ว่าด้วยเรื่องหมอดู ทำไมต้องเรียกเงินค่าครูที่ลงท้ายด้วยเลข 9

ทำไมต้องเรียกเงินค่าครูที่ลงท้ายด้วยเลข 9

ทำไมต้องเรียกเงินค่าครูที่ลงท้ายด้วยเลข 9

 

สงสัยไหมว่าตอนที่คุณไปดูหมอดู เพื่อทำนายอนาคต แก้ปัญหาธุรกิจและชีวิตที่ประสบอยู่ แล้วโดนเรียกเงินจำนวนหนึ่ง บางครั้งมาก บางครั้งน้อย เงินที่ว่านี้หมอดูหรือโหรทำไมต้องเรียกค่าดูลงท้ายด้วยเลขเก้า เช่น 499 บาท 899 บาท เคยตั้งข้อสังเกตหรือเปล่าแล้วเงินที่จ่ายไปเอาไปทำอะไรตอนไหน อย่างไรกันบทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะอธิบายเรื่องที่คุณรู้แล้วต้องอึ้ง

ไม่ว่าจะโหรที่เชี่ยวชาญการทำนายดูดวงบ้านเมือง หมอดูที่ดูดวงบุคคลอนาคต แก้ปัญหาชีวิต หาฤกษ์ยามให้ผู้มารับบริการจะเรียกเงินค่าคายของ หรือค่ายกครูจากผู้มารับบริการทุกครั้ง คือธรรมเนียม เงินที่ว่าโหรผู้เชี่ยวชาญวิชาความรู้และหมอดูเอาไปทำอะไรบ้างและทำไมต้องลงท้ายด้วยเลข 9 เสมอ

 

ทำไมต้องเรียกเงินค่าครูที่ลงท้ายด้วยเลข 9

 

 เซ่นไหว้ครู เงินส่วนที่หนึ่งหมอดูจะนำไปซื้อเครื่องเซ่นไหว้ครูรุ่นก่อนที่สอนวิชาให้ เพราะคนโบราณจะยกย่องครูที่สอนวิชาความรู้คือบุคคลที่อยู่เหนือหัวรองมาจากพ่อแม่ ฉะนั้นการไหว้วิญญาณครูรุ่นก่อนเชื่อว่าคือการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อครูรุ่นก่อน ในวงการโหร และหมอดูเชื่อว่าจะทำให้วิชาตนเองแกร่งกล้ามาก เรียนง่ายเข้าใจเร็ว ดั่งมีครูต้นตำรับมาสอนเอง

 บริจาคทำบุญ ส่วนสองสำหรับหมอดูจะนำไปบริจาคทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้มารับบริการเพราะการที่หมอดูแนะนำวิธีหลีกเลี่ยง เคราะห์กรรม สิ่งเลวร้ายที่จะเกิด จะทำให้เจ้ากรรมนายเวรที่ตาม จองเวรคนมารับบริการไม่ทัน จะหันมาจองเวรหมอดูแทน บังเอิญความเชื่อตรงกันกับความเชื่อหมอดูจีนโบราณ ว่าการดูดวงจะเผยสติสวรรค์ให้ผู้มารับบริการทราบก่อน จะทำให้หมอดูอายุสั้นต้องหาเครื่องสังเวยฟ้าดิน

เลี้ยงชีพ ส่วนสุดท้ายคือเงินเลี้ยงชีพโหรและหมอดูเองเพราะอาชีพนี้ไม่มีรายได้เลี้ยงชีพแน่นอน บางครั้งต้องอด บางครั้งขัดสนปัจจัยดำรงชีพ ลองสังเกตหมอดูและอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญความรู้ศาสตร์ใดที่เก่ง ๆ นำเงินสองส่วนแรกไปปฏิบัติเรื่อย ๆจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ให้ประกอบอาชีพต่อไป เคยตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าส่วนใหญ่ผู้ประกอบอาชีพดังกล่าว จะไม่รวยสักทีแล้วไปประกอบอาชีพอื่นก็ไม่รุ่งเรืองจนต้องมาประกอบอาชีพเดิมตลอดชีวิต

เหตุที่ต้องเลือกค่าดูลงท้ายด้วยเลข 9 เพราะคือเลขมงคลสำหรับคนไทย และเมื่อก่อนการเรียกค่าดูลงท้ายด้วยเลข 9 จะเลือกที่ 99 บาทเพราะจะหาร 3 ง่าย ๆ เวลานำเงินไปใช้จ่ายในสามอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ฉะนั้นผู้ที่รับบริการควรเข้าใจเรื่องค่าดู ค่ายกครูว่าบางครั้งมากเกินไปไม่ควรตำหนิเพราะเงินที่หมอดูเรียกคือค่าธรรมเนียมประจำอาชีพ

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

ขอบคุณข้อมูล : horoscope.thaiza.com

ภาพจาก : Pixabay

เรื่องน่าสนใจ

12 สาเหตุการเป็นตะคริว และลักษณะผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นตะคริว !!

12 สาเหตุการเป็นตะคริว และลักษณะผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นตะคริว !!

12 สาเหตุการเป็นตะคริว   สาเหตุการเป็นตะคริว เกิดจากเอ็นและกล้ามเนื้อไม่ได้มีการยืดตัวบ่อยๆ จึงทำให้มีการเกร็งกล้ามเนื้อ นอกจากนั้นยังเกิดจากเซลล์ประสาทและเส้นประสาทที่ควบคุมการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อทำงานผิดปกติไป หรืออาจเกิดจากการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่ดี !!     1. การดื่มน้ำน้อยเกินไป ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อขาดน้ำ เสียสมดุลของกระแสประสาทในร่างกาย ภาวะขาดน้ำจะส่งผลกระทบต่อเส้นประสาท สมองก็จะสั่งงานร่างกายปรกพร่อง 2. การนั่ง นอน หรือยืนในท่าเดิมนานๆทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งตัวมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายผลิตกรดแล็คทิคขึ้นมาช่วยคลายกล้ามเนื้อ แตายิ่งเกร็งมาก กรดชนิดนี้ก็ยิ่งเกิดขึ้นมาก ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อกระตุกคลายตัวอย่างรวดเร็ว จนเกิดเป็นตะคริว 3. ภาวะเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล โดยเฉพาะโซเดียมและโพแทสเซียม ได้แก่ ท้องเดิน อาเจียน เสียเหงื่อมาก หรือรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล ซึ่งอาจทำให้เป็นตะคริวรุนแรง คือเกิดกับกล้ามเนื้อหลายส่วนของร่างกาย และมักจะเป็นอยู่นาน 4. หญิงตั้งครรภ์อาจเป็นตะคริวได้บ่อยขึ้น เนื่องจากระดับของแคลเซียมในเลือดต่ำ หรืออาจเกิดจากการไหลเวียนของเลือดไปที่ขาไม่สะดวก เพราะน้ำหนักของท้องจะไปกดทับหลอดเลือดขนาดใหญ่ในช่องท้อง 5. นักกีฬา ผู้ที่ชอบเล่นกีฬา หรือผู้ที่ทำงานในอาชีพที่ต้องใช้แรงงานและอยู่กลางแดด การได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ อาจเกิดจากการกระแทก ทำให้เกิดการฟกช้ำที่กล้ามเนื้อ 6. กล้ามเนื้อขาดการยืดหยุ่น กล้ามเนื้อที่ตึงจะเกิดตะคริวได้บ่อย     7. […]

เทคนิค ประหยัด ของในบ้านช่วงเศรษฐกิจตกสะเก็ด

เทคนิค ประหยัด ของในบ้านช่วงเศรษฐกิจตกสะเก็ด

เทคนิค ประหยัด ของในบ้านช่วงเศรษฐกิจตกสะเก็ด เวลาที่อาหารมารับประทานแม้จะเป็นเมนูสิ้นคิด ไม่ว่าจะเป็น กระเพราหมูสับไข่ดาว ฯลฯ แค่เห็นปริมาณอาหารกับราคาก็ทำให้หลายๆ บ้านแทบจะอาเจียนกันออกมาเลยทีเดียว เพราะข้าวของในสมัยนี้ที่ไม่รู้ว่าจะแพงจะไปไหน เพราะเรทอาหารตามสั่งในเมืองตอนนี้ตกอยู่ที่จานราคาประมาณ 50 บาท สองมื้อก็หนึ่งร้อยเข้าไปแล้ว ยิ่งหากออกไปกินข้าวนอกบ้านกันทั้งบ้าน4 คน ก็ปาไปสองร้อยแล้ว ไหนจะค่าน้ำเปล่า น้ำแข็งเปล่าอีก สรุปตกมื้อนี้ สี่คนรวมเกือบ 250  บาท แต่หากลองเอาเงินไปซื้อกระเพราะ  หมู และไข่ อย่างไรก็ไม่มีทางถึงแน่นอน แต่อาจจะเสียเวลามานั่งทำ  เพราะเหตุนี้ทำให้หลายคนที่ทำกับข้าวไม่เป็น หันมาพึ่งเมนูมาม่า กับเมนูไข่กันเป็นแถว ซื้อของใช้อย่าง ประหยัด เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อยู่ภายในบ้าน ควรพยายามหาข้อมูลและรวบรวม วิธีการต่างๆ เพื่อสำหรับการ ประหยัด ค่าใช้จ่าย อย่างการซื้อของเข้าบ้านที่เป็นของใช้ วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ซื้อของจากโลตัสหรือบิ๊กซี แล้วใช้คูปองส่วนลดที่แถมมา ตามหนังสือพิมพ์ หรือการเป็นสมาชิกบางห้าง ซึ่งคูปองในหนังสือพิมพ์ หรือท้ายใบเสร็จ บางร้านจะสามารถนำไปเป็นส่วนลดให้คุณได้  หรืออาจจะรอซื้อสินค้าในช่วงลดราคา เพียงแค่นี้ก็จะทำให้คุณ ประหยัด เงินได้เล็กๆน้อยๆได้แล้ว ประหยัดไฟฟ้า นอกจากนี้คุณเองยังสามารถประหยัดไฟฟ้า […]

ห้ามลืมเด็ดขาด!!! เผยบทสวดที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดหลังทำบุญ จะเป็นบทไหน รีบเลย !!

ห้ามลืมเด็ดขาด!!! เผยบทสวดที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดหลังทำบุญ จะเป็นบทไหน รีบเลย !!

ห้ามลืมเด็ดขาด!!! เผยบทสวดที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดหลังทำบุญ สิ่งที่ชาวพุทธส่วนใหญ่มักนิยมทำเพื่อเสริมสร้างบุญบารมีนั้นก็คือการทำบุญ บริจาคทาน สวดมนต์ แต่สิ่งหนึ่งที่ชาวพุทธมักหลงลืม และละเลยนั้นก็คือการกรวดน้ำ ซึ่งเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ทั้งเจ้ากรรมนายเวร ผู้มีพระคุณ เทวดาประจำตัว หรือคนในครอบครัวที่จากไป วันนี้เราจึงขอเสนอบทกรวดน้ำที่ใช้อุทิศเพื่อเทวดาประจำตัว ทำแล้วชีวิตจะเจริญ   ห้ามลืมเด็ดขาด!!! เผยบทสวดที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดหลังทำบุญ เริ่มจาก เตรียมน้ำสะอาดไว้ 1 ขวด (หรือ 1 แก้ว) นำจรดระหว่างคิ้ว แล้วกล่าวคำอธิษฐานดังต่อไปนี้ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)   นะ โม พุท ธา ยะ ลูกขอเชิญพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์โปรดเสด็จมาเป็นประธาน อิทัง สัพพะเทวานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวงที่รักษาตัวข้าพเจ้า ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงจงมีความสุข (ให้เริ่มเทน้ำลงบนพื้นดิน) ลูกขอฝากน้ำอุทิศนี้ไปกับ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา […]

ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ความเชื่อชาวญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ทำให้เกิดแผ่นดินไหว   หมู่เกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟ หรือ Ring of Fire ซึ่งเป็นแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลกทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกจึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวอยู่ตลอดทั้งปี ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อสืบทอดกันมาแต่โบราณว่าอาการดิ้นพล่านของปลาดุกเป็นสัญญาณเตือนว่าจะเกิดแผ่นดินไหว โดยชาวญี่ปุ่นแต่ครั้งโบราณมีความเชื่อว่าในใต้พิภพนี้มีปลาดุกยักษ์อาศัยอยู่ เมื่อปลาดุกดิ้นครั้งใด ก็จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว ความเชื่อนี้หาได้เป็นสิ่งที่เลื่อนลอยไม่ ในปีคศ.2011 หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงทางชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น คณะกรรมาธิการวุฒิสภาตรวจสอบการบริหารราชการ ได้เชิญศาสดาจารย์ท่านหนึ่งจากมหาวิทยาลัยโกเบ เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างปลาดุกกับแผ่นดินไหว ศาสดาจารย์ท่านนั้นได้ให้ข้อมูลว่า ปลาดุก เป็นสัตว์ที่มีความไวต่อกระแสไฟฟ้าและความสั่นสะเทือน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะรับรู้ถึงการเกิดแผ่นดินไหวก่อนที่มนุษย์จะรู้สึก แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า อาการดิ้นพล่านของปลาดุก กับปฏิกริยาที่ไวต่อกระแสไฟฟ้าและการสั่นสะเทือนนี้ จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำนายการเกิดแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้าหรือไม่อย่างไร สัตว์หลายชนิดมีสัญชาติญาณและประสาทสัมผัสที่ไวต่อการรับรู้ถึงความผิดปกติของภัยธรรมชาติ เช่น การที่มดขนไข่หนีก่อนที่จะเกิดฝนตกน้ำท่วม เป็นต้น    ภัยแผ่นดินไหวเองก็เช่นกัน เรามักได้จะยินข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมประหลาดๆของสัตว์ ในยามก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าสิ่งเหล่านี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ที่จังหวัด Ibaragi ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว มีศาลเจ้าแห่งหนึ่งสร้างขึ้นในสมัย 660 ปีก่อนคริสตกาล ศาลเจ้าแห่งนี้ชื่อว่า Kashima (鹿島神宮 : Kashima jinguu) เป็นสถานที่บูชาเทพเจ้า Kashima เพื่อขอให้พิทักษ์ภัยจากแผ่นดินไหว โดยการใช้หินขนาดใหญ่เรียกว่า Kaname ishi (要石) กดทับปลาดุกยักษ์นั้นไว้ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ จะมีแท่งหินฝังลึกลงไปในดิน […]