เทศกาลปีใหม่กับความเชื่อ ความเชื่อโชคลางเกี่ยวกับวันปีใหม่ !!

เทศกาลปีใหม่กับความเชื่อ

เทศกาลปีใหม่กับความเชื่อ

 

เรื่องราวความสำหรับต้อนรับปีใหม่นี้ ก็คงหนีไม่พ้นความเชื่อทั้งหลายที่เกี่ยวกับเทศกาลปีใหม่ ซึ่งแต่ละประเทศก็มีเรื่องราวแตกต่างกันไป แต่ก่อนที่เราจะไปรู้จักความเชื่อของที่ต่างๆ เรามารู้กันก่อนดีกว่าค่ะว่า วันปีใหม่ มันที่มาที่ไปอย่างไร

มีเรื่องเล่ากันว่า จริงๆ แล้วในอดีต วันปีใหม่ไม่ใช่วันที่ 1 มกราคม แต่เป็นวันที่ 1 มีนาคม ตามปฏิทินโบราณของชาวโรมัน โดยปฏิทินนี้จะมีแค่ 10 เดือน และเดือนมีนาคมจะเป็นเดือนแรกของปี เพราะปฏิทินจะนับตามการโคจรของดวงจันทร์ โดยเริ่มจากฤดูใบไม้ผลิ จนถึงสิ้นฤดูใบไม้ร่วง

สำหรับการเฉลิมฉลองปีใหม่เริ่มขึ้นครั้งแรกในยุคเมโสโปเตเมียเมื่อประมาณสองพันปีที่แล้วประมาณช่วงกลางเดือนมีนาคม เรียกว่า vernal equinox ต่อมาชาวอียิปต์ เปอร์เซีย และเฟนีเชียนเริ่มเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ของพวกเขาในช่วงเวลา fall equinox น้องๆ คงสงสัยสินะคะว่า Equinox คืออะไร เราสามารถให้คำจำกัดความของ Equinox ได้ว่า คือ ช่วงเวลาที่กลางวันและกลางคืนเท่ากัน ซึ่งมักจะเกิดในช่วงวันที่ 21 มีนาคมและ 23 กันยายน ส่วนชาวกรีกจะเฉลิมฉลองตาม winter solstice หรือวันที่มีกลางวันสั้นที่สุด ทางซีกโลกเหนือ ซึ่งก็คือช่วง 22 ธ.ค. ถึง 5 ม.ค. นั่นเอง

มีตำนานเล่ากันว่าในยุคของ Numa Pompilius กษัตริย์องค์ที่ 2 ของโรมันก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการแบ่งเดือนใหม่ โดยเพิ่มเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์เข้าไป หากชาวโรมส่วนใหญ่ยังไม่ยอมรับ และยังเฉลิมฉลองวันปีใหม่ในวันที่ 1 มีนาคมกันต่อไป

จนเมื่อถึงยุคสาธารณรัฐโรมัน ก็เปลี่ยนมาเป็นวันที่ 1 ม.ค. เป็นครั้งแรกโดยจูเลียส ซีซาร์เมื่อ 46 ปีก่อนคริสตศักราช เพราะเดือนมกราคมนี้ตั้งชื่อตามชื่อเทพเจ้าจานุส (Janus) เทพกรีกที่คนโรมันนับถือบูชา พระองค์จึงต้องการให้เดือนนี้เป็นการเริ่มต้นวันขึ้นปีใหม่


ความเชื่อเกี่ยวกับเทศกาลปีใหม่ตามประเทศต่างๆ

เริ่มต้นด้วยประเทศในแถบยุโรปอย่างประเทศอังกฤษ ชาวอังกฤษจะมีความเชื่อว่า ผู้ชายคนแรกที่มาเยือนที่บ้านหลังจากเที่ยงคืนแล้วจะนำความโชคดีมาให้ โดยปกติแล้วชาวอังกฤษมักจะให้ของขวัญอย่างเช่น เงิน ขนมปังหรือก้อนถ่าน เพื่อเป็นการอวยพรให้ครอบครัวนั้นมีสิ่งของเหล่านั้นอย่างอุดมสมบูรณ์ตลอดปี ผู้ที่มาคนแรกนั้นจะต้องไม่ใช่คนผมบลอนด์ ผมสีแดง หรือเป็นผู้หญิง เพราะเชื่อว่าคนเหล่านี้จะนำความโชคร้ายมาให้

ส่วนที่ประเทศเดนมาร์ก เชื่อกันว่า ถ้าบ้านไหนมีเศษจานแตกกองสุมอยู่หน้าประตูบ้านเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าบ้านนั้นมีเพื่อนฝูงคบหาสมาคมมากมาย เพราะชาวเดนิชจะเก็บสะสมจานไว้ตลอดปี แล้วจะนำไปขว้างที่หน้าบ้านเพื่อนของพวกเขาในวันก่อนปีใหม่

มาต่อกันที่ประเทศในแถบอเมริกาใต้อย่างบราซิล ชาวบราซิลเชื่อว่า ซุปถั่วแขก (Lensil Soup) จะเป็นเครื่องแสดงความมั่งคั่ง ดังนั้นในวันแรกของปี ชาวบราซิลจะทำซุปถั่วแขกทานกัน หรือว่าจะทานถั่วแขกกับข้าว

ข้ามมาที่ประเทศในทวีปเอเชียกันบ้างนะคะ ที่ประเทศศรีลังกา จะเริ่มเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ในวันที่ 13 หรือ 14 เมษายนตามปฏิทินของฮินดู ผู้คนที่นั่นจะทำความสะอาดบ้านช่องในช่วงก่อนถึงวันปีใหม่ บางบ้านอาจจะทาสีบ้านใหม่ หรือเตรียมทำของหวานหลายชนิดเพื่อรับประทานในวันปีใหม่ เพราะชาวศรีลังกาจะไม่ทำอาหารหรือจุดไฟในคืนก่อนวันปีใหม่ และพวกเขาจะทานข้าว pongal เป็นมื้อแรกของวันปีใหม่ ซึ่งเป็นอาหารที่ทำจากข้าว ผสมน้ำตาล และมะพร้าว มีรสชาติหวาน

สำหรับที่ประเทศญี่ปุ่น วันปีใหม่จะถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของครอบครัว ร้านรวงต่างๆ รวมไปถึงสำนักงานและโรงงานจะปิดทำการในวันนั้น ผู้คนมักจะไปไหว้พระขอพรตามวัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็กๆ หรือวัยรุ่น ตามวัดต่างๆ เมื่อย่างเข้าวันปีใหม่ จะเริ่มตีระฆัง 108 ครั้ง เพื่อปลดปล่อยสิ่งชั่วร้ายทั้งหมด 108 อย่างจากปีก่อนให้หมดไป ซึ่งเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า โจยะโนะคาเนะ และเมื่อเริ่มปีใหม่ ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการหัวเราะจะเป็นการทำให้พวกเขาโชคดีในปีใหม่อีกด้วย


อาหารปีใหม่!! กับความเชื่อที่มีแต่โบราณ

สเปน จะทานองุ่น 12 ผลไปพร้อมกับเสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนในวันสิ้นปี เพื่อต้อนรับความโชคดีตลอด 12 เดือนข้างหน้า

เนเธอร์แลนด์ นิยมทานโดนัท เพราะเชื่อว่าวงกลมแบบวงแหวนนั้น จะทำให้ชีวิตครบถ้วนบริบูรณ์เหมือนรูปร่างของอาหาร

กรีซ จะทำเค้กสอดไส้เหรียญเงินชิ้นใหญ่หรือที่เรียกว่า St. Basil’s cake เพื่อรำลึกถึง “นักบุญบาซิล” ผู้มีความเมตตาต่อคนยากจน ซึ่งเสียชีวิตในวันที่ 1 มกราคม และเชื่อกันว่าคนใดพบเหรียญเงินในเค้กนั้นจะโชคดีไปตลอดปี

จีน นิยมทานปลาและไก่ทั้งตัวในปีใหม่ เพราะคำว่า “ปลา” พ้องเสียงตรงกับคำว่า “เหลือเฟือ” ในภาษาจีน และทานไก่ทั้งตัวโดยไม่ตัดส่วนใดออก โดยเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตครบถ้วนสมบูรณ์และมั่งคั่ง

ญี่ปุ่น จะทานบะหมี่ไม่ตัดเส้นที่เรียกว่า “โทชิโคชิ โซบะ” เพราะเชื่อว่าจะทำให้อายุยาวเหมือนเส้นบะหมี่

อิตาลี จะทานถั่วเลนทิล เพราะถั่วนี้มีรูปร่างคล้ายเหรียญเงิน จึงเชื่อว่าจะนำความร่ำรวยมาให้

อเมริกา นิยมทานถั่วตาดำ Black-Eyed pea (ไม่ใช่นักร้องวง Hip-Hop นะครับ) เพราะถั่วนี้เมื่อปรุงสุกแล้วจะมีสีและรูปร่างเหมือนเหรียญเงิน และแน่นอน เขาเชื่อว่านำความร่ำรวยมาให้

ส่วนประเทศไทยนั้นถือว่าวันปีใหม่คือวันสงกรานต์ จะนิยมทานพวกทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง เพราะเชื่อเรื่องโชคลาภและความมั่งมี แต่น่าเสียใจที่ปัจจุบันนี้เรากลับไปทานอาหารที่รับวัฒนธรรมมาจากต่างชาติ แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเค้ก, พิซซ่า หรือไอศกรีม และที่หนักว่านั้นคือจำพวกเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทั้งหลาย เฉพาะฉะนั้นเพื่อเป็นการรักษาวัฒนธรรมของไทย ปีใหม่นี้เราควรหันมาทานของอนุรักษ์ความเป็นไทยเราบ้างก็ดีนะครับ เช่น ขนมถ้วย, ถ้วยฟู หรือพวกน้ำลำไยเป็นต้น

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

ที่มา : เว็บไซต์ horoscope.thaiza.com

เรื่องน่าสนใจ

4 อาหารบ้านๆ ใกล้ตัวคุณ กินเป็นประจำ ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ !!

4 อาหารบ้านๆ ใกล้ตัวคุณ กินเป็นประจำ ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ !!

4 อาหารบ้านๆ ใกล้ตัวคุณ กินเป็นประจำ ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ !!   ด้วยสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย การทำงานประจำวันที่ต้องเจอทั้งฝุ่นและควัน รวมไปถึงมลพิษอื่นๆ ที่ป่ะป่นเข้ามากับอากาศ ทำให้คนส่วนใหญ่กลายเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งสร้างความทรมานในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ทำให้คุณลิซ่า คอลลิเออร์ คูล นักเขียนเจ้าของรางวัล National Health Information Award ได้คิดหาวิธีช่วยป้องกันความทรมานจากอาการของโรคภูมิแพ้ ซึ่งได้แก่ การกินอาหารดังต่อไปนี้เป็นประจำ มีอะไรบ้างนะ ไปดูกันเลย..   1. ผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว องุ่น เพราะผลไม้เหล่านี้จะมีวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดอาการ ภูมิแพ้ ได้ โดยพยาบาลเด็กอ่อนได้กล่าวว่าเด็กแรกเกิดที่ดื่มนมแม่เป็นประจำ จะมีภูมิต้านทานต่อโรค ภูมิแพ้ เพราะได้รับวิตามินซีจากน้ำนม   2. มะเขือเทศ เป็นแหล่งรวมของวิตามินซีเช่นเดียวกับผลไม้ตระกูลส้ม นอกจากนี้ในมะเขือเทศยังมีไลโคปินซึ่งช่วยลดอาการหอบหืดจาก ภูมิแพ้ ได้เป็นอย่างดี   3. เมล็ดทานตะวัน นอกจากวิตามินซีแล้ว วิตามินอีก็เป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่ช่วยต่อสู้กับโรค ภูมิแพ้ ได้ จากการวิจัยพบว่าอาหารที่มีวิตามินอีสูงจะช่วยลดการตอบสนองของร่างกายต่อสารก่อ ภูมิแพ้ ซึ่งเมล็ดทานตะวันก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี   4. […]

ฝันเห็นหอย ทำนายฝัน หมายถึงอะไร แนะนำเลขเด็ดหวยให้โชค

ฝันเห็นหอย ทำนายฝัน หมายถึงอะไร แนะนำเลขเด็ดหวยให้โชค

เปิดคำพยากรณ์กับ เลขเด็ดออนไลน์ ทำนายฝัน ฝันดีหรือร้าย ใช่ลางบอกเหตุหรือไม่ ฝันเห็นหอย ฝันว่าเห็นหอยเยอะมาก ในฝัน ฝันว่าได้จับหอย ฝันเห็นหอยประหลาด ฝันเห็นหอยสังข์ แปลว่าจะมีโชคจริงหรือไม่ ทำนายฝัน ฝันเห็นหอย ในฝัน ฝันว่าเห็นหอยเยอะมาก ฝันว่าได้จับหอย เห็นหอยประหลาด ความฝันนี้หมายถึงอะไร เป็นลางบอกเหตุที่ดีจริงหรือไม่ ฝันว่าได้เก็บเห็ด ความฝันเหล่านี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้รวบรวมความหมายของความฝัน ในแต่ละรูปแบบมาให้แล้ว พร้อมเลขเด็ดมงคล สำหรับ เก็งเลขเด็ดซื้อหวย ในงวดที่จะถึงนี้ ไปดูเลย. ฝันเห็นกำไลข้อมือ ทำนายฝัน พารับโชคลาภก้อนโต ใครฝันเห็นต้องซื้อหวย ฝันเห็นดอกบัว หมายถึงอะไร จะมีโชคไหม ทำนายฝัน พร้อมเลขเด็ดงวดนี้ ฝันว่าตัดเล็บ ทำนายฝัน หมายถึงอะไร จะมีโชคไหม พร้อมเลขเด็ด ฝันเห็นหอย ทำนายฝัน หมายถึงอะไร แนะนำเลขเด็ดหวยให้โชค งวดนี้ ฝันเห็นหอย ทำนายความฝัน และตีเป็นเลขได้ดังนี้ ครอบครัวจะมีปัญหากันอาจจะเป็นเรื่องลูกหลานหรือมรดก ระวังจะมีปัญหาความขัดแย้งกับคนใกล้ชิด ไม่ว่าท่านจะทำอะไรดูเหมือนว่าจะมีอุปสรรคไปหมด สิ่งที่ตั้งใจไว้มากอาจจะยังไม่สำเร็จทันทีทันใด การตัดสินใจของท่านจะเป็นที่ยอมรับจากคนรอบข้างเป็นอย่างดี แต่ต้องใช้สติให้ดี […]

คนโบราณว่า จะปลูกอะไรได้ผลดีต้องดูวันปลูก

คนโบราณว่า จะปลูกอะไรได้ผลดีต้องดูวันปลูก

คนโบราณว่า จะปลูกอะไรได้ผลดีต้องดูวันปลูก   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ มาฝากกัน คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการปลูกพืชเคยสงสัยไหมว่า ทำไมเวลาตัวเองปลูกพืชผักหรือว่าพืชไร่ ไม้ผลแล้วได้ผลไม่ดี แต่ขณะที่เพื่อนหรือคนที่รู้จักกลับปลูกออกดอกผลดี ทั้งที่เป็นพืชชนิดเดียวกัน ดินไม่ต่างกันมาก การดูแลเอาใจใส่ดีเท่ากัน คติความเชื่อคนโบราณเชื่อว่าคนที่ปลูกพืชออกดอกผลดีเป็นคนมือเย็น แท้จริงคนโบราณมีความเชื่อการได้ผลจากเรื่องการปลูกพืชตามวันที่หลายคนยังไม่ทราบ เป็นอย่างไร ไปดูเลย..        -วันอาทิตย์ คนโบราณเชื่อว่าวันดี เหมาะกับการเริ่มต้น ใครที่จะปลูกพืชควรจะปลูกพืชชนิดที่กินหัว เป็นต้นว่าข่า ขิง ควรปลูกตอนเช้า การปลูกใกล้พื้นที่อยู่อาศัยเพราะเป็นผักสวนครัว เพราะพืชที่กินส่วนหัวอาจต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี      -วันจันทร์ วันที่มีความอ่อนไหว เพราะอิทธิพลจากดวงจันทร์ ควรปลูกพืชกินลำต้นเช่นอ้อย ปลูกเป็นพืชไร่จะสะดวกและคุ้มค่าแก่การลงทุน เพราะดูแลรักษาโรคพืชง่าย   -วันอังคาร ควรปลูกพืชกินใบ คือพืชผักที่คนโบราณใช้ใบเป็นอาหารอย่างเช่น ผักสวนครัว ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ควรพรวนดินรดน้ำใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมก่อนปลูก และใส่ปุ๋ยคอกตลอดไม่ควรใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ คนโบราณแนะนำว่าการตัดพืชใบแล้วนำไปประกอบอาหาร เมื่อใส่ปุ๋ยคอกจะส่งผลให้เวลานำมาประกอบอาหารบริเวณโคนก้านจะไม่แข็ง   -วันพุธ ควรปลูกพืชที่กินผล ได้แก่ผลไม้ทุกชนิด ปลูกจากเมล็ดไม้ผลจะมีรากแก้ว ต้นไม้จะไม่ล้มง่ายยามโดนลมพายุ   -วันพฤหัสบดี คติความเชื่อคนโบราณว่าคือวันครู ควรปลูกพืชดอก อย่าลืมใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมก่อน […]

ความเชื่อคนโบราณ เรื่องวิธีเปิดสมองเตรียมรับการเรียน

ความเชื่อคนโบราณ เรื่องวิธีเปิดสมองเตรียมรับการเรียน

ความเชื่อคนโบราณ เรื่องวิธีเปิดสมองเตรียมรับการเรียน   บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ ที่ใช้สอนลูกหลาน มาให้อ่านกัน การศึกษาหาวิชาความรู้มีมาตั้งแต่โบราณกาล ไม่ว่าการเรียนภาคทฤษฎีหรือปฏิบัติ จะต้องใช้สมองรับวิชาความรู้ที่ครูสอนมา คนโบราณมีวิธีการสอนให้ลูกหลานเตรียมเปิดสมองอย่างไรเตรียมความพร้อมรับการเรียน   โต๊ะเรียนหนังสือจะต้องเรียบร้อย รวมทั้งอย่าให้บริเวณรอบ ๆ โต๊ะรกรุงรัง อารมณ์จะยุ่งเหยิง ความคิดไม่เป็นระเบียบ ขาดสมาธิ คนโบราณเชื่อว่าไม้กฤษณา ไม้จันทร์คือเครื่องรางเสริมปัญญา ควรวางไว้ที่โต๊ะ คนรุ่นใหม่ที่หาไม่ได้อาจใช้น้ำมันหอมระเหยแทน เตรียมเครื่องเขียนให้พร้อมจะทำให้บรรยากาศการอ่านหนังสือ สมองจะเปิดรับบทเรียนดี   ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าการสวมอัญมณีแอเมทิสต์ติดตัวตอนเรียนหนังสือ ตอนกลางคืนนอนนำไปวางไว้ใต้หมอน สนามแม่เหล็กที่แอเมทิสต์จะเพิ่มระดับความคิดสร้างสรรค์สมองจะเปิดรับเตรียมการเรียนรู้ ส่วนเรื่องแสงสว่างสมัยก่อนจะใช้เทียน อย่างเช่นการศึกษาพระธรรม พระในวัดจะใช้แสงสว่างจากแสงเทียน กลายเป็นที่มาการทำบุญเทียนพรรษาจวบจนวันนี้ เพราะแสงเทียนคนโบราณเชื่อว่าเป็นการจุดประการความคิด ฉะนั้นการเปิดโคมไฟบนโต๊ะหนังสือให้สว่างตลอดเวลา เป็นการเสริมดวงเรื่องการเรียน เพราะหลอดไฟเปรียบได้กับเทียนสมัยก่อนคือแสงสว่างแห่งปัญญา   สมัยก่อนพระภิกษุที่จำพรรษา ยามฤดูเข้าพรรษาจะทำวัตรสวดมนต์ ก่อนที่จะศึกษาพระธรรม เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีสมาธิ ฉะนั้นก่อนลงมืออ่านหนังสือควรสวดมนต์เพื่อสงบจิตใจ เป็นบทสวดสั้นๆ ตามศาสนาตนเองช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความจำ ทำให้อ่านหนังสืออย่างมีสมาธิมากขึ้น สำหรับคนที่สวดมนต์แล้วง่วงนอน ควรนั่งสมาธิสักพักก่อนอ่านหนังสือจะได้ประโยชน์เหมือนกับการสวดมนต์ ตอนอ่านหนังสือเมื่อเหนื่อยล้าควรหยุดพักสายตาจากหนังสือมาออกกำลังกาย เดินเล่นนั่งพัก แล้วกลับมาอ่านหนังสือจะมีสมาธิมากขึ้น เมื่อเรียนจบสอบผ่าน ไม่มีน้องใช้ต่อ ควรนำหนังสือที่อ่านแล้วไปบริจาคที่ห้องสมุดหรือตามโรงเรียนทุรกันดาร […]