ่อท่านคล้าย เป็นเจ้าอาวาสวัดสวนขัน

ในปี พ.ศ.2448 พระปลัดคง เจ้าอาวาสวัดสวนขัน ลาสิกขาบท คณะอุบาสกอุบาสิกาของวัดสวนขัน ได้ร่วนกันเสนอไปยัง ท่านพระครูกรายเจ้าคณะแขวงฉวาง ขอแต่งตั้ง”พ่อท่านคล้าย”เป็นเจ้าอาวาส วัดสวนขันแทน ท่านพระครูกรายก็เสนอไปยังเจ้าคณะเมือง (ม่วง เปรียญ) ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณพระศิริธรรมมุนี เจ้าคณะเมือง ได้แต่งตั้งให้พ่อท่านคล้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนขันแต่นั้นมา

 

คาถาแคล้วคลาด พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์

 

สมณศักดิ์พ่อท่านคล้าย

ได้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่พระครูพิศิษฐ์อรรถการในปี พ.ศ.๒๔๙๘ ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นพิเศษในนามสมณศักดิ์เดิม แต่ประชาชนทั่วไปเรียกท่านตามชื่อเดิมว่า พ่อท่านคล้าย
ตำแหน่ง
– ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวนขัน ตำบลละอาย อำเภอฉวาง ใน พ.ศ. ๒๔๔๕ จนมรณภาพ
– เป็นเจ้าอาวาสวัดธาตุน้อย ใน พ.ศ.๒๕๐๐ เนื่องจากมีการสร้างถนนผ่านกลางวัดจันดีหรือวัดทุ่งปอน ทำให้วัดถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ประชาชนได้ประชุมตกลงสร้างวัดใหม่ในเนื้อที่ที่แยกออกไป เรียกว่า วัดพระธาตุน้อย และแต่งตั้งให้พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เป็นเจ้าอาวาส เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว วัดนี้ก็เป็นที่ประดิษฐานสรีระของท่านไว้ในโลงแก้ว

 

งานด้านศาสนา

พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เป็นผู้นำในการสร้างวัดพระเจดีย์ พระพุทธรูป และร่วมกันในการปฏิสังขรณ์บูรณะศาสนสถานเป็นจำนวนมาก ผลงานสำคัญ ดังเช่น สร้างวัด พ่อท่านคล้ายเห็นความสำคัญของปูชนียสถาน จึงได้สร้างวัดขึ้นหลายแห่ง ได้แก่ วัดมะปรางงาม ตำบลละอาย อำเภอฉวาง ใน พ.ศ. ๒๔๙๐ ต่อมา พ.ศ. ๒๕๐๐ ทายาทอึ่งค่ายท่าย ถวายที่ดิน และวัดที่สำคัญที่สุดคือวัดพระธาตุน้อย หรือคนทั่วไปเรียกว่า วัดพ่อท่านคล้าย

 

พ่อท่านคล้าย สร้างวัดพระธาตุน้อยและเจดีย์

ปี พ.ศ.2505 นายกลับ งามพร้อม อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่9 ตำบลช้างกลาง อำเภอฉวาง ได้ยกที่ดินโคกไม้แดง มีเนื้อที่40ไร่ ถวายพ่อท่านโดยมอบให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ที่ดินแปลงนี้อยู่ใกล้สถานีรถไฟคลองจันดี ประมาณ1กิโลเมตร พระครูพิศิษฐ์อรรถการได้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้นในที่ดินแปลงนี้ เริ่มก่อสร้างเมื่อ 14 มกราคม 2505 ตรงกับวันขึ้น 9ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่นายประคอง ช่วยเพ็ชร ถวายมาจากกว๊านพะเยา (ปัจจุบันเป็นจังหวัดพะเยา) โดยยึดรูปแบบมาจากวัดพระมหาธาตุทั้งหมด ทุนรอนในการก่อสร้างได้มาจาก พ่อค้า คหบดี ข้าราชการ และประชาชน ฝ่ายสงฆ์มีพระใบฏีกาครื้น โสภโณ เจ้าอาวาสวัดจันดีในสมัยนั้น เป็นผู้อำนวยการสร้าง ฝ่ายฆราวาสมี พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ ราชเดช

เป็นประธาน พระเจดีย์องค์นี้มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ27เมตร สูง 70เมตร การก่อสร้างสำเร็จในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ องค์พระเจดีย์ มองเห็นเด่นแต่ไกล ถ้านั่งรถไฟเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ก่อนขบวนรถจะถึงสถานีคลองจันดี จะมองเห็นพระเจดีย์อยู่ทางซ้ายมือ
พ่อท่านคล้ายได้สร้างพระเจดีย์ไว้หลายองค์ ได้แก่ เจดีย์วัดสวนขัน เจดีย์บ้านควรสวรรค์ ตำบลนาแว อำเภอฉวาง เจดีย์วัดยางค้อม อำเภอพิปูน และที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ได้แก่ เจดีย์วัดสวนขันอำเภอพระแสง และเจดีย์หน้าถ้ำขมิ้น บนภูเขาอำเภอนาสาร

 

งานด้านพัฒนาท้องถิ่น

พ่อท่านคล้าย จัดได้ว่าเป็นนักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ตลอดชีวิต ทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ได้เดินทางไปพัฒนาในที่ต่าง ๆ มากมาย สร้างถนน สะพานมากมาย ด้วยเมตตาบารมีและความเคารพศรัทธาของศิษย์และประชาชน ดังเช่น

สร้างถนนเข้าวัดจันดี

ถนนจากตำบลละอายไปพิปูน

ถนนจากวัดสวนขันไปยังสถานีรถไฟคลองจันดี

ถนนจากตำบลละอายไปนาแว

ถนนระหว่างหมู่บ้านในตำบลละอาย

สะพานข้ามคลองคุดด้วนเข้าวัดสวนขัน

สะพานข้ามแม่น้ำตาปีจากตลาดทานพอไปนาแว

สะพานข้ามคลองเสหลา หน้าวัดมะปรางงาม

สะพานข้ามคลองจันดี เป็นต้น

 

ด้านความมีเมตตาและวาจาสิทธิ์

ศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพนับถือ ศรัทธาพ่อท่านคล้ายได้เชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวาจา พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น พ่อท่านคล้ายจะพูดจากับทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและแจ่มใสอารมณ์เยือกเย็นอยู่ตลอดเวลา ท่านมักจะให้พรกับทุกคน “ขอให้เป็นสุข เป็นสุข” ผู้ที่เคารพนับถือท่านต่างพากันกลัวคำตำหนิ เพราะผู้ที่ถูกตำหนิทุกรายล้วนแต่พบความวิบัติ คนส่วนมากจึงหวังที่จะได้รับคำอวยพร เพราะคำเหล่านั้นเป็นการพยากรณ์ที่แม่นยำทั้งในทางดีและทางเสื่อมเสีย

คนที่ไปนมัสการ”พ่อท่านคล้าย”หวังที่จะได้วัตถุมงคล พระเครื่อง บ้างขอน้ำมนต์ ชานหมาก แหวน ผ้ายันต์ เหรียญ รูปหล่อ รูปพิมพ์ ซึ่งพ่อท่านคล้ายก็ได้มีเมตตาให้กับทุกคน ยิ่งชานหมากของท่านหากใครได้รับจากมือท่านเป็นต้องหวงแหนอย่างที่สุด

พ่อท่านคล้าย มรณภาพ

พ่อท่านคล้ายหรือพระครูพิศิษฐ์อรรถการ เมื่อครั้นถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2513 ตรงกับแรม 9ค่ำ เดือน12 ปีจอ พ่อท่านจะต้องเดินทางไปจังหวัดสุรินทร์ เนื่องในงานพุทธาภิเษกที่คณะพุทธบริษัท จังหวัดนั้นนิมนต์ไว้ เวลา 16.00 น. ของวันเดินทาง คณะศิษย์เป็นว่าพ่อท่านอาพาธกระทันหัน จึงนิมนต์พ่อท่านขึ้นรถด่วนเข้ากรุงเทพ ถึงวันรุ่งขึ้นได้นำพ่อท่านเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฎในวันนั้น แพทย์ได้พยายามรักษาจนเต็มความสามารถ เป็นเวลา14วัน อาการมีแต่ทรงกับทรุด ครั้งถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2513 เวลา23.05 น. พ่อท่านคล้าย มรณภาพด้วยอาการสงบ รวมอายุได้ ๙๖ ปี เมื่อบำเพ็ญกุศลครบ ๑๐๐ วัน จึงได้บรรจุสรีระของท่านไว้ในโลงแก้ว ประดิษฐานอยู่ในองค์พระเจดีย์ในวัดพระธาตุน้อยจนถึงปัจจุบัน

 

คาถาแคล้วคลาด พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์

 

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมาให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

 

ขอบคุณแหล่งที่มา : ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญา ครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม www.tumsrivichai.com

และ tnews

เรื่องน่าสนใจ

เปิดตำนาน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำประวัติศาสตร์ของไทย

เปิดตำนาน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำประวัติศาสตร์ของไทย

เปิดตำนาน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำประวัติศาสตร์ของไทย   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะพามาทำความรู้จักกับ ประวัติของ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายหลักของประเทศไทย ไหลจากเทือกเขาสูงทางตอนเหนือไปรวมกับทางตอนกลางของประเทศ กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะไหลออกสู่ทะเลอ่าวไทย   ตำนาน แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการรวมตัวของ ปิง วัง ยม น่าน อย่างที่เราๆ รู้จักอยู่แล้วนั้น ยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่น่าสนใจอีกหลายอย่างทั้งวิถีชีวิต อารยธรรม รวมถึงตำนานต่างๆ มีอยู่หลายตำนานด้วยกัน แต่ที่น่าสนใจและใกล้เคียงกับประวัติศาสตร์ของไทยนั้นมีอยู่เรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำเจ้าพระยา     โดยเริ่มต้นเมื่อประมาณ ปีพุทธศักราช 1893 พระเจ้าอู่ทอง ทรงสร้างกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และได้ขึ้นครองราชย์สมบัติทรงพระนามว่า “สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1” ในขณะที่พระองค์ทรงได้ขึ้นครองราชย์นั้นได้ให้ พระราเมศวร ราชบุตรไปปกครองเมืองลพบุรี และได้ให้ ขุนหลวงพระงั่ว พระเชษฐาไปปกครองเมืองสุพรรณบุรี พุทธศักราช 1912 พระเจ้าอู่ทอง สวรรคต พระราเมศวร ราชโอรสได้ขึ้นครองราชย์แทน แต่ในเวลาต่อมาก็จำต้องถวายราชสมบัติให้ ขุนหลวงพระงั่ว พุทธศักราช 1913 ขุนหลวงพระงั่วได้ขึ้นครองราชย์ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1” นับเป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 ของกรุงศรีอยุธยา […]

ฝันว่าเห็นรอยเท้าคน ลางบอกเหตุ ดีหรือร้าย พร้อมแนวทางเลขเด็ด

ฝันว่าเห็นรอยเท้าคน ลางบอกเหตุ ดีหรือร้าย พร้อมแนวทางเลขเด็ด

เปิดตำราพยากรณ์ รวมคำทำนาย ฝันว่าเห็นรอยเท้าคน ฝ่าเท้าตัวเอง เท้าใหญ่มาก เห็นรอยเท้าเด็กน้อย เด็กเล็ก เด็กทารก ผีสางนางไม้ ภูติผีปีศาจ ฝ่าเท้าคนในบ้าน คนแปลกหน้า ไปจนถึงรอยพระบาทของพระพุทธเจ้า มีเลขเด็ดอะไรบ้าง พร้อมบอกความหมายเป็นฝันจะดีหรือไม่ ทำนาย ฝันว่าเห็นรอยเท้าคน โบราณว่าฝันแบบนี้เป็นไปได้ทั้งร้ายและดี สื่อได้หลายความหมาย บ้างก็ว่าช่วงนี้เหมาะแก่การขยับขยายกิจการ เหมาะแก่การเสี่ยงโชค มีแนวโน้มที่จะมีลูก พบคู่แท้ บ้างก็ว่าฝันแบบนี้จะมีเคราะห์หนัก ครอบครัวระหองระแหง หืดขึ้นคอเรื่องการเงิน จะมีปัญหากับคนรัก วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้รวบรวมคำทำนายฝัน พร้อมตีเลขเด็ดเสี่ยงดวง เตรียมลุ้นเป็นเศรษฐีงวดหน้ากันได้เลย ฝันเห็นเลขทะเบียนรถ ทำนายฝัน หมายถึงอะไร พร้อมเลขเด็ดน่าซื้อ ฝันว่าซื้อหวย ทำนายฝัน จะถูกหวยไหม ตีเลขเด็ดให้โชค ต้อนรับเศรษฐีหน้าใหม่ ความฝันบอกเหตุ ฝันแบบไหนที่เรียกว่าดี มีโชค จะเป็นเศรษฐี ฝันว่าเห็นรอยเท้าคน ลางบอกเหตุ ดีหรือร้าย พร้อมแนวทางเลขเด็ดหวย งวดนี้ ฝันเห็นรอยเท้าคน สำหรับใครที่ฝันเห็นรอยเท้าคน แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นรอยเท้าใคร โบราณว่าไว้ ใครที่คิดจะซื้อของหรือขยับขยายธุรกิจให้รีบทำเลย เพราะโอกาสกำลังมา ทำดีจะได้ผลดีกลับคืนโดยเร็ว […]

บทขอขมาพระรัตนตรัย และขออโหสิกรรมต่อกัน ขอขมาพระรัตนตรัย วันทามิ

บทขอขมาพระรัตนตรัย และขออโหสิกรรมต่อกัน ขอขมาพระรัตนตรัย วันทามิ

บทขอขมาพระรัตนตรัย และขออโหสิกรรมต่อกัน บทขอขมาพระรัตนตรัย วันทามิ พุทธัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต. ข้าพเจ้า ขออภิวาทพระพุทธเจ้า, ขอพระพุทธองค์โปรดทรง ยกโทษทั้งปวงที่ข้าพเจ้าทำล่วงเกินด้วยเทอญ. วันทามิ ธัมมัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต. ข้าพเจ้า ขออภิวาทพระธรรม, ขอพระธรรมโปรดยกโทษ ทั้งปวงที่ข้าพเจ้าทำล่วงเกินด้วยเทอญ. วันทามิ พุทธัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต. ข้าพเจ้า ขออภิวาทพระสงฆ์, ขอพระสงฆ์โปรดยกโทษ ทั้งปวงที่ข้าพเจ้าทำล่วงเกินด้วยเทอญ. อานิสงส์ การขอขมาเมื่อรู้ว่าตนทำผิด นำบุญทางปัญญามาให้ คือ “ได้หยุดอาฆาตพยาบาทจองเวรจองกรรมกันต่อไป” เพราะถ้าทุกฝ่ายต่างรู้จักให้อภัย ก็จะทำให้อยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข จึงมี “บทสวดอธิษฐานอโหสิกรรมต่อกัน” เพื่อความสะอาดของจิต ก่อนการปฏิบัติธรรมจึงควรอธิษฐานขออโหสิกรรมต่อกันก่อนด้วย จะให้ผลดียิ่งขึ้น บทอธิษฐานขออโหสิกรรมต่อกัน กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง […]

ฝันเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง ทำนายฝันบอกถึงอะไร พร้อมเลขเด็ดให้โชค

ฝันเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง ทำนายฝันบอกถึงอะไร พร้อมเลขเด็ดให้โชค

ฝันเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง ความเชื่อเกี่ยวกับการ ฝันเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง คำทำนายที่หลากหลายมีทั้งความหมายดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับลักษณะของความฝัน คนไทยจำนวนไม่น้อยจึงนิยมนำความฝันไปเชื่อมโยงกับความเชื่อเรื่องลางบอกเหตุการให้โชคลาภ รวมถึงตีความเป็นเลขเด็ดต่างๆตามความเชื่อส่วนบุคคล ทางเลขเด็ดออนไลน์ได้รวมข่าวสารเลขเด็ดที่ไหนเด็ดที่ไหนดัง ทางเว็บไซต์ของเราได้รวบรวมมาให้ท่านแล้วและได้มาพบกับบริการใหม่กับทางเว็บไซต์ เกมส์พนันออนไลน์ , เว็บพนันออนไลน์  ถูกต้องตามกฏหมายของคนไทย วันนี้เราได้รวบรวมความสุขมาให้คุณแล้ว สำหรับลูกค้าที่ชอบในการซื้อหวยออนไลน์ หรือ ล็อตเตอรี่ออนไลน์ก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อ เลือกชมที่เว็บไซต์ของ กองสลากพลัส, กองสลาก.com , หงส์ทอง.com , และ มังกรฟ้า ซึ่งเป็นเเหล่งซื้อขายหวยดิจิทัลที่ถูกต้องตามกฏหมายและราคาก็ได้ตามที่รัฐบาลตั้งไว้ ฝันเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง ใครก็ตามที่ได้ฝันเห็นพระพุทธรูป คนโบราณเชื่อว่าเป็นฝันดีฝันมงคล ชีวิตจะพบแต่โชคลาภและการประสบความสำเร็จ ทั้งนี้การฝันเห็นพระพุทธรูปนั้นมีทั้ง ฝันเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ หลายองค์ หรือพระพุทธรูปลอยน้ำ ล้วนแล้วคือความฝันเห็นพระพุทธรูป พระพุทธรูปสื่อถึงความหมายอันเป็นมงคล ส่วนใหญ่การฝันเห็นพระพุทธรูปมักเป็นลางดี หรือถ้าร้ายก็แค่เตือนถึงภัยอันตรายเล็ก ๆ น้อย ๆ นอกจากนี้ยังมีเลขเด็ดนำโชค เตรียมรับทรัพย์หวยรางวัลใหญ่อีกด้วย ฝันเห็นพระพุทธรูปมีความหมายด้านความรัก การงาน และการเงินอย่างไร พร้อมเลขเด็ดอะไรบ้างเข้ามาเช็กทำนายฝันแม่น ๆ กันได้เลยครับ ทำนายฝัน ‘ฝันเห็นพระพุทธรูป’ หมายถึงอะไร แนะนำเลขเด็ดให้โชค ดวงความรัก หากฝันเห็นพระพุทธรูปไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ องค์เล็ก 1 องค์ 2 องค์ […]