เปิดประวัติ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พระเกจิดัง

เปิดประวัติ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พระเกจิดัง

เปิดประวัติ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พระเกจิดัง

 

วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะพามาทำความรู้จักกับ ประวัติของ หลวงปู่โต๊ะ หรือ พระราชสังวราภิมณฑ์ พระเกจิดัง วัดประดู่ฉิมพลี พระผู้มีอภิญญา ผู้เลื่องลือเรื่องปาฏิหาริย์ เป็นผู้สร้างพระปิดตาราคาหลักล้าน ในปัจจุบัน

 

เปิดประวัติ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พระเกจิดัง

 

ประวัติหลวงปู่โต๊ะ

พระราชสังวราภิมณฑ์ หรือ หลวงปู่โต๊ะ เกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2430 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นบุตรของนายพลอย และนางทับ รัตนคอน มีพี่น้องอยู่ร่วมกัน 2 คน ซึ่งถึงแก่กรรมไปก่อนหลวงปู่นานมาก ในวัยเด็ก เด็กชายโต๊ะ ได้เข้าเรียนวิชาอยู่ที่วัดเกาะแก้ว ใกล้บ้านเกิดของท่าน เมื่อมารดาถึงแก่กรรม พระภิกษุแก้ว เห็นความขยันหมั่นเพียรของเด็กชายโต๊ะ จึงได้พาเด็กชายโต๊ะ มาฝากอยู่กับพระอธิการสุข เจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีในสมัยนั้น

ท่านเรียนหนังสืออยู่ที่ วัดประดู่ฉิมพลี อยู่เป็นเวลาอยู่ 4 ปี ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 17 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยมีพระอธิการสุขเป็นอุปัชฌาย์ บรรพชาได้วันเดียว “พระอธิการสุข” ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์และผู้อุปการะของท่านก็ได้มรณภาพ นายคล้าย นางพันธ์ ซึ่งเป็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ของพระอธิการสุข และมีบ้านอยู่ใกล้วัดประดู่ฉิมพลีจึงได้อุปการะท่านต่อมา เมื่อบรรพชาแล้ว ท่านก็มาเรียนศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ที่ วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งต่อมามีพระอธิการคำ เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา พร้อมทั้งเรียนกรรมฐานกับพระอาจารย์พรหม วัดประดู่ฉิมพลีอีกท่านหนึ่งด้วย

จนกระทั่งเมื่อมีอายุได้ 20 ปี สามเณรโต๊ะ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 ณ พัทธสีมา วัดประดู่ฉิมพลี โดยมีพระครูสมณธรรมสมาทาน (แสง) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า “อินทสุวัณโณ

 

เปิดประวัติ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พระเกจิดัง

 

หลวงปู่โต๊ะ สอบได้นักธรรมชั้นตรี ต่อมาพระอธิการคำ ได้มรณภาพลง ทางคณะสงฆ์จึงได้แต่งตั้งท่านให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลี สืบต่อมาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2456 หลวงปู่โต๊ะ มีความมานะพากเพียร ออกธุดงค์จาริกไปทั้วทุกภาคในประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ท่านได้ไปศึกษาพระปริยัติธรรม โดยได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงหลายท่าน เช่น

  1. หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ
  2. หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน
  3. หลวงพ่อชุ่ม วัดราชสิทธาราม
  4. หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
  5. หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
  6. หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง
  7. หลวงพ่อกล้าย วัดหงส์รัตนาราม

และต่อจากนั้น ท่านก็เดินทางไปยังภาคใต้ ไปที่จังหวัดปัตตานี และเมื่อหลวงปู่ท่านกลับมาที่ จังหวัดธนบุรี กลับมายังวัดประดู่ฉิมพลี ท่านก็ได้สร้างพระพุทธบาทจำลอง เมื่อครั้งที่หลวงปู่โต๊ะยังมีชีวิตอยู่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ได้ทรงมีพระราชศรัทธาเลื่อมใสในปฏิปทาและจริยาวัตรของหลวงปู่เป็นอย่างยิ่ง โดยได้เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ของทุกๆ พระองค์ ไปยังวัดประดู่ฉิมพลี เพื่อทรงสดับคำสอนของหลวงปู่ และในบางโอกาส ก็ได้กราบอาราธนานิมนต์หลวงปู่ท่านไปแสดงธรรมยังภายในเป็นการส่วนพระองค์อีกด้วย

 

เปิดประวัติ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พระเกจิดัง

 

ปาฏิหาริย์หลวงปู่โต๊ะ

ข้อมูลทั่วไปมักบอกเล่าเหตุการณ์ที่ ครั้งหนึ่ง บุคคลสำคัญระดับสูงของประเทศ ได้ถามเรื่อง “ไสยศาสตร์มีจริงหรือไม่?” กับพระอริยสงฆ์ หรือพระเกจิผู้ใหญ่ท่านนี้  ที่สุด หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ  ท่านจึงหยิบปากกาข้างตัวท่าน มาเขียนนะที่ฝ่ามือ แล้วชูให้ผู้ถามดู

แล้วเอามือที่ลงนะนั้นมาเป่า แล้วชูให้ดูใหม่ ปรากฎว่านะที่ฝ่ามือท่านหายไปแล้ว และท่านก็ชี้ขึ้นไปบนขื่อ เมื่อผู้ถามมองไปตามนิ้วหลวงปู่ ก็ได้เห็นนะที่เมื่อครู่อยู่ที่ฝ่ามือหลวงปู่ ไปติดอยู่ที่บนขื่อแล้ว เป็นอันไม่ต้องอธิบายแล้ว

นอกจากนี้ยังมี บทความ โดยเฟซบุคแฟนเพจ “ศิษย์มีครู” ที่ได้เรียบเรียงขึ้นเพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์ เล่าว่าเป็นประสบการณ์รอดตายจากคมกระสุนด้วยบารมีธรรม หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี โดยช่วงปี พ.ศ. 2537 ขณะที่ผู้เล่า และภรรยา ลูกชายคนเล็กอายุสามเดือน พร้อมด้วยพี่สาวภรรยา ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากพัทยาเพื่อที่จะไปรับแฟนพี่สาวภรรยา ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นที่สนามบินดอนเมือง

โดยขากลับ ตนเองเกิดอาการเขม่นตาขวามาตลอดทาง จึงสวดคาถาชินบัญชรในใจตลอดเวลา โดยเฉพาะยังขอบารมีหลวงปู่โต๊ะที่ผมและภรรยาแขวนอยู่ เมื่อขับก่อนจะถึงค่ายทหารรักษาพระองค์ รถได้ถูกวางตะปูเรือใบโดยคนร้ายได้ตอกตะปูห้านิ้วไว้กับไม้หน้าสามวางสลับไปมา รถก็เหยียบตะปูเข้าอย่างจัง ยางฉีกขาด จนต้องงจอดรถเข้าข้างทาง

ตอนนั้นผู้เล่ารู้แล้วว่ากำลังจะถูกปล้น แต่จำต้องลงจากรถเพื่อเปลี่ยนยางอะไหล่ และได้บอกกับภรรยาว่าให้ยืนดูรอบๆ ขณะที่กำลังจะเปลี่ยนยาง ยังไม่ทันไรก็มีรถที่ขับตามหลังมาถูกตะปูอีกหนึ่งคัน แต่เขาก็ยังขับไปได้อีกประมาณ 50 เมตร จากนั้นภรรยาเขาก็บอกว่าเห็นผู้ชายสองคนแต่งชุดหมีเหมือนพวกช่างกลเป็นวัยรุ่นเดินอยู่อีกฝั่งของถนนอ้อมไปยังรถคันที่จอดอยู่ข่างหน้า แต่ยังไม่ทันเดินไปถึงก็อ้อมกลับมาที่รถของเขา

เมื่อเดินมาถึงทั้งสองคนก็เปิดชายเสื้อชักปืนขึ้นมาจ่อมาที่ผู้เล่า วินาทีนั้น เขาจึงเอามือผลักภรรยาให้หลบอยู่ข้างหลังผม และภรรยาได้ผลักให้ชาวญี่ปุ่นลงไปหลบในคูข้างทาง หนึ่งในคนร้ายได้พูดขึ้นว่าเฮ้ย…มึงมีของมีค่าอะไรถอดมาให้หมด  เขาก็ตอบทันที…กูไม่ให้ ภรรยาก็บอกต่อว่ากูก็ไม่ให้…คนร้ายก็บอกว่าไม่ให้กูยิง….ขณะนี้เองที่ใจของผู้เล่า ได้นึกถึงหลวงปู่โต๊ะในใจว่า (หลวงปู่โต๊ะช่วยลูกด้วย…ขอให้ยิงไม่เข้า)แล้วจึงพูดว่า..ยิงก็ยิงซิว่ะ…

จากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น…เขารู้สึกชาที่ข้อศอกจนแขนสะบัด จากนั้นเขาจะใช้เหล็กเปลี่ยนยางตีสวน แต่ผู้ร้ายก็ยิงอีกที่ไหปลาร้าจนหงายหลัง แต่ด้วย บารมีของหลวงปู่โต๊ะคุ้มครอง เขาจึงกระโดดเข้าสู้ คนร้ายเห็นว่าผมถูกยิงสองนัดไม่เป็นไรก็ตกใจพูดขึ้นว่า…เฮ้ยถอยแล้ววิ่งอ้อมไปทางหลังรถภรรยาก็ตะโกนว่า..ช่วยด้วยๆ ถูกปล้น คนร้ายก็หันมายิงภรรยาเขาอีกหนึ่งนัดถูกที่ขาจนกางเกงยีนทะลุแต่ไม่เข้าแล้วคนร้ายก็วิ่งข้ามถนนเข้าซอยหายไป

ราวตีสาม มีคนมาช่วย แล้วได้ตรวจสอบรอยยิง พบว่า ที่ข้อศอกและที่ไหปลาล้าเป็นรอยบวมเท่าลูกมะนาวแต่ไม่เข้ามีเพียงอาการขัดยอก ทั้งที่เป็นปืนขนาดเก้ามม. อย่างที่รู้กัน หลวงปู่โต๊ะ ท่านเป็นคนที่มีศีลวัตรปฏิบัติอันงดงาม มีกริยามารยาทที่งดงาม มีความสุภาพอ่อนโยน มีความเมตตากรุณาต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด

และยังว่ากันว่าท่าน สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้ ครั้งหนึ่งท่านได้เคยเจอเกี่ยวกับโรคระบาด หลวงปู่ท่านเห็นคนหลายคนไม่สบาย ท่านก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะท่านเองก็เป็นโรคนี้ด้วยเหมือนกัน ท่านจึงตั้งจิตว่า หากท่านยังมีชีวิตอยู่ ขอให้ท่านจงหายจากโรคนี้ แต่ถ้าท่านหมดบุญแล้ว ก็ขอให้ตายซะ ในตอนกลางคืน ท่านได้นิมิตว่า หลวงพ่อบ้านแหลมได้นำน้ำพระพุทธมนต์มาเจริญให้ ตื่นมาท่านก็มาเจริญน้ำพระพุทธมนต์ และสุดท้ายท่านก็หายจากโรคนี้

อย่างไรก็ดี ในเบื้องปลายชีวิต หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านได้เริ่มอาพาธด้วยโรคชรา ว่ากันว่า สาเหตุหนึ่งเพราะ มีผู้คนมานิมนต์ท่านให้ออกมาให้พร หรือ ขอความช่วยเหลือ ท่านจึงไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน สุขภาพท่านจึงไม่ค่อยแข็งแรง

ท่านได้อาพาธครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 และก่อนมรณภาพได้เพียง 7 วัน ท่านลุกจากเตียงไม่ได้เลย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2524 เวลา 9:55 น. ท่านได้ถึงแก่มรณภาพลงด้วยอาการสงบ รวมสิริอายุได้ 93 ปี 73 พรรษา

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดให้เชิญศพไปตั้งที่ศาลา 100 ปี วัดเบญจมบพิตร พระราชทานเกียรติยศศพเป็นพิเศษ เสมอพระราชาคณะชั้นธรรม พระราชทานโกศโถบรรจุศพ พร้อมฉัตรเบญจาเครื่องประกอบเกียรติยศครบทุกประการ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่การศพโดยตลอด ทั้งยังเสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน 50 วัน 100 วัน และตามโอกาสอันควรหลายวาระ

 

เปิดประวัติ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พระเกจิดัง

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

ขอบคุณข้อมูล : ศิษย์มีครู

ภาพจาก : โซเชียลมีเดีย

เรื่องน่าสนใจ

ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับหินซิทริน

ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับหินซิทริน

ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับหินซิทริน   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อมาให้ได้อ่านกันเช่นเคย “ซิทริน” เป็นอีกหนึ่งอัญมณีตามความโบราณที่ไม่ค่อยมีคุณสมบัติเกี่ยวเนื่องกับการบำบัดทางร่างกายเท่าไหร่นัก เพียงแต่ปรับอารมณ์ให้เกิดความสมดุลในคนที่กำลังมีปัญหาการเจ็บป่วย โดยพลังของซิทรินเน้นหนักไปในด้านเสริมสร้างทัศนคติที่ดี มีความเข้าใจผู้อื่น และมีมุมมองความคิดที่ชัดเจน สามารถสื่อความเข้าใจกับผู้คนรอบข้างได้ดี ช่วยให้ความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ภายในตัวเราได้แสดงออกมากขึ้น เพิ่มพลังทางสติปัญญาให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ นอกจากนี้แล้วซิทรินยังสามารถทำงานร่วมกับความฝันได้ดี หากต้องการจะฝันเกี่ยวกับอะไรก็ให้กำหินชนิดนี้ไว้ในมือก่อนนอน เมื่อใกล้จะหลับก็นำไปใส่ไว้ใต้หมอน จะช่วยฝันในเรื่องนั้น ๆ ได้ และขจัดอาการฝันร้ายในคนที่มีความเครียดและเก็บไปคิดก่อนนอน ช่วยให้อาการหลับเป็นปกติดีอีกด้วย       ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม. *** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน *** ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<     ขอบคุณที่มา : Student.nu.ac.th บทความแนะนำ โซดาไลต์ อัญมณีเสริมมงคลด้านการหยั่งรู้ สัมผัสพิเศษ […]

3 บทสวดในใจ คนโบราณว่าไปไหนมาไหนปลอดภัยไร้กังวล

3 บทสวดในใจ คนโบราณว่าไปไหนมาไหนปลอดภัยไร้กังวล

3 บทสวดในใจ คนโบราณว่าไปไหนมาไหนปลอดภัยไร้กังวล   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อ ที่สืบทอดกันตั้งแต่โบราณ มาฝากกัน คนโบราณมีการเดินทางไกลเหมือนคนรุ่นใหม่เช่นกัน สมัยก่อนมีภัยระหว่างทางไม่แพ้กัน เพราะมีบันทึกเรื่องการสวดมนต์ในใจขณะเดินทางไว้กันภัย หลายอย่างส่งมอบมรดกตกทอดแก่ลูกหลาน และบทสวดมนต์ที่คนโบราณสวดเวลาเดินทางไกลเวลาไปไหนมาไหนยังคงอยู่สืบทอดกันมา   การเดินไกลโดยคนจำนวนมาก สมัยก่อนมีการเดินทัพจับศึก มีเพื่อนร่วมทางมากมาย คนสมัยนั้นมีบทสวด มติยาเต มะเตยาติมาเต ทินา นะนา ทิเต มะนา เน สา มะสาเนนา มะสา จะติ มะติ จะสา มะติยา นะ มะโนยาติ มะโนติตัง มะตังติโน มะตังปาลัง มะลังปาตังมะลัง จะติมะติจะลัง เนื่องจากการเดินทางต้องผ่านป่าเขา บางพื้นที่ต้องผ่านป่าดงดิบ ระหว่างทางอาจมีภูตผีปีศาจคอยรบกวน แต่คนรุ่นใหม่อาจนั่งสวดไปพร้อม ๆ กับการนั่งว่าง ๆ ตลอดทางขณะเดินทางแทนการเล่นเฟส แชทลายน์ จะคุ้มครองทั้งเพื่อนร่วมทาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เดินทางไกลโดยบริษัทขนส่งต้องฝากชีวิตไว้กับคนขับ แนะนำว่าตั้งสติก่อนให้เป็นสมาธิแล้วสวด   การเดินทางคนเดียว คนโบราณบางครั้งต้องเดินทางไปในที่กันดาร […]

ฝันแปลกแต่จริง! ฝันผมขาด นำโชคมาให้? ดูคำทำนาย พร้อมเลขเด็ดแม่นๆ

ฝันแปลกแต่จริง! ฝันผมขาด นำโชคมาให้? ดูคำทำนาย พร้อมเลขเด็ดแม่นๆ

ฝันผมขาด  หรือฝันว่าผมร่วงอาจทำให้หลายคนรู้สึกตกใจและกังวลใจเมื่อตื่นขึ้นมา เพราะเส้นผมมักเป็นสัญลักษณ์ของพลัง อำนาจ และสุขภาพทางจิตใจ ความฝันลักษณะนี้สามารถตีความได้หลากหลาย ตั้งแต่เรื่องความเครียด การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต หรือแม้แต่สัญญาณเตือนจากจิตใต้สำนึก มาดูกันว่าความฝันนี้สามารถบอกอะไรเกี่ยวกับชีวิตของคุณได้บ้าง! ฝันผมขาด มีความหมายว่าอย่างไร ช่วงนี้ดวงการเสี่ยงโชคของคุณอาจไม่ค่อยดีนัก อาจมีอุปสรรคหรือได้ไม่คุ้มเสีย จึงควรงดการลงทุนหรือเดิมพันใด ๆ ไปก่อน การทำบุญตักบาตร ฟังธรรม หรือช่วยเหลือผู้อื่น จะช่วยเสริมดวงและทำให้จิตใจสงบขึ้น การงาน : ยังคงต้องดิ้นรนทำทุกอย่าง แก้ไขทุกปัญหา ถึงจะผ่านไปได้ ยังมีคนเมตตาหรือช่วยเหลืออยู่ตลอด ใครที่กำลังมองหางานใหม่มีโอกาสได้งานในอนาคต การเงิน : มีเงินเข้ามาตลอด การใช้จ่ายเก่ง แต่ก็ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย มีโชคลาภกับบ้านเลขที่ให้โชค ความรัก : คุณควรระวังการมีปากเสียงกับคู่ครอง และกับเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ละแวกเดียวกัน ช่วงนี้ดวงความรักของคุณกำลังเด่น ระวังแฟนเก่าของคุณจะกลับมาขอคืนดี มีดวงว่าคนรักของคุณจะมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับคนที่คุณสงสัยนั่นแหละ สุขภาพ : ระวังเกี่ยวข้องกับการพักผ่อนน้อย เป็นไมเกรน รวมถึงการปวดหัว การพักผ่อนน้อย เลขเด็ดจากความฝัน เลขเด่น: 3, 5, 8 เลข 2 ตัว: […]

7 ข้อห้าม สำหรับผู้หญิง เมื่อต้องไปร่วมงานแต่ง !!

7 ข้อห้าม สำหรับผู้หญิง เมื่อต้องไปร่วมงานแต่ง !!

7 ข้อห้าม สำหรับผู้หญิง เมื่อต้องไปร่วมงานแต่ง !!   เมื่อการ์ดเชิญรูปหัวใจส่งมาถึงบ้าน ภารกิจเกี่ยวกับความสวยความงามทั้งหลายก็ต้องเริ่มต้นขึ้น ทั้งหาชุด หาเมคอัพ หาแบบทรงผมที่ถูกใจ ไหนจะต้องดูแลใบหน้าให้เนี้ยบนิ้งเพื่อให้ได้รูปคู่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ดูดีออกมา แต่ไม่ว่าจะอยากสวยแค่ไหน เลขเด็ดออนไลน์ ก็ต้องขอเตือนใจเอาไว้หน่อยว่าอย่างไรก็ควรต้องอยู่ในขอบเขตของกาลเทศะ ถ้าไม่อยากเป็นคนสวย คนโดดเด่นแบบไร้มารยาทให้คนอื่นพากันร้องยี้ ก็จงปฏิบัติตามนี้่เถอะ..     1. เจ้าสาวใส่ชุดสีอะไร เราก็ไม่ควรใส่ให้เหมือนเจ้าสาว เพราะงานแต่งงาน เจ้าสาวคือนางเอก เราไม่ควรเทียบรัศมีกับเจ้าของงานแบบนั้นเพราะดูเป็นการเสียมารยาทมากๆ แม้ว่ารูปร่างของเราจะสามารถสวมใส่ชุดนั้นออกมาได้สวยแค่ไหน แต่รับรองได้ว่าจะมีแต่สายตาพิฆาตจ้องมองมาแน่นอน     2. ชุดไหนเซ็กซี่เกินไปก็ไม่ควรใส่ ต่อให้ผิวเนื้อของเราจะเรียบเนียน ขาวกระจ่างใส ขาเรียวยาวเป็นเสาไฟ หรือร่องอกอวบอิ่ม ก็เก็บไว้ไปโชว์ที่อื่นเถอะ เพราะในงานแต่งงานนั้น จะมีญาติผู้ใหญ่ของเจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่มากมาย แถมการดึงดูดสายตาคนทั้งงานด้วยชุดแบบนี้ ก็อาจทำให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่โดดเด่นอย่างที่ควรจะเป็นด้วย   3. อย่าทำตัวเป็นตู้ทองเคลื่อนที่เข้าไปในงานแต่งงานเด็ดขาด แม้เครื่องประดับนั้นจะชั้นสูงสักเพียงใดก็ตาม เพราะอาจจะโดนญาติผู้ใหญ่มองไม่ดีก็ได้ หรือไม่ก็กลายเป็นจุดเด่น จุดสนใจของงาน ในทางที่ไม่ค่อยจะดี แถมยังอาจเป็นขี้ปากผู้ร่วมงานคนอื่นด้วย กลายเป็นตัวตลกแบบนี้ เราว่ามันไม่ดีเท่าไหร่หรอก 4. การ์ดเชิญนั้นให้ขยันเปิดบ่อยๆ อ่านทบทวนรายละเอียดต่างๆ ให้ดี […]