หลีกเลี่ยงพฤติกรรมร้ายๆ ที่อาจทำลายสมอง 4 พฤติกรรมทำลายสมอง ควรรู้ !!

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมร้ายๆ ที่อาจทำลายสมอง

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมร้ายๆ ที่อาจทำลายสมอง

 

สมอง เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยเส้นประสาทที่มีความซับซ้อนนับล้านๆ เส้นแล้ว หากสมองทำงานผิดปกติแล้ว ยังส่งผลไปถึงอวัยวะส่วนอื่นๆ และไม่สามารถหามาทดแทนได้อีกด้วย

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สมองถือเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย โดยมีหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมกระบวนการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเต้นของหัวใจ การเคลื่อนไหว การหายใจ เป็นต้น โดยควบคุมและสั่งการร่างกายให้ทำงานตามความคิด เพื่อให้มนุษย์สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข โดยสมองมีการทำงานตลอดเวลา ดังนั้นการใส่ใจพฤติกรรมที่ควรปฏิบัติเพื่อให้สมองทำงานได้ดี จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญเพื่อสุขภาพที่ดีของสมอง และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมร้ายๆ ที่อาจทำลายสมอง

 

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมร้ายๆ ที่อาจทำลายสมอง

 

4 พฤติกรรมทำลายสมอง

1. ความเครียด เป็นผลร้ายต่อสภาพจิตใจ และส่งผลกระทบต่อสมองทำให้เสียสมาธิ หรือบางคนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า

2. สิ่งแวดล้อมที่มีมลภาวะ การอยู่ในอากาศที่ดีจะทำให้สมองได้รับออกซิเจนเพียงพอ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการอยู่อาศัยในพื้นที่ที่อากาศไม่บริสุทธิ์ หรือเต็มไปด้วยภาวะมลพิษทางอากาศตลอดเวลา

 

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมร้ายๆ ที่อาจทำลายสมอง

 

3. สูบบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำนอกจากทำให้เป็นมะเร็งปอดแล้ว ยังทำให้ร่างกายและสมองได้รับออกซิเจนลดลง และเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง

4. โรคประจำตัว บางชนิด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคสมองหลายโรค โรคหลอดเลือด ดังนั้น หากพบว่าตนเองมีโรคประจำตัว ควรรักษาแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสีย เพราะการรักษาเมื่อเกิดการทำลายของสมองแล้วจะไม่สามารถทำให้สมองกลับมาทำงานได้สมบรูณ์ตามปกติ  และจิตใจจะทำงานผิดปกติไปด้วย

 

5 วิธีบำรุงสมอง

แพทย์หญิงไพรัตน์ แสงดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สมองยังมีความเกี่ยงข้องกับอารมณ์ การเรียนรู้ ทั้งนี้มนุษย์จึงควรหันมาใส่ใจพฤติกรรมพัฒนาสมอง โดยมี 5 พฤติกรรมดีดังนี้

1. กินดี คือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ลดอาหารบางจำพวกโดยเฉพาะอาหารทีมีน้ำตาลสูง ซึ่งจะเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดสมอง

2. ออกกำลังกายดี การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายโดยรวมและหลอดเลือดแข็งแรง ไม่มีภาวะน้ำหนักเกิน

3. นอนหลับพักผ่อนดี การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายมีเวลาพักเพื่อซ่อมแซมตัวเอง ดังนั้นควรมีเวลาพักผ่อนนอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง

4. คิดดี การฝึกคิด ฝึกลงมือทำ จะช่วยให้สมองเกิดการเรียนรู้ และพัฒนากระบวนการคิดให้รวดเร็วขึ้น

5. สนทนาดี การฝึกสนทนาพูดคุยกับคนอื่นๆ เป็นประจำ สม่ำเสมอ จะช่วยให้สมองได้มีการฝึกฝนแก้ปัญหา ส่วนคนที่เก็บตัว ไม่พบปะผู้คน พบว่าสมองมีกระบวนการทำงานในการแก้ปัญหาที่ช้าลง

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

ขอขอบคุณข้อมูล : gangbeauty.com

ภาพสวยๆ : Pixabay

เรื่องน่าสนใจ

ผลไม้ที่ห้ามถวายพระ ตามความเชื่อคนโบราณ

ผลไม้ที่ห้ามถวายพระ ตามความเชื่อคนโบราณ

ผลไม้ที่ห้ามถวายพระ ตามความเชื่อคนโบราณ   การเสริมดวงชะตาราศีให้กับตัวเองทำได้ไม่ยาก การทำบุญ หรือ การใส่บาตร ก็สามารถเสริมดวงชะตาของเราได้เช่นกัน วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ เรามีข้อมูลดีๆเกี่ยวกับจัดผลไม้ถวายพระ รวมไปถึงความเชื่อเรื่องผลไม้ที่ห้ามถวายพระ และผลไม้มงคลที่เหมาะแก่การนำไปถวายพระ มาให้อ่านกัน    ผลไม้ที่ห้ามถวายพระ – มังคุด เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วไม่ได้ดีเท่าที่ควร ไปไม่ถึงที่สุด มันกุด ๆ ด้วน ๆ ไม่โดดเด่น – พุทรา เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วดีในช่วงแรกๆ ช่วงหลังๆ ซาซา – ละมุด เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักไม่โดดเด่น ปิดๆ ซ่อนๆ – มะเฟือง เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักผืดเคือง ไม่อะไรก็อะไร สักอย่าง – มะไฟ เชื่อกันว่าทำอะไรแล้วมักต้อง เร่งๆ รีบๆ เหมือนไฟลน ไม่ได้คุณภาพ – น้อยหน่า เชื่อกันว่า […]

ฝันเห็นต้นกล้วย พร้อมความหมาย และเลขนำโชค การเงิน การงาน ความรัก จะเป็นอย่างไร

ฝันเห็นต้นกล้วย พร้อมความหมาย และเลขนำโชค การเงิน การงาน ความรัก จะเป็นอย่างไร

ฝันเห็นต้นกล้วย คนไทยสมัยโบราณเชื่อว่าการฝันเห็นผลไม้สื่อถึงการได้รับโชคลาภบางอย่าง โดยเฉพาะการฝันเห็นต้นกล้วยที่สามารถตีความหมายได้หลายอย่างทั้งเรื่องดีและเรื่องที่ต้องระมัดระวังไม่ว่าจะฝันเห็นกล้วยสุกหรือฝันเห็นกล้วยเป็นเครือจะมีความหมายว่าอย่างไรบ้างติดตามได้ที่นี่มีจิตใจเข้มแข็งพร้อมรับทุกสถานการณ์อีกทั้งยังเนื้อหอมเป็นพิเศษ มีคนเข้าหามาทำความรู้จักมากมายจะมีคนที่มีอิทธิพลมากกว่าเข้ามาจัดแจงมีส่วนในการตัดสินใจในชีวิต พบเจอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่สำคัญความใจร้อนของท่านจะพาให้พลาดเรื่องสำคัญ ทำนายฝันตีเลขเด็ด ฝันเห็นต้นกล้วย พร้อมความหมาย และเลขนำโชค การเงิน การงาน ความรัก จะเป็นอย่างไร การงาน : ล่าช้ากว่าที่นัดหมายเอาไว้การตกลงเจรจาธุรกิจอาจจะไม่ประสบผลสำเร็จหรือเป็นไปตามที่ตนเองคาดหวังต้องลงกำลังและพยายามให้มากกว่านี้หน่อยแล้วจะสำเร็จในเร็ววัน ความรัก : คนโสด ยังต้องโสดต่อไปเพราะใครเข้ามาก็ไม่ตรงสเปกสักคนคนแล้วคนเล่า ส่วนคนมีคู่ระวังคนเข้ามาแทรกกลางในความสัมพันธ์ของคุณกับแฟน การเงิน : ในช่วง 1–2 เดือนนี้ มีเกณฑ์ว่าจะได้เงินมาก อาจจะเป็นเงินที่ได้จากการทำงานพิเศษ งาน Freelance มีคนมาไหว้วานให้ทำงานให้ หรืออาจจะเป็นเงินจากการถูกหวยออนไลน์ เว็บHENG99 แต่ให้ระวังจะเสียเงิน เพราะเพศตรงข้าม ความเชื่อเรื่องฝันเห็นต้นกล้วย มีเลขเด็ดตัวไหนบ้าง คนไทยจำนวนไม่น้อยมักเชื่อมโยงการฝันเห็นต้นกล้วย และเรื่องการเสี่ยงโชคเข้าด้วยกันโดยถือเป็นความเชื่อและวิจารณญาณส่วนบุคคล เลขเด็ดเกี่ยวกับฝันเห็นต้นกล้วยเป็นเครือ ได้แก่ 28, 46, 224, 248 และ 446 ฝันเห็นต้นกล้วย รูปแบบต่าง ๆ คำทำนาย : ฝันเห็นกล้วยด่าง สีสวยงาม ขายได้ในราคาหลักล้าน ฝันแบบนี้ทำนายว่า จะได้รับโชคลาภจากทางทิศเหนือมีเกณฑ์จะได้เดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัว เพื่อนฝูงและคนรักต้องระมัดระวังเรื่องการใช้เงินเกินตัวซื้อของฟุ่มเฟือย เลขนำโชค : 60, 47, […]

7 ผลเสียจากการนอนไม่พอ รู้แล้วมานอนให้เร็วขึ้นกันเถอะ !! ผลเสียของการนอนดึก

7 ผลเสียจากการนอนไม่พอ รู้แล้วมานอนให้เร็วขึ้นกันเถอะ !! ผลเสียของการนอนดึก

7 ผลเสียจากการนอนไม่พอ   รู้ไหมว่าการนอนน้อยเกินไป จนร่างกายได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอจะก่อให้เกิดผลเสียได้มากมายเลยทีเดียว ซึ่งมีผลเสียอย่างไรบ้างนั้น เราก็ได้รวบรวมมาให้คุณได้ทำความเข้าใจกันแล้ว   1. สมองทำงานช้า เมื่อคุณนอนน้อย สิ่งที่จะตามมาหลังจากตื่นนอน คือความมึน ความเบลอ เนื่องจากสมองทำงานช้านั่นเอง ซึ่งไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูเชื่องช้าไปซะหมด แถมยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานด้อยลงอีกด้วย 2. ร่างกายอ่อนเพลีย การนอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้ ซึ่งไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีแรง ซึ่งไม่เป็นผลดีเอาซะเลย โดยเฉพาะในวันที่ต้องไปทำงานด้วยแล้ว ดังนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอจะดีกว่า 3. อารมณ์แปรปรวน การที่นอนไม่พอก็ทำให้หงุดหงิดพออยู่แล้ว ยิ่งถ้าคุณต้องทำงานที่ต้องพบปะผู้คนเป็นส่วนมากอีกละก็ ไม่พ้นต้องมีการเหวี่ยงวีนแน่ๆ ซึ่งจากเป็นคนที่มีความอดทนมากๆ เมื่อนอนน้อยบ่อยๆ การควบคุมอารมณ์ก็จะลดน้อยลงไปด้วย แถมยังเสี่ยงเป็นไบโพร่าอีกด้วยนะ 4. สายตาแย่ การนอนน้อยเกินไป นอกจากจะส่งผลให้สมองทำงานช้าลงแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสายตาด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ดวงตาอ่อนล้า พร่ามัว และประสิทธิภาพในการมองเห็นแย่ลงได้ ยิ่งคนที่ทำงานหน้าคอมต้องจ้องมองหน้าจอตลอดเวลาด้วยแล้ว หากพักผ่อนน้อยก็จะทำให้ดวงตาเสื่อมไวได้เช่นกัน     5. สิวขึ้น เมื่อนอนน้อยร่างกายย่อมได้รับการซ่อมแซมน้อยลง ประกอบกับมีความเครียดสะสม ก็จะทำให้เป็นสิวบ่อยๆ ได้ ซึ่งคนที่นอนน้อยเป็นประจำจะสังเกตได้เลยว่ามีสิวขึ้นบ่อยมาก […]

เมื่อ แฟนทะเลาะกับพ่อแม่ แล้วคนกลางอย่างเราจะวางตัวอย่างไร ?

เมื่อ แฟนทะเลาะกับพ่อแม่ แล้วคนกลางอย่างเราจะวางตัวอย่างไร ?

เมื่อ แฟนทะเลาะกับพ่อแม่ แล้วคนกลางอย่างเราจะวางตัวอย่างไร ?   เลี่ยงไม่ได้หรอก ถ้าบังเอิญว่าคุณต้องกลายเป็นคนกลางเวลาที่ แฟนทะเลาะกับพ่อแม่ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ ยิ่งถ้าอยู่ในสถานที่บังคับแบบไปไหนไม่ได้อย่างในรถ ร้านอาหาร หรือแม้แต่ในบ้านของตัวเอง แล้วคนกลางอย่างคุณจะวางตัวแบบไหนดี เพื่อให้คุณเองไม่ต้องกลายเป็นอีกคนที่มีปัญหา   นิ่งไว้ก่อนปลอดภัยสุด คำแนะนำแรกที่เราขอให้คุณทำเมื่อสถานการณ์ตรงหน้ามาคุคือ การอยู่นิ่งๆ ค่ะ อย่าเอาตัวเองเข้าไปเป็นเอี่ยว เพราะเดี๋ยวเรื่องจะไปกันใหญ่ นิ่งและฟังอย่างเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วดูเชิงสักนิดว่าคุณออกมาจากเหตุการณ์ตรงนั้นได้ไหม เหตุผลคือ เป็นการให้เกียรติคนในครอบครัวคุยกันเองยังไงละค่ะ ต่อให้คุณจะสนิทกับครอบครัวของเขามากแค่ไหนก็ตาม หรือแม้จะแต่งงานเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาก็ตาม นิ่งค่ะ ขอย้ำให้นิ่ง เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ   ห้ามไม่ได้ให้นิ่งไว้ บางคนบอกว่า เหตุการณ์มันสุดๆ จริงๆ ไม่เอี่ยวไม่ได้ ถ้าคุณลองเอ่ยปากพูดไกล่เกลี่ยให้ต่างฝ่ายใจเย็นลงแล้วก็ยังไม่ได้ผล อย่าพยายามค่ะ เพราะเสียงที่สามอาจไปกระตุ้นให้เรื่องไปกันใหญ่ และดีไม่ดี คนที่ทะเลาะกันอยู่ อารมณ์กำลังพุ่ง อาจจะลากคุณเข้าไปเอี่ยวจนกลายเป็นไฝว้หนักไปใหญ่ตามประสาคนพาลหรือคุมอารมณ์ไม่ได้ ฉะนั้น จำไว้เลย เมื่อเอ่ยปากห้ามแล้ว ไกล่เกลี่ยแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น จงนิ่ง !!   อย่าเข้าข้างใครเด็ดขาด เวลาที่คนเราทะเลาะกันแล้วมีบุคคลที่สาม (อย่างคุณ) ที่ไม่เกี่ยวอยู่รับรู้เหตุการณ์ด้วย มีสิทธิ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะหันมาถามความเห็นของคุณว่าคิดยังไง […]