ความเชื่อเรื่องการเหยียบลูกนาว เสี่ยงทายหาชัยชนะ

ความเชื่อเรื่องการเหยียบลูกนาว เสี่ยงทายหาชัยชนะ

ความเชื่อเรื่องการเหยียบลูกนาว   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อเรื่องการเหยียบลูกนาว (มะนาว) เสี่ยงทายหาชัยชนะ มาฝากกัน เหยียบลูกนาว / ถีบลูกนาว เป็นพิธีทางไสยาศาสตร์และการเสี่ยงทายในการแข่งขันหรือประชันโนรา พิธีกรรมเหยียบลูกนาวเป็นการตัดไม้ข่มนามของโนราคู่แข่งขัน (ฝ่ายตรงข้าม) พิธีเหยียบลูกนาว (มะนาว) จะทำติดต่อกับการเฆี่ยนพราน คือ หลังจากเฆี่ยนพรานแล้ว พรานจะนำมะนาวมา 3 ลูก วางบนพื้น มะนาวนี้เป็นตัวแทนโนราฝ่ายตรงข้าม (คู่แข่ง) ที่ลูกมะนาวจะลงอักขระชื่อโนราฝ่ายตรงข้ามไว้ ขณะที่รำเครื่องดนตรีเชิด โนราใหญ่หรือนายโรงจะรำด้วยท่าต่าง ๆ แล้วทำท่าจะเหยียบแต่ไม่เหยียบแล้วรำต่อไป   พวกลูกคู่และคนดูก็ตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน เพราะจะดูว่าโนราใหญ่จะเหยียบมะนาวแตกหรือไม่ เพราะถ้าแตกก็เป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจด้วย โนราใหญ่คงรำไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็จะเหยียบมะนาวแบบกระทืบให้แตก อาจจะเหยียบทีละลูกติดต่อกันไป หรืออาจเหยียบลูกแรก แล้วรำต่อไปสักครู่ก็มาเหยียบลูกที่ 2 รำต่อไปสักครู่ก็มาเหยียบลูกที่ 3 ก็ได้   ถ้ามะนาวแตกกระจายทุกลูก ลูกคู่คณะโนราและคนดูที่ ถือโนราโรงนั้นก็จะโห่ร้องดีใจ ถ้าเหยียบไม่แตกหรือพลาดเพราะมะนาวลื่นก็จะเสียใจ       ติดตามอ่านความเชื่อ […]

ความเชื่อเกี่ยวกับ พืชผักพื้นบ้านด้านประเพณี และพิธีกรรม

ความเชื่อเกี่ยวกับ พืชผักพื้นบ้านด้านประเพณี และพิธีกรรม

ความเชื่อเกี่ยวกับ พืชผักพื้นบ้านด้านประเพณี และพิธีกรรม   บทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะนำเสนอให้ท่านได้ทราบเกี่ยวกับความเชื่อ เกี่ยวกับ “พืชผักพื้นบ้าน” ประเพณีและพิธีกรรมในท้องถิ่นหลายอย่างที่ยังนำพืชผักมาเกี่ยวข้อง ที่พบเห็นกันโดยทั่วไปคือประเพณีสงกรานต์ที่นิยมนำส้มป่อยมาใส่ในน้ำเพื่อใช้สรงน้ำพระพุทธรูป และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อขอพรและขอขมาลาโทษ อีกทั้งเชื่อว่า ส้มป่อย จะช่วยปลดปล่อยสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายให้ออกไป นอกจากนี้ยังมีขมิ้น (เรียกน้ำขมิ้นส้มป่อย) ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยได้ใช้แล้ว ขมิ้นนั้นเชื่อว่าเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า (พระสงฆ์ที่นุ่งเหลืองห่มเหลือง) ถือว่าเป็นสิริมงคล   ผักพื้นบ้านกับชีวิตคนไทย ธรรมชาติเป็นวงจรและสายใยที่ซับซ้อน พึ่งพาอาศัยกันระหว่างสรรพชีวิต ชีวิตคนไทยสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับวงจรธรรมชาติอย่างใกล้ชิด คนไทยรุ่นเก่าได้สังเกตธรรมชาติและได้อาศัยป่าธรรมชาติเป็นแหล่งอาหารความหลากหลายของพรรณไม้ในธรรมชาติ ผ่านการลองผิด ลองถูก และจำแนกได้ว่าเป็นต้นไม้ที่กินได้และต้นไม้ที่กินไม่ได้ ต้นไม้ที่กินได้หรืออาจเรียกได้ว่า “ผักพื้นบ้าน” ผักพื้นบ้านเป็นต้นไม้ที่มีในป่าธรรมชาติและนำมาบริโภคเป็นผัก คนไทยในแต่ละภาคจะรู้จักและมีวิธีบริโภคผักพื้นบ้านที่มีแบบแผนเฉพาะ ผักพื้นบ้านชนิดใดได้รับความนิยมชาวบ้านมิเพียงเก็บจากธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังนำมาปลูกไว้ใกล้บ้านเพื่อการบริโภคในครอบครัว และนำไปจำหน่ายในท้องตลาดหากมีเหลือพอ   คนไทยมีแบบแผนการบริโภคผักพื้นบ้านที่สัมพันธ์กับฤดูกาลของธรรมชาติ เพราะเหตุที่ผักพื้นบ้านเป็นพืชพันธ์ที่เติบโตตามธรรมชาติและตามฤดูกาล ต้นไม้ที่เป็นผักพื้นบ้านชนิดเป็นต้นไม้ยืนต้นบางชนิดเป็นไม้ล้มลุก หรือไม้เถา และส่วนของต้นไม้ที่คนไทยรับประทานเป็นผักพื้นบ้านมีหลายส่วนตั้งแต่ เหง้า ลำต้น ใบ ยอดผลอ่อนและเมล็ด ส่วนของต้นไม้เหล่านี้จะออกยอดให้ลูก ให้ดอกในช่วงฤดูกาล เช่นหน้าฝนจะมียอดตำลึง ดอกกระเจียวแดง ผักแพรว หน้าหนาวมียอดผักปลัง ผักพาย ส้มป่อย […]

พิธีกรรมและความเชื่อโบราณ เมื่อต้องนำศพไปวัด

พิธีกรรมและความเชื่อโบราณ เมื่อต้องนำศพไปวัด

พิธีกรรมและความเชื่อโบราณ เมื่อต้องนำศพไปวัด   บทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะนำเสนอให้ท่านได้ทราบเกี่ยวกับความเชื่อของ การเคลื่อนย้ายศพ ไม่ว่าจะเพื่อนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด เคลื่อนศพจากบ้านไปเผา มีธรรมเนียมปฏิบัติดังนี้ หากเป็นการตั้งศพสวดอภิธรรมที่บ้าน ในวันเคลื่อนศพไปเผาที่วัด เจ้าภาพจะนิมนต์พระสงฆ์มาฉันเช้าที่บ้าน ส่วนใหญ่นิยมนิมนต์เพียง ๔ รูปหรือตามต้องการ แต่เมื่อฉันเช้าเสร็จแล้วนิมนต์พระเพียง ๔ รูปทำหน้าที่จูงศพไปวัด หากมีลูกหลานผู้ตายบวชเณรหน้าศพ ก็ให้มาร่วมจูงศพด้วย โดยเดินต่อจากพระ หากต้องการนำศพไปตั้งสวดอภิธรรมที่วัด ก็ให้พระมาจูงศพเช่นเดียวกัน หลังจากที่สัปเหร่อทำพิธีนำศพใส่โลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หากมืดค่ำกะทันหัน ก็อาจตั้งศพไว้ที่บ้านคืนหนึ่ง ครั้นรุ่งเช้าจึงค่อยนิมนต์พระมาฉันเช้าแล้วจูงศพไปวัด    การเคลื่อนขบวนศพ ในการเคลื่อนขบวนศพนั้น ให้ลูกหลานของผู้ตายถือกระถางธูป และรูปของผู้ตายนำหน้าต่อมาจึงเป็นพระสงฆ์ ๔ รูป ถือสายสิญจน์ที่ต่อมาจากการมัดตราสังศพ และโยงออกมาหน้าโลงซึ่งสัปเหร่อได้จัดเตรียมไว้ไห้แล้ว สายสิญจน์ที่ให้พระจับเวลาสวดศพทุกคืนก็ใช้เส้นเดียวกันนี้ สำหรับญาติพี่น้องคนอื่นๆ ก็ช่วยกันแยกโลงศพ หรือนำศพตั้งไว้บนรถเข็นช่วยกันเข็นประคองตามกันไปเป็นขบวน เดินไว้อาลัยไปตลอดทางจนกว่าจะถึงวัด หากวัดอยู่ไกลจะใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเคลื่อนศพก็ได้ หากไม่ต้องการนำรถของตนเองมาขนศพเพราะเชื่อเกี่ยวกับโชคลาง ก็สามารถขอเช่ารถของทางวัดหรือมูลนิธิได้     การนำศพออกจากบ้าน เมื่อจะเริ่มเคลื่อนศพ ตามคติโบราณจะไม่ยกศพออกทางประตูเหมือนคนปกติ และไม่ให้ศพลอดใต้ขื่อ บางทีก็ต้องรื้อฝาบ้านข้างหนึ่งเพื่อนำศพออกก็มี ทั้งนี้เพราะเรือนสมัยก่อนประตูค่อนข้างเล็กและขื่อเตี้ย การยกศพต้องช่วยกันหลายคนจึงเบียดเสียดไม่สะดวก ฝากระดานของบ้านสมัยก่อนสามารถถอดออกได้สะดวก เพราะใช้วิธีเข้าลิ่มไม่ได้ทำตายตัวเหมือนปัจจุบัน […]

ความเชื่อ นอนโลงศพแก้เคล็ด สะเดาะเคราะห์ พิธีกรรมต่อดวงชะตา !!

ความเชื่อ นอนโลงศพแก้เคล็ด สะเดาะเคราะห์ พิธีกรรมต่อดวงชะตา !!

ความเชื่อ นอนโลงศพแก้เคล็ด   นอนโลงศพ สะเดาะเคราะห์ถือเป็นพิธีกรรมต่อดวงชะตาโดยการนอนในโลงศพ ที่มีความเชื่อกันว่าการนอนโลงศพ เป็นการแก้เคล็ดต่ออายุและช่วยให้พ้นเคราะห์ สำหรับจุดประสงค์ของการจัดพิธีนอนโลง ไม่เพียงเพื่อการสะเดาะเคราะห์ หากแต่ยังต้องการสื่อให้ทุกคนเห็นถึงสัจธรรมความจริงว่า ที่สุดแล้วว่าทุกคนย่อมหนีไม่พ้นความตาย การประกอบพิธีจึงเปรียบเสมือนการฝึกตายก่อนตายจริง การนอนโลงศพสะเดาะเคราะห์จากความเชื่อถือเป็นการต่อชะตา พิธีสืบชะตา เป็นพิธีกรรมหนึ่งที่กระจายอยู่ในวัฒนธรรมแถบเอเชีย โดยเฉพาะในหมู่ชาวพุทธ ทั้งชาวไทย จีน ไปจนถึงทิเบต รูปแบบประเพณี ก็แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของท้องถิ่น ส่วนในชาวไทยเชื้อสายจีน เรียกพิธีสืบชะตาต่ออายุนี้ว่า ” พิธีแซกี ” คือ การทำสุสานที่ฝังหลอก โดยที่เจ้าของหลุมยังไม่ตาย แต่มีการนำสิ่งของบางอย่างตามความเชื่อ เอาไปฝังไว้ในสุสานแทนตัวเอง สำหรับพิธีการนอนโลงศพสะเดาะเคราะห์นั้นโดยส่วนใหญ่ จะใช้เวลาแต่ละครั้งประมาณ 5 นาที โดยพระสงฆ์ที่นิมนต์มาจำนวน 4 รูป จะสวดบังสุกุลตายให้ผู้ที่นอนในโลงศพ จะหันหัวไปทิศตะวันตก และกลับหัวมาทิศตะวันออก พระจะสวดบังสุกุลเป็น พร้อมให้ศีล ให้พร โดยทางวัดได้นำโลงศพใบเก่าไปทำพิธีฌาปนกิจตามประเพณี เพื่อให้สิ่งชั่วร้าย และสิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง ให้มอดไหม้ไปกับกองไฟ จากนั้นเปลี่ยนโลงศพใบใหม่มาใช้ทำพิธีให้ญาติโยมตลอดปี   ประโยชน์ของการให้ฝึกตายทุกวันหรือหัดตายเสียตั้งแต่ยังไม่ตาย ในทางพระพุทธศาสนา มีคำสอนให้มองเห็นตัวเอง แตกออกเป็นชิ้นหยาบ เพื่อให้เห็นเป็นอนิจจังและอนัตตา จนกระทั่งคลายจากความยึดมั่นในตัวตน การฝึกให้มีความรู้สึกว่าตายทั้งที่ยังไม่ตาย ได้ทำให้เกิดปัญญาแล้ว ศาสนาพุทธยังสอนให้คนเราไปร่วมแสดงความเสียใจต่อบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว […]