10 ข้อคิดทางการเงิน “ถอดรหัสลับ สมองเงินล้าน” แกะรอยความคิดคนรวย ว่าเขาหาเงิน เก็บเงิน และใช้เงินอย่างไร

10 ข้อคิดทางการเงิน “ถอดรหัสลับ สมองเงินล้าน”

10 ข้อคิดทางการเงิน

10 ข้อคิดทางการเงิน จากหนังสือ “ถอดรหัสลับ สมองเงินล้าน”

“ถอดรหัสลับ สมองเงินล้าน”

  • (1) คุณจะได้รับเงินเท่ากับมูลค่าของตัวคุณในท้องตลาด
    >> คุณอยากจะช่วยคนจำนวนมากๆหรือไม่กี่คนในการแก้ปัญหา?
    คิดใหญ่ ยิ่งคุณช่วยคนจำนวนมาก คุณก็จะร่ำรวยขึ้น ทั้งอารมณ์ จิตใจและเงินทอง คิดเล็ก จะนำไปสู่การสินเนื้อประดาตัวและความไม่พอใจในตัวเอง

 

  • (2) ภาษิตของชาวฮูน่าโบราณของชาวฮาวาย “จงสรรเสริญในสิ่งที่คุณต้องการ”
    >> ปลูกฝังความเชื่อลงในจิตใต้สำนึกว่า เมื่อคุณร่ำรวย คนอื่นจะชื่นชม สรรเสริญคุณ ไม่ใช่รังเกียจคุณอย่างที่คุณอาจจะรู้สึกต่อคนรวยอยู่ในขณะนี้

 

  • (3) อย่าเสียเวลาชวนหรืออธิบายว่าทำไมพวกเขาจึงควรเปลี่ยนแปลง
    >> หน้าที่ของคุณคือใช้สิ่งที่เรียนรู้มา ทำตัวให้เป็นแบบอย่าง ประสบความสำเร็จและมีความสุข เมื่อถึงเวลานั้นถ้าเขาสนใจเขาจะเป็นฝ่ายถามคุณเอง

 

  • (4)ไม่มีสิ่งใดมีความหมาย เว้นแต่เราจะมอบความหมายให้มันเอง

 

  • (5) ทางสู่ความสำเร็จไม่ใช่การหลีกเลี่ยงปัญหาหรือหันหลังให้หรือจมอยู่กับมัน
    >> แต่เป็นการพัฒนาตัวเองให้มีขนาดใหญ่กว่าปัญหา ปัญหายิ่งใหญ่ยิ่งต้องพัฒนาตัวเองให้ใหญ่ยิ่งขึ้น

 

  • (6) คุณอาจจะเป็นผู้ให้ที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ แต่เป็นผู้รับที่แย่
    >> กฎแห่งความมั่งคั่งก็คือ เมื่อมีผู้ให้ก็ต้องมีผู้รับ เมื่อมีผู้รับก็ต้องมีผู้ให้ ถ้าคุณไม่เต็มใจจะรับไม่ว่าจะโดยมารยาท ประเพณีหรือธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติก็ตามที เท่ากับว่าคุณกำลัง “ทำร้าย” คนที่อยากให้คุณ เพราะคุณกำลังกีดกันไม่ให้พวกเขามีความสุขจากการให้ และเมื่อคุณไม่เต็มใจจะรับก็เท่ากับเป็นการบอกตัวเอง บอกสวรรค์ว่าอย่าส่งอะไรมาให้คุณอีก และนั่นจะทำให้คุณถังแตกตลอดไป

 

  • (7) เงินจะทำให้คุณเป็นในสิ่งที่เป็นอยู่แล้วชัดเจนขึ้น
    >> หลายคนกลัวที่จะรวย เพราะกลัวว่าเงินจะเปลี่ยนนิสัยตัวเองไป “ถ้าฉันรวยขึ้นมา ฉันอาจจะกลายเป็นคนเลวที่ชอบเอาเปรียบชาวบ้านก็ได้” อย่างแรกก็คือ มันใช้เป็นข้ออ้างสำหรับความล้มเหลวของตัวเอง และอย่างที่สอง เงินจะทำให้คุณเป็นในสิ่งที่คุณเป็นอยู่แล้วชัดเจนขึ้น ถ้าคุณเป็นคนเห็นแก่ตัว เงินที่มีมากขึ้นจะอำนวยให้คุณเห็นแก่ตัวมากขึ้น ถ้าคุณเป็นคนใจกว้าง เงินจะทำให้คุณเผื่อแผ่ใครได้มากขึ้น ถ้ามีใครบอกให้เชื่อต่างไปจากนี้ คนๆนั้นจะต้องเป็นคนถังแตกแน่นอน

 

  • (8) วิธีที่คุณใช้จัดการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คือวิธีที่คุณจัดการกับทุกๆเรื่อง
    >> ฝึกฝนการเป็นผู้รับที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้คุณได้เป็นฝ่ายรับอย่างเต็มที่ และยังช่วยให้อีกฝ่ายมีความสุขกับการให้อย่างเต็มที่อีกด้วย สมองหรือจิตให้สำนึกไม่ค่อยจะแยกแยะนักหรอกครับ มันจะมองอะไรแบบเหมารวมๆว่า “อันนี้เป็นอย่างไร อันอื่นก็เป็นอย่างนั้นแหละ” ดังนั้น ถ้าคุณกลายเป็นผู้รับ(เงิน)ที่ยอดเยี่ยมคุณก็จะเป็นผู้รับที่ดีในทุกด้าน และพร้อมเปิดรับทุอย่างที่สวรรค์ประทานมาให้คุณในทุกด้านของชีวิต

 

  • (9) สนใจในมูลค่าทรัพย์สิน ไม่ใช่รายได้จากการทำงาน
    >> รายได้จากการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ แต่มันจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมันเป็นส่วนหนึ่งของสมการมูลค่าทรัพย์สินเท่านั้น 4 ปัจจัยที่กำหนดมูลค่าทรัพย์สิน มีดังนี้ 1. รายได 2. เงินเก็บ 3. การลงทุน 4. ชีวิตที่เรียบง่าย เปรียบได้กับรถเมล์ที่มีสี่ล้อ ซึ่งต้องใช้ล้อทั้งสี่เพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ไปสู่เป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ราบลื่น จนถึงเรียกได้ว่า ง่ายดาย ที่เปรียบเป็นรถเมล์ก็เพราะว่าบางทีคุณอาจจะพาคนอื่นไปด้วย จดบันทึกมูลค่าทรัพย์สินของคุณ คอยบันทึกความเปลี่ยนแปลงทุกเดือนหรือทุกไตรมาส เพื่อจับตาดูมูลค่าทรัพย์สินของตัวเอง โปรดจำไว้ว่า “สิ่งที่คุณให้ความสนใจจะขยายผล” กฎข้อนี้ใช้ได้กับทุกๆเรื่องของชีวิต

 

  • (10) บริหารเงินให้เป็นนิสัย มีความสำคัญกว่าจำนวนเงินที่เราบริหาร
    >> “ถ้าคุณไม่ควบคุมเงินของคุณ มันจะควบคุมคุณเสียเอง” ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยว่าตอนนี้คุณจะมีเงินก้อนโตหรือยังไม่มีก็ตาม สิ่งสำคัญก็คือ คุณต้องเริ่มจากการบริหารสิ่งที่คุณมีในตอนนี้

แยกรายได้ของคุณเก็บไว้ดังนี้(ยืดยุ่นได้คับ)

10% ใส่บัญชีเงินออมระยะยาวเพื่อการใช้จ่าย

10% ใส่บัญชีเพื่อการศึกษา

10% ใส่บัญชีเพื่อการให้และบริจาค

10% ใส่บัญชีอิสรภาพทางการเงิน?

10% ใส่บัญชีเงินใช้เล่น

50% ใส่บัญชีเพื่อการใช้จ่ายจำเป็น

 

 

สรุป : ความเชื่อที่ว่าหาเงินได้ก้อนโตจึงจะร่ำรวย ความเชื่อนั้นผิด ความจริงก็คือ ถ้าคุณบริหารเงินเป็น คุณจะมีอิสรภาพทางการเงินได้ด้วยรายได้ที่ไม่ต้องมากนัก แต่ถ้าคุณบริหารเงินไม่ดี แม้จะมีรายได้มหาศาล คุณก็ไม่สามารถมีอิสรภาพทางการเงินได้ อาจเลยไปถึงขั้นถังแตกเลยก็ได้

ไม่ว่าคุณจะมีเงินเท่าไหร่ จงเริ่มบริหารเงินเสียตั้งแต่ตอนนี้ อย่ารอ แม้ว่าคุณจะมีเพียงดอลลาร์เดียวก็ตาม จัดการบริหารมันเสีย การทำเช่นนี้จะเป็นการส่งสารให้สวรรค์รู้ว่าคุณพร้อมที่จะมีเงินมากขึ้นและพร้อมที่จะบริหารเงินจำนวนมากขึ้นแล้ว

 

 

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมาให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

บทความจาก T.Harv Eker
ที่มา : thlifefinance.com

เรื่องน่าสนใจ

ฝันว่าแต่งงานใหม่ ฝันนี้ดีหรือร้าย เลขเด็ดออนไลน์ แนะนำเลขให้โชค

ฝันว่าแต่งงานใหม่ ฝันนี้ดีหรือร้าย เลขเด็ดออนไลน์ แนะนำเลขให้โชค

เปิดตำราพยากรณ์ ลางบอกเหตุ ทำนายฝัน เลขนำโชคอะไรได้บ้าง จะเป็นลางร้ายหรือไม่ ฝันว่าแต่งงานใหม่ ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม การได้อยู่ครองคู่จนถึงขั้นแต่งงานก็ถือว่าเป็นการตกลงปลงใจที่ดี แต่หากใครที่ได้แต่งงานใหม่ ในความฝันนั้นมีความหมายว่าอย่างไร ฝันว่าแต่งงาน 2566 ฝันว่าได้แต่งงานกับสามีตัวเอง ฝันว่าได้แต่งงานกับใครไม่รู้ ฝันว่า กำลังจะแต่งงาน แต่ ตื่นก่อน ฝันว่าได้แต่งงานแต่ไม่ได้แต่ง ความฝันนี้จะมีความหมายว่าอย่างไรบ้าง หรือลางบอกเหตุอะไร เลขเด็ดออนไลน์ ได้รวบรวมความหมายของความฝัน ในแต่ละรูปแบบมาให้แล้ว พร้อมเลขแม่น ๆ สำหรับ เลขเด็ดซื้อหวย มาให้แล้ว ไปดูเลขรับทรัพย์งวดนี้กันเลย. ฝันว่าเวียนเทียน จะได้โชคไหม พร้อมคำทำนาย ตีเลขหวยแม่นๆ ฝันเห็นน้ำผึ้ง จะมีโชคไหม ทำนายฝัน พร้อมส่องเลขเด็ดงวดนี้ ฝันว่าขอแต่งงาน ทำนายฝัน พร้อมความหมาย ตีเลขเด็ด เตรียมรับทรัพย์ ฝันว่าแต่งงานใหม่ ฝันนี้ดีหรือร้าย เลขเด็ดออนไลน์ แนะนำเลขซื้อหวย รับทรัพย์ ฝันว่าแต่งงานใหม่ ทำนายความฝัน ตีเป็นเลขหวย ทำนายว่า จะมีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงในทางดีเกิดขึ้น จะมีโอกาส มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ที่เคยมีเคราะห์ก็จะหมดเคราะห์ […]

เปิดตำนานความเชื่อ ยักษ์แบกเสา บนถนนวิภาวดีรังสิต

เปิดตำนานความเชื่อ ยักษ์แบกเสา บนถนนวิภาวดีรังสิต

เปิดตำนานความเชื่อ ยักษ์แบกเสา บนถนนวิภาวดีรังสิต   บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อ มาให้อ่านกัน ยักษ์แบกเสา หลายคนที่สัญจรไปมาต้องเคยเห็น ยักษ์แบกสะพาน บนถนนวิภาวดี ยักษ์แบกเสาทางด่วน ใครเคยสังเกตเห็น ยักษ์แบกเสาโทลเวย์ หรือ ยักษ์บนถนนวิภาวดีรังสิต บ้างไหม บางคนอาจจะเคยรู้ที่มาของเสาแปลกๆ 2 ต้นนี้มาบาง แต่บางคนอาจจะยังไม่เคยทราบว่าแท้จริงแล้ว เพราะทางด่วนแห่งนี้เคยมี อาถรรพ์ ถึงขั้นต้อง สร้างยักษ์สองตน นี้ขึ้นมาเพื่อเป็น ตำนาน     เรื่องเล่า มีอยู่ว่าตอนสร้าง ดอนเมืองโทย์เวย์ อยู่ในสภาวะขาดทุน ไม่มีคนขึ้นจึงมีคนแนะนำให้ปั้น รูปยักษ์แบกถนน ไว้ เดิมอยู่ตรงฝั่งตรงข้ามการบินไทยแต่ถูกร้องเรียนมาว่า ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เสียชีวิตบ่อย เขาเลยย้ายไปไว้ตรงที่ก่อนข้ามแยกเซ็นทรัลลาดพร้าวแทน เรื่องราวอาถรรพ์สุดสยองนี้เกิดขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2535 ที่เริ่มมีการก่อสร้างดอนเมืองโทลเวย์ขึ้น ซึ่งในระหว่างการก่อสร้าง เกิดอุปสรรคขึ้นมากมาย ไม่ราบรื่น ติดขัด จนกระทั่งช่วงที่จะทำการยกเสาต้นนี้ขึ้น ก็เกิดอุปสรรค์ขึ้นอีก ทำอย่างไรก็ยกเสาต้นนี้ไม่ขึ้น     พอสร้างมาถึงแยกลาดพร้าว ต้องสร้างทางยกกระดับเหินข้ามแยกลาดพร้าว แต่สร้างเสาและคานได้ไม่กี่วันก็พังลงมาทับคนตาย ซึ่งเกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่หลายครั้ง ทั้งที่ทำถูกต้องตามหลักวิศวกรรมทุกประการก็ยังไม่ดีขึ้น โดยเจอเหตุการณ์ทั้งคานถล่มสร้างต่อไม่ได้ มีคนงานเสียชีวิตจำนวนมาก เสาก็ยกขึ้นไม่ได้ซะอย่างนั้น แยกอื่นไม่มีปัญหาอะไรยกเว้นแยกลาดพร้าว จึงมีผู้แนะนำให้ปั้นรูป ยักษ์ แบกถนนไว้ที่เสาเพื่อแก้เคล็ด เมื่อมีผู้แนะนำเช่นนั้น ต่อมาทางโครงการได้ขอให้ กรมศิลปากร ช่วยปั้นยักษ์สองตนนี้ขึ้นมา โดยการแกะสลัก ยักษ์ทำท่าแบกเสา ปรากฏว่าเกิดเรื่องเหลือเชื่อขึ้นอย่างมาก เพราะเมื่อ แกะสลักรูปยักษ์ เสร็จ เสาต้นนั้นก็ยกขึ้นอย่างง่ายดาย และสถานะการเงินของโครงการดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้คนต่างใช้งานทางด่วนแห่งนี้มากขึ้น และไม่ค่อยมีอุบัติเหตุอย่างเมื่อก่อนและใน ปัจจุบันยักษ์แบกเสา ก็ยังคงอยู่ที่เดิม […]

มาสร้างแรงจูงใจในการทำงาน กับ “วันจันทร์” กันเถอะ

มาสร้างแรงจูงใจในการทำงาน กับ “วันจันทร์” กันเถอะ

มาสร้างแรงจูงใจในการทำงาน กับ “วันจันทร์” กันเถอะ   เมื่อพูดถึงวันจันทร์ หลายคนคงเกิดอาการเซ็งสุด ๆ ไม่ปลื้มวันจันทร์อย่างแรงแน่นอน นั่นเป็นเพราะวันจันทร์คือวันที่ต้องเริ่มต้นทำงานของสัปดาห์ หลังจากที่ได้หยุดพักผ่อนเต็มที่บ้างไม่เต็มที่บ้าง คนก็เลยไม่ค่อยมีความสุขในวันจันทร์ ถึงขั้นเรียกว่า “Monday Blues” ซึ่งเป็นอาการด้านลบของคนที่เกลียดวันจันทร์ แต่ในเมื่อยังไงเราก็ลบวันจันทร์ออกจากปฏิทินไม่ได้ จะหนีวันจันทร์ก็ไม่พ้น เราก็ต้องจัดการตัวเองเพื่อให้อยู่ร่วมกับวันจันทร์ได้ง่ายและสบายใจขึ้น ลองนำวิธีที่ Tonkit360 หยิบยกมานำเสนอดู อาจจะทำให้เราสามารถเริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ได้อย่างสดใส และทำให้รู้สึกเกลียดวันจันทร์น้อยลงด้วย     ยอมรับความจริง ไม่ว่าเราจะเกลียดวันจันทร์ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้ก่อนว่าวันจันทร์มาถึงแล้ว และเราก็หนีไม่ได้ เราจึงต้องออกแบบชีวิตตลอดสัปดาห์ให้ได้ด้วยตัวเอง อย่างการทำงาน บอกตัวเองเสมอว่าวันจันทร์ก็เหมือนกับวันอังคาร-ศุกร์ นั่นแหละ เพียงแค่เป็นวันเริ่มต้นสัปดาห์เท่านั้นเอง และคิดไว้เสมอว่า “มีงานให้ทำ มีเงินให้ใช้ ดีกว่าไม่มีทั้งงานและเงิน” เมื่อเรายอมรับความจริงได้ วันจันทร์ก็แค่วันธรรมดาวันหนึ่ง ความเกลียดวันจันทร์ก็จะน้อยลง เตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อม ยอมรับความจริงได้แล้วก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อม จัดกระเป๋าว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง วันรุ่งขึ้นจะใส่ชุดไหน สีอะไรเป็นสีเสื้อประจำวัน list รายการงานที่ต้องทำคร่าว ๆ ของทั้งสัปดาห์ รวมถึงนอนให้ไวขึ้น จะได้ไม่ต้องมารีบร้อนทำในตอนเช้า ในเมื่อกายพร้อม ใจก็จะพร้อมด้วยในระดับหนึ่ง […]

คำว่าแต๊ะเอียกับความเชื่อชาวจีน และประวัติความเป็นมา

คำว่าแต๊ะเอียกับความเชื่อชาวจีน และประวัติความเป็นมา

คำว่าแต๊ะเอียกับความเชื่อชาวจีน   ธรรมเนียมชาวจีนโบราณเมื่อเทศกาลตรุษจีนจะมอบเงินแต๊ะเอียให้ลูกหลานไว้ทำอะไร เพื่ออะไร สมัยก่อนมีการมอบอย่างไร สำคัญไฉนเป็นความเชื่อหรือกลอุบายบทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะอธิบายประวัติความเป็นมา วันที่หนึ่งเดือนหนึ่งตามปฏิทินจันทรคติของชาวจีนโบราณหรือที่ออกเสียงเป็นภาษาจีนแต้จิ๋วว่าชิวอิกคือวันขึ้นปีใหม่จีน ชาวไทยรู้จักกันและเรียกว่าวันเที่ยว วันนี้สมัยโบราณลูกหลานที่อยู่ไกลจะเดินทางมารวมญาติกัน สังสรรค์พบปะพูดคุยคล้ายกับประเพณีสงกรานต์คือวันขึ้นปีใหม่ไทยนั่นเอง แล้วสิ่งหนึ่งที่จะทำตามธรรมเนียมความเชื่อคือผู้ใหญ่จะนำเหรียญสตางค์ที่มีรูร้อยเชือกเรียงกันประมาณสี่ห้าเหรียญหรือมากน้อยตามฐานะการเงินแต่ละคน มอบให้เด็กแล้วเด็กจะนำมาห้อยไว้ที่เอว เหรียญสตางค์ที่ว่าคล้ายเหรียญหนึ่งสตางค์ไทย การห้อยติดภาษาจีนแต้จิ๋วแปลว่า แต๊ะ เอวแปลว่าเอีย ออกเสียงชัด ๆ สำเนียงจีนแต้จิ๋วต้องขยับมุมปากออกไปเล็กน้อย เป็นที่มาว่าการทำแบบนี้คือการแต๊ะเอีย โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เด็กนำเงินนั้นไปเป็นเงินเก็บออมสะสมไว้ใช้เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใดสะสมได้มากกว่าเงินแต๊ะเอียมีหลายพวงเป็นการสะท้อนว่าเด็กมีวินัยทางการเงิน จะได้รับการสรรเสริญจากผู้ใหญ่และเป็นแบบอย่างแก่เด็กคนอื่น ๆ คือความเชื่อที่สืบทอดกันมาว่าวินัยทางการเงินบุคคลใดคือวินัยที่แท้จริงคน ๆ นั้น กล่าวคือบุคคลที่เก็บเงินได้มากคือคนเก่ง ฤาจะเป็นเพราะเหตุนี้ชาวไทยที่มีนิสัยฟุ่มเฟือยมองชาวจีนรุ่นก่อนว่ามีนิสัยขี้เหนียว   กาลเวลาเปลี่ยนไปเงินย่อมมีค่าเปลี่ยนตาม วิวัฒนาการมอบเหรียญเริ่มเปลี่ยนเป็นธนบัตร แต่อุบายชาวจีนโบราณคิดว่าการมอบธนบัตรไม่มีความพิเศษกว่าวันอื่น ปราชญ์ชาวจีนท่านหนึ่งมีความคิดว่าเทศกาลตรุษจีนชาวจีนจะนำสีแดงมาตกแต่งร้านค้า ที่อยู่อาศัยเพื่อความเป็นมงคลอยู่แล้ว ทำไมไม่นำธนบัตรมาใส่ซองสีแดงแล้วมอบให้กันในวันตรุษจีนแทนการมอบเหรียญสตางค์ที่มีรูร้อยเชือกเรียงกัน เป็นการแต๊ะเอียเป็นที่มาของคำว่าอั่งเปา อังเป็นภาษาจีนแต้จิ๋วแปลว่า แดง เปาแปลว่าการห่อ ออกเสียงว่าอั่งเปา แปลรวมว่าห่อแดงหรือซองสีแดง สมัยก่อนการมอบเงินแต๊ะเอียผู้มอบจะเป็นผู้ใหญ่มอบให้เด็กเท่านั้น แต่สมัยต่อมาลูกหลานที่มีฐานะการเงินจะมอบเงินอั่งเปาให้ผู้ใหญ่ที่มีอายุแล้วไม่ได้ทำงานมีรายได้ เพื่อใช้จ่ายส่วนตัว การมอบจะให้ลูกหลานนำไปมอบให้คนสูงอายุเป็นการปลูกฝังให้ลูกหลานตนรักกตัญญูรู้คุณผู้ใหญ่ แต๊ะเอียหรืออั่งเปาคืออุบายให้เด็กมีวินัยทางการเงินของชาวจีนโบราณเพราะการได้เงินมา เด็กบางคนนำไปใช้จ่ายแล้วหมดไป ขณะที่บางคนนำมาใช้บางส่วนแล้วเก็บออมไว้บางส่วน พฤติกรรมที่แสดงออกกระทั่งเกิดการเปรียบเทียบกันระหว่างเด็ก จะเกิดการแข่งขันกันเก็บเงินจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ดูดวงฟรี     ติดตามอ่านความเชื่อ […]