ความเชื่อล้านนาเกี่ยวกับ ยันต์ข่ม

ความเชื่อล้านนาเกี่ยวกับ ยันต์ข่ม

 

ผู้หญิงบางคนมีปัญหากับสามีที่เป็นคนเห็นแก่ตัว ชอบเอารัดเอาเปรียบภรรยา บางคนชอบข่มขู่และทำร้ายร่างกาย มีการลงไม้ ลงมือตบตีภรรยา บางคนทิ้งให้ภรรยาทำงานทั้งในบ้านและนอกบ้านราวภรรยาเป็นทาส

หรือสามีบางคนนอกจากไม่ใส่ใจดูแลภรรยา คู่ทุกข์คู่ยากของตัวเองแล้ว ยังย่ำยีจิตใจของภรรยาอีกด้วย โดยการแอบไปมีภรรยาน้อย ปล่อยให้ภรรยาเหี่ยวเฉาเลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน ไม่มีทางใดที่ผู้หญิงจะไปสู้รบปรบมือกับชายที่เป็นสามีได้ และไม่มีทางที่จะร้องขอความเป็นธรรมจากสังคมในอดีต หญิงบางคน จึงพึ่งพาไสยศาสตร์เข้าแก้ปัญหา เพื่อให้ความคับแค้นที่ฝังอยู่ในใจผ่อนคลายลง ศาสตร์ที่หญิงใช้กับชายในอดีตนั้น คือการ “ข่ม”

คำว่า “ข่ม” หมายถึง การกดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ให้เผยอขึ้น กดให้ลง กดทับ การบังคับ แต่ในที่นี้หมายถึง การกระทำด้วยอาคม เพื่อให้ผู้อื่นลดอำนาจ และยอมอยู่ใต้อำนาจของผู้กระทำ ชายใดถ้าถูกหญิงข่มโดยการจุดเทียน ถึงจะเป็นคนดุร้ายอย่างไรก็จะอ่อน ปวกเปียก ยอมทำตามทุกอย่างที่ฝ่ายหญิงต้องการ บอกให้อยู่หรือให้ไปก็จะทำตามโดยไม่ขัดขืน รูปยันต์ข่มเขียนลงบนกระดาษสาทำเป็นไส้เทียน

รูปยันต์นี้ลงใส่กระดาษสา ตรงหว่างขานั้นเขียนชื่อผู้ชายที่เป็นเป้าหมาย จากนั้นตัดชายผ้าถุงใส่ข้างใน แล้วม้วนกระดาษสา ให้เป็นแท่ง เพื่อทำเป็นไส้เทียน นำขี้ผึ้งตากแดดให้อ่อนตัวแล้วจึงนำมาหุ้ม ฟั่นให้เป็นแท่งเหมือนเทียน แล้วนำไปจุดใต้บันไดบ้าน ของผู้หญิงที่เป็นคนกระทำ ใช้สุ่มไก่ครอบเทียน แล้วใช้ผ้าถุงของผู้หญิงคลุมข้างบนสุ่มไก่อีกทีหนึ่ง

ชายใดถ้าถูกหญิงข่มโดยการจุดเทียน ถึงจะเป็นคนดุร้ายอย่างไรก็จะ อ่อนปวกเปียกยอมทำตามทุกอย่างที่หญิงนั้นต้องการ บอกให้อยู่หรือให้ไปก็จะทำตามโดยไม่ขัดขืน

เมื่อทำให้สามีตกอยู่ในอำนาจได้แล้วยังไม่พอ เพราะผู้ชายยังไม่ได้รักและลุ่มหลง จึงต้องทำวิธีต่อไป ด้วยการจารเป็น รูปตารางและอักขระลงบนแผ่นทองเหลือง หรือแผ่นทองแดง เขียนชื่อ และวันเดือนปีเกิดของผู้ชายที่ช่องกลาง แล้วม้วนแผ่น ทองเหลืองให้เป็นแท่ง จากนั้นจึงขุดหลุมที่ใต้บันได ลึกประมาณ 1 คืบ จึงนำแท่งยันต์นั้นฝังลงในหลุม ก่อนที่จะฝัง ให้ทำกระทง ใส่ข้าวเหนียวสุก 1 ปั้น กล้วยน้ำว้าสุก 1 ผล พร้อมดอกไม้ธูปเทียน กล่าวขอแม่พระธรณีช่วยให้การกระทำคุณไสยครั้งนี้ให้มีอานุภาพ แรงกล้า เห็นผลภายใน 3 วัน 7 วัน แล้วจึงวางกระทงไว้บนดินบริเวณนั้น

ชายใด หรือสามีคนไหน โดยเฉพาะสามีที่ใจร้าย ไม่สนใจใยดีต่อภรรยา ปล่อยให้ภรรยาเหงาหงอยอยู่บ้านตามลำพัง ตัวเอง หนีไปเที่ยวหาความสุขใส่ตัว โดยไม่คิดถึงหัวอกเขาหัวอกเรา เมื่อถูกภรรยาทำพิธีฝังยันต์ คนล้านนาเชื่อกันว่า ชายนั้นจะรักและ ลุ่มหลงภรรยาอย่างไม่คาดฝัน จะเห็นภรรยาดีงามไปเสียทุกอย่าง จะอยู่ติดบ้าน คอยเอาอกเอาใจภรรยา ไม่นอกใจอีกเลย

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

ข้อมูลโดย : สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เรื่องน่าสนใจ

องค์สี่หูห้าตา เทวดาโชคลาภ นำพวงมาลัยกราบไหว้ขอพร ขอโชค ขอเลขเด็ด !!

องค์สี่หูห้าตา เทวดาโชคลาภ นำพวงมาลัยกราบไหว้ขอพร ขอโชค ขอเลขเด็ด !!

องค์สี่หูห้าตา เทวดาโชคลาภ   บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 168 หมู่ที่ 7 ตำบลองครักษ์ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง มีชาวบ้านจุดเตาถ่าน จุดธูป และนำพวงมาลัยมากราบไหว้ขอพร ขอโชคขอลาภ ขอเลขเด็ด “องค์สี่หูห้าตาเทวดานำโชค” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “พระอินทร์จำแลง” ซึ่งเป็นปูนรูปปั้นสีเขียวขนาดใหญ่ เท่าคนจริง มีรูปร่างคล้ายลิงปนยักษ์ โดยที่ปากคาบถ่าน ชาวบ้านเชื่อว่า กินถ่านเป็นอาหารและขับถ่ายเป็นทอง   นายสำราญ ขันทอง อายุ 78 ปี เล่าให้ฟังว่า เมื่อหลายปีก่อนนั้น นายสุพจน์ ผมทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลองครักษ์ ที่ชอบสะสมของเก่า ได้นำองค์สี่หูห้าตาเทวดานำโชค หรือพระอินทร์จำแลง ที่ได้มาจากต่างจังหวัด นำมาให้ชาวบ้านได้บูชาตามความเชื่อ ขอโชคขอลาภ และคนถูกหวยกันจำนวนมาก หลังจากนั้นชาวบ้านก็เอาถ่านที่ใช้หุงต้มมาถวายให้กันเป็นประจำ     โดยการบูชากราบไหว้นั้น สามารถทำได้ทุกวัน ทุกเวลา แต่ถ้าจะให้ดีต้องมากราบไหว้ในช่วงเวลา 18.00 น.เป็นต้นไป เพราะเชื่อกันว่า ถ้าใครมีความทุกข์ ความลำบาก เมื่อมาขอพร […]

ลางดีหรือลางร้าย !! สัตว์วิ่งตัดหน้ารถ ตามความเชื่อของคนโบราณ

ลางดีหรือลางร้าย !! สัตว์วิ่งตัดหน้ารถ ตามความเชื่อของคนโบราณ

ลางดีหรือลางร้าย !! สัตว์วิ่งตัดหน้ารถ ตามความเชื่อของคนโบราณ   ผู้ใช้รถใช้ถนนหลายคน คงจะเคยมีประสบการณ์ ถูกสัตว์วิ่งตัดหน้ารถ หรือวิ่งเข้าหารถ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ สิ่งเหล่านี้ตามความเชื่อของคนโบราณแล้ว ถือเป็นลางบอกเหตุที่ไม่ควรมองข้ามอย่างหนึ่ง เพราะหมายถึงเคราะห์หามยามร้าย หรืออาจจะเป็นลางดี ตามลักษณะของการตัดหน้ารถ แบบไหนคือลางดี แบบไหนเป็นลางร้าย ตาม เลขเด็ดออนไลน์ ไปหาคำตอบพร้อมๆกันได้เลย..   ตัดหน้า จากขวาไปซ้าย หากมีสัตว์วิ่งผ่าน หรือตัดหน้ารถ จากฝั่งขวาไปซ้าย ถือเป็นลางไม่ดี ระวังจะมีภัยเกิดขึ้นกับตัวเองแบบกระทันหัน   ตัดหน้า จากซ้ายไปขวา หากมีสัตว์วิ่งผ่าน หรือตัดหน้ารถ จากฝั่งซ้ายไปขวา ถือว่าเป็นลางดี จะมีโชค มีลาภเข้ามาในชีวิตแบบไม่คาดฝัน   วิ่งชนรถจากด้านหน้า หากมีสัตว์วิ่งมาชนรถจากทางด้านหน้า เป็นลางไม่ดี โบราณแนะนำให้หาที่จอดพักรถริมทาง แล้วค่อยเดินทางต่อในอีก 15-30 นาที     วิ่งชนรถจากด้านหลัง หากมีสัตว์วิ่งชนรถจากทางด้านหลัง ถือว่าเป็นลางดี ให้เร่งเดินทาง จะได้ประสบโชคลาภแบบไม่คาดฝันมา   วิ่งชนรถจากด้านขวา หากมีสัตว์วิ่งมาชนรถจากทางด้านขวา […]

ผลไม้ที่ไม่ควรกินคู่กัน อาจจะมีอันตรายได้ จากประโยชน์ จะกลายเป็นโทษ !!

ผลไม้ที่ไม่ควรกินคู่กัน อาจจะมีอันตรายได้ จากประโยชน์ จะกลายเป็นโทษ !!

ผลไม้ที่ไม่ควรกินคู่กัน อาจจะมีอันตรายได้   ประเทศไทยโชคดีที่มีผลไม้ให้กินตลอดทั้งปี สาวไทยเลยสามารถลดน้ำหนักจากการทานผลไม้ที่มีประโยชน์ได้แบบไม่เปลืองเงินมากนัก แต่หากจะทานแค่อย่างเดียวมันก็อาจจะไม่สะใจ เลขเด็ดออนไลน์ เองก็ชอบทานสองชนิดพร้อมกัน แต่นายแพทย์กฤษดา ศิริมพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ได้เผยเตือนเราสาวๆ ว่ายังไงก็มีผลไม้บางคู่ที่ทานพร้อมกันไม่ได้อยู่เหมือนกันนะ   1. กลุ่มที่มีรสหวานเหมือนกัน ถ้าสังเกตดีๆ ผลไม้บางชนิดก็หวานเจี๊ยบจนแสบคอ และผลไม้เหล่านั้นล่ะที่ไม่ควรทานเป็นคู่ด้วยกัน เช่น ทุเรียนกับลำไย ขนุนกับละมุด เงาะกับลองกอง เพราะความหวานของผลไม้เหล่านี้มาจากน้ำตาลฟลุกโตส ซึ่งเมื่อทานเข้าไป มันจะกลายเป็นไขมันในเวลาต่อมา และเข้าไปสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย แน่นอนว่าจะก่อให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือก็อาจจะหมดสวยเพราะลงพุงไปเลย   2. กลุ่มที่เป็นแป้งเหมือนกัน หากแยกไม่ออกว่าผลไม้ชนิดไหนเป็นแป้งบ้าง ให้สังเกตช่วงดิบกับช่วงสุก โดยถ้าทานดิบมันจะออกเนื้อแน่นๆ แต่เมื่อไหร่สุกปุ๊บ มันจะหวานมาก นี่ก็เพราะแป้งตอนดิบ เปลี่ยนเป็นน้ำตาลตอนสุกนั่นเอง แม้จะทานเข้าไปตอนเป็นแป้ง แต่เวลาต่อมามันก็จะกลายเป็นน้ำตาลอยู่ในร่างกายของเรานี่่ล่ะ จากนั้นก็จะกลายเป็นไขมัน สะสมอยู่บริเวณตับ เสี่ยงตับแข็งหรือมะเร็งตับไปอีก ยกตัวอย่างผลไม้ที่หาทานง่ายๆ จนอาจพลาดจับมาทานคู่กันได้ ก็คู่นี้เลย มะม่วงดิบกับกล้วย หรือมะม่วงกับฝรั่ง   3. กลุ่มที่มีโพแทสเซียมเหมือนกัน การได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลให้ไตทำงานหนัก […]

3 ความเชื่อผิดๆ ของคนโบราณ ที่หมอว่า อย่าทำ..

3 ความเชื่อผิดๆ ของคนโบราณ ที่หมอว่า อย่าทำ..

3 ความเชื่อผิดๆ ของคนโบราณ ที่หมอว่า อย่าทำ..   บทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะนำเสนอให้ท่านได้ทราบเกี่ยวกับ “3 ความเชื่อผิดๆ ของคนโบราณ” อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยอาจทรุดหนักลง เพราะการปฐมพยาบาลรักษาแบบผิด ๆ ที่สอนต่อๆกันมา หลายคนใช้ ความคุ้นเคย ในการแก้ไขอาการต่างๆ แบบคนไทยคุ้นเคยกันมานานบางอย่างเข้าใจผิด และทำอย่างไร   ทายาสีฟันที่ผิวไฟไหม้ คนสมัยก่อนจะสอนลูกหลานว่าผิวหนังไฟไหม้ต้องทายาสีฟัน ความจริงอาการไฟไหม้ที่ผิวหนังความร้อนจะเข้าไปสะสมอยู่ใต้ผิวหนัง การทายาสีฟันลงบนผิวหนังบริเวณนั้น จะทำให้ความร้อนระบายออกไม่ได้ วิธีที่ดีที่สุดคือประคบน้ำเย็น แล้วรีบไปพบแพทย์   ห่มผ้าลดไข้ เวลาลูกเล็กเริ่มอาการตัวร้อน คนสมัยก่อนจะใช้วิธีคลุมโปงจนมิดชิดให้เหงื่อออกเวลามีไข้ แล้วผิวหนังจะแสดงผื่นสีแดงออกมาคือพิษไข้ออก ความจริงอุณหภูมิร่างกายกำลังสูงอยู่ ไม่ควรห่มผ้าคลุมโปงจนมิดชิดให้เหงื่อออก เพราะจะยิ่งทำให้อุณหภูมิสูงยิ่งขึ้น ความจริงควรให้อากาศหมุนเวียน เช็ดตัวด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ควรใช้น้ำเย็นจัด เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อสั่นเกร็ง   เชือกมัดเหนือแผลเลือดออก กรณีที่มีแผลเลือดออกมาก จะต้องใช้เชือกรัดเหนือแผลเพื่อห้ามเลือดได้ แต่ก็ใช้ได้กับแขนขาเท่านั้น และต้องอย่ารัดแน่นมากนานเกินไป เพราะปลายอวัยวะจะขาดเลือดไปเลี้ยง ซึ่งอันตรายอาจสูญเสียอวัยวะนั้น แต่ควรรัดทับเสื้อผ้าเพื่อไม่ให้เกิดแผลที่ผิวหนัง และอย่ารัดนานมาก ควรคลายสายรัดออกทุกๆ 30 นาทีเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ สรุป : วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นคือสิ่งสำคัญ แต่จะต้องศึกษาอย่างเข้าใจ และเชี่ยวชาญ […]