คาถาบูชาพระสังกัจจายน์ ผู้บันดาลโชคลาภ ปัญญา และเมตตามหานิยม

คาถาบูชาพระสังกัจจายน์ พระสังกัจจายน์พระอรหันต์ผู้บันดาลโชคลาภ ปัญญา และเมตตามหานิยม
ชาวพุทธกราบไหว้สักการบูชาพระสังกัจจายน์เพื่อให้บังเกิดความเป็นสิริมงคล 3 ประการแก่ตนเองและครอบครัว ดังนี้

  1. โชคลาภและความอุดมสมบูรณ์ พระสังกัจจายน์ได้รับการยกย่องให้เป็นพระผู้อุดมด้วยโภคทรัพย์ และลาภสักการะเสมอด้วยพระสิวลี
  2. สติปัญญา เนื่องเพราะพระสังกัจจายน์ได้รับการยกย่องจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็นเลิศในทางอธิบายความพุทธภาษิต ท่านเป็นอรหันต์ผู้มีปฎิภาณเฉียบแหลม
  3. ความงามและความมีเสน่ห์ เนื่องจากเพราะก่อนที่ท่านจะอธิษฐานจิตให้รูปร่างเปลี่ยนแปลง พระสังกัจจายน์มีผิวดั่งทองคำและมีรูปงามละม้ายเหมือนพระพุทธเจ้า จนแม้แต่เทพยดา พรหม มนุษย์ทั้งปวงพากันรักใคร่ชื่นชม

 

คาถาบูชาพระสังกัจจายน์

คาถาบูชาพระสังกัจจายน์

 

คาถาบูชาพระสังกัจจายน์

                กัจจายนะ จะ มหาเถโร พุทโธ พุทธานัง พุทธะตัง พุทธัญ จะ พุทธะสุภาสิตัง พุทธะตัง สะมะนุปปัตโต พุทธะ โชตัง นะมามิหัง ปิโยเทวะ มะนุสสานัง ปิโยพรหม นะมุตตะโม ปิโยนาคะ สุปันนานัง ปิยินทะริยัง นะมามิหัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ปุริโส ชะนา อิถีชะนา ราชาภาคินิ จิตตัง อาคัจฉาหิ ปิยังมามะฯ

 

คาถาบูชาพระสังกัจจายน์ (แบบที่ ๒)

(ตั้งนะโม ๓ จบ)
ธัมมะจักกัง ปะทังสุตะวา พุชฌิตวา อัตตังปะหัง สันติเก อะระหาโลเก โลกานังหิตะการะณา ภันเต กัจจายะนะ นามะ ตีสุ โลเกสุ ปากะโต พรหมะปุตโต มะหาเถโร อะระโห เชฏฐโกมุนิ นัตถิเถโร สะโมอินทันธัพพา อะสุราเทวะ สักโก พรหมาภิปูชิโต นะโมพุทธัสสะ กัจจายะนะมหาเถรัสสะ นะโมธัมมัสสะ กัจจายะนะ นะมะมะหาเถรัสสะ นะโมสังฆัสสะ กัจจายะนะมะหาเถรัสสะ สุขา สุขะวะรังธัมมัง ธัมมะจักกัง ปะวะรัง นิฏฐิตังฯ

คาถาบูชาขอลาภ (สวดทุกวันเพื่อความเป็นสิริมงคล)
กัจจายะนะ มะหาเถโร เทวะตานะระ ปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มะหาลาภัง ภะวันตุ เม ลาเภนะ อุตะโมโหติ โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มะหาลาภัง สัพพะลาภา สะทาโสตถิ ภะวันตุ เม ฯ

คาถาถวายอาหารแด่พระสังกัจจายน์ 
อิมัง สูปะพะยัญชะนะสัมปันนัง สาลีนัง โภชะนัง อุทะกังวะรัง กัจจายนะ มะหาเถรัสสะ ปูเชมิ ฯ

เคล็ดลับการบูชาพระสังกัจจายน์ให้เป็นสิริมงคล 
บูชาด้วยธูป 3 ดอก พร้อมดอกไม้สีขาวมีกลิ่นหอมหรือดอกบัว 7 ดอก ถวายน้ำสะอาด 1 แก้ว และถวายผลไม้ทุกวันพระ

 

 

เคล็ดการบูชา

ในการบูชาพระสังกัจจายน์นั้นบูชาด้วยธูป ๓ ดอก พร้อมดอกไม้สีขาวมีกลิ่นหอมต่างๆ หรือดอกบัว ๗ ดอก มิว่าจะบูชาด้วยดอกใดให้ใช้ ๗ดอก และควรบูชาสองเวลาคือเช้าก่อนไปทำงานและเย็นก่อนนอน เพื่อขอให้ท่านประสาทพรโชคลาภพูนทวี และมีเคล็ดอย่างหนึ่งว่าพระสังกัจจายน์นั้นหากบูชาไว้ในบ้านให้ปิดทองที่พุงของท่านเชื่อว่าจะมีลาภไหลมาไม่ขาดสาย ในตอนเช้าให้กล่าวคำบูชาท่านดังนี้

 

คาถาบูชาขอลาภ (สวดบทนี้ได้ทุกวันก่อนนอนเพื่อสิริมงคล)

กัจจายะนะ มะหาเถโร เทวะตานะระ ปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มะหาลาภัง ภะวันตุ เม

ลาเภนะ อุตะโมโหติ โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มะหาลาภัง สัพพะลาภา สะทาโสตถิ ภะวันตุ เม

 

 

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมาให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

 

ขอขอบคุณ : ริชชี่ สตาร์

 

เรื่องน่าสนใจ

ต้นไผ่ กับความเชื่อคนจีนโบราณ

ต้นไผ่ กับความเชื่อคนจีนโบราณ

ต้นไผ่ ในความเชื่อคนจีนโบราณ   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ มาฝากกัน คนจีนโบราณเชื่อว่าไม้ไผ่คือไม้ศักดิ์สิทธิ์ เพราะไผ่มีอำนาจลึกลับที่คนไทยรุ่นใหม่ไม่เคยพิสูจน์ทราบ โดยเฉพาะลำต้นไผ่ ใบไผ่โดยเฉพาะตาไผ่ แฝงความเชื่อไว้มากมาย   ชาวจีนสมัยก่อนจะปลูกไผ่ไว้ในบริเวณบ้านเพราะเชื่อว่าจะทำให้สมาชิกในบ้านซื่อสัตย์ไม่คดโกง มีคุณธรรม มีความตั้งใจจริงในการประกอบสัมมาอาชีพ เหมือนลักษณะพื้นฐานลำต้นไผ่ ต้นไผ่เจริญเติบโตรวดเร็ว แตกกิ่งก้านสาขาเรียบเนียน คนจีนจึงนำมาเป็นสะพานในการเชิญเทพเจ้าลงมาให้พรแก่ประชาชนที่ร่วมพิธีกินเจ ใบไผ่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือมีความสดชื่นเหมือนมนุษย์ที่ยังคงความหนุ่มสาว ไผ่ออกเสียงภาษาจีนกลางว่า จู๋จื้อ คือพืชมงคลมีความหมายว่าความทระนง เพราะลมหนาวจะแห้งแล้งปานใดใบไผ่จะยังไม่ร่วงโรย เจอพายุฝนลำต้นไผ่จะโอนเอนไปมาตามสายลม เจอพายุสักกี่ลูกไม่เคยมีปรากฏว่า ต้นไผ่จะหักโค่น ความเชื่อคนจีนโบราณว่าเสียงแตกไม้ไผ่ในกองไฟจะทำให้ภูตผีวิญญาณร้ายเกรงกลัว จึงนำไปทำเป็นส่วนประกอบในการผลิตประทัด มีงานวิจัยว่าไม้ไผ่มีแข็งแรงกว่าเหล็ก มีค่าแรงต้านทานการดึงมากกว่าเหล็ก ต้านทานการทุบดีกว่าคอนกรีต   ทางด้านคนไทยโบราณเชื่อว่าการปลูกไผ่สีสุก ไว้ในบ้านจะทำให้ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยเงินทอง ไผ่เสริมมงคลให้คนในบ้านมีการทำงานอย่างตั้งใจจริง มีปัญญาในการประกอบอาชีพ เอื้ออารี กตัญญูกตเวที จนกระทั่งคนจีนโบราณมีการวาดภาพพู่กันต้นไผ่คู่ ดอกโบตั๋น ความเชื่อคนโบราณว่า คือการอวยพร ขออวยพรให้ร่ำรวย มีเงินทองมากมาย สมัยโบราณชาวจีนใช้ประโยชน์มากมายจากไม้ไผ่ เป็นต้นว่าใช้แทนกระดาษในการบันทึก ใช้ผลิตเครื่องจักรสาน สร้างที่อยู่อาศัย ทำโมบายแก้ฮวงจุ้ย ไผ่จะแตกกิ่งก้านสาขาจากตาการสร้างที่อยู่อาศัยสมัยก่อนจะนำไม้ไผ่มาตั้งเป็นรั้วโดยนำส่วนตาตั้งขึ้น เพราะเชื่อว่าจะป้องกันฟ้าผ่า และการนำปล้องไผ่ที่มีตาไว้ในบ้านคนโบราณเชื่อว่าเป็นเครื่องราง […]

กลัวขึ้นคานทำเลย !! สิบห้าค่ำเดือนแปด วันกำเนิดด้ายแดงร่วมไหว้เทพจันทรา

กลัวขึ้นคานทำเลย !! สิบห้าค่ำเดือนแปด วันกำเนิดด้ายแดงร่วมไหว้เทพจันทรา

สิบห้าค่ำเดือนแปด วันกำเนิดด้ายแดงร่วมไหว้เทพจันทรา   บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ มาฝากกัน ความเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมีอยู่แต่ละชาติพันธุ์ ฝั่งยุโรปเชื่อเรื่องกามเทพคิวปิดจะคอยแผลงศรให้หนุ่มสาวรักกันจนแต่งงานกัน คติความเชื่อไทยโบราณเชื่อเรื่องเทพอุ้มสม กล่าวคือคนไทยเชื่อว่าจะมีเทพเทวาคอยดลใจให้หนุ่มสาวใคร่รักกัน แต่คติความเชื่อคนจีนและญี่ปุ่นที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนคือเรื่องด้ายแดงผูกรักแท้   คติความเชื่อชาวโรมันและกรีกโบราณบันทึกว่าเทพที่ทำหน้าที่นำสื่อ ดลใจหญิงสาวและชายหนุ่มหลงใหลซึ่งกันและกัน กำเนิดจากเทพแห่งสงครามหรือมาร์และเทพีแห่งเสน่หาความรักคือวีนัส ทรงพระนามว่าคิวปิด (Cupid) แต่คติความเชื่อคนจีนเชื่อว่าหนุ่มสาวที่มีดวงเนื้อคู่กัน ด้ายแดงที่มองไม่เห็นจะผูกที่ข้อเท้าแต่ละฝ่าย โดยเทพองค์หนึ่งชื่อเยว่เซี่ยเหลาเหริน เทพจันทราเปรียบได้กับคิวปิด (Cupid) ชาวโรมันและกรีกโบราณ คือเทพเจ้าจีนที่คอยดูแลเรื่องเนื้อคู่ เทพจันทราจะผูกด้ายแดงที่เท้าสำหรับหนุ่มสาวที่พรหมลิขิตไว้ตั้งแต่ชาติก่อนว่าคือเนื้อคู่กัน ด้ายแดงที่ว่าคนทั่วไปจะมองไม่เห็น สืบเนื่องจากคติความเชื่อที่ว่าประเพณีการผูกด้ายแดงจึงพัฒนากลายมาสู่การจูงเจ้าบ่าวสาวชาวจีนโดยผ้าสีแดง คนจีนโบราณเชื่อว่าวันที่สิบห้าค่ำเดือนแปดตามปฏิทินจันทรคติจีน คือวันครบรอบการกำเนิดเทพจันทรา ตรงกับวันไหว้พระจันทร์ หนุ่มสาวคนไหนที่ยังโสดไร้คู่ลองไปไหว้เทพจันทราที่วัดเล่งเน่ยยี่ ขอพรสักการะให้เจอคู่แท้ ที่ผ่านมาขอให้ผ่านไป เมื่อสมหวังแล้วต้องนำขนมเปี๊ยะมาแก้บน   คติความเชื่อชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อคล้าย ๆ กันจนทำให้สับสนเพราะเชื่อว่าหนุ่มสาวที่พรหมลิขิตกำหนดไว้ตั้งแต่ชาติก่อนว่า คือเนื้อคู่กันด้ายแดงจะผูกที่นิ้วก้อย เพราะนิ้วก้อยมีเส้นเลือดมากมายคืออวัยวะส่วนเดียวที่ส่งเลือดแดงไปยังหัวใจ เป็นที่มาการเกี่ยวก้อยให้คำมั่นสัญญา แต่แปลกที่ทั้งคติความเชื่อชาวจีนและญี่ปุ่นคล้ายกันคือมีการผูกด้ายแดงที่มองไม่เห็นไว้สำหรับหนุ่มสาวจะคือเนื้อคู่กัน ได้แต่งงานกัน สอดคล้องกับความเชื่อเรื่องพรหมลิขิตที่คนเฒ่าคนแก่ไทยเชื่อว่า คนที่มีดวงคือเนื้อคู่กันย่อมไม่ห่างไกลกันแม้นว่าฝ่ายหนึ่งจะบกพร่องปานใด คู่รักแท้จะยอมทนอยู่ใช้ชีวิตคู่อยู่กินกันจนตาย       ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว […]

คาถาชุมนุมเทวดา และ คาถาอัญเชิญเทวดา สิ่งที่ปรารถนาก็จะสมหวังดั่งเทพเทวาประสิทธิ

คาถาชุมนุมเทวดา และ คาถาอัญเชิญเทวดา สิ่งที่ปรารถนาก็จะสมหวังดั่งเทพเทวาประสิทธิ

คาถาชุมนุมเทวดา และ คาถาอัญเชิญเทวดา ตำนาน บทสวดมนต์ชุมนุมเทวดา การสวดพระปริตรหรือเจ็ดตำนานนี้ เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศลังกา ราว พ.ศ. 500  ด้วยว่าชาวลังกาที่นับถือพุทธศาสนาในขณะนั้น ประสงค์ให้พระสงฆ์ช่วยเหลือตนให้เกิดสิริมงคล  และป้องกันภยันตรายต่างๆ ด้วยการสวดมนต์และคาถาตามแบบอย่างพราหมณ์  ซึ่งมีความเชื่อว่าผู้ทรงเวทจะทำให้เกิดสิริมงคล และป้องกันภยันตรายแก่มหาชนได้ ด้วยเหตุนี้พระสงฆ์ลังกาจึงได้คิดวิธีสวดพระปริตรขึ้น โดยเลือกเอาพระสูตร หรือคาถาที่สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย อันเกิดขึ้นเนื่องด้วยเหตุการณ์ต่างๆ มาสวดเป็นมนต์ โดยการสวดครั้งแรกๆ ก็ขึ้นกับเหตุการณ์ที่ไปสวด เช่น ไปสวดพิธีมงคลก็ใช้มงคลสูตรสวด สวดให้คนเจ็บป่วยก็ใช้โพชฌงคสูตร ครั้นคนนิยมมากขึ้นก็คิดค้นพระสูตรต่างๆ มาสวดเป็นพระปริตรมากขึ้นเป็นลำดับ ต่อมาพระเจ้าแผ่นดินประเทศลังกาก็ได้รับสั่งให้คณะสงฆ์ปรับปรุงพระสูตร และคาถาที่ใช้สวดพระปริตรขึ้นใหม่ให้เหมาะกับเหตุการณ์  เพื่อใช้ในพระราชพิธีหลวง โดยได้เพิ่มพระสูตรและคาถาให้มากขึ้น และเรียกว่า “ราชปริตร” แปลว่า  มนต์คุ้มครองพระเจ้าแผ่นดิน ต่อมาประชาชนต่างก็นิยม ให้มีการสวดพระปริตรในพิธีของตนบ้าง  จึงเกิดเป็นประเพณีสืบต่อกันมาจนปัจจุบัน คาถาชุมนุมเทวดา และ คาถาอัญเชิญเทวดา สิ่งที่ปรารถนาก็จะสมหวัง   การสวดมนต์เจริญภาวนา กุศลที่ได้ นอกจากเป็นไปเพื่อตนเองแล้ว ยังมีเหล่าเทพเทวดาอีกมากมายที่มาร่วมโมทนาด้วย ก็ขอให้บูชาอัญเชิญเหล่าท่านนั้นทั้งมา และ กลับ เมื่อกิจแห่งบุญนั้นมีเทพเทวดามาร่วมโมทนายินดีมากเท่าไหร่ สิ่งที่ปรารถนาก็จะสมหวังดั่งเทพเทวาประสิทธิมากขึ้นเช่นกัน (เชิญเทวดา) ผะริตะวานะ […]

ครบเครื่องเรื่องเทวดา จากความเชื่อคนโบราณทั่วโลก

ครบเครื่องเรื่องเทวดา จากความเชื่อคนโบราณทั่วโลก

ครบเครื่องเรื่องเทวดา จากความเชื่อคนโบราณทั่วโลก   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อ มาฝากกันเช่นเคย คุณคงเคยฟังนิทานสมัยยังเด็ก เรื่องเทวดามาบ้างแล้ว เพราะคนโบราณเชื่อว่าเทวดาอยู่บนวิมานชั้นฟ้า อยู่ในตำหนัก บางคนว่ามีร่างสีเขียว แล้วเทวดาที่อยู่กลางป่าคือใคร แต่คนจีนว่าเทพ เทวดา เซียนอยู่ที่ศาลเจ้า มีอยู่จริงหรือไม่ อาจแค่เรื่องเล่าขานในหนังสือนิทานก่อนนอน ในหนังจีน ฝั่งยุโรปเชื่อเรื่องนางไม้จนกระทั่งวันนี้สรุปได้ไหมว่าเทพ เทวดา เซียน นางไม้มีจริงไหม   คนจีนโบราณเชื่อว่าเซียนมีจริง ผู้ที่บำเพ็ญเพียรสมาธินาน ๆ จะมีตบะบารมีขั้นเซียน อยู่บนสวรรค์และไม่เวียนว่ายในวัฏสงสาร คนจีนเชื่อเรื่องเจ้าที่เจ้าทาง เทวดาประจำบ้าน ในลักษณะ ตี่จู๋เอี๊ย จะคอยปกป้องคนในบ้าน รักษาบ้านเรือน คนไทยโบราณเชื่อว่าเทพ เทวดามีสามประเภทคือประเภทแรก คือเทวดาประจำตัว คนไทยโบราณเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีเทวดาประจำตัวคอยคุ้มครอง ปกปักษ์รักษาไม่ให้มีภัยอันตราย ลองสังเกตว่าบางครั้งก่อนเกิดเหตุอันตรายจะมีลางบอกเหตุบอกก่อนเสมอ เพราะเทวดาประจำตัวคุณช่วยบอกเหตุ ดังนั้นควรบูชาเทวดาประจำตัวคุณ โดยนำพวงมาลัย และดอกไม้ห้าคู่ใส่พานไว้ที่หัวเตียงในวันพระกราบไหว้ก่อนนอน สำหรับบูชาเทวดาประจำตัวคุณ จะคอยบอกเหตุเวลามีเหตุร้ายทันที และห้ามบุคคลอื่นเหยียบเตียงนอนเด็ดขาด ทุกครั้งที่ทำบุญ อย่าลืมกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เทวดาประจำตัวคุณ จะส่งผลให้มีฤทธิ์มากขึ้นใครลบหลู่ ชอบทำชั่วเทวดาจะไม่คุ้มครอง   ประเภทที่สอง เรียกว่ารุกขเทวาคือผู้ที่คุ้มครองรักษาป่า […]