ธรรมคำ สอนสมเด็จโต พรหมรังสี “หมั่นสร้างบารมีไว้…แล้วฟ้าดินจะช่วย”

ธรรมคำ สอนสมเด็จโต พรหมรังสี

ธรรมคำ สอนสมเด็จโต พรหมรังสี

 

“ลูกเอ๋ย… ก่อนที่จะเที่ยวไปขอบารมีจากหลวงพ่อองค์ใด

เจ้าจะต้องมีทุนของตนเอง คือ บารมีของตนลงทุนไปก่อน

เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึงค่อยขอยืมบารมีของคนอื่นมาช่วย

มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด

เพราะหนี้สินในบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมเขามาจนล้นตัว

เมื่อทำบุญกุศลได้บารมีมา

ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว

แล้วเจ้าจะไม่มีอะไรไว้ในภพหน้า

หมั่นสร้างบารมีไว้แล้วฟ้าดินจะช่วยเจ้าเอง

จงจำไว้นะ…เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้

ครั้นถึงเวลาทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน

เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า…”

(พุทธสุภาษิตท่านสอนไว้ว่า..”อัตตาหิ อัตตโนนาโถ-ตนนั่นแหละเป็นที่พึ่งแห่งตน”)

เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ

…ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) กล่าวว่า เคล็ดลับสู่ความสำเร็จสุดยอดในทางธรรม คือ จะต้องมีสัจจะอันแน่วแน่และมีขันติธรรมอันมั่นคง จึงจะฝ่าฟันอุปสรรค บรรลุความสำเร็จได้

…อาตมามีกฎอยู่ว่า เช้าตีห้าไม่ว่าฝนจะตก ฟ้าจะร้อง อากาศจะหนาว ต้องตื่นทันที ไม่มีการผัดเวลา แล้วเข้าสรงน้ำ ชำระกายให้สะอาด แล้วจึงได้สวดมนต์และปฏิบัติสมถกรรมฐานหนึ่งชั่วโมง พอหกโมงตรงก็ออกบิณฑบาต เพื่อปฏิบัติตามปฏิปทาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

…ฝึกจิตให้ได้ผลต้องตรงต่อเวลา กลับจากบิณฑบาตแล้ว ก็เอาอาหารตั้งไว้ ตักน้ำใส่ตุ่ม เสร็จแล้วฉันอาหารเช้า โดยปกติอาตมาฉันมื้อเดียวเว้นไว้มีกิจนิมนต์ จึงฉันสองมื้อ สี่โมงเช้าถึงเที่ยง ถ้ามีรายการไปเทศน์ ก็ไปเทศน์ตามที่นัดไว้ วันไหนไม่ติดเทศน์ก็จะปิดประตูกุฏิทันที ไม่ให้ใครๆเข้าไป ในช่วงเวลานั้นเป็นเวลาศึกษาตำรา เวลาบ่ายโมงจึงออกรับแขก บ่ายสามโมงไม่ว่าใครจะมาอาตมาจะให้ออกจากกุฏิไปหมด เพราะถึงเวลาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ฉะนั้น จุดสำคัญจงจำไว้ เราจะปฏิบัติเพื่อหลุดพ้น ต้องมีสัจจะเพื่อตน โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร ถึงเวลาทำสมาธิต้องทำ ไม่มีการผัดผ่อนใดๆ ทั้งสิน

 

หลักการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

1.จะต้องมีสัจจะต่อตนเอง

2.จะต้องไม่คล้อยตามอารมณ์ของมนุษย์

3.พยายามตัดงานในด้านสังคมออก และไม่นัดหมายใครในเวลาปฏิบัติกรรมฐาน

ดังนั้นเมื่อจะเป็นนักปฏิบัติธรรมจำเป็นจะต้องมีกฎเกณฑ์ของเราเพื่อฝึกจิตให้เข้มแข็ง

 

ทางแห่งความหลุดพ้น

…เจ้าประคุณสมเด็จฯ มักจะกล่าวกับสานุศิษย์ทั้งหลายอยู่เสมอว่าชีวิตมนุษย์อยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งร้อยปีก็ต้องตายและถูกหามเข้าป่าช้า ดังนั้นจึงควรประพฤติปฏิบัติอยู่ใน ศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏท่านเปรียบเทียบว่า มนุษย์อาบน้ำ ชำระกายวันละสองครั้งเพื่อกำจัดเหงื่อไคลสิ่งโสโครกที่เกาะร่างกาย แต่ไม่เคยคิดจะชำระจิตให้สะอาดแม้เพียงนาที ด้วยเหตุนี้ ทำให้จิตใจของมนุษย์ ยุคปัจจุบันเศร้าหมองเคร่งเครียดและดุดัน ก่อให้เกิดปัญหาความพิการในสังคมความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน จนกระทั่งเกิดความขัดแย้ง และกลายเป็นสงครามมนุษย์ฆ่ามนุษย์ด้วยกัน

 

แต่งใจ

…ขอให้ท่านได้พิจารณาไตร่ตรองให้จงดีเถิดว่า ร่างกายของเรานี้ไฉนจึงต้องชำระทุกวันทั้งเช้าและเย็นจะขาดเสียไม่ได้ทั้งที่หมั่นทำความสะอาดอยู่เป็นนิจ แต่ยังมีกลิ่นไม่น่าอภิรมย์ออกมา แม้จะพยายามหาของหอมมาทาทับ ก็ปกปิดกลิ่นนั้นไม่ได้ …ใจของเราล่ะ ซึ่งเป็นใหญ่กว่าร่างกายเป็นผู้สั่งบัญชางาน ให้กายแท้ๆ มีใครเอาใจใส่ชำระสิ่งสกปรกออกบ้าง ตั้งแต่เล็กจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันสั่งสมสิ่งไม่ดีไว้มากเพียงใด หรือว่ามองไม่เห็นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง ทำความสะอาดหรือ?

 

กรรมลิขิต

…เราทั้งหลายเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติแล้ว ล้วนแต่มีกรรมผูกพันกันมาทั้งสิ้น ผูกพันในความเป็นมิตรบ้างเป็นศัตรูบ้าง แต่ละชีวิตก็ย่อมที่จะเดินไปตามกรรมวิบากของตนที่ได้กระทำไว้ ทุกชีวิตล้วนมีกรรมเป็นเครื่องลิขิต

อดีตกรรม ถ้ากรรมดี เสวยอยู่

ปัจจุบันกรรม สร้างกรรมชั่ว ย่อมลบล้าง

อดีตกรรม กรรมแห่งอกุศล วิบากตน

ปัจจุบัน สร้างกรรมดี ย่อมผดุง

เรื่องกฎแห่งกรรม ถ้าเป็นชาวพุทธแล้ว เขาถือว่าเป็นกฎแห่งปัจจังตัง ผู้ที่ต้องการรู้ ต้องทำเอง รู้เอง ถึงเอง แล้วจึงจะเข้าใจ

 

นักบุญ

…การทำบุญก็ดี การทำสิ่งใดก็ดี ถ้าเป็นการทำตนให้ละทิฏฐิมานะทำเพื่อให้จิตเบิกบาน ย่อมเสวยบุญนั้นในปรภพ มนุษย์ทุกวันนี้ทำแบบมีกิเลส ดังนั้น บางคนนึกว่าเข้าสร้างโบสถ์เป็นหลังๆ แล้วเขาจะไปสวรรค์หรือเปล่า เขาตายไปอาจจะต้องตกนรก เพราะอะไรเล่า เพราะถ้าเขาสร้างด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ เป็นการทำเพื่อเอาบุญบังหน้าในการเสวยความสุขส่วนตัวก็มี บางคนอาจเรียกได้ว่าหน้าเนื้อใจเสือ คือข้างหน้าเป็นนักบุญ ข้างหลังเป็นนักปล้น

 

ละความตระหนี่มีสุข

…ดังนั้นบุญที่เขาทำนี้ถือว่า ไม่เป็นสุข หากมาจากการก่อกรรม บุญนั้นจึงมีกระแสคลื่นน้อยกว่าบาปที่เขาทำเอาไว้หากมีใครเข้าใจคำว่า บุญ นี้ดีแล้ว การทำบุญนี้จุดแรกในการทำก็เพื่อไม่ให้เรานี้เป็นคนตระหนี่ รู้จักเสียสละเพื่อความสุขของผู้อื่น ธรรมดาเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เมื่อมีทุกข์ก็ควรจะทุกข์ด้วย เมื่อมีความสุขก็ควรสุขด้วยกัน

 

อย่าเอาเปรียบเทวดา

…ในการทำบุญ สิ่งที่จะได้ก็คือ ระหว่างเราผู้เป็นมนุษย์เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำนี้จะเป็นมงคล ทำให้จิตใจเบิกบานดีนี่คือการเสวยผลแห่งบุญในปัจจุบัน ทีนี้การทำบุญเพื่อจะเอาผลตอบแทนนั้น มนุษย์นี้ออกจะเอาเปรียบเทวดา ทำบุญครั้งใด ก็ปรารถนาเอาวิมานหนึ่งหลังสองหลัง การทำบุญแบบนี้เรียกว่า ทำเพราะหวังผลตอบแทนด้วยความโลภ บุญนั้นก็ย่อมจะไม่มีผล ท่านอย่าลืมว่า ในโลกวิญญาณเขามีกระแสทิพย์รับทราบในการทำของมนุษย์แต่ละคนเขามีห้องเก็บบุญและบาปแห่งหนึ่งอันเป็นที่เก็บบุญและบาปของใครต่อใครและของเรื่องราวนั้นๆ กรรมของใครก็จะติดตามความเคลื่อนไหวของตนๆนั้น ไปตลอดระหว่างที่เขายังไม่สิ้นอายุขัย

 

บุญบริสุทธิ์

…การที่สอนให้ทำบุญโดยไม่ปรารถนานั้นก็เพื่อให้กระแสบุญนั้นบริสุทธิเป็นขั้นที่นึ่ง จะได้ตามให้ผลทันในปัจจุบันชาติ แต่ถ้าตามไม่ทันในปัจจุบันชาติ ก็ติดตามไปให้เสวยผลในปรภพ คือ เมื่อสิ้นอายุขัยจากโลกมนุษย์ไปแล้ว ฉะนั้น เขาจึงสอนไม่ให้ทำบุญเอาหน้า ทำบุญอย่าหวังผลตอบแทน สิ่งดีที่ท่านทำไปย่อมได้รับสนองดีแน่นอน

 

สั่งสมบารมี

…โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับนักปฏิบัติธรรมแล้ว การทำบุญทำทานย่อมเป็นการส่งเสริมการปฏิบัติจิตให้บรรลุธรรมได้เร็วขึ้นเป็นบารมีอย่างหนึ่ง ในบารมีสิบทัศที่ต้องสั่งสม เพื่อให้สำเร็จมรรคผลนิพพาน

 

เมตตาบารมี

…การทำบุญให้ทานเพียงแต่เรียกว่า ทานบารมี หากบำเพ็ญสมาธิจิตจนได้ญาณบารมี และโดยเฉพาะการบำเพ็ญทุกอย่างนั้น ถ้าท่านให้โดยไม่มีเจตนาแห่งการให้ ให้สักแต่ว่าให้เขาท่านก็ย่อมได้กุศลเรียกว่าไม่มากและทัศนคติของอาตมาว่าการบำเพ็ญเมตตาบารมีในภาวนาบารมีนั้นได้กุศลกรรมกว่าการให้ทาน

 

แผ่เมตตาจิต

…ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะสัมฤทธิ์ผลนั้น เกิดจากกรรม 3 อย่าง คือ มโนกรรม เป็นใหญ่ แล้วค่อยแสดงออกมาทางวจีกรรม หรือกายกรรมที่เป็นรูป การบำเพ็ญสมาธิจิตเป็นกุศลดีกว่า เพราะว่า การแผ่เมตตา 1 ครั้ง ได้กุศลมากกว่าสร้างโบสถ์ 1 หลัง ขณะจิตที่แผ่เมตตานั้น จะเกิดอารมณ์แจ่มใส สรรพสัตว์ไม่มีโทษภัย ตัวท่านก็ไม่มีโทษภัย ฉะนั้น เขาจึงว่านามธรรมมีความสำคัญกว่า

 

อานิสงส์การแผ่เมตตา

…ผู้ปฏิบัติธรรมนั้น ต้องรู้จักคำว่า แผ่เมตตา คือต้องเข้าใจว่า ความวิเวกวังเวงแห่งการคิดนึกของเราแต่ละบุคคลนั้น มีกระแสแห่งธาตุไฟผสมอยู่ในจิตและวิญญาณกระจายออกไปเมื่อจิตของเรามีเจตนาบริสุทธิ์ เมื่อจิตของเราเป็นมิตรกับทุกคน เมื่อนั้นเขาก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา เสมือนหนึ่งเราให้เขากินอาหาร คนที่กินอาหารนั้นย่อมคิดถึงคุณของเรา หรืออีกนัยหนึ่งว่าเราผูกมิตรกับเขาๆก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา แม้แต่คนอันธพาล เราแผ่เมตตาจิตให้ทุกๆวัน สักวันหนึ่งเขาก็ต้องเป็นมิตรกับเราจนได้ เมื่อจิตเรามีเจตนาดีต่อดวงวิญญาณทุกๆดวง ดวงวิญญาณทุกๆดวงย่อมรู้กระแสแห่งจิตของเรา เรียกว่ามนุษย์เรานี้มีกระแสธาตุไฟออกจากสังขาร เพราะเป็นพลังแห่งการนั่งสมาธิจิต วิญญาณจะสงบ ธาตุทั้ง 4 นั้น จะเสมอแล้วจะเปล่งเป็นพลังงานออกไป ฉะนั้น ผู้ที่นั่งสมาธิปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จิตแน่วแน่แล้ว โรคที่เป็นอยู่มันจะหายไป ถ้าสังขารนั้นไม่ใช่จะพังเต็มทีแล้ว คือไม่ถึงวาระสิ้นอายุขัย หรือว่าสังขารนั้นร่วงโรยเกินไปแล้ว ก็จะรักษาให้มันกระชุ่มกระชวยได้หรือจะให้มันสบายหายเป็นปกติดั่งเดิมได้

 

ประโยชน์จากการฝึกจิต

…ผู้ที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนมีสมาธิแน่วแน่ เมื่อจิตนิ่งก็รู้ตน เริ่มพิจารณาตน รู้ตนเองได้ ปัญญาก็เกิดขึ้น ปัญญานี้เรียกว่า ปัญญาภายในจากจิตวิญญาณ ซึ่งเราจะใช้ปัญญานี้ได้แน่นอน เมื่อเกิดมีปัญหาขึ้นในชีวิตตลอดระยะเวลาอันยาวนานข้างหน้า นี่คือประโยชน์ของการฝึกจิตแล้ว คุณของสมาธิยังเป็นพลังป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัย เจ็บป่วยได้ กล่าวคือ การบำเพ็ญจิต จนจิตสงบนิ่งแล้ว ระบบต่างๆทางประสาทจะได้รับการพักผ่อน เป็นการปรับธาตุในกายให้เกิดพลังจิตเข้มแข็ง กายเนื้อก็จะแข็งแรงกระชุ่มกระชวยด้วย โลหิตในร่างกายจะหมุนเวียนสะดวกขึ้น ความตึงเครียดตามร่างกายและประสาทต่างๆ จะผ่อนคลายเป็นปกติ โรคต่างๆจะลดน้อยลงโดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง หายป่วยได้ด้วยการฝึกจิตและเดินจงกรม

 

 

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

ที่มา… หนังสือสวดมนต์วัดระฆัง โฆสิตาราม,youtube.com,หนังสือคำสอนธรรมของ สมเด็จโต พรหมรังสี

เรื่องน่าสนใจ

สารอาหารจำเป็นช่วยให้ผมเงางาม อาหารเสริมบำรุงผม

สารอาหารจำเป็นช่วยให้ผมเงางาม อาหารเสริมบำรุงผม

สารอาหารจำเป็นช่วยให้ผมเงางาม   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ จะนำเสนอความรู้ให้ท่านได้ทราบ เกี่ยวกับ “สารอาหารจำเป็นช่วยให้ผมเงางาม” นอกจากผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมต่างๆ แล้ว อาหารที่กินเข้าไปก็มีส่วนช่วยบำรุงเส้นผมของเราได้เช่นกัน คุณหมอสาริษฐาแนะนำอาหารเพื่อผมสวยไว้มากมาย ซึ่งสามารถเลือกกินอาหารชีวจิตหรืออาหารเสริมปริมาณมากน้อย ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและระบบการเผาผลาญของแต่ละคน ส่วนระยะเวลานั้นประมาณ 6 เดือนจึงจะเห็นผล   สารอาหารจำเป็นช่วยให้ผมเงางาม -น้ำ เนื่องจากเส้นผมมีน้ำเป็นองค์ประกอบอยู่ถึง 1 ใน 4 ของน้ำหนักเส้นผม จึงต้องดื่มน้ำเพื่อให้เส้นผมชุ่มชื้นไม่แห้งเสีย -แคลเซียม เช่น อาหารทะเล สาหร่าย กุ้งแห้ง ปลาเล็ก ปลาน้อย ช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพแข็งแรง มีชีวิตชีวา -วิตามินเอ เช่น ส้ม มะเขือเทศ แครอต ผักโขม บรอกโคลี มันฝรั่ง มะละกอ แคนตาลูป ผักผลไม้ที่มีสีเหลืองและสีแดง ช่วยบำรุงหนังศีรษะ -วิตามินบี มีมากในอาหารประเภทซีเรียล ปลา ไข่ มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ และกล้วย จะช่วยขับน้ำมันธรรมชาติออกมาหล่อเลี้ยงเส้นผม ทำให้เส้นผมมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกรอบ […]

แข่งเรือเมืองน่าน เป็นประเพณีเก่าแก่สืบต่อกันมานาน !!

แข่งเรือเมืองน่าน เป็นประเพณีเก่าแก่สืบต่อกันมานาน !!

แข่งเรือเมืองน่าน   การแข่งเรือของจังหวัดน่าน เป็นประเพณีเก่าแก่สืบต่อกันมานาน ลักษณะของเรือแข่ง ลำเรือจะใช้ท่อนซุงทั้งท่อนขุดแบบเรือชะล่า แต่รูปร่างเพรียวเบา หัวเรือแกะเป็นรูปพญานาค หรืองูใหญ่ชูคอเป็นสง่า อ้าปากโง้ง หางเรือทำเป็นหางพญานาคงอนสูง ตลอดลำเรือสลักลวดลาย ลงรักปิดทอง ติดกระจกสี ติดพู่ห้อยตรงหัวเรือและท้ายเรือ ตรงคอต่อหัวเรือปักธงประจำคณะ ช่วงเวลา นิยมแข่งขันกันในงานบุญและงานทอดกฐิน การแข่งเรือนัดสำคัญๆ ของจังหวัดน่าน คือ การแข่งในงาน”กฐินสามัคคี” เดิม ปัจจุบันคืองาน “กฐินพระราชทาน” แบ่งการแข่งขันออกเป็น ๒ ประเภท คือประเภทสวยงาม และประเภทความเร็ว การแข่งเรือในเทศกาลทอดกฐินของจังหวัดน่าน ซึ่งจะจัดช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ถือว่าเป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ และเป็นระเบียบเรียบร้อยงดงามยิ่งในจังหวัดภาคเหนืออีกแห่งหนึ่งที่จัดให้มีการแข่งขันเป็นประจำปี คือ การแข่งเรือที่อำเภอเวียงสาซึ่งจะมีการแข่งขันในเทศกาลทานก๋วยสลาก และเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้การแข่งเรือในตัวจังหวัด ความสำคัญ ลักษณะของเรือเมืองน่าน มาจากตำนานการตั้งเมืองน่านว่า ท้าวนุ่น ขุนฟองซึ่งเป็นต้นเค้าของราชวงศ์ภูคา บรรพบุรุษของเมืองน่านเกิดจากไข่พญางูใหญ่ จึงมีความเชื่อว่าบรรพบุรุษของชาวน่านกำเนิดมาจากพญานาค อีกประการหนึ่งมีความเชื่อว่าพญานาคเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีผลต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของเกษตรกร ดังนั้นการทำเรือแข่งเป็นรูปพญานาคจึงเป็นการบูชาคุณพญานาคเจ้าแห่งน้ำ และบรรพบุรุษของตนเอง พิธีกรรม พิธีกรรมในการแข่งเรือมีมากมายหลายขั้นตอน ตั้งแต่การหาไม้เพื่อขุดเรือ การทำพิธีก่อนโค่นต้นไม้ก่อนขุดเรือ ก่อนนำเรือลงน้ำ และตอนแข่งขัน ผู้ที่ทำพิธี […]

6 เทคนิคเพิ่มสวยดูดีตลอดเวลาที่อยู่ในฟิตเนส

6 เทคนิคเพิ่มสวยดูดีตลอดเวลาที่อยู่ในฟิตเนส

6 เทคนิคเพิ่มสวยดูดีตลอดเวลาที่อยู่ในฟิตเนส   ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่สาวๆ ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย เข้าฟิตเนส สมัครคลาสเวิร์คเอ๊าต์กันเป็นว่าเล่น แต่รู้หรือไม่ว่า การออกกำลังกายกับเรื่องสวยๆ งามๆ นั้นแอบมาด้วยกันอย่างแยกไม่ออก หากเราดูดี มีรูปลักษณ์ดี หน้าตาสดใส ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกกิจกรรม   1.อย่าแต่งหน้า จำไว้ว่าการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายผลิตเหงื่อปริมาณมาก และการแต่งหน้าจะทำให้เครื่องสำอางอุดตันรูขุมขน ทำให้การขับของเสียออกจากร่างกายผ่านเหงื่อไม่ได้ประสิทธิภาพ จึงควรล้างหน้าให้สะอาดทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย   2.พกกระดาษเปียกเช็ดหน้า หากไม่สามารถล้างหน้าได้ในทันทีหลังจากออกกำลังกาย กระดาษเปียกจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าได้ บางยี่ห้อมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนได้ด้วย   3.ล้างมือ ตัดเล็บ มือที่สกปรกและเล้บยาวๆ อาจบาดผิวหนังหรือทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย และใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังต่างกล่าวว่า มือและเล็บคือแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ใกล้ตัวเราที่สุด   4.ใช้สเปรย์และแชมพู (Dry Shampoo) หากยังไม่สามารถสระผมได้ทันทีหลังออกกำลังกาย เพราะต้องไปเดินเฉิดฉายที่อื่นต่อ ก่อนออกกำลังกายลองฉีดดรายแชมพูให้ทั่วหนังศีรษะ แป้งและแอลกอฮอล์จากผลิตภัณฑ์จะช่วยสกัดเหงื่อเอาไว้ หลังจากเวิร์คเอ๊าต์ให้ใช้ดรายร์เป่าผมเพื่อไม่ให้ผมติดเป็นก้อน เท่านี้เส้นผมก็สวยงามพร้อมออกงานต่อแล้วละ   5.พกผลิตภัณฑ์ของตัวเองไปด้วย แม้ในฟิตเนสจะมีแชมพูและครีมอาบน้ำไว้คอยบริการ แต่ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพต่ำหรือปานกลาง ในขณะที่ผิวและเส้นผมของแต่ละคนต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน ทางที่ดีควรบรรจุผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประจำใส่ขวดเล็กๆ พกไปใช้เป็นการส่วนตัว   6.พาดผ้าขนหนูไว้ที่คอเสมอ หลายคนมักพาดผ้าขนหนูสำหรับซับเหงื่อบนใบหน้าไว้ตามราวแขวน หรือบาร์จับของเครื่องออกกำลังกาย โดยหารู้ไม่ว่าบริเวณเหล่านั้นเต็มไปด้วยเชื้อโรคและแบคทีเรียมากมาย ซึ่งคุณไม่ต้องการแน่นอน   […]

คืนวันพระจันทร์เต็มดวง โบราณสอนวิธีเรียกคนรักกลับมาหา

คืนวันพระจันทร์เต็มดวง โบราณสอนวิธีเรียกคนรักกลับมาหา

คืนวันพระจันทร์เต็มดวง โบราณสอนวิธีเรียกคนรักกลับมาหา   บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ มาฝากกัน เรื่องความรัก ความใคร่ในสมัยก่อนมีไม่แพ้สมัยใหม่เช่นกันเพราะ เคยมีประวัติการทำเสน่ห์ให้คนหลงรักที่เคยทราบคือวิธีทำน้ำมันพรายที่ป่าช้าทำพิธีกับภูตผี สาวตายทั้งกลมอย่างพวกสายดำ แต่คนโบราณมีวิธีเรียกจิตคนรักกลับมาหา โดยวิธีที่ไม่ต้องพึ่งไสยศาสตร์ ฉะนั้นหนุ่มสาวใดอยากมีเสน่ห์ ลองอ่านบทความนี้   คืนวันพระจันทร์เต็มดวง คติความเชื่อคนโบราณว่าชายหญิงใดที่ผิดหวังในความรักให้นำน้ำสะอาดหรือน้ำฝนหนึ่งแก้ว ตั้งไว้แล้วท่องบทสวดมนต์ ว่านะละลายหันตะวา โมเมามัว พุทพาตัว (แล้วเอ่ยชื่อคนที่ตัวเองหลงใหล) มาหากู ทาสมสู่ ยะอยู่จนวันตาย นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โฆนาสังมิท่อง 21 จบ โดยแต่ละจบเป่าลมใส่ในแก้ว แล้วนำไปใส่อาหารให้คนที่หลงใหลหรือคนรักที่จะออกห่างกิน โบราณว่าจะมีผลมากที่สุดคืนวันพระจันทร์เต็มดวง   คนสมัยก่อนจะเชื่อเรื่องการสวดมนต์เพราะคือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวใจ เมื่อใดที่ผิดหวัง โดยเฉพาะเรื่องความรักคนโบราณจะหาบทสวดมาแก้ไข และหาวิธีดึงคนรักกลับมาหา หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าทำไมต้องรักเขาข้างเดียว หรือมีคนรักแต่นอกใจมีชู้แอบคบคนอื่นไม่รักและจริงใจกับตัวเอง แต่ไม่มีใครบังคับหรือสร้างสรรค์ได้เพราะคนที่ประสบปัญหาที่ว่ามีกรรม และไม่รู้ว่าชาติก่อนตนไปทำกรรมอะไรไว้บ้าง เมื่อเจอปัญหาเรื่องรัก ไม่ว่าจะรักสามเส้า อกหัก รักข้างเดียว จึงโทษฟ้าดิน กรรมเก่า บางคนน้อยใจไปคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่วิธีการในคืนวันพระจันทร์เต็มดวงตามที่แนะนำไว้ จะเสริมดวงเรื่องความรัก ลองทำรับรองว่าจะแปลกใจกับเรื่องปาฏิหาริย์แห่งรักที่อาจเจอ   […]