ความเชื่อโบราณ เพกา ต้นไม้แห่งความแตกแยก

ความเชื่อโบราณ เพกา ต้นไม้แห่งความแตกแยก

ความเชื่อโบราณ เพกา ต้นไม้แห่งความแตกแยก   เพกา เป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย เป็นพืชอีกหนึ่งชนิดที่เรานิยมมารับประทานเป็นผัก หรือแม้แต่นำมาทำยาก็มีเช่นกัน แต่นอกจากประโยชน์ที่กล่าวมาในข้างต้นแล้วนั้น ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับ“เพกา” ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ว่าเป็นของต้องห้าม ไม่นิยให้ปลูกต้นเพกาไว้ในบ้าน เนื่องจากว่า เพกา มีผลที่มีลักษณะฝักมีปลายแหลมเหมือนคมหอก ดาบ ตรีศูล หรือ นพศูลนพศูลที่อยู่บนยอดปรางค์ บางทีก็เรียกว่า ฝักเพกา ซึ่งเชื่อกันว่าจะนำพาความเดือดร้อน หรือสร้างความแตกแยกหมางใจให้กับคนในบ้านนั่นเอง   ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม. *** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน *** ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<     ที่มา : horoscope.thaiza.com

ไข่มุกกับความเชื่อโบราณ มีครอบครองจะปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง !!

ไข่มุกกับความเชื่อโบราณ มีครอบครองจะปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง !!

ไข่มุกกับความเชื่อโบราณ   ไข่มุก อีกหนึ่งอัญมณีตามความเชื่อของคนโบราณ ซึ่งนอกจากจะพบในหอยมุกแล้ว ยังสามารถพบได้จากแหล่งต่าง ๆ หลายแห่ง นั่นก็คือสกาย เพิร์ล – มุก จากท้องผ้า ซึ่งบางตำราเรียกว่ามุกเมฆ หรือ มุกอากาศซึ่งตกลงมาพร้อมกับหยาดฝน แต่อาจจะมี่ให้เรารู้จักเพียงตำนานเท่านั้นเพราะเชื่อว่าหายากมากผู้ที่จะมีโอกาสได้ครอบครองคงต้องเป็นเทวดา นางฟ้าหรือผู้มีบุญบารมีจริง ๆ ซึ่งคนจีนโบราณเชื่อว่าไข่มุกเกิดจากการต่อสู้ของมังกรกับก้อนเมฆที่นำความมืดมัวมาให้แผ่นดิน จนทำให้เกิดฝนตกขึ้นและไข่มุกก็ตกลงมาจากฟ้า, คอบร้า เพิร์ล หรือ มุกพญานาค โบราณเรียกว่า นาคมณี เชื่อว่ามาจากน้ำลายพญานาค ตามความเชื่อโบราณบอกว่าผู้มีนาคมณีไว้ในครอบครองจะปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง สัตว์มีพิษต่าง ๆ หรือสิ่งชั่วร้ายจะไม่มากรายกล้ำ, แบมบู เพิร์ล – มุกกิ่งไผ่ อันถือกำเนิดมาจากหยาดฝนที่ชะกิ่งไผ่ทุกวัน ๆ ร่วมกับการทำปฏิกิริยาของแร่ธาตุในลำไม้ไผ่นั้นเอง แต่โบราณเชื่อว่าจะพบได้ในป่าไผ่ที่เป็นอาณาเขตของผู้ทรงศีลบำเพ็ญภาวนาอยู่เท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นเครื่องประดับแต่งร่างกาย แต่จะใช้แทนยาวิเศษบำบัดรักษาโรค, ฮ็อก เพิร์ล – มุกจากเศียรหมูป่า มีขนาดใหญ่มากทีเดียว และหาได้ยากแต่ไม่มีความแวววาวเป็นมุกที่ให้คุณในด้านความมีสิริมงคล นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่ามีคุณสมบัติในด้านของการเสริมพลังอำนาจให้สัตว์ร้ายเกรงกลัว และเรียกลมเรียกฝนได้, มุกหอยสังข์ โดยส่วนใหญ่จะมีสีอมส้มหรือสีเหลือง หรือไม่ก็จะมีสีเหมือนหอยสังข์ที่อาศัยอยู่ มีขนาดใหญ่พอสมควร คนโบราณเชื่อว่าจะนำพาความสุขสงบ […]

ความเชื่อเรื่องการกินข้าวด้วยมือขวา นั้นเป็นอย่างไร !!

ความเชื่อเรื่องการกินข้าวด้วยมือขวา นั้นเป็นอย่างไร !!

ความเชื่อเรื่องการกินข้าวด้วยมือขวา   คุณรู้หรือไม่ว่านอกจากคนไทยที่มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องการเปิบข้าว หรือ การรับประทานข้าว คนในประเทศอินเดีย โมร็อกโก อัฟริกา ซึ่งอาหารพื้นบ้านใช้วิธีเปิบด้วยมือเหมือน บ้านเรา วัฒนธรรมของที่นี่ต้องใช้มือขวาหยิบอาหารเข้าปากเท่านั้น ซึ่งแม้แต่เด็กที่ถนัดมือซ้ายก็ยังถูกฝึกให้กินข้าวด้วยมือขวา และต้องตักเฉพาะกับข้าวที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด ห้ามข้ามพรมแดนไปตักส่วนของคนอื่น ไม่อย่างนั้นจะถือว่าไม่ให้เกียรติ คนที่ร่วมวงกินข้าว เดี๋ยวมื้อนี้จะจบไม่สวยนะ     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม. *** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน *** ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<   ที่มา : Spicy ภาพ : Pixabay

ความเชื่อในพญาครุฑของคนไทย เสริมอำนาจ บารมีเงินทอง !!

ความเชื่อในพญาครุฑของคนไทย เสริมอำนาจ บารมีเงินทอง !!

ความเชื่อในพญาครุฑของคนไทย   ครุฑ ภุมมเทวา รุกขเทวา อากาสเทวา อยู่ที่ไหน..เป็นชาวสวรรค์ชั้นใด ? พญาครุฑ คือใคร? ครุฑ จัดเป็นเทวดาประเภทหนึ่ง อยู่ในการปกครองของท้าววิรุฬหก ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ด้านทิศใต้ เหตุที่มาเกิดเป็นครุฑเพราะทำบุญเจือด้วยโมหะ ครุฑมีกำเนิดทั้ง 4 แบบ คือ โอปปาติกะ ชลาพุชะ อัณฑชะ และสังเสทชะ มีที่อยู่ตั้งแต่พื้นมนุษย์ ป่าหิมพานต์ ป่าไม้งิ้ว จนถึงชั้นจาตุมหาราชิกา (ป่าไม้งิ้วอยู่ชั้นที่สองรอบภูเขาสิเนรุ ส่วนชั้นที่หนึ่งอยู่ในมหาสมุทรสีทันดร เป็นที่อยู่ของพญานาค)   ครุฑชั้นสูง เกิดแบบโอปปาติกะ มีขนสีทอง มีเครื่องประดับแบบเทพบุตรเทพธิดา มีชีวิตอยู่เหมือนเทวดา แปลงกายได้ จะเสวยสุทธาโภชน์ คืออาหารทิพย์แบบเทวดา ครุฑบางประเภทผูกเวรกับนาค ก็จะกินนาคเป็นอาหาร บางประเภทก็กินผลไม้หรือเนื้อสัตว์ ครุฑบางประเภทผูกเวรกับสัตว์นรกในยมโลก ก็จะสมัครใจไปเป็นเจ้าหน้าที่ลงทัณฑ์สัตว์นรก เทวดาทั้ง 3 ประเภท เป็นเทวดาชั้นล่าง มีวิมานอยู่บนพื้นดินเดียวกันกับที่มนุษย์ อาศัยอยู่ เรียกชื่อตามที่อยู่ แต่ถือว่าเป็นชาวสรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้วย   ภุมมเทวา […]

ความเชื่อเรื่อง เข็มตำ มีดบาดนิ้ว ลางสังหรณ์ ลางบอกเหตุ !!

ความเชื่อเรื่อง เข็มตำ มีดบาดนิ้ว ลางสังหรณ์ ลางบอกเหตุ !!

ความเชื่อเรื่อง เข็มตำ มีดบาดนิ้ว   ความเชื่อเรื่อง เข็มตำ มีดบาดนิ้ว เรื่องของเข็มตำ มีดบาดนิ้ว นั้นมักถือเป็นลางสังหรณ์ ลางบอกเหตุแก่บุคคลที่เรากำลังคิดถึงว่าจะเป็นอย่างไรมีอันตรายหรือไม่จะสุขจะทุกข์เพียงใด หรือจะเกิดเหตุการณ์ อะไรบ้าง ใช่แล้วมาทำความเข้าใจกันดีกว่า ว่าบาดแผลแต่ละตำแหน่งมีความหมายแตกต่างกันอย่างไรบ้าง..   1.กรณีตำ หรือ บาดที่นิ้วหัวแม่มือ มักเป็นลางบอกเหตุอัน มักหมายถึง บุคคลอันเป็นที่รักอย่างพ่อแม่ ผู้ปกครองของเรานั่นเอง อีกนัยหนึ่ง หมายถึง ความรักอาจจะเกิดปัญหา เกิดปัญหารักซ้อน ฉะนั้นควรเตรียมรับสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า   2.กรณีตำ หรือ บาดที่นิ้วชี้ มักเป็นลางบอกเหตุอันมักหมายถึง บุคคลอย่างญาติสนิท รวมทั้งเพื่อนฝูงที่เคยคบหากัน อีกนัยหนึ่งหมายถึง เรื่องการเรียนรู้ใหม่ ๆ ดูไม่ได้ดั่งใจ การศึกษาหาความรู้มีอุปสรรคมาขวางกั้นมาก   3.กรณีตำ หรือ บาดที่นิ้วกลาง มักเป็นลางบอกเหตุอันมักหมายถึง ไม่ใช่ใครอื่นตัวเราเองนั่นแหละ ที่ควรต้องระมัดระวังตัวอย่างที่สุด การมีสติรอบคอบจึงเป็นวิธีการที่ดีสุดในการป้องกันสิ่งไม่คาดฝัน อีกนัยหมายถึง ชีวิตความเป็นอยู่กำลังจะเกิดการเปลี่ยนไป วาสนาึถึงคราวหักเห   4.กรณีตำ หรือ บาดที่นิ้วนาง […]

ความเชื่อคนโบราณกับต้นขนุน อาชีพไหนควรปลูก แล้วควรปลูกตำแหน่งไหน !!

ความเชื่อคนโบราณกับต้นขนุน อาชีพไหนควรปลูก แล้วควรปลูกตำแหน่งไหน !!

ความเชื่อคนโบราณกับต้นขนุน   คติความเชื่อคนโบราณว่าควรปลูกต้นขนุนไว้ข้างบ้านเพราะเป็นไม้มงคลเพราะว่าอะไร อาชีพไหนควรปลูก แล้วควรปลูกตำแหน่งไหนดีอย่างไร บทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะอธิบายความเชื่อกัน ความเชื่อคนโบราณว่าผู้ที่ปลูกต้นขนุนไว้ที่ข้างบ้านบริเวณทางทิศตะวันออกจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ ฤาเพราะชื่อขนุนไปพ้องกับคำว่าสนับสนุน เกื้อหนุน ต้นขนุนจึงเป็นต้นไม้ที่คนไทยทุกภาคจะปลูกไว้ที่บริเวณดังกล่าว ประวัติศาสตร์ไทยจารึกไว้ว่าขนุนเริ่มปลูกครั้งแรกตั้งแต่สมัยอยุธยา และเริ่มนำมาใช้ประกอบอาหารและขนมไทยครั้งแรกสมัยรัชกาลที่สองจากวรรณกรรมที่โด่งดัง เรื่องกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน ต้นขนุนแฝงภูมิปัญญาเคล็ดลับจากความเชื่อคนโบราณไว้มากมาย เป็นต้นว่าการใส่ปุ๋ยมูลไก่จะทำให้เนื้อขนุนมีสีเหลืองนวล หวานกรอบอร่อยน่ารับประทาน ควรตั้งแคร่ไว้ที่โคนต้นขนุนสำหรับนั่งนอนเล่นทางทิศตะวันออกกระตุ้นให้สมาชิกครอบครัวมีความสามัคคีกัน เนื่องจากธรรมชาติเนื้อขนุนส่วนใหญ่มีสีเหลืองนวล ความเชื่อคนโบราณจีนและคนไทยบางเผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่จะเลือกขนุนเป็นเครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้า เจ้าที่ และพิธีกรรมสำคัญไม่ว่าจะเปิดกิจการร้านค้าใหม่ เพราะความมหัศจรรย์จากขนุนคือพืชที่เกิดจากธาตุดินแต่เนื้อขนุนเป็นสีเหลืองทอง เหตุนี้คนโบราณเชื่อว่าการค้าจะได้ผลดีมีทองเป็นผลตอบแทน ขนุนยังเป็นพืชมงคลบวงสรวงศาลพระภูมิก่อนจะเริ่มงานในตำแหน่งใหญ่สำหรับข้าราชการ ผู้บริหารระดับสูง ระดับกลางลองสังเกตว่าจะพบขนุนเป็นหนึ่งในเครื่องสังเวย เพราะเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชา และได้รับการเกื้อหนุนจากผู้ใต้บังคับบัญชา นอกจากนี้คนโบราณชอบสอนลูกหลานว่าขนุนยังมีประโยชน์ด้านสมุนไพรมากมายเป็นต้นว่า ใบขนุนใช้ต้มดื่มแก้อาการท้องเสีย ขับพยาธิและระงับประสาท แก้อาการวิตกกังวล ลดน้ำตาลในเลือด เมล็ดใช้ต้มสุกรับประทานแทนยาชูกำลัง แก้อาการปวดท้อง ยางขนุนทาแก้อาการแผลบวมอักเสบ และแผลหนองเรื้อรัง การประเมินผลงานตามวัฒนธรรมการทำงานแบบตะวันออก อาชีพข้าราชการหรือพนักงานเอกชนที่มีการแข่งขันกับเพื่อนร่วมงานจำนวนมากสร้างผลงานแย่งตำแหน่งใหญ่ ๆ ในองค์การ อาจทำให้การทำงานมีความเครียด อาจเป็นเหตุให้คนโบราณออกอุบายความเชื่อว่าควรปลูกต้นขนุนไว้ข้างบ้าน เพราะต้นขนุนปลูกง่าย มีรากแก้วขนาดใหญ่ยึดดินไม่ให้ทลายยามฤดูน้ำหลาก ต้นขนุนโตเต็มที่ ใบจะมีขนาดใหญ่แผ่กิ่งก้านเป็นร่มเงาให้ผู้อยู่อาศัย กลายเป็นคนบุคลิกสงบ ทำงานไม่ผิดพลาดและจะเสริมเรื่องการสนับสนุนจากผู้ใหญ่แต่มีเงื่อนไขว่าข้างบ้านจะต้องมีพื้นที่ปลูกต้นขนุนได้     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ […]

ความเชื่อเรื่องสีเหลืองกับเทศกาลกินเจ

ความเชื่อเรื่องสีเหลืองกับเทศกาลกินเจ

ความเชื่อเรื่องสีเหลืองกับเทศกาลกินเจ   ลองสังเกตเทศกาลกินเจทุกครั้งจะพบสัญลักษณ์ที่มีสีเหลืองพร้อมเครื่องหมายกำกับว่าบริเวณนี้อาหารเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับประเพณีกินเจ สัญลักษณ์และตัวอักษรสีแดงแปลว่าเจบนพื้นสีเหลือง ประดับบนธงเล็ก ๆ คืออะไร ชาวจีนโบราณมีความเชื่อเรื่องนี้อย่างไร บทความนี้  เลขเด็ดออนไลน์  จะเสนออย่างละเอียดให้ สีเหลืองมีความหมายทางจิตวิทยาคือสีที่บ่งบอกความรู้สึกเบิกบาน ความบริบูรณ์ มั่นคง ความคิดสร้างสรรค์ส่วนใหญ่จะกระตุ้นความรู้สึกสนุกสนานเวลามีงานเลี้ยง และคติความเชื่อคนจีนโบราณเชื่อว่าสีเหลืองคือสีที่เป็นตัวแทนแห่งอำนาจ ส่วนสีแดงมีความหมายทางจิตวิทยาคือสีที่กระตุ้นความรู้สึกความทะเยอทะยาน สร้างความเร้าใจ ท้าทาย ในทางการบริหารจัดการฝ่ายบุคคลจะใช้สีแดง เสริมเรื่องการปฏิบัติหน้าที่การงานพนักงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และคติความเชื่อคนจีนโบราณเชื่อว่าสีแดงเป็นสีมงคล ส่วนสีต่าง ๆ บนสัญลักษณ์ธงเจมีสีเหลือง ความเชื่อคนจีนจะใช้สีเหลืองกับพิธีศักดิ์สิทธิ์ พิธีกรรมที่ใช้การร่ายเวทย์มนต์ การขบเป่าสิ่งชั่วร้าย ดังนั้นคนจีนโบราณเชื่อว่าสีเหลืองจะขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปจากคนที่ร่วมพิธีกินเจ นอกจากนี้สีเหลืองเองคือสีที่เป็นตัวแทนแห่งอำนาจ ดังนั้นสีเหลืองยังใช้กับราชวงศ์ชนชั้นกษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายฮ่องเต้จีนโบราณ และเครื่องใช้ในราชสำนักจะใช้สีเหลืองทั้งสิ้น การใช้สีเหลืองประดับบนธงเล็ก ๆ เป็นเครื่องแสดงว่าคนที่กินเจเป็นคนชั้นสูงน่ายำเกรง สีแดง หมึกแดงคนจีนโบราณเขียนเป็นตัวอักษรจีนแปลว่า เจ สีแดงในความเชื่อคนจีนโบราณว่าเป็นสีมงคล จะพบว่าในงานมงคลคนจีนจะใช้สีแดงทั้งสิ้น เพราะสีแดงเป็นสีที่ฉูดฉาด คนเห็นจะมีความรู้สึกกระตือรือร้น กระตุ้นความสนใจที่อยากจะเข้าร่วมพิธีกินเจ ลองสังเกตจะพบธงลักษณะดังกล่าวแขวนหรือปักอยู่ทั่วไปตามร้านอาหารตอนเทศกาลกินเจ แสดงว่าร้านอาหารนั้นจำหน่ายเฉพาะอาหารเจเท่านั้น ไม่มีอาหารเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์วางขายเจือปน ทุกปีเทศกาลกินเจจะพบธงพื้นสีเหลืองและตัวอักษรจีนสีแดงที่แปลว่าเจ แขวนไว้แสดงอาณาเขตว่าเป็นบริเวณศักดิ์สิทธิ์ บริเวณที่คนกินเจใช้ปฏิบัติธรรม ป้องกันสิ่งชั่วร้ายและปักไว้ในอาหารแสดงว่าอาหารที่ปักไว้ปราศจากเนื้อสัตว์ อาหารที่ไม่ได้เบียดเบียนชีวิตอื่น ผู้กินแล้วได้บุญกุศล ผู้กินเจควรทำความดี ละเว้นความชั่ว […]

อาหารต้องห้ามสำหรับเทศกาลกินเจ ตามความเชื่อชาวจีน

อาหารต้องห้ามสำหรับเทศกาลกินเจ ตามความเชื่อชาวจีน

อาหารต้องห้ามสำหรับเทศกาลกินเจ ตามความเชื่อชาวจีน การร่วมพิธีกินเจมิใช่ห้ามรับประทานเนื้อสัตว์ เท่านั้นผู้ร่วมพิธีจะต้องดำรงตนอยู่ในศีลในธรรมอันดีงาม ทั้งกาย วาจา ใจ ยังคงมีอาหารต้องห้ามตามบทบัญญัติแห่งเจ มีอะไรบ้างการกินเจ Horoscope thaiza จะเสนอพร้อมเหตุผลอย่างละเอียด ยาเสพติดและเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด การกินเจเป็นอุบายจากคนโบราณห้ามสำหรับกลุ่มคนที่ชอบทำลายสุขภาพเหล้าทำลายตับ บุหรี่ทำลายปอด และครองสติไม่ได้ อันก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมมากมายอย่างที่เป็นข่าว ยาเสพติดและเครื่องดื่มมึนเมาเป็นเหตุแห่งความเสื่อมทรามทางสังคมทั้งปวง กระเทียม เหตุที่ห้ามเพราะทุกส่วนรวมทั้งกระเทียมโทน นอกจากมีกลิ่นฉุนยังส่งผลกระทบกับอุณหภูมิ ความร้อนในร่างกาย และอวัยวะต่าง ๆ ภายใน ต้นหอมทุกชนิด ความเชื่อคนจีนโบราณว่าต้นหอมทำลายระบบการไหลเวียนของของเหลวในร่างกาย และยังส่งกลิ่นเหม็น กุยช่าย กระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ท้องเสีย เนื่องจากการรับประทานอาหารเจมีแต่ผัก ระบบการย่อยอาหารจะดี บางคนมีหยางอยู่มากเกินไป ดังนั้นการรับประทานกุยช่าย จะทำให้เพิ่มระบบการย่อยอาหารเพิ่มขึ้น และกุยช่ายยังกระตุ้นความกำหนัดทางเพศ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้นว่า นม เนย ไข่ เนื่องจากอาหารเจจะมีแต่เฉพาะผักธรรมชาติล้วน ๆไม่มีเนื้อสัตว์ปน บางคนที่เคร่งจัดจะแยกภาชนะที่ใส่ออกจากกัน จะเรียกภาชนะที่ใส่อาหารเจว่า “เจอั่ว” และเรียกภาชนะที่บรรจุอาหารทั่วไปรวมทั้งอาหารที่ไม่ใช่เจว่า “ชอร์” นอกจากนี้อาหารรสจัด อย่างรสเผ็ดจัด เค็มจัด เปรี้ยวจี๊ต ก็ห้ามเช่นกัน เพราะส่งผลกับร่างกายเรื่อง […]

พิธียกเสาโกเต้งกับความเชื่อเทศกาลกินเจ

พิธียกเสาโกเต้งกับความเชื่อเทศกาลกินเจ

พิธียกเสาโกเต้งกับความเชื่อเทศกาลกินเจ   ธรรมเนียมจีนและความเชื่อชาวจีนโบราณทุกครั้งก่อนเทศกาลกินเจตอนเช้าจะต้องทำความสะอาดศาลเจ้า และตอนบ่ายก่อนพระอาทิตย์ตกดินหรือห้าโมงเย็นจะประกอบพิธียกเสาโกเต้ง เสานี้มีความเชื่อว่าอย่างไร ตั้งเสานี้ทำไม ตรงไหน และมีที่มาที่ไปอย่างไร บทความนี้  เลขเด็ดออนไลน์  จะเสนอพิธียกเสาโกเต้ง ทุกปีก่อนเทศกาลกินเจเจ้าหน้าที่ศาลเจ้าโรงเจจะหาลำไม้ไผ่ที่ปราศจากรอยตำหนิ ตรงไม่คด และจำนวนสามสิบหกปล้องบนไม้ไผ่ลำเดียวกัน โดยนับจากปล้องที่โคนต้นเป็นปล้องแรก ความเชื่อจากชาวจีนโบราณเชื่อว่าปล้องแรกมีความหมายว่าเกิด ปล้องที่สองมีความหมายว่าแก่ ส่วนปล้องที่สามและสี่คือเจ็บและตายตามลำดับและวนกลับมานับเกิดใหม่ในปล้องที่ห้า จนกระทั่งสิ้นสุดที่ปล้องที่สามสิบหกจะนับเกิดใหม่และมีวงรอบครบเก้ารอบเท่ากับจำนวนเดือนเก้าตามปฏิทินจันทรคติ สำหรับเป็นเสาโกเต้ง ขณะหาลำไม้ไผ่ดังกล่าวความเชื่อชาวจีนโบราณเชื่อว่าเทพเจ้าจะดลใจให้หาพบ และสรุปเสาโกเต้งคือลำไม้ไผ่ยาวที่มีจำนวนสามสิบหกปล้องแขวนตะเกียงทั้งเก้าบูชาฟ้าดิน ความเชื่อชาวจีนโบราณเชื่อว่าเสาโกเต้งจะต้องมีสามสิบหกปล้องเพราะคือตัวแทนจำนวนชั้นฟ้าทั้งสามสิบหก เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะเทพเจ้าจะอาศัยเสาโกเต้งเดินทางลงสู่โลกมนุษย์ ก่อนวันแรกเทศกาลกินเจผู้ที่ศรัทธาพิธีกินเจจะร่วมพิธีอันเชิญเสาโกเต้งเพื่อความเป็นมงคล ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ด้านข้างแท่นบูชาเทวดาฟ้าดินแต่ละศาลเจ้าหรือโรงเจ เวลาค่ำคณะกรรมการประจำปีที่ได้รับอาสาจะเตรียมเครื่องเซ่นไหว้รับเทพเจ้าทั้งเก้าลงมาประทับในศาลเจ้า เวลาประมาณเที่ยงคืนคณะกรรมการทั้งหมดพร้อมกันที่หน้าศาลเจ้าโรงเจจะทำพิธีอันเชิญเทพอ๋องซ่งเต๊ บางความเชื่อว่าเทพองค์นี้คือพระอิศวร เป็นประธานพิธีกินเจ และเทพทั้งหมดพร้อมเขียนชื่อติดไว้บนแท่นบูชา เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจุดตะเกียงทั้งเก้าดวงและสวดมนต์นำตะเกียงทั้งหมดขึ้นเสาโกเต้ง วันที่สามและวันที่หก เจ้าหน้าที่จะสวดมนต์ทำพิธีตอนสาย วันที่เก้าเดือนเก้า(เก๊าวั่ย ชิวเก๊า)ตามปฏิทินจันทรคติของจีนทุกศาลเจ้าโรงเจที่จัดประเพณีกินเจจะประกอบพิธีส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ประมาณตอนบ่าย คณะกรรมการจะทำพิธีสวดส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ และยกเสาโกเต้งลง และประเพณีกินเจจัดเป็นประเพณีหนึ่งที่ชาวจีนโบราณสืบทอดปฏิบัติกันมานาน เพราะเชื่อว่าเป็นอุบายขัดเกลาจิตใจ อุปนิสัยมนุษย์จากทั่วทุกสารทิศของประเทศ คนจีนที่อาศัยอยู่บางแห่งจิตใจแข็ง กระด้าง เสียงดังในขณะที่บางพื้นที่เรียบง่าย พูดเพราะ แต่บางพื้นที่เย่อหยิ่ง ไม่ยอมอ่อนน้อมอย่างน้อยที่สุดก็เป็นการปรับให้ทุกคนมีลักษณะบุคลิกที่ดี เมตตา ทราบวิธีรักษาศีลไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย […]

5 ข้อห้ามระหว่างเทศกาลกินเจที่บางคนยังไม่ทราบ !!

5 ข้อห้ามระหว่างเทศกาลกินเจที่บางคนยังไม่ทราบ !!

5 ข้อห้ามระหว่างเทศกาลกินเจที่บางคนยังไม่ทราบ   การเข้าร่วมเทศกาลกินเจไม่ใช่แค่งดอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เครื่องดื่มมึนเมาสงบสำรวมกาย วาจา ใจเท่านั้น ผู้ที่จะเข้าร่วมเทศกาลกินเจจะต้องปฏิบัติตามข้อห้ามอีกหลายข้อ สำหรับการกินเจจะได้เกิดผลบุญแก่ตัวผู้ที่กินเจสูงสุด ข้อห้ามที่ว่ามีอะไรบ้าง บทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะอธิบายลองอ่าน ข้อห้ามแรกอย่าใช้เครื่องครัวที่ประกอบอาหารเจร่วมกับอาหารทั่วไป เพราะการประกอบอาหารเจภาชนะใส่ทั้งหมดจะต้องตระหนักเรื่องการงดเว้นเนื้อสัตว์และผักบางชนิด ดังนั้นการประกอบอาหารเจ จะต้องบริสุทธิ์ควรใช้ภาชนะในการประกอบอาหารเฉพาะเท่านั้น ไม่นำมาปนกัน ภาชนะทั่วไปที่ใช้ประกอบแม้ว่าจะล้างสะอาดแล้ว แต่กลิ่นคาวยังคงอยู่ กลิ่นคาวในที่นี้คือกลิ่นจากน้ำมันเนื้อสัตว์ฝังแน่นที่เนื้อกระทะ และภาชนะใส่อาหาร หญิงมีครรภ์ไม่ควรเข้าร่วมพิธี เพราะการกินเจนั้นมีข้อกำหนดว่างดเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์จำพวก เนย ไข่ นมซึ่งอาหารเหล่านี้มีประโยชน์แก่ทารกในครรภ์ที่พืชผักบางชนิดไม่มีหรือมีในน้อย โดยเฉพาะวิตามินบีสิบสองที่พบในเนื้อสัตว์เท่านั้น การกินเจเป็นอุปสรรคกับหญิงมีครรภ์ควรจะต้องรับสารอาหารจากอาหารหลักห้าหมู่ให้ครบ อีกทั้งการประกอบพิธีในโรงเจจะต้องมีการลุก นั่ง และเดิน ดังนั้น ชาวจีนโบราณกำหนดความเชื่อว่าหญิงมีครรภ์ไม่ควรร่วมพิธีกินเจ หญิงขณะกำลังมีประจำเดือน คนจีนโบราณเชื่อว่าการมีประจำเดือนร่างกายไม่สะอาด เพราะร่างกายขับเลือดเสียออกจากอวัยวะเพศหญิงเป็นสิ่งสกปรก มีดังนั้นหญิงขณะกำลังมีประจำเดือน ไม่ควรเข้าร่วมเนื่องจากการกินเจจะต้องร่วมพิธีในโรงเจ การเดินหรือการร่วมทำกิจกรรมต่อหน้าองค์เก๋าอ๊วงฮุกโจ้ว คือเทพเจ้า ดังนั้นหญิงขณะกำลังมีประจำเดือนอยากจะกินเจควรกินเจอยู่ที่บ้านเท่านั้น ผู้กินเจไม่อยู่ในระหว่างการไว้ทุกข์ เนื่องจากการไว้ทุกข์ตามความเชื่อคนจีนจะต้องประกอบพิธีไหว้ผู้ล่วงลับทุกวัน กล่าวคือการเตรียมอาหารเช้า เครื่องเซ่นไหว้ยุ่งยาก จะมาร่วมกินเจคงไม่สะดวก อีกทั้งผู้ที่อยู่ระหว่างการไว้ทุกข์จะเกิดอารมณ์เศร้าหมองไม่มีใจปฏิบัติธรรม ไม่สวมเสื้อผ้าฉูดฉาด ควรสวมชุดขาว เนื่องจากการสวมเสื้อผ้าเกิดผลทางจิตวิทยากับผู้กินเจ ผู้กินเจอาจไม่สำรวมเผลอไปกินอาหารต้องห้าม และการสวมชุดขาว […]

3 ความเชื่อสำคัญชาวจีนโบราณเรื่องการกินเจ

3 ความเชื่อสำคัญชาวจีนโบราณเรื่องการกินเจ

3 ความเชื่อสำคัญชาวจีนโบราณเรื่องการกินเจ   การกินเจ อยู่คู่ความเชื่อชาวจีนโบราณมานานแสนนาน เพราะคนเฒ่าคนแก่สมัยก่อน ตระหนักเรื่องสุขภาพ บาปบุญ เชื่อว่ากินเจ จะลดกรรมแล้วทำให้สุขภาพดี ฉะนั้นในแต่ละพิธีกรรม การห้ามต่าง ๆ จะแฝงความเชื่อไว้มากมาย และมี ที่มาที่ไปอย่างไร บทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะเสนอ..  เสาโกเต้ง ทุกปีก่อนเทศกาลกินเจกรรมการศาลเจ้าโรงเจจะเฟ้นหาลำไม้ไผ่ที่ปราศจากรอยตำหนิ มีลักษณะ ตรง และจำนวน 36 ปล้องบนไม้ไผ่ลำเดียวกัน โดยนับจากปล้องที่โคนต้นกำหนดปล้องแรก ความเชื่อจากชาวจีน โบราณเชื่อว่าปล้องแรกมีความหมายว่าเกิด ปล้องที่สองมีความหมายว่าแก่ ส่วนปล้องที่สามและสี่คือเจ็บและตายตาม ลำดับและวนกลับมานับเกิดใหม่ในปล้องที่ห้า จนกระทั่งสิ้นสุดที่ปล้องที่ 36 จะนับเกิดใหม่และมีวงรอบครบเก้ารอบ เท่ากับจำนวนเดือนเก้าตามปฏิทินจันทรคติ ขณะหาลำไม้ไผ่ที่ว่าบางครั้งหายากมาก แต่ความเชื่อชาวจีนโบราณเชื่อว่า เทพเจ้าจะดลใจให้หาพบแล้วแขวนตะเกียงทั้งเก้าบูชาฟ้าดิน ความเชื่อชาวจีนโบราณเชื่อว่าเสาโกเต้งจะต้องมีสามสิบ หกปล้องเพราะคือตัวแทนจำนวนชั้นฟ้าทั้งสามสิบหก เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะเทพเจ้าจะอาศัยเสาโกเต้งเดินทางลงสู่ โลกมนุษย์ สีเหลืองแดง ก่อนวันแรกเทศกาลกินเจผู้ที่ศรัทธาพิธีกินเจจะร่วมพิธีอันเชิญเสาโกเต้งเพื่อความเป็นมงคล ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ด้านข้างแท่นบูชาเทวดาฟ้าดินแต่ละศาลเจ้าหรือโรงเจ เวลาค่ำคณะกรรมการประจำปีที่ได้รับอาสาจะ เตรียมเครื่องเซ่นไหว้รับเทพเจ้าทั้งเก้าลงมาประทับในศาลเจ้า แล้วเริ่มใช้สีบนสัญลักษณ์ธงเจมีสีเหลือง ความเชื่อคน จีนจะใช้สีเหลืองกับพิธีศักดิ์สิทธิ์ พิธีกรรมที่ใช้การร่ายเวทย์มนต์ การขบเป่าสิ่งชั่วร้าย ดังนั้นคนจีนโบราณเชื่อว่าสี เหลืองจะขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปจากคนที่ร่วมพิธีกินเจ นอกจากนี้สีเหลืองเองคือสีที่เป็นตัวแทนแห่งอำนาจ […]

ความเชื่อคนอินเดีย ตายแล้วไปไหน ?

ความเชื่อคนอินเดีย ตายแล้วไปไหน ?

ความเชื่อคนอินเดีย ตายแล้วไปไหน ? หากเอ่ยถึง ความตาย แน่นอนว่าย่อมเป็นสิ่งที่เราจะต้องเผชิญด้วยตัวเองไม่ว่าวันใดก็วันหนึ่ง คนอินเดียก็มีความเชื่อเกี่ยวกับความตายเหมือนๆกันกับชาติอื่นๆ วันนี้ขอนำเสนออีกหนึ่งความเชื่อของคนอินเดียที่ว่า ตายแล้วไปไหน ?         พิธีการจัดการเกี่ยวกับศพ ซึ่งชาวฮินดูเชื่อว่าว่า ร่างกายเป็นของปฏิกูล เมื่อตายแล้วก็ไร้ประโยชน์วิญญาณออกจากร่างไปสู่ที่อื่น ดังนั้นจึงควรเผาเสีย แต่มุสลิมถือว่าร่างกายเป็นที่อยู่อาศัยของวิญญาณ เมื่อตายแล้ววิญญาณก็ยังสถิตอยู่ การตายของคนเป็นเพียงการพักผ่อนเท่านั้น เมื่อถึงวันก็กลับฟื้นคืนมาอีก ดังนั้นจึงไม่เผาและพยายามสร้างที่ฝังศพให้ดีสวยงาม เช่น อนุสรณ์ทัชมาฮาล เป็นต้น การเผาศพของชาวอินเดียที่เป็นฮินดูว่า มีพิธีตามลำดับ ดังนี้         ก่อนตาย เมื่อรู้ว่าผู้ป่วยกำลังจะสิ้นลมหายใจ ญาติพี่น้องของผู้ป่วย จะยกร่างของผู้ป่วยลงจากเตียงมานอนไว้กับพื้น เชิญพราหมณ์มาสาธยายมนต์ ญาติพี่น้องเริ่มแจกทานแก่คนจน หามูลโคมาฉาบทาพื้นและเอาใบตุลสีหรือกะเพรามาปกคลุมพื้นที่คนป่วยนอนอยู่ ให้คนป่วยนอนคว่ำหน้าลง หันศีรษะไปทางเหนือ เอาน้ำคงคาที่ใส่หม้อมาหยดลงใส่ปาก และพรมตามตัวของผู้ป่วย เมื่อผู้ป่วยสิ้นลมหายใจ ญาติพี่น้องพากันร้องไห้แสดงความอาลัยอาวรณ์และจะถวายวัวแก่พราหมณ์ผู้ทำพิธี ตายแล้ว เมื่อผู้ป่วยสิ้นลมหายใจแล้ว ลูกชาย น้องชาย เพื่อนชาย หรือลูกศิษย์จะโกนผม ญาติพี่น้องร้องไห้ ไม่ยอมทานอาหารหรือทานแต่น้อย คนในครอบครัวจะทำอาหารทานเองไม่ได้ […]

ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับทับทิม ทับทิม ความหมาย ?

ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับทับทิม ทับทิม ความหมาย ?

ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับทับทิม   ทับทิม เป็นสัญลักษณ์ของความมีชีวิตชีวา การยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นเป็นตัวแทนของความรักและการรู้จักกัน กระตุ้นความรู้สึกรักใคร่และการดึงดูดใจระหว่างคู่รักให้เกิดขึ้นได้ดี นากจากนี้ยังทำให้ผู้เป็นเจ้าของเป็นคนไม่เห็นแก่ตัว มองเห็นแสงสว่างแห่งความรักที่เป็นสากล และมีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น ดังนั้นผู้คนจึงมักใช้เป็นตัวแทนแห่งความรักของหญิงและชายใช้เป็นแหวนหมั้น ของขวัญครบรอบแต่งงานในปีสำคัญๆ เช่น ปีที่ 15 ของการแต่งงานหรืออยู่กินร่วมกัน เพราะถือว่าทับทิมคือตัวแทนแห่งความรักอันบริสุทธิ์ คือความรักที่แท้จริง โดยความเชื่อแล้ว คนโบราณเชื่อว่าผู้เป็นเจ้าของทับทิมชิ้นที่มีพลังสูงจะสามารถสื่อสารกับจิตวิญญาณเบื้องสูงหรือสื่อสารกับพลังงานต่างๆ ได้ดี และหากใครสวมใส่แหวนทับทิมติดนิ้วเอาไว้ในยามที่จะเจ็บป่วยหรือจะมีเรื่องร้ายใดๆ ก็ตามเกิดขึ้น หินจะแปล่งแสงแวววาวในความมืด เพื่อเตือนเจ้าของให้ระวังตัวก่อน นอกจากนี้ยังเชื่อว่าจะสามารถช่วยปรับสภาวะการรับรู้ของสติปัญญาให้สูงขึ้น ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ทับทิมได้รับการยอมรับในด้านของความเป็นหินที่นำพาทรัพย์สิน ทำให้การค้ามีผลกำไรหรือรายได้เพิ่มพูนขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปรากฏอยู่ในรูปงูหรือมังกร จะยิ่งเพิ่มพลังอำนาจในการดึงดูดความร่ำรวยได้สูงขึ้น นอกจากนี้แล้ว ทับทิมยังช่วยเสริมสร้างความรัก ความเข้าอกเข้าใจแก่ผู้ที่อยู่ร่วมกัน ช่วยให้ร่างกายและจิตใจกระปรี้กระเปร่า กระตุ้นพลังทางเพศและบำบัดรักษาโรคที่เกี่ยวกับเลือดหรือโรคที่เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ได้ดี ทับทิมเกี่ยวกับความฝันตามความเชื่อของคนโบราณที่ว่าหากใครฝันเห็นทับทิมหรือได้ทับทิมมาไว้ในครอบครองแปลว่าจะได้โชคลาภ หรือได้เงินทองเข้ามาจากทางใดทางหนึ่ง แต่หากฝันว่ามีคนสวมแหวทับทิมให้ หากเป็นคนโสดก็จะได้พบเนื้อคู่และหากแต่งงานแล้วก็จะได้บุตรธิดา     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม. […]

ความเชื่อเรื่องศุกร์สิบสามกับชาวตะวันตก

ความเชื่อเรื่องศุกร์สิบสามกับชาวตะวันตก

ความเชื่อเรื่องศุกร์สิบสามกับชาวตะวันตก   เลขสิบสามกับชาวตะวันออกคงไม่มีความเชื่ออะไรมาก เพราะส่วนใหญ่แล้วจะมีความเชื่อตัวเลขเดี่ยวมากกว่า แต่สำหรับชาวตะวันตกเลขสิบสามมีอิทธิพลกับความเชื่อและทัศนคติในแง่ลบ แล้วยิ่งเกิดในวันศุกร์จะเป็นวันที่ชาวตะวันตกกลัว ทำไม? เพราะเหตุใดบทความนี้  เลขเด็ดออนไลน์ จะอธิบายความน่าสะพรึงกลัวเลขดังกล่าว มีเรื่องเล่าจากชาวคริสตังว่าก่อนที่พระเยซูเสวยอาหารค่ำกับลูกศิษย์สิบสองคน ทรงกล่าวว่าเมื่อรับประทานอาหารมื้อนี้เสร็จจะมีลูกศิษย์หนึ่งคนคิดทรยศบอกศัตรูฝ่ายตรงข้ามจับพระองค์ ในที่สุดพระองค์โดนตรึงที่กางเขนและไม่นานพระองค์สวรรคต ชาวคริสตังเรียกอาหารค่ำมื้อนั้นว่าอาหารค่ำมื้อสุดท้ายหรือ The last supper จนกระทั่งเกิดเป็นความเชื่อในแง่ลบ นอกจากนี้ความเชื่อชาวประมงตะวันตกจะไม่ออกทะเลในวันศุกร์ ชาวตะวันตกมีคติความเชื่อห้ามตัดเล็บตัดผมในวันศุกร์ เช่นเดียวกับคนไทยที่ห้ามตัดผมวันพุธ ชาวอเมริกันกว่ายี่สิบล้านคนมีความเชื่อเกี่ยวกับเลขนี้ และไม่กล้าจะทำอะไรรวมทั้งธุรกรรมทางการเงิน จนกระทั่งมีผู้เปลี่ยนคำเรียกเลขสิบสามว่าลัคกี้นัมเบอร์ ยังมิวายเว้นจะพ้นความน่าสะพรึงกลัว เพราะเกิดอุบัติเหตุมากเป็นพิเศษในวันศุกร์ที่สิบสาม มีเหตุการณ์ในความเชื่อจากคนโบราณเรื่องอีฟกับอดัมโดนไล่ให้ไปเกิดในโลกมนุษย์ในวันศุกร์ การร่วมรับประทานอาหารห้ามมีผู้ร่วมวงสิบสามคน เพราะรับประทานอาหารมื้อนั้นเสร็จจะมีผู้ร่วมวงอาหารอย่างน้อยหนึ่งคนจะต้องตาย ฤาเพราะเหตุการณ์ร้าย ๆเกิดในวันศุกร์และความมีอติกับเลขสิบสามรวมกัน ในร้านอาหารบางแห่งไม่มีโต๊ะอาหารเบอร์สิบสาม โรงแรมบางแห่งไม่มีชั้นสิบสาม สำหรับเลขสิบสามตามหลักเลขศาสตร์แล้ว เลขสิบสามเกิดจากการเรียงเลขหนึ่งคือเลขอาทิตย์มีกำลังแฝงเรื่องความใจร้อน ทะนงตัวชอบเอาชนะผู้อื่น ส่วนเลขสามคือเลขตัวแทนดาวอังคาร เลขมฤตยูเลขที่มีกำลังแฝงเรื่องความแข็งกร้าวไม่อ่อนโยน ส่งผลให้คนเกิดวันอังคารขยันขันแข็ง ทำงานเก่งคิดแล้วลงมือทำทันที เคลื่อนไหวกระฉับกระเฉงไม่เฉื่อยชา ชอบต่อสู้มีความทะเยอทะยานสูง แต่เกลียดใครก็จะเกลียดเข้ากระดูกดำ เมื่อนำเลขทั้งสองมาเรียงเป็นเลขอุบัติเหตุ ผู้ที่ใช้เลขนี้หรือมีเลขนี้อยู่ในชีวิตประจำวัน เป็นต้นว่าเลขสิบสามในเบอร์โทรศัพท์ และยานพาหนะชีวิตจะพบอุบัติเหตุ นอกจากนี้ส่งผลผู้ใช้มีความใจร้อน คิดการใหญ่แต่ขาดความรอบคอบ เดือนใดที่วันแรกเป็นวันอาทิตย์เดือนนั้นจะมีวันศุกร์ที่สิบสาม แต่ชาวไทยไม่ควรจะกังวลใจมากแม้ว่ามีเหตุการณ์น่ากลัวเกิดในวันศุกร์ที่สิบสาม เพราะกำลังเลขกับการเคลื่อนที่ดวงดาวเคราะห์ในระบบสุริยะมีอิทธิพลกับเหตุการณ์เหล่านั้น จงดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ไม่งมงาย ชีวิตจะไม่พบสิ่งชั่วร้าย   […]

ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับตะพาบยักษ์แยงซีเกียง

ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับตะพาบยักษ์แยงซีเกียง

ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับตะพาบยักษ์แยงซีเกียง   ตะพาบยักษ์แยงซีเกียง หรือ ตะพาบเซี่ยงไฮ้ ตะพาบขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งที่ใกล้จะสูญพันธุ์มาก ๆ แล้วชนิดหนึ่งของโลก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rafetus swinhoei (มีชื่อวิทยาศาสตร์อีกชื่อหนึ่งเป็นชื่อพ้อง โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเวียดนามตั้งให้ว่า Rafetus leloii เพื่อเป็นเกียรติแด่จักรพรรดิเลเลย) พบในแม่น้ำแยงซีเกียง ในประเทศจีน และมณฑลยูนนาน นอกจากนี้ยังพบได้ที่แม่น้ำแดง ในประเทศเวียดนามด้วย ตะพาบยักษ์แยงซีเกียง เป็นตะพาบที่มีขนาดใหญ่มาก และเป็นหนึ่งในเต่าน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีส่วนหัว ที่มีจมูกและปากคล้ายหมู ขนาดโตเต็มที่สามารถมีน้ำหนักมากถึง 136 กิโลกรัม ถึง 200 กิโลกรัม ยาวถึง 0.9144 เมตร และมีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 100 ปี สถานะในธรรมชาติใกล้สูญพันธุ์มาก ๆ แล้ว ในสถานที่เลี้ยงปัจจุบันมีเพียง 5 ตัวใน 2 ที่เท่านั้น คือที่สวนสัตว์ในประเทศจีน 4 ตัว และที่ทะเลสาบคืนดาบที่เมืองฮานอย 1 ตัว ปัจจุบันตะพาบน้ำแยงซีเกียงในทะเลสาบคืนดาบยังมีชีวิตอยู่ แต่น้ำในทะเลสาบกลับมีสภาพที่ย่ำแย่ ทั้งยังมีการปล่อยสิ่งปฏิกูลรวมไปถึงเต่าชนิดอื่นเข้าไปทำลายระบบนิเวศของทะเลสาบ […]