ดูดวงสุขภาพ 2563 เคล็ดลับเสริมดวงสุขภาพ 12 ราศี ของ เสริมดวง 2563 ดูดวงรายเดือน

ดูดวงสุขภาพ 2563 เคล็ดลับเสริมดวงสุขภาพ 12 ราศี

ดูดวงสุขภาพ 2563 เคล็ดลับเสริมดวงสุขภาพ 12 ราศี

ดูดวงสุขภาพ 2563 เคล็ดลับเสริมดวงสุขภาพ 12 ราศี ดูดวงรายเดือน

ในช่วงไวรัสโควิดระบาด จนเป็นปัญหาระดับโลกแบบนี้ ดวงสุขภาพของ 12 ราศี ต้องระวังเรื่องไหนบ้าง วันนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จึงไม่พลาด อัปเดต ดูดวงสุขภาพปี 2563 เคล็ดลับเสริมดวงสุขภาพของคนแต่ละราศี จาก อ.ดาริณ ปักธง หมอดูดังจากเว็บไซต์ a ดวง มาฝากเพื่อนๆ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้สุขภาพดี ไปเช็กกันว่า ชาว 12 ราศี ควรเสริมดวงสุขภาพแบบไหน ถึงจะสุขภาพดีตลอดปี ห่างไกลโรค

 

ราศีเมษ (14 เม.ย. – 14 พ.ค.)

สำหรับชาวราศีเมษในปีนี้มีโอกาสที่จะมีปัญหาสุขภาพ นั่นก็คือ สุขภาพอ่อนแอ เจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งมาจากความเครียดเป็นหลัก และเป็นการป่วยที่เรื้อรัง แต่คุณจะเจอหมอที่ดีในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคม และเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ดังนั้น หากคุณป่วยแล้วควรรีบไปหาหมอจะได้ไม่เจ็บป่วยเรื้อรัง และที่สำคัญควรดูแลตัวเองให้ดี ไม่งั้นจะทรุดเอาได้นะ

 

ราศีพฤษภ(15 พ.ค. – 14 มิ.ย.)

ชาวราศีพฤษภในเดือนกันยายน คุณอาจจะมีเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย แต่อย่าเพิ่งกังวลไปเพราะคุณมีโอกาสเจอยาดี และหมอดียาวๆไป แต่ให้ระมัดระวังเรื่องอารมณ์ มีสติให้มากและควบคุมให้ดี แล้วทุกอย่างจะสำเร็จได้ด้วยสติและปัญญา

 

ราศีเมถุน (15 มิ.ย. – 16 ก.ค.)

ชาวราศีเมถุนควรไปไหว้พระราหู อาจจะเป็นวัดไตรมิตร วัดศีรษะทอง หรือวัดที่มีพระราหูก็ได้ จะช่วยให้ความวุ่นวายจนไม่ได้พักผ่อนในช่วงต้นปีถึงกลางปีของคุณนั้นสงบลง แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาไปไหว้พระก็ไปถวายพัดลม โทรศัพท์มือถือและแอร์ โดยการหุ้นกับเพื่อนก็ได้ แล้วทำบุญด้วยการหยอดลงไปในตู้ที่เกี่ยวกับไฟฟ้า จะช่วยเสริมบุญบารมีให้กับพระราหู จะทำให้คลี่คลายด้านสุขภาพและสุขภาพจะดีขึ้นหลังเดือนกันยายนเป็นต้นไป

 

ราศีกรกฎ (17 ก.ค. – 16 ส.ค.)

สำหรับชาวราศีกรกฎในช่วงเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคมให้เสริมดวงสุขภาพด้วยการไปไหว้พระเสาร์ พระพุทธรูปปางนาคปรกและทำบุญตักบาตรด้วยของสีม่วง เช่น มังคุด เป็ดม่วง เป็นต้น  ส่วนปลายปี คุณอาจจะมีเรื่องให้เจ็บไข้ได้ป่วยเกิดขึ้นแบบฉับพลัน ฉะนั้นควรทำบุญด้วยการทำบังสุกุลเป็น บังสุกุลตาย ปล่อยชีวิตสัตว์น้ำหรือสัตว์ใหญ่ แล้วแผ่เมตตาให้พระราหูและเจ้ากรรมนายเวร นอกจากนี้ควรหาโอกาสไปไหว้วัดศีรษะทอง วัดไตรมิตร แล้วถวายสังฆทานเป็นโทรศัพท์หรือพัดลมก็ได้แล้วแต่ปัจจัย เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมสุขภาพจากหนักให้เป็นเบา จากเบาให้ไม่มีและจากไม่มีให้กลายเป็นสุขภาพดีได้

 

ราศีสิงห์ (17 ส.ค. – 16 ก.ย.)

ชาวราศีสิงห์ในปีนี้ดวงชะตาของคุณบอกว่าป่วยแล้วต้องรีบหาหมอ ขอแนะนำให้ไปพบคุณหมอที่อยู่ตามโรงพยาบาลของรัฐบาล ถ้าหากว่าโรงพยาบาลของรัฐคิวยาวให้คุณลองเช็คดูว่าควรไปโรงพยาบาลเอกชนที่ไหนอย่างไร ซึ่งลักษณะหมอที่ทำแบบนี้จะช่วยเหลือคุณได้ดี และที่สำคัญอย่าห่างหมอ เพราะในปีนี้คุณมุ่งทำแต่งานและ Make money จนลืมไปพบหมอหรือลืมไปเช็คสุขภาพร่างกาย อาจจะทำให้เจ็บป่วยได้นะ

 

ราศีกันย์(17 ก.ย. – 17 ต.ค.)

ชาวราศีกันย์ในต้นปีนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องสุขภาพ เพราะคุณมีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วยเกิดขึ้น และจะหนักมากในช่วงตั้งแต่มีนาคมจนถึงกรกฎาคม ซึ่งความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นอาจจะมาจากเรื่องระบบเสียง โรคเรื้อรังหรือโรคภูมิแพ้ แต่อย่างไรก็ตามถ้าป่วยก็รีบไปหาหมอนะจะได้ไม่เป็นโรคที่ร้ายแรงนั่นเอง

 

ดูดวงสุขภาพ 2563 เคล็ดลับเสริมดวงสุขภาพ 12 ราศี

 

ราศีตุล (18 ต.ค. – 16 พ.ย.)

ในปีนี้ชาวราศีตุลไม่มีอะไรน่ากังวล แต่แฟนที่อายุน้อยกว่า หรือบริวารที่อายุน้อยกว่าคุณนั้น อาจจะมีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วยได้

 

ราศีพิจิก(17 พ.ย. – 15 ธ.ค.)

ชาวราศีพิจิกต้องเสริมดวงสุขภาพด้วยการแก้ที่เจ้ากรรมนายเวร ซึ่งก็คือพระราหูนั่นเอง ดังนั้นคุณต้องไปไหว้พระแผ่เมตตาให้พระราหูไม่มาวุ่นวายเรื่องสุขภาพของคุณ และหลังเดือนกันยายนเป็นต้นไปสุขภาพของคุณก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ

 

ราศีธนู (16 ธ.ค. – 14 ม.ค.)

สำหรับชาวราศีธนูควรเสริมดวงด้วยการไหว้ดาวประจำตัวคือดาวพฤหัสบดี แล้วทำบุญตักบาตรด้วยของสีส้ม 5 อย่าง หรือ 9 อย่าง ที่สำคัญหาเวลาว่างไปไหว้พระแก้วมรกต แล้วหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ ทำความดี แผ่เมตตาให้เทวดาประจำตัว และทำบุญให้ดาวพระเสาร์ซึ่งเป็นดาวแห่งโทษทุกข์ นอกจากนี้ควรไปทำบุญโรงศพ ทำบังสุกุลเป็น บังสุกุลตาย ทำความสะอาดห้องน้ำที่บ้านและที่วัด และทำบุญถวายสังฑทานด้วยเป็ดสีส้ม

 

ราศีมังกร (15 ม.ค. – 12 ก.พ.)

ชาวราศีมังกรถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยให้ไปหาหมอที่รักษาดีๆ แล้วในช่วงเดือนมีนาคมและพฤศจิกายนเป็นต้นไปให้คุณไหว้พระเสาร์ และทำบุญด้วยการทำบังสุกุลเป็น บังสุกุลตายที่วัดนาคปรก จะช่วยให้มีคุณมีสุขภาพดี นอกจากนี้ให้สวดมนต์บทบูชาพระเสาร์ กราบไหว้ครูบาอาจารย์ ที่สำคัญให้คุณหมั่นแผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวร ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข สุขภาพแข็งแรง และอย่าลืมตักบาตรด้วยส้ม 5 ลูกด้วยนะ

 

ราศีกุมภ์ (13  ก.พ. – 14 มี.ค.)

ในปีนี้ชาวราศีกุมภ์เป็นปีที่สุขภาพดีที่สุด แต่ถ้าหากอยากให้ดีขึ้นกว่าเดิมให้ไหว้พระราหู แล้วถวายดอกไม้และธูปหอม จะช่วยส่งเสริมเพิ่มพลังให้สุขภาพดีมากขึ้นกว่าเดิม

 

ราศีมีน (15 มี.ค. – 13 เม.ย.)

สำหรับชาวราศีมีนคนไหนที่มีโรคประจำตัวแล้วเครียดหรือเมื่อยล้าให้รีบไปพบหมอ เพราะหมอที่ดูแลรักษาอยู่จะรักษาคุณอย่างเต็มที่แน่นอน และคุณควรเสริมพลังสุขภาพด้วยการปฏิบัติธรรม สวดมนต์ แผ่เมตตาให้เทวดาประจำตัวทุกวัน นอกจากนี้ขอแนะนำว่าให้ไหว้พระพุทธรูปหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ แล้วขอพรจากท่านขอให้มีสุขภาพแข็งแรงหายจากโรคภัยไข้เจ็บ ที่สำคัญให้ไหว้พระพุทธรูปปางนาคปรกและทำบังสุกุลเป็น บังสุกุลตายด้วยนะครับ

 

 

 

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

 

 

 

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูล โดย : a ดวง

ภาพสวยๆ จาก : Pixabay

เรื่องน่าสนใจ

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว

ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว   ฝังเสาหลักเมืองด้วยการสังเวยคนทั้งเป็น..ตำนานที่น่าสะพรึงกลัว “อิน จัน มั่น คง”เพื่อให้วิญญาณคอยเฝ้ารักษาป้องกันภัย ตลอดไป.. บันทึกตามตำนาน อิน จัน มั่น คง ได้เผยเรื่องราวที่เล่าสืบกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โบราณถือว่าพิธีสร้างพระนครหรือสร้างบ้าน สร้างเมือง ต้องฝังอาถรรพ์ ๔ประตูเมือง ต้องฝังเสาหลักเมือง การฝังเสาหลักเมืองและเสามหาปราสาท ต้องเอาคนที่มีชีวิตทั้งเป็น ลงฝังในหลุม เพื่อให้เป็นผู้เฝ้าทวารมหาปราสาทบ้านเมือง ป้องกันอริราชศัตรูมิให้มีโรคภัย ไข้เจ็บเกิดแก่เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ผู้ครองนครบ้านเมือง ในการทำพิธีกรรมดังกล่าว ต้องเอาคนที่ชื่อ อิน จัน มั่น คง มาฝังลงหลุม จึงจะศักดิ์สิทธิ์และขณะที่นายนครวัดเที่ยวเรียกชื่อ อิน จัน มั่น คง ไปนั้น ใครโชคร้ายขานรับขึ้นมาก็จะถูกนำตัวไปฝังในหลุม หลุมเสาหลักเมืองนั้น จะผูกเสาคานใหญ่ชักขึ้นเหนือหลุมนั้นในระดับสูงพอสมควร โยงไว้ด้วยเส้นเชือกสองเส้นหัวท้ายให้เสาหรือซุงนั้นแขวนอยู่ตามทางนอนเหมือนอย่างลูกหีบ ครั้นถึงวันกำหนดที่จะกระทำการอันทารุณนี้ ก็เลี้ยงดูผู้เคราะห์ร้ายให้อิ่มหนำสำราญแล้ว แห่แหนนำไปที่หลุมนั้น พระเจ้าแผ่นดินมีรับสั่งให้บุคคลทั้งสามนั้นเฝ้าประตูเมืองไว้ด้วย และให้เร่งแจ้งข่าวให้รู้กันทั่ว เมื่อคนมาชุมนุมกันเขาก็ตัดเชือกปล่อยให้เสาหรือซุงหล่น ลงมาบนศีรษะผู้เคราะห์ร้าย ผู้ตกเป็นเหยื่อของการถือโชคถือลางนั้น บี้แบนอยู่ในหลุม     โดยคนไทยโบราณเชื่อว่าผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้จะกลายสภาพเป็นอารักษ์จำพวกที่เรียกว่า ผีราษฎร […]

จริงหรือไม่ คนไทยบางกลุ่มกับความเชื่อเรื่องห้ามกิน...เป็ด !!

จริงหรือไม่ คนไทยบางกลุ่มกับความเชื่อเรื่องห้ามกิน…เป็ด !!

คนไทยบางกลุ่มกับความเชื่อเรื่องห้ามกิน…เป็ด   คนไทยเลี้ยงเป็ดเป็นอาหารมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะเนื้อเป็ดรสชาตินุ่มลิ้น อร่อยปาก นำมาเป็นเครื่องปรุงประกอบอาหารแทนเนื้อสัตว์ใหญ่ได้อย่างดี รวมทั้งชาวจีนนิยมนำมาเป็นเครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้า ลองสังเกตเวลามีเทศกาลไหว้เจ้า เป็ดคือหนึ่งในซาแซหรือโหง้วแซ เครื่องเซ่นไหว้ที่ทุกครัวเรือนจะต้องมีไว้บนโต๊ะไหว้เจ้าเสมอ แต่ทำไมคนไทยบางกลุ่มมีความเชื่อสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่า “ห้ามกินเป็ด” บทความนี้ เลขเด็ดออนไลน์ จะไขข้อข้องใจว่าที่แท้จริงความเชื่อนี้มีที่มาอย่างไรลองอ่าน ข้อห้ามที่ห้ามกันมานานจากรุ่นสู่รุ่นคือการกินเนื้อเป็ดจะทำให้เกิดการแตกความสามัคคี ผิดใจกัน คนเป็นเพื่อนกันเวลาออกไปกินข้าวนอกบ้านและทำอาหารเลี้ยงเนื่องในโอกาสเทศกาลสำคัญ ห้ามสั่งหรือปรุงอาหารที่ทำจากเนื้อเป็ดโดยเด็ดขาด โดยอ้างว่าเป็ดร้องเสียงดัง ตื่นตกใจง่าย คล้ายกับการพฤติกรรมการโกรธ กล่าวคือคนจะแสดงเสียงโวยวายไม่น่าฟัง การกินเนื้อเป็ดจะทำให้คนที่เคยคบหากันมีเหตุต้องผิดใจกันอย่างเช่นเอกลักษณ์พฤติกรรมอย่างเป็ด ความเชื่อนี้แฝงกลอุบายว่า เป็ดเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายเกษตรกรบางแห่งเลี้ยงแบบไร่ทุ่ง โตเร็ว ไม่มีสารพิษเจือปน เวลานำไปประกอบอาหารรสชาติดี บางสายพันธ์เลี้ยงขายได้ราคา เหตุนี้อาจทำให้เกิดอุบายการหวงเนื้อเป็ดไว้ ขาย และประกอบอาหารกินกันเองในครอบครัว เพราะไม่มีข้อห้ามมิให้คนในครอบครัวเดียวกันกินเนื้อเป็ด ความเชื่อห้ามเฉพาะเพื่อนกันเท่านั้น นอกจากนี้บนภัตตาคารดัง ๆ มีเมนูอาหารที่ทำชื่อเสียงคือเป็ดย่าง เป็ดปักกิ่ง เป็ดอบหม้อดิน และมีคนฐานะดีสั่งอาหารเหล่านี้อยู่ทุกครั้งไป เป็ดเป็นสัตว์ปีกสองเท้าครึ่งบกครึ่งน้ำว่ายน้ำได้แต่ไม่เก่งอย่างปลา บินได้แต่ไม่เก่งอย่างนก และเดินได้แต่ไม่เก่งอย่างคน คนโบราณบางคนจะเปรียบเทียบคนที่ทำงานไม่ได้เรื่องเอาดีอะไรไม่ได้ว่าเป็นเป็ด อย่างไรก็ตามความเชื่อเรื่องการกินเป็ดแล้วอาจทำให้เพื่อนที่รักกันเกิดการโกรธเคืองกัน รวมทั้งแตกความสามัคคีในกลุ่มเพื่อน เป็นความเชื่อที่แฝงกลอุบายที่แยบยลเท่านั้น ที่จริงความสามัคคีสร้างได้จากสามัญสำนึกจากคนในชาติ และจะแตกสามัคคีได้จากความคิดต่าง แต่ละกลุ่มจะเกิดความขัดแย้งในที่สุดคนไทยควรตระหนักเรื่องความสามัคคีจะก่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวชาติจะมั่นคง     ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com […]

ความเชื่อเรื่องไข่กับโชคลาง และพิธีกรรม

ความเชื่อเรื่องไข่กับโชคลาง และพิธีกรรม

ความเชื่อเรื่องไข่กับโชคลาง และพิธีกรรม   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราว เกี่ยวกับ ความเชื่อเรื่อง “ไข่” มาฝากกัน.. ไม่ว่าชนชาติใด เมื่อจะทำพิธีกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับศาสนาหรือความเชื่อล้วนต้องมีไข่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม ประวัติความเป็นมาของความเชื่อเกี่ยวกับไข่ ของตะวันตก และตะวันออก มีความคล้ายคลึงกัน คติทางตะวันตก ในศาสนาคริสต์มองว่าไข่เป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิดให้ชีวิตใหม่ การกำเนิดของพระเยซูเจ้ามาจากไข่ ส่วนคติธรรมของชาวตะวันออก คติของพราหมณ์-ฮินดู เชื่อกันว่าไข่เป็นต้นกำเนิดแห่งจักรวาลทั้งมวล ตามคติความเชื่อตะวันออก ในศาสนาพราหมณ์ พระพรหมทรงสถิตอยู่ในไข่เป็นเวลาหมื่นกัลป์ จึงบันดาลให้ไข่แตกเป็นสองซีก ซีกบนเป็นแผ่นฟ้า โลกสวรรค์ ซีกล่างเป็นโลกมนุษย์ พร้อมกับสร้างและลิขิตสรรพสิ่งขึ้นมา ส่วนความเชื่อว่าไข่เชื่อมโยงกับเรื่องของโชคลาง และพิธีกรรมมีขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่11 ในกลุ่มทวีปยุโรปกลาง ตั้งแต่รัสเซีย ลงมาเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ โปแลนด์ เล่ากันว่าพระแม่มารีนำไข่มาย้อมสีสดใสเป็นของเล่นสำหรับพระเยซู นับแต่นั้นมาเมื่อถึงเทศกาลปาสกา หลายประเทศ จึงมีการนำไข่มาตกแต่งระบายสี แล้วนำไปซ่อนเพื่อให้เด็กๆค้นหา สมัยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่หนึ่งแห่งอังกฤษ ทรงสั่งซื้อไข่จำนวน 450 ใบ ทำการทาสีเคลือบด้วยทองคำเปลว ประทานแก่บรรดาสมาชิกในราชสำนัก ในกลุ่มของพวกที่มีความเชื่อเกี่ยวกับโชคลาง ปรัชญา นำไข่ปาสกาแขวนตามโรงงาน ฯลฯ เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย ประเทศในแถบยุโรปไปจนถึงอเมริกา เชื่อว่ากระต่ายปาสกา […]

คาถาชุมนุมเทวดา และ คาถาอัญเชิญเทวดา สิ่งที่ปรารถนาก็จะสมหวังดั่งเทพเทวาประสิทธิ

คาถาชุมนุมเทวดา และ คาถาอัญเชิญเทวดา สิ่งที่ปรารถนาก็จะสมหวังดั่งเทพเทวาประสิทธิ

คาถาชุมนุมเทวดา และ คาถาอัญเชิญเทวดา ตำนาน บทสวดมนต์ชุมนุมเทวดา การสวดพระปริตรหรือเจ็ดตำนานนี้ เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศลังกา ราว พ.ศ. 500  ด้วยว่าชาวลังกาที่นับถือพุทธศาสนาในขณะนั้น ประสงค์ให้พระสงฆ์ช่วยเหลือตนให้เกิดสิริมงคล  และป้องกันภยันตรายต่างๆ ด้วยการสวดมนต์และคาถาตามแบบอย่างพราหมณ์  ซึ่งมีความเชื่อว่าผู้ทรงเวทจะทำให้เกิดสิริมงคล และป้องกันภยันตรายแก่มหาชนได้ ด้วยเหตุนี้พระสงฆ์ลังกาจึงได้คิดวิธีสวดพระปริตรขึ้น โดยเลือกเอาพระสูตร หรือคาถาที่สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย อันเกิดขึ้นเนื่องด้วยเหตุการณ์ต่างๆ มาสวดเป็นมนต์ โดยการสวดครั้งแรกๆ ก็ขึ้นกับเหตุการณ์ที่ไปสวด เช่น ไปสวดพิธีมงคลก็ใช้มงคลสูตรสวด สวดให้คนเจ็บป่วยก็ใช้โพชฌงคสูตร ครั้นคนนิยมมากขึ้นก็คิดค้นพระสูตรต่างๆ มาสวดเป็นพระปริตรมากขึ้นเป็นลำดับ ต่อมาพระเจ้าแผ่นดินประเทศลังกาก็ได้รับสั่งให้คณะสงฆ์ปรับปรุงพระสูตร และคาถาที่ใช้สวดพระปริตรขึ้นใหม่ให้เหมาะกับเหตุการณ์  เพื่อใช้ในพระราชพิธีหลวง โดยได้เพิ่มพระสูตรและคาถาให้มากขึ้น และเรียกว่า “ราชปริตร” แปลว่า  มนต์คุ้มครองพระเจ้าแผ่นดิน ต่อมาประชาชนต่างก็นิยม ให้มีการสวดพระปริตรในพิธีของตนบ้าง  จึงเกิดเป็นประเพณีสืบต่อกันมาจนปัจจุบัน คาถาชุมนุมเทวดา และ คาถาอัญเชิญเทวดา สิ่งที่ปรารถนาก็จะสมหวัง   การสวดมนต์เจริญภาวนา กุศลที่ได้ นอกจากเป็นไปเพื่อตนเองแล้ว ยังมีเหล่าเทพเทวดาอีกมากมายที่มาร่วมโมทนาด้วย ก็ขอให้บูชาอัญเชิญเหล่าท่านนั้นทั้งมา และ กลับ เมื่อกิจแห่งบุญนั้นมีเทพเทวดามาร่วมโมทนายินดีมากเท่าไหร่ สิ่งที่ปรารถนาก็จะสมหวังดั่งเทพเทวาประสิทธิมากขึ้นเช่นกัน (เชิญเทวดา) ผะริตะวานะ […]