5 วิธีรักษา ”แผลร้อนใน” ในปาก หายได้โดยไม่ต้องพึ่งคุณหมอ..

5 วิธีรักษา ”แผลร้อนใน” ในปาก

5 วิธีรักษา ''แผลร้อนใน'' ในปาก

 

สาเหตุของอาการแผลร้อนใน เกิดจาก…ความเครียด เหนื่อยล้า การนอนดึก การกัดโดน ดื่มน้ำน้อย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทานอาหารรสจัด การใส่ฟันปลอม หรือร่างกายขาดสารอาหาร…

“แผลร้อนใน” เป็นอาการที่ไม่ได้อันตรายร้ายแรงมากสักเท่าไหร่ แต่มักสร้างความเจ็บปวดและความรำคาญใจให้กับ “คนที่เป็น” ไม่ใช่น้อย และเชื่อได้ว่าทุกคนต้องเคยเป็นร้อนในกันมาทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะเป็นมาก-เป็นน้อย

บางคนเป็นไม่นานก็หายไป บางคนเป็นมาก กว่าจะหายก็ทำให้หงุดหงิด ส่วนใหญ่จะขึ้นที่บริเวณ ริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม เพดานปาก ลิ้น แม้กระทั่งที่เหงือกก็ยังสามารถเกิดร้อนในขึ้นมาได้

สาเหตุของอาการแผลร้อนใน เกิดจาก…ความเครียด เหนื่อยล้า การนอนดึก การกัดโดน ดื่มน้ำน้อย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทานอาหารรสจัด การใส่ฟันปลอม หรือร่างกายขาดสารอาหาร โดยเฉพาะธาตุเหล็ก โฟเลต และวิตามินบี 12

อาการแรกเริ่ม จะเกิดเป็นจุดแดงหรือตุ่ม และต่อมาจะพัฒนาแยกออกมาเป็นแผลเปิด มีลักษณะเป็นสีขาว รูปวงรี โดยมีขอบเป็นสีแดงนูนออกมา มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มม. ซึ่งในบางครั้งอาจจะกว้างถึง 1 ซม. ซึ่งระยะเวลาของอาการอาจเกิดขึ้นได้ถึง 1-2 สัปดาห์

วันนี้เราจึงมีวิธีง่ายๆที่ทำให้แผลร้อนในหายไป และสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ขอบอกเลยว่า วิธีเหล่านี้ไม่ยาก แถมยังทำให้แผลหายเร็วได้อย่างแน่นอนเลยละ

 

5 วิธีรักษา ''แผลร้อนใน'' ในปาก

 

1.ดื่มน้ำมากๆ จะช่วยลดการก่อตัวของแผลได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวดของแผลได้ดี ดังนั้นถ้าอยากให้แผลหายไว ต้องหยิบน้ำมาดื่มบ่อยๆ

 

2.บ้วนปากด้วยน้ำเย็นผสมเกลือ น้ำเย็นและเกลือช่วยทำให้ช่องปากของคุณสะอาดขึ้น และยังช่วยให้เชื้อแบคทีเรียในปากลดลงอีกด้วย หากมีแผลร้อนใน ควรจะบ้วนปากด้วยน้ำเย็นผสมเกลือวันละ 2-3 ครั้ง ก็จะช่วยรักษาแผลได้ แถมน้ำเกลือยังช่วยทำให้ปากสดชื่นอีกด้วย

 

3.รับประทานอาหารเย็นๆ อย่างเช่น ไอศกรีม หรือน้ำเย็นๆ เป็นต้น เพราะอาหารเย็นๆ จะช่วยทำให้ช่องปากชุ่มชื่นมากขึ้น

 

4.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ หรือทานอาหารรสจัด เพราะจะยิ่งทำให้แผลอักเสบมากขึ้น และอาจจะทำให้เกิดแผลใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

5.หยุดใช้น้ำยาบ้วนปากชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปทั่วปาก หรือเข้าไปในแผล แต่ถ้าอยากบ้วนปาก ก็ควรเปลี่ยนมาใช้น้ำมันจากใบชา เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคและแบคทีเรียแทนจะดีที่สุด

 

“สำหรับคนที่เกิดแผลร้อนในเป็นประจำ อาจเกิดจากความกังวล การขาดวิตามิน หรือช่วงมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้ร่างกายอาจไม่ได้รับสารอาหารที่ควร เพราะจะหลีกเลี่ยงการกินอาหาร ถ้าเป็นแผลร้อนในเกิน 1 อาทิตย์ เจ็บแผลมาก มีไข้ ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจมีการติดเชื้อเกิดขึ้นได้”

เมื่อรู้ทั้งสาเหตุและวิธีรักษา “แผลร้อนใน” แล้ว ซึ่งมันเป็นความเจ็บปวดและรำคาญใจของใครหลายคน เราจึงควรหันมาใส่ใจรักษาความสะอาดของช่องปากอย่างสม่ำเสมอ และป้องกันไม่ให้มีเชื้อโรคและแบคทีเรียในช่องปาก เพราะหากปล่อยไว้นาน อาจทำให้เกิดอันตรายในระยะยาว กลายเป็นโรคมะเร็งช่องปากได้

แต่หากคุณรู้จักวิธีรักษาและการดูแลช่องปากให้ดีๆ อีกทั้งได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ อาการแผลร้อนในก็จะไม่มาคุกคาม หรือสร้างความรำคาญใจให้กับคุณอย่างแน่นอน

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : dailynews.co.th

ภาพจาก : pixabay

เรื่องน่าสนใจ

ความเชื่อโบราณ แตงกวาขมเพราะงูเลื้อยผ่าน จริงหรือ !!

ความเชื่อโบราณ แตงกวาขมเพราะงูเลื้อยผ่าน จริงหรือ !!

ความเชื่อโบราณ แตงกวาขมเพราะงูเลื้อยผ่าน   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อ “แตงกวาขมเพราะงูเลื้อยผ่าน” นั้นจริงหรือไม่ พูดถึง แตงกวา เชื่อว่าคงเป็นหนึ่งในผักสุดโปรดของใครหลายๆคนเป็นแน่แท้ แตงกวา ถือเป็นไม้เลื้อยที่นิยมปลูกเพื่อใช้ผลเป็นอาหารมาช้านานแล้ว โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นนั้นมีความเชื่อว่า แตงกวา คืออาหารสุดโปรดของกัป ปะ หรือ คัปปะ ปิศาจในความเชื่อโบราณของญี่ปุ่น โดยคนญี่ปุ่นเชื่อว่า ถ้าเขียนชื่อตัวเองลงไปในแตงกวา แล้วขว้างลงไปในแม่น้ำ เมื่อคัปปะมาเจอแตงกวานี้เข้าก็จะกินอย่างเอร็ดอร่อย และก็จดจำชื่อที่อยู่บนแตงกวาด้วย คราวหน้าบังเอิญต้องเจอะเจอเจ้าของชื่อ คัปปะก็จะไม่ทำอันตรายอะไรแก่คนผู้นั้น นอกจากชาวญี่ปุ่นที่มีความเชื่อเกี่ยวกับแตงกวาแล้วนั้น คนไทยเองก็มีความเชื่อเกี่ยวกับแตงกวาเช่นเดียวกันค่ะ โดยคนไทยสมัยก่อนมีความเชื่อว่าถ้าแตงกวาขมแสดงว่าเคยมีงูเลื้อยผ่าน แล้วคุณล่ะเชื่อไหมว่ารสขมของแตงกวา นั้นเกิดจากการกระทำของ “งู” ทว่าในปัจจุบันก็ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่ล้มล้างความเชื่อของคนโบราณที่ว่า แตงกวาขมเพราะงูเลื้อยผ่าน ไปแล้วค่ะ โดยข้อมูลนี้อ้างอิงจาก สวทช. ที่ได้อธิบายถึงสาเหตุที่แตงกวา หรือบวบมีรสขมในบางลูกนั้น เกิดจากสาร ควบคุมความขมในผักตระกูลแตงที่ชื่อว่า Cucurbitacin ซึ่งหากเมื่อใดก็ตามที่สารนี้มีคุณสมบัติเป็นยีนเด่นแตงกวาลูกนั้นก็จะมีรสขม และในทางกลับกันหากเป็นยีนด้อยแตงกวาลูกนั้นก็จะไม่มีรสขม นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์ที่ชื่อ ว่า Elaterase อีกตัวที่กำหนดระดับความขมของแตงกวา โดยตัวมันเองมีหน้าที่ดึงน้ำออกจากสาร Cucurbitacin หากน้ำถูกดึงออกไปมาก แตงกวาก็จะมีรสขมน้อย หรือไม่มีรสขมเลยนั่นเอง       ติดตามอ่านความเชื่อ […]

คาถาบูชาหลวงพ่อบ้านแหลม ปลอดภัยแคล้วคลาดจากภยันตราย ค้าขายรุ่งเรือง

คาถาบูชาหลวงพ่อบ้านแหลม ปลอดภัยแคล้วคลาดจากภยันตราย ค้าขายรุ่งเรือง

คาถาบูชาหลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม หลวงพ่อบ้านแหลม เป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร ศิลปะสุโขทัย องค์พระทำด้วยทองเหลือง สูงใกล้เคียงกับคนจริง (ประมาณ 170 เซนติเมตร) เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ถึงขนาดมีคำกล่าวว่า หากไปถึงเมืองสมุทรสาครแล้วไม่ได้ไปกราบหลวงพ่อบ้านแหลม ก็เหมือนไม่ได้ไปเมืองสมุทรสาคร หลวงพ่อบ้านแหลมเป็นพระที่มีความเป็นมาร่วมกับหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร และหลวงพ่อโต วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม ทั้งยังเป็นองค์พระที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของการขอพรให้สมปรารถนาเช่นเดียวกัน โดยนิยมบนบานขอพรด้วยละครและพวงมาลัย หรือบางครั้งก็มีการจุดประทัดแก้บนหากสมความปรารถนาแล้ว และนอกจากการบนบานขอพรแล้ว ยังมีธรรมเนียมความเชื่อจากชาวประมงท้องถิ่นว่า หากอยากออกเรือเดินทางปลอดภัยแคล้วคลาดจากภยันตราย ค้าขายรุ่งเรือง ให้มาไหว้หลวงพ่อบ้านแหลมก่อนออกเดินทาง ซึ่งความเชื่อนี้ยังได้รับการปฏิบัติสืบเนื่องกันมาจนถึงทุกวันนี้ คาถาบูชาหลวงพ่อบ้านแหลม ตำนานพระศักดิ์สิทธิ์ลอยน้ำคู่เมืองสมุทรสงคราม ประวัติความเป็นมา ความเป็นมาของหลวงพ่อบ้านแหลม เป็นตำนานเล่าขานคู่กับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังอย่างหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา และหลวงพ่อโต วัดพลับพลาไชยชนะสงคราม จังหวัดสมุทรปราการ โดยเชื่อกันว่าหลวงพ่อบ้านแหลมและพระพุทธรูปอีกสององค์ได้ลอยตามน้ำมาจนกระทั่งถึงบริเวณหน้าวัดศรีจำปา (หรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร / วัดบ้านแหลม ในปัจจุบัน) ชาวบ้านได้อาราธนาท่านขึ้นมาประดิษฐานยังที่นี่สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน (บางตำนานเชื่อว่า พระพุทธรูปลอยน้ำนี้ ยังมีอีก 2 องค์คือ หลวงพ่อวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม และหลวงพ่อเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี รวมทั้งหมดเป็นองค์พระ 5 พี่น้อง) นอกจากนี้ ยังมีอีกตำนานหนึ่ง เล่าถึงช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา ว่าชาวประมงไปลากอวนหาปลาแถวลำน้ำแม่กลอง และได้พระพุทธรูปมาสององค์ องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปนั่ง ภายหลังไปประดิษฐานที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี […]

พระเครื่อง กรุคลองตะเคียน

พระเครื่อง กรุคลองตะเคียน

พระเครื่อง กรุคลองตะเคียน   ตำบลคลองตะเคียนเป็นตำบลเก่าแก่ มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เนื่องจากเป็นชุมชนชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูที่มาทำการค้าสมัยอยุธยาใช้เป็นสถานที่พำนักพักพิง ซึ่งสถานที่ตั้งตำบลมีลำคลองใหญ่ เคยมีต้นตะเคียนขนาดใหญ่ขึ้นอยู่บริเวณปากคลองด้านทิศตะวันออก ในสมัยโบราณใช้เป็นเส้นทางล่องซุงทำไม้ ดังนั้นจึงได้เรียกชื่อตำบลตามชื่อลำคลองว่าตำบลคลองตะเคียน พระกริ่งคลองตะเคียน อยุธยา พบครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ ๔ ที่บ้านครองเคียน พระเรี่ยอยู่ตามพื้นดิน นิษฐานว่าพระเถระ วัดประดู่โรงธรรมในสมัยอยุธยา สร้างตามแบบพระคงเมืองลำพูน ต่อมาในตันกรุงรัตนโกสินทร์ หลวงพ่อเลื่อง สุลีโล เจ้าอาวาสได้สืบตำรับต่อมาจนถึงหลวงพ่อม่วง ซึ่งนอกจากจะสร้างพระกริ่งคลองตะเคียนแล้ว ยังสร้างพระเปิม พระรอด เนื้อผงเข้าดินดิบอีกด้วย เนื้อพระกริ่งคลองตะเคียนสมัยอยุธยาเป็นพระเนื้อดินเผาคำ เป็นการจงใจเผาให้เกิดสีแบบนั้น มีความแข็งแกร่งและมันหนึก การจารอักขระที่ด้านหลังพระจะลึก ตามซอกอักขระมักมีไขขาวเกาะแน่น บางองค์ก็มีสีน้ำหมากเกาะติด พระพุทธคุณ พระกริ่งคลองตะเคียนนั้นมีสิ่งซึ่งเชื่อถือกันมาก ทางด้านคงกระพันชาตรี ป้องกันได้สารพัดไม่ว่าจะเป็น มีด ไม้ หรือลูกปืน ตลอดจนเรื่อง ทางเขี้ยว งา และอีกอย่างหนึ่ง ทางด้านเมตตามหานิยม พระกริ่งคลองตะเคียนนั้นมีดีทั้ง ภายใน และ ภายนอก คำว่าภายใน หมายถึง ท่านพระอาจารย์ที่ปลุกเสก นั้นมีวิทยาคุณดีเลิศที่สุดในสมัยกรุงศรีอยุธยายุคปลาย หรือมีพระพุทธคุณดี ส่วนคำว่า […]

ตุ๊กตาไล่ฝน ความเชื่อของชาวญี่ปุ่น

ตุ๊กตาไล่ฝน ความเชื่อของชาวญี่ปุ่น

ตุ๊กตาไล่ฝน ความเชื่อของชาวญี่ปุ่น   วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อมาฝากกันเช่นเคย.. “ตุ๊กตาไล่ฝน” เรื่องฟ้าฝนนั้นอาจเรียกได้ว่ามีในทุกๆเชื้อชาติ ชาวญี่ปุ่นเองก็มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องฟ้าฝนมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าหากวันไหนต้องการให้อากาศแจ่มใส ก็ให้นำเอา ตุ๊กตาไล่ฝน หรือ ทะรุเทะรุโบโซะ มาผูกห้อยแขวนไว้กับชายหลังคาบ้านหรือแขวนประดับไว้บนขอบหน้าต่างหรือบนกิ่งไม้ เนื่องจากเชื่อกันว่า หากแขวนมันไว้จะทำให้รุ่งขึ้นของวันพรุ่งนี้ ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งแจ่มใสนั่นเอง   ตุ๊กตาไล่ฝน หรือ ทะรุเทะรุโบโซะ คือ หนึ่งในตุ๊กตาวัฒนธรรมพื้นบ้านของญี่ปุ่น คำว่า เทรุ (teru) แปลว่า ส่องประกาย (ซึ่งหมายถึงแสงพระอาทิตย์) ส่วนคำว่า โบซุ (bozu) แปลว่า พระภิกษุ (แต่มีความหมายอีกอย่างหนึ่งว่า “หัวโล้น” เช่นกัน) ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่ถูกใช้กันมานานกว่า 400 ปี เลยทีเดียว   ตำนานตุ๊กตาไล่ฝน เริ่มมีมาตั้งแต่ยุคเอโดะ (ช่วง ค.ศ 1600-1867) เป็นตุ๊กตาที่ดัดแปลงมาจากตุ๊กตาเส่าฉินเหนียงของประเทศจีน ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าถ้าตุ๊กตาไล่ฝนสามารถทำให้ฝนกหยุดตกได้ ก็จะนำกระดิ่งเล็กๆ มาแขวนคอ หรือเทเหล้าลงบนหัวกลมๆ ของมันเพื่อเป็นการขอบคุณ แต่ถ้าวันไหนอยากให้ฝนตกก็ทำได้โดยแขวนคว่ำหัวตุ๊กตาลงหรือทาสีดำบริเวณหัวของมันจำทำให้ฝนตกดังปราถนานั่นเอง         […]