ทำไมต้องแจกลูกอมและด้ายแดง ให้แขกที่มาในงานศพ

ทำไมต้องแจกลูกอมและด้ายแดง ให้แขกที่มาในงานศพ

ทำไมต้องแจกลูกอมและด้ายแดง ให้แขกที่มาในงานศพ

 

วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อว่า “ทำไมต้องแจกลูกอมและด้ายแดง ในงานศพ” การแจกลูกอมและด้ายแดง เป็นประเพณีงานศพของชาวจีน เนื่องจากงานศพของชาวจีนนั้น ทุกอย่างจะเป็นสีขาว เสื้อผ้า โคมไฟ ม่าน ผ้าปู สีขาวหมายถึงความโศกเศร้า ทุกข์โศก เสียใจ การแจกด้ายแดงให้แก่แขกที่มาร่วมงาน เพื่อเป็นการแก้เคล็ด ถือเป็นการมอบความเป็นสิริมงคลให้แก่แขกที่มาร่วมงาน เนื่องจากสีแดงเป็นสีที่เป็นมงคล โชคลาภ ความสุข เป็นสีที่นิยมใช้ในงานแต่ง

เมื่อได้มานิยมเอามาใส่ไว้ในกระเป๋าเงิน หน้ารถ หรือผูกไว้หน้าประตูบ้าน ส่วนลูกอม มีความหวานเปรียบเสมือนมอบความหวานชื่น ความสุขให้ชีวิต ไม่ขมขื่น นั่นเอง

 

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

ขอบคุณที่มา : thaiza.com

ภาพ : Pixabay

เรื่องน่าสนใจ

กลัวขึ้นคานทำเลย !! สิบห้าค่ำเดือนแปด วันกำเนิดด้ายแดงร่วมไหว้เทพจันทรา

กลัวขึ้นคานทำเลย !! สิบห้าค่ำเดือนแปด วันกำเนิดด้ายแดงร่วมไหว้เทพจันทรา

สิบห้าค่ำเดือนแปด วันกำเนิดด้ายแดงร่วมไหว้เทพจันทรา   บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ มาฝากกัน ความเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมีอยู่แต่ละชาติพันธุ์ ฝั่งยุโรปเชื่อเรื่องกามเทพคิวปิดจะคอยแผลงศรให้หนุ่มสาวรักกันจนแต่งงานกัน คติความเชื่อไทยโบราณเชื่อเรื่องเทพอุ้มสม กล่าวคือคนไทยเชื่อว่าจะมีเทพเทวาคอยดลใจให้หนุ่มสาวใคร่รักกัน แต่คติความเชื่อคนจีนและญี่ปุ่นที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนคือเรื่องด้ายแดงผูกรักแท้   คติความเชื่อชาวโรมันและกรีกโบราณบันทึกว่าเทพที่ทำหน้าที่นำสื่อ ดลใจหญิงสาวและชายหนุ่มหลงใหลซึ่งกันและกัน กำเนิดจากเทพแห่งสงครามหรือมาร์และเทพีแห่งเสน่หาความรักคือวีนัส ทรงพระนามว่าคิวปิด (Cupid) แต่คติความเชื่อคนจีนเชื่อว่าหนุ่มสาวที่มีดวงเนื้อคู่กัน ด้ายแดงที่มองไม่เห็นจะผูกที่ข้อเท้าแต่ละฝ่าย โดยเทพองค์หนึ่งชื่อเยว่เซี่ยเหลาเหริน เทพจันทราเปรียบได้กับคิวปิด (Cupid) ชาวโรมันและกรีกโบราณ คือเทพเจ้าจีนที่คอยดูแลเรื่องเนื้อคู่ เทพจันทราจะผูกด้ายแดงที่เท้าสำหรับหนุ่มสาวที่พรหมลิขิตไว้ตั้งแต่ชาติก่อนว่าคือเนื้อคู่กัน ด้ายแดงที่ว่าคนทั่วไปจะมองไม่เห็น สืบเนื่องจากคติความเชื่อที่ว่าประเพณีการผูกด้ายแดงจึงพัฒนากลายมาสู่การจูงเจ้าบ่าวสาวชาวจีนโดยผ้าสีแดง คนจีนโบราณเชื่อว่าวันที่สิบห้าค่ำเดือนแปดตามปฏิทินจันทรคติจีน คือวันครบรอบการกำเนิดเทพจันทรา ตรงกับวันไหว้พระจันทร์ หนุ่มสาวคนไหนที่ยังโสดไร้คู่ลองไปไหว้เทพจันทราที่วัดเล่งเน่ยยี่ ขอพรสักการะให้เจอคู่แท้ ที่ผ่านมาขอให้ผ่านไป เมื่อสมหวังแล้วต้องนำขนมเปี๊ยะมาแก้บน   คติความเชื่อชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อคล้าย ๆ กันจนทำให้สับสนเพราะเชื่อว่าหนุ่มสาวที่พรหมลิขิตกำหนดไว้ตั้งแต่ชาติก่อนว่า คือเนื้อคู่กันด้ายแดงจะผูกที่นิ้วก้อย เพราะนิ้วก้อยมีเส้นเลือดมากมายคืออวัยวะส่วนเดียวที่ส่งเลือดแดงไปยังหัวใจ เป็นที่มาการเกี่ยวก้อยให้คำมั่นสัญญา แต่แปลกที่ทั้งคติความเชื่อชาวจีนและญี่ปุ่นคล้ายกันคือมีการผูกด้ายแดงที่มองไม่เห็นไว้สำหรับหนุ่มสาวจะคือเนื้อคู่กัน ได้แต่งงานกัน สอดคล้องกับความเชื่อเรื่องพรหมลิขิตที่คนเฒ่าคนแก่ไทยเชื่อว่า คนที่มีดวงคือเนื้อคู่กันย่อมไม่ห่างไกลกันแม้นว่าฝ่ายหนึ่งจะบกพร่องปานใด คู่รักแท้จะยอมทนอยู่ใช้ชีวิตคู่อยู่กินกันจนตาย       ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว […]

ครม.มีมติให้ 4 และ 7 ก.ย. 63 เป็นวันหยุดชดเชยสงกรานต์ รวมหยุดยาว 4 วัน

ครม.มีมติให้ 4 และ 7 ก.ย. 63 เป็นวันหยุดชดเชยสงกรานต์ รวมหยุดยาว 4 วัน

วันหยุดชดเชยสงกรานต์ รวมหยุดยาว 4 วัน   ครม.มีมติเห็นชอบให้ศุกร์ที่ 4 และจันทร์ที่ 7 ก.ย. 63 เป็นวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ ส่งผลให้มีวันหยุดยาว 4 วัน ตั้งแต่ 4-7 ก.ย. 63 แหล่งข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้กำหนดวันหยุดราชการในเดือน ก.ย. 2563 เพิ่มขึ้น 2 วัน ได้แก่ วันศุกร์ที่ 4 ก.ย. และ วันจันทร์ที่ 7 ก.ย. เพื่อชดเชยวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2563 ส่งผลให้เดือนกันยายน 2563 จะมีวันหยุดยาว รวม 4 วัน คือ วันที่ 4-7 ก.ย. ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้รัฐบาลประกาศให้ วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม เป็นวันหยุดพิเศษ ชดเชยวันสงกรานต์ มาแล้ว 1 วัน ส่งผลให้มีวันหยุดยาว 4 วันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คือ […]

ถ้าพระในบ้าน ยังอด พระในวัด ก็กลืนไม่ลง คำพูดของ "สมเด็จโต" ทำเอาหญิงสาวผู้ใจบุญ ถึงกับหลั่งน้ำตา

ถ้าพระในบ้าน ยังอด พระในวัด ก็กลืนไม่ลง คำพูดของ “สมเด็จโต” ทำเอาหญิงสาวผู้ใจบุญ ถึงกับหลั่งน้ำตา

ถ้าพระในบ้าน ยังอด พระในวัด ก็กลืนไม่ลง     ถ้าพระในบ้าน ยังอด พระในวัด ก็กลืนไม่ลง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) นับเป็นพระเกจิเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพนับถือทั่วไปมาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชน และนอกจากจริยาวัตรด้านความสมถะอันโดดเด่นของท่านแล้ว ท่านยังทรงคุณทางด้านวิชชาคาถาอาคม เมตตามหานิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคล “พระสมเด็จ” ที่ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ได้ถูกจัดเข้าในพระเครื่องเบญจภาคี หรือสุดยอดของพระเครื่องวัตถุมงคล ๑ ใน ๕ ของประเทศไทย และมีราคาซื้อขายในปัจจุบันต่อองค์เป็นราคานับล้านบาท ด้วยปฏิปทาจริยาวัตรและคุณวิเศษอัศจรรย์ของท่าน ทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นอมตะเถราจารย์รูปหนึ่งของเมืองไทย และมีผู้นับถือจำนวนมากในปัจจุบัน   มีเรื่องเล่าว่า มีคุณนายคนหนึ่งเป็นคนใจบุญสุนทาน ตักบาตรทุกเช้า ตักบาตรเสร็จแล้วก็แต่งสำรับกับข้าวอย่างบรรจงประณีตเพื่อเอาไปถวายท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตด้วยความเคารพนับถือในพระจริยาวัตรของท่าน และชอบที่จะฟังท่านคุยเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง เรียกว่า ตักบาตรเสร็จเมื่อไหร่ คุณนายต้องมาวัดทุกวัน ถวายอาหารเสร็จก็คุยกับสมเด็จฯ วันหนึ่ง…หลังจากที่คุณนายกลับไปแล้ว พระหนุ่มรูปหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์ก้นกุฏิของสมเด็จฯ ก็เข้าไปกราบเรียนว่า “คุณนายคนนี้ใจบุญสุนทานจริงๆ แต่เคยได้ยินว่าเป็นคนใจแคบ เหลือแม่อยู่คนเดียวก็ปล่อยให้อดๆ อยากๆ ไม่เอาใจใส่ ปล่อยให้อยู่ในห้องแคบๆ หลังบ้าน ส่วนตัวเองและลูกๆ อยู่ตึกใหญ่โต สะดวกสบาย  เวลาพูดจากับแม่ก็ฟังไม่ได้ หยาบคาย ขู่ตะคอก […]

ความเชื่อเรื่องอาหารการกินของคนภาคกลาง

ความเชื่อเรื่องอาหารการกินของคนภาคกลาง

ความเชื่อเรื่องอาหารการกินของคนภาคกลาง อาจารย์จุลทัศน์ พยาฆรานนท์ อธิบายว่า ตามหลักพุทธศาสนาจะห้ามกินเนื้อสัตว์ 10 อย่างคือ คน, ช้าง, ม้า, งู, สิงห์ เสือ, สุนัข, แมว, หอยขม หอยโข่ง, เต่า ตะพาบน้ำ และ นกแร้ง นกแสก นกเค้า อีกทั้งสัตว์ที่โดนฟ้าผ่าตายก็ห้ามกิน เพราะเป็นอัปมงคล ห้ามกินของเหลือจากที่สัตว์กิน ห้ามกินของเซ่นไหว้ ส่วนข้อห้ามที่เป็นคติโบราณ เช่น ห้ามกินก่อนพระ เพราะตายไปจะเป็นเปรต ห้ามซดน้ำแกงปลายช้อน เพราะน้ำแกงจะลวกปาก ห้ามนั่งกินข้าวตรงประตูบ้าน เพราะคนจะเห็น ไม่งาม ห้ามขูดข้าวก้นหม้อ เพราะจะทำให้หม้อ (ดิน) แตก ห้ามนอนกิน เพราะจะแช่งให้ตัวเองตาย ห้ามกินข้าวให้เงาทับจานข้าว เพราะจะมองสิ่งสกปรก ก้อนกรวดไม่เห็น เป็นต้น และยังมีความเชื่อที่เกี่ยวกับสตรีเช่น หากมีประจำเดือนห้ามกินมะเฟือง คนท้องห้ามกินอาหารรสจัด เพราะลูกจะหัวล้าน ห้ามหญิงสาวกินขนมขันหมาก เพราะจะไม่มีคนมาขอ เป็นต้น เมื่อมาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่าในทุกพื้นที่ทั่วไทยจะยังคงมีคติความเชื่อในเรื่องของการกินหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็เป็นส่วนน้อยอันเนื่องมาจากยุคสมัยเปลี่ยนไป […]