ทําบุญยังไงให้ได้บุญ ได้รับอานิสงส์ ครบ 9 ประการ

ทําบุญยังไงให้ได้บุญ ได้รับอานิสงส์ ครบ 9 ประการ

ทําบุญยังไงให้ได้บุญ ได้รับอานิสงส์ ครบ 9 ประการ หากจะกล่าวถึง “การทำบุญ” ย่อมเป็นเรื่องที่ดี ทำแล้วไม่มีคำว่าผลเสียอย่างแน่นอน แต่กลับสร้างแต่ความสบายใจและ ทำให้เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ แต่หลายท่านก็คงจะมีความสงสัยไม่น้อย ว่าแล้วเราจะได้บุญจริงหรือ? แล้วเราจะต้องทำบุญแบบไหน กับอะไร เราถึงจะได้รับ ผลบุญและอานิสงส์ครบ 9ประการ ในวันนี้เรามีคำแนะนำในการทำบุญ 10 ประการแบบง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้มาฝากกันค่ะ ให้อภัย ทำด้วยใจ หากมีสิ่งใดตกค้างขัดขวางอยู่บ้าง ก็สลัดออกไป ให้ด้วยความตั้งใจ ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ทำใจให้ว่าง จิตใจต้องไม่เป็นทุกข์ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน คือวิธีการลดตัวตนชนิดหนึ่ง ไม่ยืดติดว่าเราเป็นใคร เต็มใจช่วยเหลือผู้อื่น มีความปรารถนาดีให้แก่ผู้อื่นเสมอ การตั้งใจฟังธรรมจากพระสงฆ์ที่แสดงธรรม ล้วนเป็นการทำบุญ การมอบความดีให้แก่กันและกันตั้งใจเผื่อแผ่ความดีนั้นไปให้แก่ผู้อื่น ยินดีกับผู้อื่นเป็นการสร้างกำลังใจให้แก่สังคม สลายความอิจฉาจากใจ ไม่ตกนรก นั่งนอนเป็นสุข ใช้สติพิจารณา กิจกรรมที่ผ่านมาในชีวิตแล้ว ทบทวนว่า สิ่งใดดีควรจะเพิ่มเติม มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส น มตฺตํ อาคมิสฺสติ อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ […]

กฎแห่งกรรม มีอยู่จริง " ใครก็หนีไม่ได้ "

กฎแห่งกรรม มีอยู่จริง ” ใครก็หนีไม่ได้ “

กฎแห่งกรรม มีอยู่จริง “ใครก็หนีไม่ได้” เร็วช้าก็ต้องเจอ มนุษย์เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับความเชื่อ และความศรัทราในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ที่ว่าด้วยเรื่องกฏแห่งกรรม และประโยคที่ว่า “กรรมตามสนอง” นี้เรามักได้ยินบ่อยๆตั้งแต่จำความได้ ทว่า เราอาจจะไม่เคยมองเห็นว่า กรรม นั้นคืออะไร และจะมาในรูปแบบไหน แต่สิ่งที่เราควรตระหนักรู้ก็คือ กรรมไม่เคยละเว้นใคร ไม่ว่ากรรมนั้น จะเป็นบุญหรือบาป เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้มากมายในพระไตรปิฎก ถึงที่มาที่ไป เพราะเหตุใดถึงต้องมีชะตาชีวิตแบบนี้ การที่พระพุทธองค์นำมาแสดงไว้ เพื่อให้เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ตระหนักถึงผลของกรรม หรือผลของการกระทำ จะได้ระมัดระวังในการดำรงชีวิต ไม่ไปทำผิดแบบนั้นอีก เพราะผลที่ออกมาก็จะต้องทำให้ชีวิตทนทุกข์ทรมานกันอีกนับไม่ถ้วน กฏแห่งกรรม ทำดี “ย่อม” ได้ดี ทำชั่ว “ย่อม” ได้ชั่ว เราทำกรรมชนิดใดเราก็ได้ผลของกรรมชนิดนั้น ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว นี่คือกฎของกรรม เป็นหลักการกว้างๆ ที่เราจะต้องจำเอาไว้ว่า หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น เรื่องของกฎแห่งกรรมไม่ได้นำมาแสดงให้กลัวจนยอมจำนนต่อกรรมแต่เพื่อให้เราเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพและเพื่อเปลี่ยนโชคชะตาชีวิตให้ดีขึ้นด้วยมือตัวเอง หลักการสำคัญที่เราชาวพุทธทั้งหลายควรตะหนักก็คือ การอยู่ในกาลปัจจุบัน อยู่กับกรรมในปัจจุบันมิใช่ไปยืดติดกับกรรมเก่าในอดีต ไปยอมจำนนต่อกรรมเก่าจนไม่กล้า ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือเปลี่ยนกรรมในปัจจุบันให้ดีขึ้น พร้อมรู้จักระงับกรรมไม่ดีมากมายที่ไม่ควรทำ อันชีวิตของเรานั้น มาจากกรรมลิขิตทั้งสิ้น ไม่ได้มาจากอำนาจอื่นใด […]

สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงไหม? ความเชื่อที่อยู่คู่กับเรา ตลอดมา

สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงไหม? ความเชื่อที่อยู่คู่กับเรา ตลอดมา

สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงไหม? ความเชื่อที่อยู่คู่กับเรา ตลอดมา คำว่า “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ก็คงจะมีมากมายจนนับไม่ถ้วนแล้วแต่ใครจะ “นับถือ” หรือมี “ความเชื่อ” ในสิ่งนั้นๆ วันนี้ก็เลยเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า อะไรกันละ? ที่เขาเรียกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เลยไปหาคำตอบมาจนได้ความหมายของคำว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนี้ มนุษย์เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับความเชื่อ และความศรัทราในพลังอำนาจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งๆที่ยังไม่มีใครเคยรู้หรือเคยเห็นสิ่งเหล่านี้เลยก็ตาม แต่เราทุกคนก็ยังเชื่อว่า สิ่งนั้น เป็นสิ่งที่มีอำนาจที่สามารถให้ทั้งคุณและโทษกับเราได้  เราทุกคนมีความเชื่อและความศรัทรา สือทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ความเชื่อที่ปรากฏอยู่ในสังคมไทยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มของความเชื่อได้ดังนี้ ความเชื่อทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเราทุกคน นับถือพระพุทธศาสนามาตั้งแต่บรรพบุรุษ ความเชื่อจึงมุ่งเน้นไปทาง หลักธรรมคำสอน เช่น ควเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม  ความเชื่อเรื่องตายแล้วเกิดใหม่ ทุกอย่างย่อมเวียนว่ายตายเกิดตามผลแห่งกรรมของตน หรือความเชื่อเรื่องนรก สวรรค์ เป็นต้น 2. ความเชื่อที่เกี่ยวกับวิทยาคม เป็นความเชื่อเรื่องลึกลับที่เหนือธรรมชาติ ไม่สามารถพิสูจน์หรือหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ได้ แบ่งออกเป็น 2เรื่องคือ ความเชื่อเรื่องเวทมนต์คาถา และ ความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลัง 3. ความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อนี้เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเรามาตั้งแต่อดีต ส่วนมากจะมาได้จาก พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง พระเครื่อง ร่วมไปถึงศาลปู่ตา ศาลหลักเมือง ศาลเจ้าพ่อ […]

พ่อแก่พระฤาษี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ควรบูชา ศาสตร์แห่งการแสดง 

พ่อแก่พระฤาษี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ควรบูชา ศาสตร์แห่งการแสดง 

พ่อแก่พระฤาษี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ควรบูชา ศาสตร์แห่งการแสดง ถ้าจะกล่าวถึง ตำนานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มี อิทธิฤทธิ์ มหิทธานุภาพ เน้นไปทางเสริมดวง ส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่ว่าจะเป็นไม้แกะสลัก งาช้างแกะสลัก ดินดิบปั้นลอยองค์ หรือสร้างขึ้นเฉพาะเศียร ล้วนมีความศักดิ์สิทธ์ทั้งนั้น หากใจเราเชื่อและ ศรัทธาในสิ่งๆนั้น ซึ่งคนสมัยโบราณยกย่องให้พ่อพระฤๅษีทุกพระองค์เป็นบรมครูในทุกสาขาอาชีพและศิลปวิทยา  ไม่ว่าจะเป็นความรู้เชิงช่าง นาฏศิลป์ การแสดง หมอยา  หมอนวดจับเส้น ลิเก โขน หนัง เครื่องดนตรีโบราณ ก็ต้องมีพ่อแม่พระฤๅษีเป็นบรมครูทั้งสิ้น ในพิธีกรรมการไหว้ครูประจำปี  หรือก่อการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ก็ต้องไหว้อัญเชิญพ่อแก่พระฤๅษีมาเป็นประธานและการประสิทธิ์วิชาให้บรรดาลูกศิษย์ในพิธีกรรมไหว้ครูทุกคนในพิธีเพื่อเป็นสิริมงคล คำว่า ฤาษี มาจากคำว่า ฤาษิ แปลว่า ผู้เห็นด้วยความรู้พิเศษอันเกิดจากฌาน ซึ่งสามารถแลเห็นอดีตปัจจุบัน และอนาคตได้ บางครั้งก็เรียกพ่อแก่หรือฤาษีว่า “ตฺริกาลชฺญ” แปลว่า ผู้รู้กาลทั้งสาม นอกจากนี้พระฤาษียังถือว่าเป็นผู้ประทานสรรพวิชาความรู้ ทั้งมวลแก่มนุษยชาติ เนื่องด้วยตำราทางโหราศาสตร์ และตำราทางเทววิทยา กล่าวไว้สอดคล้องกันว่า พระพฤหัสบดีถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นอาจารย์แห่งสรรพวิชาความรู้ทั้งมวล วิธีบูชาพ่อแก่ หมากพลู ๙ คำพวงมาลัยของมะลิใส่พานน๊ะตั้งบนหิ่งที่สูง เตรียมนํ้าเปล่าสะอาด […]

อาถรรพ์ แมวดำ

อาถรรพ์ แมวดำ

อาถรรพ์ แมวดำ  เรื่องเล่าหรือแค่ความเชื่อ “ผิดๆ” แมวดำกับผีนับว่าเป็นเรื่องน่ากลัวคู่กับไสยศาสตร์มาตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะคนไทยที่เชื่อว่าหากงานศพใด มีแมวดำเข้ามาเพ่นพ่าน สมควรไล่ไปให้พ้น เพราะหากเจ้าแมวดำดันมากระโดดข้ามโลงศพ มีหวังแขกแตกตื่นวิ่งไปคนละทางสองทาง เหตุเพราะเป็นการปลุกคนตายให้ฟื้นคืน หากเป็นการฟื้นคืนมาพร้อมลมหายใจ คงไม่มีใครเตลิด แต่เพราะเป็นการเรียกวิญญาณให้หวนคืน แถมฟื้นคืนมาคราวนี้จะมาพร้อมความอาฆาตพยาบาท อาละวาดหลอกหลอนคนอื่น หรือว่าจะมาดีก็ยังไม่รู้ เป็นใครก็ต้องวิ่งไปก่อนตามประสาคนกลัวผี ยิ่งโดยเฉพาะในพิธีงานศพ บรรยากาศวังเวงและเต็มไปด้วยความโศกสลดชวนให้ขนลุกขนพองแล้ว หากมีเจ้าแมวดำกับแววตาลุกโชน พร้อมทั้งส่งเสียงกรีดร้องก้องกังวานทั่วศาลาการเปรียญ ในยามที่ทุกคนต่างตกอยู่ในความนิ่ง ก็ยิ่งชวนให้ขนลุกขนพองสยองกันไปใหญ่ แต่เรื่องแมวดำยังคงเป็นเรื่องลี้ลับในบ้านเรา และประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายๆ ประเทศ อย่างในตำนานเก่าแกของอินเดียโบราณ เชื่อกันว่าแมวดำเป็นสัตว์ผี อันเป็นพาหนะของ”พระษัษฐี”ซึ่งคนอินเดียรู้จักกันดีว่าเป็นเทวีแห่งความตาย ของทารก หรือผีแม่ซึ่งประจำตัวเด็กนั่นเอง ว่ากันว่าหากใครเห็นแมวดำที่ไหนในทุกวันที่ 6 มักจะเห็น”พระษัษฐี”ปรากฎกายอยู่ ณ ที่นั่น ซึ่งหมายถึงว่าจะมีเด็กหรือมีคนตายที่นั่นด้วยเช่นกัน มาถึงพิธีศพ ชาวอินเดียจะขับไล่แมวดำที่มาป้วนเปี้ยนออกไป และถ้าหากบังเอิญแมวดำไปโดนศพเข้า ก็เชื่อกันว่าจะกลายเป็นรอยมลทินกับศพนั้นๆไปตลอด นี่คือความเชื่อของชาวอินเดีย ต่อมาเป็นความเชื่อของชาวจีน เชื่อกันว่าหากแมวดำข้ามศพ ศพนั้นจะฟื้นคืนชีพและกลายเป็นผีที่ดุร้าย ซึ่งก็ไม่ต่างจากไทย แต่ที่พิเศษกว่าคือ ต้องเอากรรไกรหรือเหล็กวางไว้บนอกศพ เพื่อเป็นเหมือนตัวการสะกดวิญญาณ ไม่ให้ลุกขึ้นมาเกี้ยวกราด และวิธีการนำกรรไกรมาวางไว้บนอกนั้น ก็ยังพบเห็นในงานพิธีศพของชาวมลายูด้วย   ขอขอบคุณ ข้อมูลและรูปภาพจาก : www.tnews.co.th , horoscope.thaiza.com […]

เรื่องเล่าสยองขวัญ

เรื่องเล่าสยองขวัญ

เรื่องเล่าสยองขวัญ  ประสบการณ์หลอนๆ ที่น่าสะพรึง !! วันนี้ พี่พรายมีเรื่องเล่าประสบการณ์หลอนๆ สยองขวัญ จากทางบ้าน มาแชร์ต่อให้กับเพื่อนๆ ได้สัมผัสความหลอนไปพร้อมๆกันนะคะ พร้อมกันรึยังคะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปหลอนด้วยกันได้เลยคะ โดยปกติแล้ว เราไปหาดใหญ่ค่อนข้างบ่อยค่ะ เพราะมีน้องชายเรียนที่มหาลัยชื่อดังในหาดใหญ่ ไปเช้าเย็นกลับบ้าง ไปนอนค้างคืนบ้างแล้วแต่บริบทค่ะ ซึ่งปกติแล้วครอบครัวเราจะชอบไปนอนโรงแรมๆ นึง เวลาที่ไปหาดใหญ่ แต่ครั้งนั้นเนื่องจากมีเพื่อนเราไปด้วยคนนึง จึงต้องไปพักอีกโรงแรมนึงที่ราคาถูกกว่าซึ่งมี 2 ตึก (ขอสงวนชื่อนะคะ) แถวๆโรงแรมก็มีร้านอาหารค่อนข้างเยอะ โดยพ่อแม่กับน้องชายเรานอนอีกห้องนึงเยื้องๆ ห้องที่เรานอนกับเพื่อนค่ะ ภายในห้องก็จะมีเตียงเดี่ยวสองเตียง ผนังห้องครึ่งบนทาสีเขียวๆ มีโต๊ะกระจก ตู้เสื้อผ้าที่ค่อนข้างเก่า และมีทีวีรุ่นจอนูนสมัยก่อนเล็กๆ แขวนบนผนังค่ะ ซึ่งตั้งแต่เข้าไปในห้องก็รู้สึกหลอนแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ทุกครั้งเวลาเราเดินทาง เราจะใส่พระติดตัวไปไหนด้วยเสมอ ทั้งระวังเรื่องการเดินทาง และเราเป็นคนมีเซนส์ค่ะ เคยเจอแบบต่อหน้าแค่ครั้งเดียวตอนเด็กๆ โตมาก็โดนอำบ่อยค่ะ แต่ชอบคิดว่าไม่มีอะไร คิดไปเองตลอด 555 ซึ่งไปหาดใหญ่ครั้งนี้นึกยังไงไม่รู้ ไม่ใส่พระไปค่ะ เพราะวันนั้นใส่เสื้อโชว์คอนิดหน่อย ถ้าเห็นสร้อยพระที่เป็นเชือกคงไม่สวย เลยแขวนไว้กับหิ้งพระที่บ้านค่ะ  กลางวันก็เที่ยวนู่นนี่ปกติตามประสา พอค่ำก็กลับโรงแรมมานอนค่ะ โดยเตียงที่เรานอนจะติดตู้เสื้อผ้า ส่วนเตียงที่เพื่อนเรานอนติดห้องน้ำ เพื่อนเราไม่สบายหัวถึงหมอนก็หลับไปเลยค่ะ ส่วนเราก็ดูทีวีไปเรื่อย ไม่กล้าปิดไฟนอนค่ะ […]

10 เรื่องราวลี้ลับ รวมความเชื่อต้องห้ามที่คนโบราณถือ!! 

10 เรื่องราวลี้ลับ รวมความเชื่อต้องห้ามที่คนโบราณถือ!! 

ถ้าจะกล่าวถึงความเชื่อ หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินคำบอกเล่า คำติเตือนหรือคำสอน จากคนเฒ่าคนแก่ในบ้านว่า ห้ามทำอย่างนั้น ห้ามทำอย่างนี้!! บางท่านอาจจะรู้สึกไม่เชื่อ รู้สึกรำคาญ แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า ภายใต้คำเตือนเหล่านั้น มันแฝงไปด้วยความหวังดี เพราะไม่อยากให้ลูกๆหลานๆได้รับอันตรายจาก เรื่องลี้ลับ ไทย พวกนี้ก็เป็นได้ ซึ่งบางเรื่องก็อาจจะเชื่อได้ บางเรื่องก็ควรรู้เอาไว้บ้างก็ไม่เสียหายนะคะ ซึ่งวันนี้ทางเว็บของเราได้รวมรวมเรื่องลี้ลับต่างๆ ที่น่าสนใจมาเล่าไว้ให้ทุกท่านได้ลองทำความเข้าใจไปพร้อมกันคะ 10 เรื่องราวลี้ลับ อันน่าพิศวงไม่เชื่อ…อย่าหลบหลู่ หากเมื่อใดก็ตามที่ระจกในบ้านเเตกหรือร้าว โบราณว่าไม่ให้เก็บกระจกหรือเศษกระจกไว้ในบ้าน ให้นำไปทิ้ง เพราะเชื่อว่า กระจกที่เเตกหรือร้าว เป็นลางร้ายเกี่ยวกับคนในครอบครัวอาจทำให้คนในครอบครัวมีการทะเลาะเบาะเเว้ง กัน อยู่กันอย่างไม่เป็นสุข เเละอาจเกิดอันตรายจนถึงเลือดตกยางออกได้ 2. ไม่ควรตั้งกระจกให้ตรงกับปลายเตียงนอน เพราะคนในสมัยโบราณ เชื่อเรื่องพิธีกรรมเกี่ยวกับกระจกว่า มันสามารถสะท้อนภาพคนที่ตายไปเเล้ว ออกมาจากกระจก ดังนั้นผู้ที่นอนอยู่บนเตียงจึงมักจะนอนฝันร้าย เเละมักจะนอนไม่ค่อยหลับ เพราะมีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีเงาของใครบางคนคอยจ้อง มองอยู่ตลอดเวลา 3. กลางคืนได้ยินเสียงร้องเรียกห้ามขานรับ ในสมัยก่อนโบราณจึงกล่าวว่า หากปิดบ้านแล้วมีเสียงคนมาร้องเรียก ให้เงียบเสีย เพราะนั่นเป็นเสียงของดวงวิญญาณ ที่อาจจะมาหลอกมาหลอนก็เป็นได้ หากขานรับจะทำให้วิญญาณนั้นเข้ามาในบ้านได้ 4. ตาเขม่น  จะแบ่งออก เป็น 3 ช่วงคือ […]