3 บุญใหญ่ที่จะพาทุกคน ออกจากวิกฤตในชีวิต ทำได้เลยทันที สร้างบุญให้ ตัวเอง

3 บุญใหญ่ที่จะพาทุกคน ออกจากวิกฤตในชีวิต

3 บุญใหญ่ที่จะพาทุกคน ออกจากวิกฤตในชีวิต

3 บุญใหญ่ที่จะพาทุกคน ออกจากวิกฤตในชีวิต ทำได้เลยทันที

ในช่วงที่ผลกรรมไม่ดีมาส่งผล บางครั้งเหมือนมืดแปดด้าน หันไปทางไหนเจอทางตัน หันไปทางไหน? ไม่มีใครเหลียวแลช่วย บุญของตนที่ทำมาเท่านั้นที่จะพาฝ่าความมืดมิดนี้ได้ หรือที่ดีอยู่แล้ว ก็จะดียิ่งขึ้นร้อยเท่าพันเท่าทวีคูณ บุญแรกคือ บุญจากการกตัญญู กตัญญูใคร?

 

3 บุญใหญ่ที่จะพาทุกคน ออกจากวิกฤตในชีวิต

 

พ่อแม่เป็นอันดับแรก ท่านมีบุญคุณอันประมาณมิได้ทั้งให้กำเนิดทั้งอุ้มชู ทำให้เราจากวิญญาณเป็นคนทุกวันนี้ แค่สำนึกนั้นยังไม่พอ เราต้องตอบแทนท่านอย่างดีที่สุดเท่าที่มีกำลังคนที่ทำบุญกับพ่อแม่นั้นวันที่มีภัย วันที่เดือดร้อนอย่างแสนสาหัส บุญนี้จะพาหลุดวงล้อมกรรม แม้ท่านล่วงลับไปแล้ว บางท่านไม่ได้จากไปไหนยังคงเฝ้าดูห่วงใย เป็นเทวดาคอยคุ้มครองหมั่นสร้างบุญอุทิศไปให้ท่าน ขอบุญจากท่านช่วยเรา
นอกจากพ่อแม่แล้ว คนรอบข้างไม่ว่าพี่น้องเพื่อนหรือแม้แต่คนที่เราไม่รู้จักเคยช่วยเหลือยามเราลำบาก อุ้มชูหนุนเรา เมื่อมีโอกาส เมื่อมีกำลังจงทำ จงตอบแทนเขาแม้ข้าวหนึ่งช้อน น้ำหนึ่งขัน คือสิ่งที่เรารอดมาได้ตอบแทนคุณเขา เราจะรอด? บุญที่สอง คือ บุญของตนเองที่สร้างขึ้นมาในภพนี้ ทั้งจากทาน จากศีล จากภาวนาทั้ง 3 ช่องทางนี้ เป็นบุญใหญ่ที่จะพาเรารอด คนไม่มีบุญของตนเองนั้น ไม่มีทางพ้นไปได้

เราต้องมีฐานบุญของเราเอง ทานไม่มีเงิน ก็อภัยทานนำ เมื่อมีบ้างก็ทำสลึง สองสลึงด้วยจิตบริสุทธิ์ยิ่งใหญ่ ผลบุญมากกว่าเงินพันล้านที่จิตไม่บริสุทธิ์ศีล แม้จะอดตาย จะลำบากแค่ไหนอย่าผิดศีล
ต้องอดทน อดกลั้น อย่าเพิ่มวิกฤตให้ตัวเอง เราต้อง “ซ่อม”และ “สร้าง” ไปพร้อมกัน ยึดหลักพรวิเศษของพ่อไว้ “จะแน่วแน่ แก้ไข ในสิ่งผิด” ภาวนา นั้นเป็นบุญมาก ฝึกเถิดหัดสวดมนต์ ฝึกทำสมาธิภาวนา ระงับจิตใจที่ร้อนรุ่ม ฝึกให้เย็นลง ปลงให้ได้อะไรที่เสียไปแล้วช่างมัน ไม่เคยทำไม่เป็นไร เริ่มใหม่ได้ทุกวินาที
บุญสุดท้าย คือ บุญแห่งการให้อโหสิกรรมและขออโหสิกรรม บ่วงกรรมที่รัดเราไว้ ที่ดึงเราไว้ส่วนหนึ่งไม่ให้เดินหน้าไม่ให้พบกับอะไรเลย ปิดทางโชคลาภ ปิดทางความเจริญคือ เจ้ากรรมนายเวร ปลดปล่อยซึ่งกันและกันเถิด อย่าได้มีเวรกรรมต่อกรรม เริ่มที่เราต้องให้อภัย ให้อโหสิกรรมก่อน ปลดเชือกฝั่งเรา แล้วไปขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร ที่มีทั้งมีชีวิต เป็นวิญญาณอาฆาตตามล้างตามผลาญ ที่มีชีวิตคือ คน สรรพสัตว์ทั้งหลายที่รายล้อมเรา ทั้งพี่น้อง เพื่อน บริวาร หรือแม้แต่พ่อแม่เราที่บางครั้งท่านเผลอ ท่านสร้างกรรมกับเรา มันฝังในจิตของเรา บุญและกรรมนั้นบันทึกในจิต เราซ่อนใครซ่อนได้ แต่เราซ่อนกรรมไม่ได้

 

ให้อโหสิกรรมทุกวันเถิด เพราะเราคงผ่านภพชาติมามากมาย หลายคนที่ทุกข์ทรมาน เขารอการปลดปล่อยจากเราเช่นกัน เราต้องขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวรด้วย ทำได้ทุกวัน ดีทุกวัน
3 บุญใหญ่ที่แนะนำนี้ ใครทำได้ตลอดเวลา ปาฏิหาริย์แห่งบุญที่ยิ่งใหญ่ จะพาพ้นไปจากความมืดทั้งปวงด้วยบุญของเรา ด้วยกรรมดีของเรา? ขอให้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม ขอบุญรักษา

3 บุญใหญ่ที่จะพาทุกคน ออกจากวิกฤตในชีวิต

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

 

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

 

 

ขอบพระคุณแหล่งที่มา : ธ.ธรรมรักษ์

ขอบคุณ ภาพสวยๆ จาก : Pixabay

เรื่องน่าสนใจ

ท้าวเวสสุวรรณ เบิกเนตร คอหวยลุ้นเลขเด็ดงวดที่ 16/12/65 ชาวบ้านแห่ร่วมพิธี

ท้าวเวสสุวรรณ เบิกเนตร คอหวยลุ้นเลขเด็ดงวดที่ 16/12/65 ชาวบ้านแห่ร่วมพิธี

ติดตามข่าวสารเลขเด็ดจากเว็บไซต์หวยออนไลน์ เลขเด็ดออนไลน์ ของ ซึ่ง วันที่ 8 ธันวาคม 2565  ชาวบ้านแห่ร่วมพิธีเปิดเนตร “ท้าวเวสสุวรรณ” วัดเทพนิมิตรสว่างธรรม หมู่ที่ 2 ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งทางด้าน พระมหาจิรภัทร จิรธิติเมธี เจ้าอาวาสวัดเทพนิมิตรสว่างธรรม พร้อมด้วย นางลมโชย บุญพา หรือ ป้าเม้าส์ และคณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมทำพิธีเบิกเนตร และบวงสรวงท้าวเวสสุวรรณ รูปปั้นขนาดใหญ่ 2 องค์ เขียว ดำ ประดิษฐาน หน้าถ้ำบาดาล วัดเทพนิมิตรสว่างธรรม เปิดเผยว่า ท้าวเวสสุวรรณ คือเทพแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย เป็นเจ้าแห่งภูตผี อธิบดีแห่งยักษ์ และเป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ที่คุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ มีอสูรรากษสและภูตผีปิศาจเป็นบริวาร ซึ่งในระหว่างทำพิธีเบิกเนตร ก็มีนางรำที่รอมารำถวายหน้าองค์ท้าวเวสสุวรรณ มีอาการตัวสั่นมือสั่นเหมือนกับมีองค์จะเข้าประทับร่าง พลาดไม่ได้สำหรับเลขเด็ด พิธีเบิกเนตร ท้าวเวสสุวรรณ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ประชาชนนิยมกราบไหว้บูชาขอพร ขอโชคลาภกับท่านเป็นจำนวนมาก รวมถึงขอให้ปัดเป่าสิ่งไม่ดีให้หมดไป ทำให้ในพิธีเบิกเนตรครั้งนี้ […]

ประเพณี ก่อเจดีย์ทราย ภาคไหน  และมีความเป็นมาอย่างไร

ประเพณี ก่อเจดีย์ทราย ภาคไหน และมีความเป็นมาอย่างไร

ประเพณี ก่อเจดีย์ทราย ภาคไหน และมีความเป็นมาอย่างไร   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับประเพณี ที่สืบทอดกันตั้งแต่โบราณ มาฝากกัน ประเพณีไทย ก่อเจดีย์ทราย ขนทรายเข้าวัด มีความเป็นมาอย่างไร ก่อเจดีย์ทราย มีความสำคัญกับ วันสงกรานต์ อย่างไร   ประเพณีก่อเจดีย์ทรายเนื่องในวันสงกรานต์ ความเป็นมา ประเพณีการก่อเจดีย์ทราย ใน เทศกาลสงกรานต์ นั้น เป็นสิ่งที่ชาวไทยพุทธปฏิบัติสืบเนื่องกันมาเป็นเวลาช้านานตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยการ ก่อพระเจดีย์ทราย ถือเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนาโดยตรง ด้วยเหตุที่ว่าเมื่อเรา เข้าวัดทำบุญ หรือ ประกอบกิจกรรมต่างๆ ภายในวัด เมื่อเดินออกมาจากวัด เศษดินเศษหินต่างๆ จะติดรองเท้าเราออกมาด้วย ซึ่งตามความเชื่อของชาวพุทธจะถือว่าสิ่งก่อสร้างทุกอย่างภายในวัดไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ ศาลาการเปรียญ อาคารต่างๆ แม้กระทั่ง ก้อนหิน ดิน ทราย ต้นไม้ ทุกอย่างญาติโยมได้ถวายไว้เป็นสมบัติของพระศาสนาแล้ว ดังนั้น เมื่อเราเอาสิ่งใดออกไปจากวัดโดยพละการคือไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าอาวาส แล้วถือเป็นการละเมิดศีลข้อที่ 2 (ห้ามลักทรัพย์)ทั้งสิ้น คนโบราณจึงหาวิธีการแก้ปัญหานี้ด้วยการให้มีประเพณีการขนทรายเข้าวัดเพื่อเป็นการใช้หนี้คืนสงฆ์ และก่อพระเจดีย์ทรายเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในการก่อพระเจดีย์ทรายจะถูกประดับตกแต่งด้วยดอกไม้และธงสีต่างๆ เพื่อความสวยงามตามแต่ละคนจะสร้างสรรค์ ก่อเจดีย์ทราย สงกรานต์ จะมีการประกวดเจดีย์ทราย ให้ชุมชนได้ร่วมกันขนทรายเข้าวัดเพื่อได้ร่วมกันทำบุญและร่วมใจกันก่อเจดีย์ทรายด้วยความรัก ความอบอุ่นของครอบครัว รวมทั้งสร้างความสามัคคีกันในชุมชน     ประเพณีก่อเจดีย์ทราย เป็นคติความเชื่อเรื่องของเวรกรรมในพระพุทธศาสนา การก่อเจดีย์ทรายเพื่อนำเศษดินทรายที่ติดเท้าเราออกจากวัด คืนวัดใน รูปเจดีย์ทราย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาให้เป็นกุศลอานิสงส์แก่ตนเองและครอบครัว คือจะได้อานิสงส์มาก คือจะไม่ตกนรกหลายร้อยชาติ […]

คนอายุ 28-32 ปี แต่งงานแล้วจะมีชีวิตคู่ที่ยืนยาว !! จริงหรือไม่ ?

คนอายุ 28-32 ปี แต่งงานแล้วจะมีชีวิตคู่ที่ยืนยาว !! จริงหรือไม่ ?

5 ข้อยืนยัน คนอายุ 28-32 ปี แต่งงานแล้วจะมีชีวิตคู่ที่ยืนยาว !! ผลการวิจัยของนักสังคมวิทยา นิค วูล์ฟฟิงเกอร์ จากมหาวิทยาลัยยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า.. ช่วงอายุที่เหมาะสมแก่การเริ่มต้นชีวิตคู่มากที่สุดคือ 28-32 ปี เพราะมีอัตราการหย่าร้างน้อยมากๆ กว่าคู่รักที่อยู่ในช่วงอายุอื่น และวันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ ก็ได้มีเหตุผลดีๆ 5 ข้อจากการวิจัยในครั้งนี้ มาให้เพื่อนได้ทราบกันแล้วว่าทำไมช่วงอายุที่ว่าจึงทำให้อยู่กันได้อย่างยืดยาว   1. คนที่อยู่ในวัยนี้สามารถรู้เท่าทันความรู้สึกของตัวเองว่าเข้ากับอีกฝ่ายได้จริงหรือเปล่า ประมาณว่าแยกแยะความรู้สึกรัก – หลงได้ชัดเจน 2. ถือได้ว่าเป็อช่วงอายุที่ต่างฝ่ายก็ต้องการที่จะเลือกทางเดินชีวิตที่มั่นคงแล้ว และเริ่มที่จะมีความรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ สูงขึ้น 3. มีความมั่นคงทางการงาน และการเงินในระดับหนึ่ง คือสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว 4. เป็นช่วงอายุที่สามารถปรับตัวได้ดี รวมไปถึงนิสัย รูปแบบการใช้ชีวิต และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ทำให้เข้ากับอีกฝ่ายได้อย่างสบาย 5. ส่วนใหญ่คนที่อยู่ในช่วงอายุนี้ จะไม่ค่อยมีลูกหรือภาระที่ต้องผูกพันมากมาย ดังนั้นถือเป็นช่วงอายุที่ดีในการเริ่มต้นชีวิตคู่     งานวิจัยจากต่างประเทศยืนยันขนาดนี้แล้ว สาวๆ ที่ยังโสดและอยู่ในช่วงอายุนี้พอดี ก็คงต้องรีบหาคนที่เหมาะกับเราได้แล้วนะ เพราะหากปล่อยให้เวลาผ่านไปและอายุเพิ่มมากขึ้น […]

นัยน์ตาปีศาจตามความเชื่อของชาวอินเดีย

นัยน์ตาปีศาจตามความเชื่อของชาวอินเดีย

นัยน์ตาปีศาจตามความเชื่อของชาวอินเดีย   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวของ “นัยน์ตาปีศาจตามความเชื่อของชาวอินเดีย” มาให้ได้รู้กัน นัยน์ตาปีศาจ ตามความเชื่อของชาวอินเดีย หรือ ที่เรียกว่า “drishtidosham” (แปลตรงตัวว่า “ตาแช่ง”) หรือ “nazar” เป็นตาที่ถอดจาก “Aarti” กระบวนการถอดก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แล้วแต่ผู้ถูกถอด และถ้าเป็นการถอด “นัยน์ตาปีศาจ” ของมนุษย์ก็จะมีการทำพิธีไฟศักดิ์สิทธิ์บนถาดตามประเพณีฮินดู โดยการวนถาดหน้าผู้นั้นเพื่อดึงความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นออกจากผู้นั้น บางครั้งผู้ถูกแก้มนต์ก็อาจจะต้องถ่มน้ำลายลงบนกองพริกบนถาด แล้วเอาไปโยนเข้ากองไฟ ซึ่งถ้ามีควันขึ้นมามากผู้นั้นก็จะถูกเย้ยหยันและจะไม่มีใครจ้องด้วยนัยน์ตาปีศาจได้ แต่ถ้าไม่มีควัน ผู้นั้นก็จะปลอดจาก “นัยน์ตาปีศาจ” แต่ถ้าเป็นยานพาหนะก็จะใช้มะนาวแทนพริก โดยให้รถแล่นทับมะนาวจนแตกเละ แล้วเอามะนาวลูกใหม่แขวนไว้กับพริกเพื่อกัน “นัยน์ตาปีศาจ” ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต   โดยการแขวนดังกล่าวอาจจะพบในร้านค้าหรือบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ที่มักจะแขวนกันตรงประตู เจ้าของร้านชาวอินเดียบางคนก็อาจจะเผากระดาษหนังสือพิมพ์แล้วโบกเวียนก่อนที่จะปิดร้านกลับบ้าน นอกจากตั้นก็อาจจะมีการใช้แป้งสีคุมคุมบนแก้คู่บ่าวสาวหรือเด็กก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการขจัดอำนาจของ “นัยน์ตาปีศาจ” ทารกหรือเด็กโดยทั่วไปจะถือว่ามีความบริสุทธิ์และจะดึงดูด “นัยน์ตาปีศาจ” แม่จึงมักแต้มจุดบนแก้มหรือหน้าผากของเด็กเพื่อให้เป็นตำหนิที่กันจาก “นัยน์ตาปีศาจ” หรืออาจจะผูกสายด้ายสีดำรอบเอวเด็กเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน บางครั้งก็อาจจะแขวนห้อยหรือเครื่องรางบนสายคาดเอวด้วยก็ได้       ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย […]