ความเชื่อเรื่องสร้อยข้อมือนำโชค ประวัติความเป็นมา

ความเชื่อเรื่องสร้อยข้อมือนำโชค ประวัติความเป็นมา

ความเชื่อเรื่องสร้อยข้อมือนำโชค   “Bracelet” หมายถึง สร้อยข้อมือ ส่วน “Charm” นั้นหมายถึงเครื่องราง หรือเวทย์มนตร์ หรือความเสน่หา ดังนั้น “Charm Bracelet” อาจเป็นได้ทั้งสร้อยข้อมือแห่งความเสน่หา สร้อยข้อมือโชคราง และแม้แต่สร้อยข้อมือที่ระลึก แต่ท้ายสุดก็คือ ผู้สวมใส่สร้อยข้อมือดังกล่าวล้วนมุ่งหวังในความรู้สึกดีๆ มีมงคลและนำโชคแทบทั้งสิ้น การประดับสร้อยข้อมือของผู้หญิง มักมีการออกแบบด้วยรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปตามรสนิยม แต่เหมือนกันตรงที่จะนำวัสดุต่างๆที่พึงใจมาร้อยกันเป็นเหมือนสายโซ่ขนาดเล็กเพื่อเป็นเครื่องประดับบนข้อมือ ประวัติที่มาของสร้อยข้อมือนำโชค มีจารึกย้อนหลังไปถึงสมัยอียิปต์โบราณที่มีการค้นพบสร้อยข้อมือของผู้หญิงอียิปต์ สร้อยข้อมือดังกล่าวมีพรรณาถึงชีวิตของผู้เป็นเจ้าของบ้าน อาชีพ จำนวนสมาชิกในครอบครัว ฯลฯ รวมไปถึงความสุขในชีวิตหลังความตาย หากเป็นสร้อยข้อมือแบบเครื่องรางก็จะใช้สวมใส่เพื่อป้องกันจากความชั่วร้าย หรือเพื่อความพึงพอพระทัยจากสุริยะเทพรา (Ra) ผู้เป็นเทพสูงสุดแห่งไอยคุปต์ ในช่วงระหว่างยุคกลางของยุโรป บรรดาอัศวินก็จะสวมใส่ตราสัญลักษณ์เครื่องรางประดับไว้กับตัวเพื่อบ่งบอกถึงวงศ์ตระกูลและยศตำแหน่ง ในประเทศอังกฤษสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 สมเด็จพระราชินีวิคตอเรียจะนิยมประดับข้อมือด้วยสร้อยข้อมือนำโชคแบบต่างๆอยู่เป็นประจำ อันนำไปสู่ความนิยมของสุภาพสตรีชั้นสูงในสมัยนั้น ในสหรัฐอเมริกายุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ช่วงประมาณต้นค.ศ.1950 หญิงสาวชาวอเมริกาต่างพากันตื่นตัวและหลงใหลในสร้อยข้อมือนำโชคกันอย่างมาก พวกเธอมุ่งมั่นตั้งใจประดับประดาด้วยสร้อยข้อมือแบบแปลกๆและนิยมเก็บสะสมไว้เป็นคอเลคชั่นส่วนตัวอีกด้วย ความนิยมในสร้อยข้อมือนำโชคที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น เกิดจากการที่บิดาหรือสามีของเธอนำของฝากจากแดนไกลในทะเลแปซิฟิกมาให้ ซึ่งต่างนำมาจากสถานที่ที่ทหารประจำการในช่วงสงคราม ครั้นสงครามยุติลง ของประดับชิ้นเล็กๆที่สวยงามแปลกตา จึงกลายมาเป็นแฟชั่นบนข้อมือของเธอไปโดยปริยายและยังนำสมัยติดต่อความนิยมมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ความเชื่ออื่นที่แตกต่าง: สร้อยข้อมือนำโชคยอดนิยมที่สุดของหญิงสาว ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งสร้อยคอหรือสร้อยข้อมือก็คือ สร้อยที่เรียกว่า […]