หลงป่าไม่ตาย !! คนโบราณสอนวิธีเอาตัวรอด ออกจากป่า

หลงป่าไม่ตาย !! คนโบราณสอนวิธีเอาตัวรอด

หลงป่าไม่ตาย !! คนโบราณสอนวิธีเอาตัวรอด

 

วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ ที่ใช้สอนลูกหลาน มาให้อ่านกัน มีข่าวตามสื่อเรื่องการหลงป่าอยู่บ่อย ๆ สมัยก่อนเองเคยมีการหลงป่าเช่นกัน อยากทราบไหมว่าคนโบราณสมัยก่อนมีความเชื่อเรื่องวิธีเอาตัวรอดในป่าอย่างไร

 

อันดับแรก ตั้งสติขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา เนื่องจากคนโบราณเชื่อว่าการหลงป่าคือการที่เจ้าป่าเจ้าเขาไม่พอใจ ต้องการที่จะลงโทษคนเข้าป่าแล้วเผลอไปล่วงเกิน ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ เจ้าป่าเจ้าเขาบดบังตาดลใจให้หลงป่า ใครเข้ามาตามจะหาไม่เจอทั้งที่อยู่ใกล้ ๆ ฉะนั้นการขอขมาคือทางออกที่ดีที่สุด คนสมัยก่อนจะตั้งนะโมสามจบ แล้วสวดว่า อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง ขอขมาแด่พระแม่คงคา พระแม่ธรณี พระภูมิ เนื่องจากเจ้าป่าเจ้าเขาคือวิญญาณคนที่มีความรักความผูกพันต่อป่า เวลาตายไปแล้วจะไม่ยอมไปไหนจึงอาศัยป่าไม้สิงอยู่

 

ผูกนั่งร้าน นอนบนที่สูง คนโบราณเชื่อว่าการหลงป่า เมื่อเจ้าป่าเจ้าเขายังไม่เปิดทางให้ออก คนที่หลงยังคงต้องอาศัยป่าอยู่ก่อน เวลานอนสิ่งที่ต้องระวังที่สุดคือวิญญาณเสือสมิง ที่จะมาในร่างมนุษย์ ฉะนั้นคนเฒ่าคนแก่สมัยก่อนและพรานป่าจะแนะนำว่า ให้นอนในที่สูงยามอยู่ในป่ามีเสียงเรียกยามกลางคืนอย่าลงเด็ดขาด

 

สังเกตทิวไม้ ใครที่หลงป่าคนโบราณจะแนะนำว่าควรเดินขึ้นที่สูงชายเขาอยู่ที่ไหนให้ยึดที่นั่นตลอด เพราะสุดชายเขาจะมีลำธารเสมอ เมื่อใดที่มีลำธารย่อมมีชาวบ้าน ชาวป่า เนื่องจากพวกเขาจะอาศัยบ้านติดลำธาร

 

รากไม้ เนื่องจากธรรมชาติรากไม้ลู่ไปทางไหน คนโบราณว่าคือทางน้ำแน่นอน เมื่อเดินตามรากไม้ที่ลู่ไปจะพบแม่น้ำ และปลายน้ำจะมีชาวบ้านอยู่อาศัย คราใดที่หลงป่าอย่าเพิ่งตกใจตั้งสติ แล้วสังเกตรากไม้ตามพื้นดินก่อนเสมอ

 

สรุป : การหลงป่าคือการที่ผู้เข้าไปในป่าแล้วต้องการจะหาทางออกแต่หาไม่เจอ คนโบราณเชื่อว่าเพราะเจ้าที่เจ้าทางบดบังตาทั้งผู้หลงและผู้ค้นหา มาจากสาเหตุไปล่วงเกิน ฉะนั้นการเข้าป่าแต่ละครั้งอย่าส่งเสียงดัง เวลานอนยามกลางคืนมีเสียงคนเรียกหาอย่าหลงเชื่อ ตั้งสติขอขมากรรม เชื่อว่าไม่นานจะรอดชีวิตออกมาได้

 

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

เครดิต : thaiza.com

ภาพ : Pixabay

เรื่องน่าสนใจ

ความเชื่อเกี่ยวกับ พืชผักพื้นบ้านด้านประเพณี และพิธีกรรม

ความเชื่อเกี่ยวกับ พืชผักพื้นบ้านด้านประเพณี และพิธีกรรม

ความเชื่อเกี่ยวกับ พืชผักพื้นบ้านด้านประเพณี และพิธีกรรม   บทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะนำเสนอให้ท่านได้ทราบเกี่ยวกับความเชื่อ เกี่ยวกับ “พืชผักพื้นบ้าน” ประเพณีและพิธีกรรมในท้องถิ่นหลายอย่างที่ยังนำพืชผักมาเกี่ยวข้อง ที่พบเห็นกันโดยทั่วไปคือประเพณีสงกรานต์ที่นิยมนำส้มป่อยมาใส่ในน้ำเพื่อใช้สรงน้ำพระพุทธรูป และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อขอพรและขอขมาลาโทษ อีกทั้งเชื่อว่า ส้มป่อย จะช่วยปลดปล่อยสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายให้ออกไป นอกจากนี้ยังมีขมิ้น (เรียกน้ำขมิ้นส้มป่อย) ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยได้ใช้แล้ว ขมิ้นนั้นเชื่อว่าเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า (พระสงฆ์ที่นุ่งเหลืองห่มเหลือง) ถือว่าเป็นสิริมงคล   ผักพื้นบ้านกับชีวิตคนไทย ธรรมชาติเป็นวงจรและสายใยที่ซับซ้อน พึ่งพาอาศัยกันระหว่างสรรพชีวิต ชีวิตคนไทยสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับวงจรธรรมชาติอย่างใกล้ชิด คนไทยรุ่นเก่าได้สังเกตธรรมชาติและได้อาศัยป่าธรรมชาติเป็นแหล่งอาหารความหลากหลายของพรรณไม้ในธรรมชาติ ผ่านการลองผิด ลองถูก และจำแนกได้ว่าเป็นต้นไม้ที่กินได้และต้นไม้ที่กินไม่ได้ ต้นไม้ที่กินได้หรืออาจเรียกได้ว่า “ผักพื้นบ้าน” ผักพื้นบ้านเป็นต้นไม้ที่มีในป่าธรรมชาติและนำมาบริโภคเป็นผัก คนไทยในแต่ละภาคจะรู้จักและมีวิธีบริโภคผักพื้นบ้านที่มีแบบแผนเฉพาะ ผักพื้นบ้านชนิดใดได้รับความนิยมชาวบ้านมิเพียงเก็บจากธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังนำมาปลูกไว้ใกล้บ้านเพื่อการบริโภคในครอบครัว และนำไปจำหน่ายในท้องตลาดหากมีเหลือพอ   คนไทยมีแบบแผนการบริโภคผักพื้นบ้านที่สัมพันธ์กับฤดูกาลของธรรมชาติ เพราะเหตุที่ผักพื้นบ้านเป็นพืชพันธ์ที่เติบโตตามธรรมชาติและตามฤดูกาล ต้นไม้ที่เป็นผักพื้นบ้านชนิดเป็นต้นไม้ยืนต้นบางชนิดเป็นไม้ล้มลุก หรือไม้เถา และส่วนของต้นไม้ที่คนไทยรับประทานเป็นผักพื้นบ้านมีหลายส่วนตั้งแต่ เหง้า ลำต้น ใบ ยอดผลอ่อนและเมล็ด ส่วนของต้นไม้เหล่านี้จะออกยอดให้ลูก ให้ดอกในช่วงฤดูกาล เช่นหน้าฝนจะมียอดตำลึง ดอกกระเจียวแดง ผักแพรว หน้าหนาวมียอดผักปลัง ผักพาย ส้มป่อย […]

บอกลาผิวหน้าแห้งเป็นขุยด้วย 9 วิธีแก้จมูก-หน้าลอก ในช่วงหน้าหนาว !!

บอกลาผิวหน้าแห้งเป็นขุยด้วย 9 วิธีแก้จมูก-หน้าลอก ในช่วงหน้าหนาว !!

บอกลาผิวหน้าแห้งเป็นขุยด้วย 9 วิธีแก้จมูก-หน้าลอก ในช่วงหน้าหนาว !!   หน้าลอกใช้อะไรดี? เป็นคำถามสุดฮิตของหน้าหนาว ช่วงอากาศใกล้หน้าหนาวมักจะมีลมหนาวเย็นแห้งๆ ซึ่งถือเป็นปัญหาต่อผิวหน้าเรามากๆค่ะ เพราะจะทำให้ผิวหน้า-ตัวของเราแห้งง่ายมากๆ ถึงแม้เราจะทาครีมบำรุงแล้วแต่ก็ยังคงมีปัญหาผิวแตกแห้ง ยิ่งบริเวณส่วนหน้าเราด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เราขาดความมั่นใจมากๆเลย   เลขเด็ดออนไลน์ จึงได้นำเอาวิธีรับมือกับปัญหาจมูกลอกมาแนะนำค่ะ โดยมีหลากหลายวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยรักษาและป้องกันผิวจมูกของคุณให้ชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง ไม่ต้องทนกังวลใจเมื่อส่องกระจกแล้วเห็นว่าจมูกเราลอก หรือไม่ต้องเสียความมั่นใจกับผิวจมูกที่แห้งลอกของเราอีกต่อไป จะได้ผิวสวยกันทุกวันไม่ว่าทุกฤดูไหน   1. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ สาวๆ หลายคนคงจะมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ติดบ้านกันไว้อยู่แล้ว เมื่อรู้สึกว่าอากาศแห้งและเกรงว่าจมูกจะลอกแล้วหล่ะก็ ให้ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเก็บความชุ่มชื้นของผิวเอาไว้ ก็จะช่วยให้ผิวไม่แห้ง จมูกไม่ลอก หรือถ้าจมูกลอกแล้วก็ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อลดปัญหาผิวแห้งลอกได้เช่นกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์มอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก็มีวางจำหน่ายอยู่หลากหลายยี่ห้อ แต่ครีมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ควรหลีกเลี่ยงนะ   2. ทาด้วยเบบี้ออยล์ การทาเบบี้ออยล์ก็ช่วยแก้จมูกลอกได้เช่นกัน โดยก่อนนอนก็เอาเบบี้ออยล์มาทาและนวดเบาๆ บริเวณผิวจมูกที่ลอก ทำเป็นประจำทุกวันจนกว่าจะหาย วิธีนี้ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวลอกให้กับคุณได้แบบง่ายๆ เลยหล่ะ เพราะผิวที่ทาเบบี้ออยล์จะไม่แห้งนั่นเอง     3. ทาด้วยน้ำมันมะพร้าว คุณผู้อ่านคงจะรู้จักน้ำมันมะพร้าวกันเป็นอย่างดีแล้ว ซึ่งเราก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป เมื่อซื้อมาหรือมีติดบ้านไว้แล้ว เราก็เอามาทาบริเวณผิวจมูกที่ลอกเป็นประจำทุกคืน น้ำมันจากธรรมชาตินี้ก็จะช่วยแก้จมูกลอกได้ และผิวหน้ายังรู้สึกกระชับอีกด้วย   […]

รวมความเชื่อ เรื่องตัวเลขโชคร้ายจากทั่วโลก

รวมความเชื่อ เรื่องตัวเลขโชคร้ายจากทั่วโลก

รวมความเชื่อ เรื่องตัวเลขโชคร้ายจากทั่วโลก   บทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะนำเสนอให้ท่านได้ทราบเกี่ยวกับความเชื่อ “เรื่องตัวเลขโชคร้ายจากทั่วโลก” คนโบราณหลายชาติพันธุ์มีความเชื่อเรื่องตัวเลขมาช้านาน เพราะแต่ละชาติเชื่อว่าตัวเลขมีอิทธิพลกับตัวเอง รวมทั้งคนไทยโบราณเองเช่นกัน จากบันทึกสมัยก่อนมีการผูกดวง เลือกเวลาออกทัพจับศึก จับยามสามตา หาฤกษ์มงคลมาตั้งแต่โบราณ สรุปว่าแต่ละชาติมีเลขที่เขาเชื่อว่าร้าย ชาติไหนไม่ชอบเลขอะไรบ้าง ไปดูกันเลย..   ชาวจีนและชาวญี่ปุ่น ภาษาจีนและญี่ปุ่นมีรากศัพท์เดียวกัน เพราะคติความเชื่อคนโบราณสมัยก่อนเชื่อว่าชาวญี่ปุ่นคือชาวจีนกลุ่มหนึ่งที่พเนจรหนีฮ่องเต้จีนองค์หนึ่ง ซึ่งบัญชาให้ล่องเรือไปหายาอายุวัฒนะ แต่หาไม่ได้กลัวจะโดนประหารจึงตั้งหลักฐานอยู่ที่เกาะญี่ปุ่น และเลขที่ชาวจีนเชื่อว่าคือเลขร้ายคือ เลข 14 เพราะเชื่อว่า การออกเสียงในภาษาจีนคล้ายกับความหมายว่า อยากจะตาย สอดคล้องกับความเชื่อชาวญี่ปุ่นคือการห้ามตะโกนว่า 42 ออกมาในญี่ปุ่นเพราะเมื่อการออกเสียงเลขสี่กับเลขสองต่อกันออกมามีความหมายเหมือนว่ากำลังจะตาย ในฮ่องกงตึกเก่า ๆ จะไม่มีการกำหนดเลขสี่ไว้ ชาวไทย เลขโชคร้ายที่โหรไทยโบราณเชื่อว่าอัปมงคลคือเลขศูนย์คือเลขร้าย มีความหมายไม่ดี เลขศูนย์ทางโหราศาสตร์คือตัวแทนดาวมฤตยู ส่งผลให้ผู้ที่ใช้เลขศูนย์มีดวงไม่ดี และเลขศูนย์พ้องเสียงกับคำว่าสูญเสีย ชาวคริสต์ ศาสนาที่ผู้คนทั่วโลกยึดหลักธรรมไว้ในใจ ศาสนาที่สอนคนทำความดีแต่ความเชื่อชาวคริสต์เชื่อว่า เลข 666 คือเลขโชคร้ายเพราะบันทึกคัมภีร์ไบเบิลโบราณว่าคือเลขซาตาน และเลข 13 คือเลขโชคร้ายเพราชาวคริสต์เชื่อว่ายูดาสาวกคนที่ 13 ทรยศพระองค์   ชาวอิตาเลียน ชาวอิตาเลียนสืบเชื้อสายมาจากชาวโรมัน โดยที่เชื่อว่าเลขหนึ่งมีอิทธิพลดาวอาทิตย์ ดาวแห่งความเชื่อมั่น ความเด็ดขาดแข็งกร้าว เมื่อรวมกับเลขเจ็ดเลขร้ายอิทธิพลจากดาวเสาร์ […]

ผลไม้ที่ไม่ควรกินคู่กัน อาจจะมีอันตรายได้ จากประโยชน์ จะกลายเป็นโทษ !!

ผลไม้ที่ไม่ควรกินคู่กัน อาจจะมีอันตรายได้ จากประโยชน์ จะกลายเป็นโทษ !!

ผลไม้ที่ไม่ควรกินคู่กัน อาจจะมีอันตรายได้   ประเทศไทยโชคดีที่มีผลไม้ให้กินตลอดทั้งปี สาวไทยเลยสามารถลดน้ำหนักจากการทานผลไม้ที่มีประโยชน์ได้แบบไม่เปลืองเงินมากนัก แต่หากจะทานแค่อย่างเดียวมันก็อาจจะไม่สะใจ เลขเด็ดออนไลน์ เองก็ชอบทานสองชนิดพร้อมกัน แต่นายแพทย์กฤษดา ศิริมพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ได้เผยเตือนเราสาวๆ ว่ายังไงก็มีผลไม้บางคู่ที่ทานพร้อมกันไม่ได้อยู่เหมือนกันนะ   1. กลุ่มที่มีรสหวานเหมือนกัน ถ้าสังเกตดีๆ ผลไม้บางชนิดก็หวานเจี๊ยบจนแสบคอ และผลไม้เหล่านั้นล่ะที่ไม่ควรทานเป็นคู่ด้วยกัน เช่น ทุเรียนกับลำไย ขนุนกับละมุด เงาะกับลองกอง เพราะความหวานของผลไม้เหล่านี้มาจากน้ำตาลฟลุกโตส ซึ่งเมื่อทานเข้าไป มันจะกลายเป็นไขมันในเวลาต่อมา และเข้าไปสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย แน่นอนว่าจะก่อให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือก็อาจจะหมดสวยเพราะลงพุงไปเลย   2. กลุ่มที่เป็นแป้งเหมือนกัน หากแยกไม่ออกว่าผลไม้ชนิดไหนเป็นแป้งบ้าง ให้สังเกตช่วงดิบกับช่วงสุก โดยถ้าทานดิบมันจะออกเนื้อแน่นๆ แต่เมื่อไหร่สุกปุ๊บ มันจะหวานมาก นี่ก็เพราะแป้งตอนดิบ เปลี่ยนเป็นน้ำตาลตอนสุกนั่นเอง แม้จะทานเข้าไปตอนเป็นแป้ง แต่เวลาต่อมามันก็จะกลายเป็นน้ำตาลอยู่ในร่างกายของเรานี่่ล่ะ จากนั้นก็จะกลายเป็นไขมัน สะสมอยู่บริเวณตับ เสี่ยงตับแข็งหรือมะเร็งตับไปอีก ยกตัวอย่างผลไม้ที่หาทานง่ายๆ จนอาจพลาดจับมาทานคู่กันได้ ก็คู่นี้เลย มะม่วงดิบกับกล้วย หรือมะม่วงกับฝรั่ง   3. กลุ่มที่มีโพแทสเซียมเหมือนกัน การได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลให้ไตทำงานหนัก […]