ความเชื่อและตำนานของหิ่งห้อย สัตว์อีกชนิดหนึ่งที่คนโบราณให้ความสำคัญ !!

ความเชื่อและตำนานของหิ่งห้อย

ความเชื่อและตำนานของหิ่งห้อย

 

ดวงวันนี้ หิ่งห้อย หรือ แมลงไฟ คือสัตว์ในความเชื่ออีกชนิดหนึ่งที่คนโบราณให้ความสำคัญมาก ถึงกับมีข้อห้ามที่ว่า ห้ามเด็กๆจับหิ่งห้อยมาเล่น โบราณกล่าวไว้ว่า ห้ามจับหิ่งห้อยมาเล่น โดยเฉพาะพวกเด็กๆ เพราะเวลาจับถ้วยชามจะทำของเหล่านั้นหล่นแตกง่าย นอกจากนี้ยังเชื่อว่าหากหิ่งห้อยได้เข้าหู จมูก หรือปากใคร ผู้นั้นจะกลายเป็นผีเป้า หรือ ผีโพรง

นอกจากนี้คนไทยยังมีตำนานเกี่ยวกับหิ่งห้อยที่ว่า หิ่งห้อย คือ วิญญาณของชายที่จุดตะเกียงโคมตามหาหญิงคนรักที่ชื่อนางลำพูซึ่งจมหายไปในแม่น้ำ เพราะฉะนั้นลำพูจึงเป็นต้นไม้ที่หิ่งห้อยชอบเกาะ เนื่องจากความเชื่อที่ว่าเป็นวิญญาณของคนรักตนนั่นเอง

ในส่วนของชาวญี่ปุ่นเองก็มีความเชื่อว่า หิ่งห้อย คือ วิญญาณของนักรบที่เสียชีวิตในอดีต ส่วนในอินเดียมีความชื่อว่า หิ่งห้อย คือ นัยน์ตาของเทพเจ้า ซึ่งมาจากตำนานที่ว่า หิ่งห้อยเกิดจากความร่วมมือของเทพ 3 องค์ เพื่อให้มนุษย์เลิกกินอาหารดิบ และมีไฟเอาไว้ใช้

โดยเทพองค์แรกเป็นแมลงตัวหนึ่งที่ปั้นมาจากขี้ไคลของพระองค์ อีกพระองค์ถูพระวรกายของพระองค์เองจนเกิดไฟลุกขึ้น แล้วก็เอาไฟไปติดที่แมลงตัวนั้น ส่วนอีกพระองค์ก็รีบนำแมลงตัวนี้ส่งให้มนุษย์อย่างเร่งด่วน แต่ระหว่างทางไฟก็ๆ มอดลงเหลือเพียงที่ก้นแมลงอยู่นิดหนึ่ง ซึ่งแมลงตัวนี้ก็คือ หิ่งห้อย ตัวแรกนั่นเอง

ด้านชนเผ่าพื้นเมืองในมาเลเซีย ที่ชื่อว่า โอรังดูซัน มีความเชื่อว่า หิ่งห้อย เป็นวิญญาณของคนตาย ส่วนคนมาลายูก็มีความเชื่อว่า หิ่งห้อย เกิดจากเล็บมือของมนุษย์นั่นเอง

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

ขอบคุณข้อมูล : horoscope.thaiza.com

ภาพจาก : Pixabay

เรื่องน่าสนใจ

ความเชื่อเรื่องการขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายด้วยพริกกับมะนาว

ความเชื่อเรื่องการขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายด้วยพริกกับมะนาว

ความเชื่อเรื่องการขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายด้วยพริกกับมะนาว   อยู่อินเดียสิ่งที่เห็นได้บ่อยๆ ก็คือ พวงพริกและมะนาวที่ร้อยรวมกัน และแขวนไว้ตามท้ายรถต่างๆ รวมทั้งห้อยแขวนไว้ที่บ้านด้วย พวกเราก็ดูกันขำๆ แปลกดี โดยที่ไม่ทราบความหมาย แต่การใช้พืชผักทั้งสองสิ่งรวมกันนี้ชาวอินเดียเขาเชื่อว่าจะช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้ แม้โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปในทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากแล้วก็ตาม แต่ความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติก็ยังฝังรากลึกอยู่อย่างแพร่หลายและต่อเนื่อง ก็เหมือนกับบ้านเรา ผู้คนยึดติดกับสิ่งนี้อาจด้วยความกลัวสิ่งที่มองไม่เห็นหรือเพราะความศรัทธา พ่อค้าพริกและมะนาวถือว่าทำรายได้พอสมควร นอกเหนือจากยานพาหนะที่เห็นประจำแล้ว บรรดาร้านค้าต่างๆ หรือแม้แต่ห้างใหญ่ๆ ก็มักจะแขวนพวงพริกมะนาวเพื่อยับยั้งและขจัดปัดเป่าดวงตาชั่วร้าย เป็นที่เชื่อกันอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวอินเดียน พวกเขาคิดว่าถ้าเขาทำอะไรได้ดี คนอื่นๆ อาจจะรู้สึกอิจฉา ดังนั้นพวกเขาจึงร้อยพวงพริกและมะนาวแขวนเอาไว้เพื่อให้รอดพ้นจากดวงตาชั่วร้ายหรือดวงตาริษยาของคนอื่นๆ พืชผักธรรมดาทั่วไปที่เราเห็นและกินกันจนชิน มีหลายอย่างที่คนอินเดียนเขาเอามาใช้ในทางความเชื่อถือ เป็นของบูชาก็มีเยอะ นอกเหนือจากพริก และมะนาวแล้ว ก็ยังมีใบกระเพราอีกอย่าง หาซื้อได้ตามร้านดอกไม้ทั่วไปนะไม่ใช่ตามร้านผัก เพราะเขาเอาไว้บูชาเทพเจ้ากัน ไปซื้อมาทำอาหารทานกันได้ แต่อย่าไปบอกเขาเชียวนะว่าเอามาทำอะไร ของอย่างนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่กันนะ…     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม. *** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข […]

ครบทุกขั้นตอนกับ พิธีแต่งงานไทย แบบสเต็ปบายสเต็ป

ครบทุกขั้นตอนกับ พิธีแต่งงานไทย แบบสเต็ปบายสเต็ป

ครบทุกขั้นตอนกับ พิธีแต่งงานไทย   หนึ่งในปัญหาคับอกของว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวคือ พิธีแต่งงานไทย เพราะมีหลายขั้นตอน และค่อนข้างยาก จะทำอะไรก็กลัวจะผิดจะพลาดไปหมด เราเข้าใจคุณผู้อ่านดี จึงขอช่วยแบ่งเบาด้วยสกู๊ปพิธีแต่งงานแบบไทยตามสมัยนิยมมาให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ใช้เป็นแนวทาง   เจรจาสู่ขอ ตามธรรมเนียมไทยนั้นเมื่อหมายมั่นจะขอลูกสาวบ้านไหน พ่อแม่ฝ่ายชายจะต้องหา “เถ้าแก่” ซึ่งก็คือผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่านับถือไปทาบทามผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง ทางฝ่ายหญิงจึงต้องถามไถ่ถึงนิสัยใจคอของว่าที่เจ้าบ่าวว่าเป็นคนดีไหม ขยันขันแข็งไหม ฯลฯ เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถดูแลลูกสาวของตัวเองได้ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของเถ้าแก่ฝ่ายชายที่จะต้องช่วยรับรองให้ เดี๋ยวนี้ว่าที่พ่อตาแม่ยายอาจจะรู้จักมักจี่ว่าที่ลูกเขยกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงถามตามธรรมเนียม ประมาณว่าได้ยินผู้ใหญ่รับประกันแล้วสบายใจขึ้น (แม้จะรู้ว่าเถ้าแก่ก็ต้องพูดแต่สิ่งดี ๆ ก็ตาม) เมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงจึงจะเป็นการเจรจาเรื่องสินสอดทองหมั้นและเตรียมหาฤกษ์งามยามดีรอไว้   พิธีหมั้น เมื่อถึงฤกษ์หมั้น ฝ่ายชายจะจัดพานขันหมากหมั้นซึ่งประกอบด้วยหมาก พลู และของหมั้นอื่น ๆ ตามที่ตกลง ผูกผ้าห่อมาอย่างดี พานแหวน กรณีให้บ้านพร้อมที่ดิน อาจทำกิมมิกเก๋ ๆ ด้วยการปั้นขนมปังสีเป็นรูปบ้านน่ารักๆ วางมาด้วยก็ได้ ท้ายขบวนตามมาด้วยพานขนมมงคลอีกตามสมควรไปยังบ้านฝ่ายหญิงโดยไม่มีการแห่เหมือนขันหมากแต่ง (ยกเว้นบางพื้นที่) พอผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเปิดดูข้าวของว่าถูกต้องครบถ้วนก็ยกไปเก็บแล้วตามตัวเจ้าสาวออกมารับหมั้น สมัยนี้นิยมหมั้นเช้าแต่งเย็น ก็จะยุบขั้นตอนนี้ไปรวมไว้ในวันแต่งเลย หรือถ้าจะมีการหมั้นก่อนก็อาจแค่หยิบกล่องแหวนหมั้นออกมาสวมโดยไม่มีขันถาดหมากพลู ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน   แห่ขันหมาก ฝ่ายเจ้าบ่าวจะตั้งขบวนขันหมากแห่มายังบ้านเจ้าสาวอย่างครึกครื้นเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าลูกสาวบ้านนี้ขายออก เอ๊ย ออกเรือนแล้วจ้า   กั้นประตูเงินประตูทอง […]

ชีวิตตกต่ำ ค้าขายไม่รุ่งเรือง หนี้สินรุงรัง คนโบราณสอนให้ทำแบบนี้

ชีวิตตกต่ำ ค้าขายไม่รุ่งเรือง หนี้สินรุงรัง คนโบราณสอนให้ทำแบบนี้

ชีวิตตกต่ำ ค้าขายไม่รุ่งเรือง หนี้สินรุงรัง คนโบราณสอนให้ทำแบบนี้   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ ที่ใช้สอนลูกหลาน มาให้อ่านกัน คนโบราณมีความเชื่อเรื่องเจ้ากรรมนายเวร ชาติก่อนชาตินี้ และชีวิตที่ไม่รุ่งเรือง คนที่มีปัญหาชีวิตเพราะเคยก่อกรรมไว้ จนต้องประสบปัญหาชีวิต คนโบราณสอนแก้ปัญหาที่ว่านี้อย่างไร และเชื่อว่าคนที่ทำตามปัญหาที่ว่าจะดีขึ้น   การจุดธูป 36 ดอกปักไว้กลางแจ้ง คนไทยโบราณเชื่อว่าคือพิธีกรรมสำหรับการขอขมากรรมกับเจ้ากรรมนายเวร คนทุกคนที่อยู่บนโลกมนุษย์มีกรรมที่เคยทำมา ตั้งแต่ปางก่อน กล่าวคือผู้ที่ตนเคยไปล่วงเกินทำร้ายหรือปองร้ายแต่วิญญาณพวกเขาทั้งหลายยังคงวนเวียนอยู่ โดยจะคอยอาฆาตพยาบาท การกำหนดจำนวนสามสิบหกดอกหมายความว่า บูชาจำนวนสิบหกชั้นฟ้าสิบห้าชั้นดิน อบายภูมิสี่ มนุษย์โลกหนึ่งรวมสามสิบหกชั้น ส่วนวิธีบูชาผู้ที่มีความประสงค์บูชาหันไปทางทิศตะวันออก ก่อนเที่ยงวัน ตั้งนะโมสามจบ เอ่ยคำขอขมากรรมสัพพัง อะปะ ราธัง ขะมะทะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะกะตัง สัพพังอะปะราธังขะมะทะเม ภันเต อุกาสะ ขมามิ ภันเต จะเริ่มจากเอ่ยคำขอขมา บิดามารดา พระรัตนตรัย พระอรหันต์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เพราะบางครั้งอาจเผลอล่วงเกิน และเจ้ากรรมนายเวร ชาติปางก่อนทั้งกายวาจาใจ ขอต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระแก่กันไม่มีการค้างอะไรต่อกัน แล้วปักลงดิน   บริจาคค่าน้ำค่าไฟวัด การไปวัดแล้วหยอดตู้ทำบุญบริจาค […]

ตำนาน ความเชื่อเรื่องเจ้าแม่ไทรทอง

ตำนาน ความเชื่อเรื่องเจ้าแม่ไทรทอง

ตำนาน ความเชื่อเรื่องเจ้าแม่ไทรทอง   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับ “เจ้าแม่ไทรทอง” มาให้ได้ทราบกัน เจ้าแม่ไทรทอง เป็นชื่อ “นางไม้” ที่มีผู้เชื่อกันว่าได้สิงสถิตอยู่ที่ต้นไทรขนาดใหญ่ในบริเวณโรงเรียนตันหยง มัส ต้นไทรต้นนี้มีลักษณะคล้ายเป็นต้นคู่แฝดที่ติดกันและมีกิ่งใหญ่แผ่กว้างสาขา หลายกิ่ง ต้นไทรวัดโดยรอบประมาณ ๒๒ หลา เจ้าแม่ไทรทองมีอยู่หลายตนและสิงสถิตอยู่ที่กิ่งใหญ่กิ่งละ ๑ ตน โดยมีหัวหน้าซึ่งในอดีตเคยเป็นหมอตำแยโปรดปรานพวงมาลัยและผ้าสีต่าง ๆ ทำให้ผู้ที่บนบานได้รับความสำเร็จก็จะนำสิ่งเหล่านี้มาแก้บน   เจ้าแม่ไทรทอง มีความสำคัญต่อคนทั่วไปที่มีความเชื่อถือเมื่อได้บนบานแล้วได้ รับความสำเร็จและได้รับโชคลาภ เช่น นายอำเภอระแงะในสมัยนั้นได้นอนฝันไปว่า “เจ้าแม่ไทรทองขอร้องอย่าให้โค่นต้นไทรต้นนี้ เพราะ “เจ้าแม่” ไม่มีที่อยู่ นายอำเภอจึงห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่โค่น ทำให้นายอำเภอได้รับโชคลาภเป็นจำนวนมาก   นอกจากนั้นยังทำให้คนมีความเลื่อมใสศรัทธาและให้การเคารพนับถือ “เจ้าแม่ไทรทอง” ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารต่าง ๆ เช่น เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐ มีการจัดอบรมหมอตำแย หัวหน้าของผู้จัดอบรม เห็นงูใหญ่เลื้อยเข้ามาในสถานที่จัดอบรม หัวหน้าผู้จัดอบรม (นางแมะ) จึงได้กล่าวคำขอโทษแก่เจ้าแม่ไทรทองว่า “ขอโทษที่ผู้เข้ารับการอบรมไม่ได้บอกกล่าวเจ้าแม่ เพราะทางราชการจัดอบรมไม่ใช่พวกเธอจัดเอง หากผิดพลาดประการใดก็ขอให้อภัยด้วย” งูก็เลื้อยไปโคนต้นไทร เมื่อ […]