3 วิชาสมัยโบราณ เรียนแล้วฟันแทงไม่เข้า

3 วิชาสมัยโบราณ เรียนแล้วฟันแทงไม่เข้า

3 วิชาสมัยโบราณ เรียนแล้วฟันแทงไม่เข้า   บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ มาให้อ่านกัน วิชาบางอย่างที่คนโบราณคิดค้นไว้เริ่มจะสูญหายไปตามกาลเวลา อย่างวิชาคงกระพันชาตรีอาวุธร้ายมิอาจโจมตี เพราะสมัยก่อนบ้านเมืองมีศึกสงคราม นักรบไทยโบราณต้องใช้ดาบ มีด สิ่งมีคมขับไล่ข้าศึกที่มารุกราน แต่วิชาที่ว่าเริ่มจะสูญหายไป เรื่องฟันแทงไม่เข้า จริงหรือไม่   สมัยอยุธยาเป็นราชธานีในแผ่นดินของพระนารายมหาราช ประวัติศาสตร์ได้บันทึกว่าเคยส่งพระยาโกษาธิบดี(ปาน) ราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสได้นำทหารที่มีรอยสักติดตามไปประมาณสิบกว่าคนแล้วได้แสดงความคงกระพันด้วยการให้ทหารฝรั่งเศสใช้ปืนไฟยิงเข้าที่ผิวหนังแต่ไม่ระคายผิว สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช มีการบันทึกว่าวิชานี้ใช้กันอย่างแพร่หลายเช่นกัน เพราะพวกวีรชนคนกู้ชาติกู้แผ่นดินได้ใช้วิชานี้ปกป้องพระเจ้าตากและกอบกู้เอกราช เมื่อหกสิบปีก่อนมีการบันทึกว่าคนไทยรุ่นพ่อ และนักเลงรุ่นเก่า ๆ ยังใช้วิชานี้ป้องกันตัววิชาที่ว่ามีที่มาจากการที่ผู้เรียนไปฝากตัวที่สำนักแล้วอาจารย์จะเลือกวิชาใช้กับผิวหนัง มีสามวิชาจาก สามวิธีคือ          สักยันต์ สมัยก่อนมีการใช้หมึกลงอาคมผ่านอักขระสีดำจนเป็นรูปรอยสักยันต์ตามผิวตรงแผ่นหลัง บริกรรมบทสวดขณะลงตัวอักขระ ตัวอักขระมีลักษณะเป็นระเบียบรวมกันเป็นรูปยันต์ต่างกัน แต่ละอาจารย์ บางสำนักเน้นรูปเสือ แต่บางสำนักจะใช้รูปงู และพญาอินทรีย์ วิชาที่ว่ามีการใช้มาจนกระทั่งวันนี้ โดยที่อาจารย์แต่ละสำนักจะนัดมาปลุกเสกซ้ำจนมีการแสดงอาการตามชนิดสัตว์ที่สักยันต์ เสกของขลัง สำหรับนักรบบางคนที่ต้องการความเชื่อมั่นในความคงกระพัน เวลาออกรบแล้วข้าศึกจะฟันแทงไม่เข้า จะเลือกตะกรุด หวายลูกนิมิต ที่ลงอาคมจากสำนักอาจารย์ที่มีชื่อเสียงแล้วนำมาห้อยไว้กับตัว แล้วแต่อาจารย์จะกำหนดให้ผูกติดไว้ที่ใด บางอาจารย์แนะนำให้ห้อยไว้ที่คอ บั้นเอว และการห่อผ้าแล้วผูกไว้ที่แขน เสกว่าน […]

ความเชื่อเรื่องคงกระพันชาตรี มีจริงหรือแค่เรื่องเล่า

ความเชื่อเรื่องคงกระพันชาตรี มีจริงหรือแค่เรื่องเล่า

ความเชื่อเรื่องคงกระพันชาตรี มีจริงหรือแค่เรื่องเล่า   บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อเรื่องคงกระพันชาตรี มาให้ได้อ่านกัน มีเรื่องเล่าว่าสมัยโบราณมีนักรบที่ฟันแทงไม่เข้า อยู่ยงคงกระพันเรื่องนี้จริงหรือไม่ และพวกเขาใช้วิธีอย่างไรกับร่างกายของพวกเขาบ้าง วันนี้ เราจะมาให้ความกระจ่าง   เรื่องมันมีอยู่ว่าครั้งหนึ่งสมัยอยุธยาเป็นราชธานีในแผ่นดินของพระนารายมหาราช ประวัติศาสตร์ได้บันทึกว่าเคยส่งพระยาโกษาธิบดี(ปาน) ราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสได้นำทหารที่มีรอยสักติดตามไปประมาณสิบกว่าคนแล้วได้แสดงความคงกระพันด้วยการให้ทหารฝรั่งเศสใช้ปืนไฟยิงเข้าที่ผิวหนังแต่ไม่ระคายผิว ทหารเสือพระเจ้าตาก ก็มีวิชานี้เช่นกัน และพวกวีรชนเหล่านั้นได้ใช้วิชานี้ปกป้องพระเจ้าตากและกอบกู้เอกราช นอกจากนี้นักเลงรุ่นเก่า ๆ ยังใช้วิชานี้ป้องกันตัวอีกเช่นกัน     วิชานี้มีที่มาที่ไปผู้เรียนวิชานี้ใช้วิธีแรก คือลงอาคมผ่านอักขระสีดำจนเป็นรูปรอยสักยันต์ตามผิวตรงแผ่นหลัง ตัวอักขระมีลักษณะเป็นระเบียบรวมกันเป็นรูปยันต์ต่างกัน แต่ละสำนักอาจารย์ วิธีที่สองคือใช้ของขลัง คือตะกรุด หวายลูกนิมิต ที่ลงอาคมจากสำนักอาจารย์มาไว้กับตัว วิธีสุดท้ายใช้ว่านบางชนิด อย่างว่านไพลดำ ว่านนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่ใช้ในการนี้จะต้องมีศีลขั้นสูงมีลักษณะเป็นไม้พวกเหง้า สำต้นแบบไพล หัวว่านสีม่วงกลิ่นฉุน ก้านใบสีเข้มออกดำ ลำต้นสูงใบเรียว ดอกเหลือง วิธีใช้เหง้าตากแห้งบดละเอียด สำนักอาจารย์จะขูดขีดตัวหนังสือประจำองค์เทพประจำสำนักอาจารย์และนำผงนี้ผสมน้ำมันว่านลูบลงบนผิว จะคงกระพันชาตรี ทั้งนี้จะต้องทำการบริกรรมโดยผู้ทรงศีลเท่านั้น สุดท้ายผู้ที่ได้รับการบริกรรมจะฟันแทงไม่เข้า เมื่อต้องอาญาแผ่นดินก็จะต้องประหารชีวิตแบบวิธีพิสดารโดยใช้หลาวเสียบทวารเท่านั้น         ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว […]