ประเพณีการเชิดสิงโต ประวัติและความเป็นมา

ประเพณีการเชิดสิงโต

ประเพณีการเชิดสิงโต

 

วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ จะนำเสนอความรู้ให้ท่านได้ทราบ เกี่ยวกับ “ประเพณีการเชิดสิงโต” คนจีนโบราณมีความเชื่อว่าสิงโตเป็นบุตรของมังกร ซึ่งมีอำนาจและทรงพลังมากที่สุดในบรรดาบุตรทั้งหมด ได้รับมอบหมายจากสวรรค์ในฐานะผู้พิทักษ์ สิงโตจึงถือเป็น สัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ความกล้าหาญ และความจงรักภักดี นอกจากนี้ยังเชื่อว่ากันว่าสิงโตเป็นสัตว์เทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ แม้เพียงเสียงคำรามก็สามารถปัดเป่าวิญญาณและสิ่งชั่วร้ายได้ ด้วยเหตุนี้เองชาวจีนจึงนิยมสร้างรูปสลักสิงโตไว้ ตรงหน้าพระราชวัง

ตามหน้าบ้านหรือสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นองครักษ์ผู้พิทักษ์คอยคุ้มครองป้องกันภยันตราย ภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายต่างๆ โดยจะสร้างสิงโตไว้ตรงหน้าประตู ทางเข้าเป็นคู่

นอกจากนี้ประเพณีความเชื่อที่สำคัญของจีนซึ่งมีมาแต่ช้านานจนถึงปัจจุบันก็คือประเพณีการเชิดสิงโต ตำนานที่มาของการเชิดสิงโตมีหลากหลายแตกต่างกัน

ประเพณีการเชิดสิงโตยังแบ่งออกเป็นแบบเหนือ(ปักกิ่ง) ซึ่งเลียนแบบท่าทางของสุนัข(ก็เพราะว่าคนจีนไม่เคยเห็นว่าสิงโตจริงแล้วมีท่าทางอย่างไร) รูปข้างล่างเป็นสิงโต สไตล์เหนือ สิงโตแบบใต้จะเลียนแบบท่าทางของแมว ซึ่งยังแบ่งเป็นแบบกวางตุ้งและฮกเกี้ยนด้วย

นอกจากนี้การเชิดสิงโตแบบใต้ ยังมีการแบ่งประเภทตามสีของหน้าสิงโต ได้แก่สีเหลืองจะหมายถึงเล่าปี่ สีแดงจะหมายถึงกวนอู และสีดำจะหมายถึงเตียวหุย และแบ่งตาม ลักษณะของขนและพู่

 

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

ที่มา : forward mail

ภาพ : Pixabay

เรื่องน่าสนใจ

ความเชื่อเรื่องกำเนิดเดือนทั้ง 12

ความเชื่อเรื่องกำเนิดเดือนทั้ง 12

ความเชื่อเรื่องกำเนิดเดือนทั้ง 12     เดือนมกราคม (January) ตั้งตามนามของเอนัส ผู้รักษาประตูแห่งสวรรค์    เดือนกุมภาพันธ์ (February) ตั้งตามนามของเทพธิดาเฟบรูเลีย ผู้รักษาเวลาเพื่อพลีกรรมล้างบาป    เดือนมีนาคม (March) ตั้งตามนามของเทพเจ้ามาร์ช ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม    เดือนเมษายน (April) ตั้งมาจากภาษาลาติน “Aperire” แปลว่า “เปิด” หรือ “ผลิดอกออกผล”    เดือนพฤษภาคม (May) ตั้งตามนามเทพธิดาแม่ ซึ่งเป็นเทพธิดาผู้ช่วยให้พืชพรรณไม้ในโลกเจริญเติบโต   เดือนมิถุนายน (June) เป็นคำมาจากภาษาลาตินว่า “JuveinsW แปลว่า “หนุ่ม” หรือ “วัยรุ่น”    เดือนกรกฎาคม (July) ตั้งเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ จูเลียส ซีซาร์ จักรวรรดิแห่งโรมัน    เดือนสิงหาคม (August) ตั้งเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ ออกุสตุส จักรพรรดิองค์แรกของโรมัน    […]

น้ำอมฤต มีที่มาจากไหน ดื่มแล้วจะเป็นอมตะจริงหรือไม่ !!

น้ำอมฤต มีที่มาจากไหน ดื่มแล้วจะเป็นอมตะจริงหรือไม่ !!

น้ำอมฤต มีที่มาจากไหน ดื่มแล้วจะเป็นอมตะจริงหรือไม่   คนไทยคงเคยได้ยินคำว่า “น้ำอมฤต” คุณทราบไหมว่าน้ำอมฤตจะทำให้คนไม่ตาย นั่นคือร่างกายอมตะ ชงดื่มเองได้ไหม ไหลจากที่ไหน มีอยู่จริงหรือไม่ วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้หาข้อมูลมาให้แล้ว..   คนจีนโบราณ สมัยจีนโบราณราชวงศ์ฉินมีความเชื่อเรื่องน้ำอมฤตสืบกันมา ครั้นสมัยฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่อย่างจิ๋นซีฮ่องเต้ประสงค์อยากเป็นอมตะไม่มีวันตายพระองค์ทรงบัญชาให้นักพรตนำผู้คนชายหญิงพร้อมอาหารออกเรือไปหาสิ่งที่กินแล้วไม่ตาย ประวัติศาสตร์จีนโบราณเชื่อว่าคือน้ำอมฤต แต่ไม่พบนักพรตเกรงว่าจะโดนประหาร เพราะเกรงอำนาจจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงอำนาจมากขณะนั้น เลยพร้อมใจกันอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่ง และผู้คนชายหญิงที่ไปพร้อมกันกับเรือแต่งงานกันจนกระทั่งได้ลูกหลาน ความเชื่อชาวจีนเชื่อว่าเกาะแห่งนั้นคือประเทศญี่ปุ่น   วรรณกรรมชาวตะวันออกเชื่อว่าน้ำอมฤตเกิดจากการกวนน้ำในมหาสมุทร มีอสูรและเทวดาสู้รบกันเพื่อแย่งชิงน้ำอมฤตนี้จนกระทั่งทำหยดบนพื้นโลกเกิดเป็นแร่อัญมณีที่ปรากฏอยู่ทุกวันนี้ โยคีบางตนพยายามกินแร่เหล่านี้โดยมีความเชื่อว่าจะมีชีวิตอมตะ   ชาวญี่ปุ่น เชื่อเรื่องน้ำอมฤตว่าหญิงสาวคนหนึ่งได้กินเนื้อสัตว์น้ำครึ่งคนครึ่งปลา ชาวประมงญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าสัตว์น้ำชนิดนี้มีอำนาจให้เกิดพายุในทะเลได้ และขึ้นสัตว์น้ำชนิดนี้ขึ้นฝั่งจะเกิดสงครามหญิงสาวคนนี้มีชีวิตยืนยาวจนกระทั่ง ลูกหลานตนต้องตายจากไป เธอเศร้าเพราะต้องคอยดูลูกหลานตนเองต้องตายจากไป ตำนานเล่าว่าเธอได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า แล้วชีวิตเธอได้หลุดจากความเป็นอมตะ และเสียชีวิตเมื่ออายุแปดร้อยปี     ชาวคริสต์ มีเรื่องเล่าว่าตอนที่พระเยซูกับลูกศิษย์ทั้งสิบสองร่วมกันเสวยอาหารมื้อสุดท้าย ขณะนั้นมีจอกอยู่ใบหนึ่ง ความเชื่อชาวคริสต์เรียกจอกนี้ว่า Holy Grail เป็นภาชนะใส่อาหารมื้อสุดท้ายตามประวัติศาสตร์ชาวคริสต์ นักบุญโยเซฟได้รับจอกนี้จากพระเยซู ความเชื่อเล่าว่าผู้ใดได้ครองจอกใบนี้จะมีอำนาจกล่าวคือใครดื่มน้ำจากจอกนี้จะมีความเป็นอมตะ ร่างกายที่มีบาดแผลจะหายทันที   ชาวพุทธ คำสอนชาวพุทธคือสรรพสิ่งในโลกใบนี้มีเกิดขึ้น คงอยู่และสูญสลายไป ดั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า […]

คาถาบูชาบรมครูปู่ตาไฟ พระคาถาอาคม เมตตามหาละลวย มหาเศรษฐี มหาเสน่ห์

คาถาบูชาบรมครูปู่ตาไฟ พระคาถาอาคม เมตตามหาละลวย มหาเศรษฐี มหาเสน่ห์

คาถาบูชาบรมครูปู่ตาไฟ คาถาฤาษีตาไฟ พระคาถาอาคมเป็นคาถาพระฤาษีตาไฟแท้แล ไม่ใช่อื่นไกล คือหัวใจปฏิสังขาโย ใช้เรียงกันต่อหมุนไปคำละตัว และวกเข้าหาตัวต้น ท่านห้ามแปลแล สิทธิการิยะ ท่านกล่าวว่า ใครได้เหมือนได้โสดาบัน หรือแก้วมณีโชติใสแสง ใช้ดับพิษเสีย พิษไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ปวดหัวมัวตา เสก ๒ คาบเป่าลงดีแล ใช้ทางเมตตามหาละลวยก็ได้ ภาวนาไปทุก เช้า-ค่ำ จักเกิดลาภสักการะ เงินทอง ค้าขายของก็ดี ภาวนาตามลูกประคำ มีอานิสงส์มากแท้ ใช้กันทางภูตปิศาจก็ได้  ทำน้ำมนต์ประพรมบ้านเรือน กันไฟแล คายขันธ์ ๕ เทียนเล่มบาท ๑ คู่   คาถาบูชาบรมครูปู่ตาไฟ พระคาถาอาคม เมตตามหาละลวย     บทสวดปู่ฤาษี ๑๐๘ อุกาสะ อิมัง อัคคีพาหูบุพผัง อะหังวันทา อาจาริยัง สัพพะสัยยัง วินาสสันติ สิทธิการิยะอะปะระปะชา อิมัสมิง ภะวันตุเม ทุติยัมปิ อิมัง […]

ชัวร์หรือมั่ว !! ความเชื่อ ห้ามกินเม็ดฝรั่ง ไส้ติ่งจะอักเสบ

ชัวร์หรือมั่ว !! ความเชื่อ ห้ามกินเม็ดฝรั่ง ไส้ติ่งจะอักเสบ

ความเชื่อ ห้ามกินเม็ดฝรั่ง ไส้ติ่งจะอักเสบ   บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ มาฝากกันเช่นเคย หลายคนคงเคยฟังคนเฒ่าคนแก่สมัยก่อนเมื่อยังเด็ก สอนว่า กินฝรั่งอย่าเผลอกินเม็ดลงไป ระวังไส้ติ่งอักเสบ จะเชื่อได้หรือไม่ จริงเท็จอย่างไรกับคำเตือนที่คนโบราณว่า ไปดูกันเลย..   ธรรมชาติลำไส้เล็กและใหญ่คืออวัยวะภายในช่องท้องที่ยาวประมาณสิบเซนติเมตร และที่แปลกประหลาดมากคือบริเวณลำไส้ใหญ่คนจะมีติ่งยื่นออกไป จะเพราะอะไรไม่มีคำอธิบาย ที่สำคัญติ่งที่ยื่นออกไปที่ว่าแต่ละคนยาวไม่เท่ากันแต่ไม่เกินสี่นิ้วอยู่บริเวณลำไส้ใหญ่ตอนต้น มีเมือกเคลือบอยู่ การที่มีลักษณะยื่นออกไปจากลำไส้ คนโบราณจะเรียกว่าไส้ติ่ง จนติดปากมาคนสมัยก่อนระวังมากเพราะการแพทย์ไม่ค่อยเจริญ   ฉะนั้น คนแก่สมัยก่อนจะสอนลูกหลานให้ระวังไม่ให้กินเม็ดผลไม้ที่มีขนาดเล็ก เพราะเสี่ยงที่จะเผลอติดเข้าไปในไส้ติ่ง โดยเฉพาะฝรั่ง ผลไม้ที่มีรสเด็ดคือความหวานอมเปรี้ยวอยู่ที่ในแกนไส้ใน และเม็ดฝรั่งเอกลักษณ์คือเมล็ดแข็ง มีขนาดเล็ก ในหนึ่งผลมีจำนวนมาก อาจหลุดเข้าไปในไส้ติ่งแล้วการรักษาแบบผ่าตัดสมัยก่อนลำบากเพราะต้องเดินทางเข้ามาในพระนคร เท่านั้น การแพทย์สมัยโบราณมิอาจรักษาหาย จนต้องห้ามลูกหลานเวลากินฝรั่งระวังอย่าเผลอกินเม็ดเข้าไป   ความจริง เมล็ดผลไม้อื่น เศษอาหาร เศษขนแปรงสีฟัน และพฤติกรรมการอุจจาระมีความเสี่ยงเช่นกัน โดยคนที่มีอุจจาระแข็ง ท้องผูกประจำเสี่ยงกับอาการไส้ติ่งอักเสบเช่นกัน เพราะขณะลำไส้ทำการย่อยอาหารแล้วเข้าไปอุดในลำไส้ จนมีอาการปวดท้องเฉียบพลันที่ด้านขวา มีไข้สูง เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน จนต้องทำการผ่าตัดรักษา การเคี้ยวอาหารให้ละเอียด กินอาหารที่มีกากใยสูงจะล้างลำไส้ให้ลดความเสี่ยงจากการที่เศษอาหารติดลงไปในไส้ติ่ง       ติดตามอ่านความเชื่อ […]