3 วิธีคนโบราณสอนแก้กรรม สำหรับคนที่เจอเคราะห์ร้าย

3 วิธีคนโบราณสอนแก้กรรม สำหรับคนที่เจอเคราะห์ร้าย

3 วิธีคนโบราณสอนแก้กรรม สำหรับคนที่เจอเคราะห์ร้าย

 

บทความนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ ที่ใช้สอนลูกหลาน มาให้อ่านกัน ใครที่เจอปัญหาชีวิตบ่อย ๆ อย่างการเสียทรัพย์ ประสบอุบัติเหตุ ดวงไม่ดีจนเรียกว่าเคราะห์ร้าย คติความเชื่อคนโบราณเชื่อว่า มีวิธีแก้กรรมที่เจอซึ่งพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตคือการทําพิธีปัดสิ่งชั่วร้ายให้ไปจากตัว สละสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อให้เคราะห์สูญหายไปพูดง่าย ๆ คือ การตัดใจยอมเสียสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปเพื่อให้หมดเคราะห์ หรือตัดใจคิดว่าสิ่งที่เสียไปแล้วเป็นการทำให้หมดเคราะห์

 

ทำบุญใส่บาตร การทำตักบาตรแล้ว สมัยก่อนจะต้องมีการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลแด่เจ้ากรรมนายเวร ฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าตนเองเคราะห์ร้าย จะต้องทำบุญใส่บาตรเพราะคือการทำบุญอย่างง่ายที่คนโบราณสอนลูกหลานสืบกันมา

รดน้ำมนต์ คติความเชื่อคนโบราณสอนว่าคนทำความดีย่อมได้ดี ทำกรรมชั่วจะได้ชั่ว เวรกรรมจะตามสนอง เมื่อใดที่เจอปัญหาชีวิตอย่างการเสียทรัพย์ ประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วยดวงไม่ดี คนสมัยก่อนให้ไปรดน้ำมนต์ที่วัด และการรดน้ำมนต์ยังใช้กับคนที่หมอดูทายทักว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกจะมีเคราะห์กรรม เจ้ากรรมนายเวรตามราวี คนที่บังเอิญตรงกับปีชงตามความเชื่อคนจีนโบราณ แต่ไม่มีเวลาไปแก้ปีชง การไปรดน้ำมนต์ที่วัด จะเสริมดวง คติความเชื่อตามแบบคนไทยจะแก้ไขเคราะห์ร้ายผ่านพ้นไป

ฝึกเจริญสติสมาธิ ธรรมดาที่คนเจอปัญหาชีวิตต้องมีสติต่อสู้อุปสรรคที่เจอ อย่างตั้งใจจริงเมื่อใดก็ตามที่เกิดการทำความชั่ว แล้วผลกรรมตามสนองแล้วจะทำให้เคราะห์บรรเทาลง เพราะกรรมนั้นได้มีการชดใช้ไป ก็คือการฟาดเคราะห์ตามความหมายที่คนสมัยก่อนว่ากัน การฟาดเคราะห์อาจเกิดในลักษณะของหาย บาดเจ็บ เสียทรัพย์และโดนทำร้าย ใส่ร้าย แล้วจะได้รับสิ่งที่ดีคือการได้ลาภ

 

สรุป : แต่ก่อนที่เคราะห์จะเกิด คนโบราณสอนว่าให้ทำบุญอย่างสม่ำเสมอ เปรียบได้ว่าผสมน้ำแข็งลงในน้ำหวานสำเร็จรูป คราใดที่น้ำแข็งละลายจะทำให้น้ำหวานนั้นเจือจางลง เพราะคนนั้นจะไม่ทราบว่าชาติก่อนเคยทำกรรมใดไว้ การทำบุญจะทำให้กรรมเบาบางลง ควร ปฏิบัติศีลห้า อย่างเคร่งครัด เวลาว่างควรนั่งวิปัสสนากรรมฐานภาวนา อย่าลืมว่าเรื่องเวรกรรมหนีกันไม่พ้น ความเชื่อจากคนโบราณกลุ่มหนึ่งว่า เมื่อสิ่งร้ายผ่านไปสิ่งที่ดีจะเข้ามา ดั่งชีวิตคนเรายังไม่ตายมีขึ้นก็ย่อมมีลง แท้จริงอาจปลอบใจตัวเองอย่างน้อยที่สุด ทำให้เสียใจจากสิ่งร้าย ๆ น้อยลง

 

 

 

ติดตามอ่านความเชื่อ และคำทำนายแม่นๆแบบนี้ได้ใหม่ที่ www.lekdedonline.com

เลขเด็ดออนไลน์ ตรวจผลหวยรัฐบาล หวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ แนวทางหวย รวบรวมทุกอย่างครบจบในเว็บเดียวเพื่อความสะดวกสบาย และยังมี วิธีการขอหวย สถานที่ขอหวยที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยรวบรวมมให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาอ่านศึกษากันอย่างครบครัน แนวทางที่ทางเว็บเรานำมาแบ่งปันให้คนรักหวยได้ชม.

*** ดวงรายวัน เลขเด็ดมงคล เลขมงคล เลขเสี่ยงทาย ดูดวงจากตัวเลข ทำนายฝัน ***

ต้องที่นี่ >>> เลขเด็ดออนไลน์ <<<

 

 

 

เครดิต : thaiza.com

ภาพ : Pixabay.com

เรื่องน่าสนใจ

ปลูกมะพร้าว คนเฒ่าคนแก่ว่าแก้โรคภัย +กับกระแส ช่วงนี้กำลังมาแรง !!

ปลูกมะพร้าว คนเฒ่าคนแก่ว่าแก้โรคภัย +กับกระแส ช่วงนี้กำลังมาแรง !!

ปลูกมะพร้าว คนเฒ่าคนแก่ว่าแก้โรคภัย   ปลูกมะพร้าว คนเฒ่าคนแก่ว่าแก้โรคภัย  เรื่องราวโรคระบาดมีมานานตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว คนสมัยก่อนจะหาวิธีป้องกันแก้ไขโดยการปลูกต้นไม้บางอย่างตามความเชื่อ ต้นไม้อะไรปลูกไว้กันโรคภัย ปลูกที่ไหนบทความนี้ Horoscope thaiza จะแนะนำ ไม้มงคลที่คนโบราณนิยมปลูกในเรือนมีหลากหลายชนิด แต่คติความเชื่อคนโบราณว่าปลูกไว้จะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ คือต้นมะพร้าว คนสมัยก่อนเชื่อว่าลูกหลานที่ต้องการสุขภาพแข็งแรง ต้นมะพร้าวจะเสริมดวงให้ผู้อยู่อาศัยแข็งแรง มีความสุข อยู่เย็นร่วมกันไม่ทะเลาะเบาะแว้งควรปลูกทางทิศตะวันออก จะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บมารบกวน คนโบราณยังเชื่อว่าการไม่มีโรคคือลาภที่ประเสริฐ ฉะนั้นควรเลือกมะพร้าวแคระ มีขนาดลำต้นเล็ก ปลูกง่าย โตเร็วสะดวกในการปลูก ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำดี ใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับ ปลายใบเรียวแหลมโคนใบรูปลิ่ม แผ่นใบแข็งหนาสีเขียวเข้ม ดอกสีเหลืองเข้ม ดอกแยกเพศรวมอยู่ในต้นเดียวกัน ผลสดมีสีเหลือง     ที่ควรเลือกมะพร้าวแคระเพราะ ต้นมะพร้าวมีขนาดใหญ่มาก กว่าจะโตใช้เวลานาน มะพร้าวแคระเคลื่อนย้ายง่าย ปลูกง่าย ใช้งานทันเวลา มะพร้าวมีประโยชน์มากทั้งต้นคนสมัยก่อนจะนำก้านมามัดทำไม้กวาด ผลแก่นำมาทำกะทิประกอบอาหาร ผลอ่อนนำน้ำมาดื่ม และน้ำมะพร้าวมีประโยชน์มากต่อร่างกาย ประวัติโรคระบาดเมืองไทยมีมานานแล้ว และในอดีตมีโรคมาลาเรีย โรคไข้ทรพิษ ที่เคยมีการตายจำนวนมาก สมัยพระเจ้าอู่ทองกษัตริย์องค์แรกแห่งอยุธยามีการอพยพคนย้ายเมืองหนีโรคระบาด สมัยรัชกาลที่สามประเทศไทยต้องเจอโรคระบาดเช่นกัน สมัยก่อนยังไม่มีการป้องกันที่ดี โดยคนสมัยก่อนจึงเชื่อว่า ดาวหางปรากฏขึ้นเมื่อใด บ้านเมืองจะมีโรคระบาด […]

5 ลักษณะเด่นบนใบหน้าของ 'คนดวงดี' เสี่ยงโชคมีแต่เฮง

5 ลักษณะเด่นบนใบหน้าของ ‘คนดวงดี’ เสี่ยงโชคมีแต่เฮง

5 ลักษณะเด่นบนใบหน้าของ คนดวงดี เสี่ยงโชคมีแต่เฮง   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราวความเชื่อโบราณ มาฝากกัน โหงวเฮ้ง คือ วิชาว่าด้วยลักษณะเด่นบนใบหน้าห้าประการ ทราบไหมว่าคนจีนโบราณว่า คนมีโชคจากการพนันจะ มีหน้าตาบางอย่างที่เด่นชัด อ่านดูสิว่าตรงกับใบหน้าคุณไหม ซินแสจีนว่าโหงวเฮ้งที่ดีจะส่งผลให้คุณประสบความสำเร็จ เงินทองไหลมาเทมา ไม่ว่าจะทำอะไร คล่องตัว เพราะมีคนคอยช่วยเหลือและไปเสี่ยงโชคเล่นพนันที่ไหนจะมีโชค ลักษณะที่ว่าคือ   หู คือ ส่วนที่บ่งบอกอำนาจและอายุ คนที่มีโหงวเฮ้งดีมีโชคลาภจะต้องมีใบหูใหญ่และไม่บางมากจนเกินไป มีติ่งหู หนาเรียวยาว   จมูก อวัยวะที่สะท้อนเรื่องทรัพย์สินและฐานะ รวมทั้งการมีโอกาสจากการเสี่ยงโชคการพนันต้องมีจมูกรูปชมพู่ผ่า ซีก มีเนื้อนูนที่ปลายจมูกแต่พองาม ฉะนั้นคนที่จะไปเสี่ยงโชคต้องดูจมูกสำคัญมาก ใครที่มีโหงวเฮ้งจมูกรับทรัพย์ ต้องสวยได้รูป มีสัดส่วนที่พอดี ดั้งต้องไม่พุ่งโด่งมากจนเกินงาม   คิ้ว บ่งบอกเรื่องชื่อเสียง ความสำเร็จและเกียรติยศ ฉะนั้นคนที่มีโหงวเฮ้งมีโชคจากการพนันจะต้องมีคิ้วที่หนาได้รูป ไม่รกรุงรัง และคิ้วจะต้องไม่ดกมากเกินไปจนหัวคิ้วชนกัน แต่ก็ต้องไม่สั้นเกินไปจนไม่พอดีกับรูปหน้า   ดวงตา อวัยวะสำคัญมากเพราะคือตัวสะท้อนด้าน ความคิด สติปัญญา และความจริงใจ ฉะนั้นใครที่มีโหงวเฮ้งดวง ตาที่ดีจะต้องมีดวงตากลมโตมีประกาย และสังเกตจากด้านหน้าเห็นตาขาวตาดำแบ่งแยกออกจากกันได้อย่างชัดเจน คือคนที่ฉลาดรอบคอบคติความเชื่อคนจีนโบราณว่าโชคจะเข้าข้างเสมอ   […]

ตำนานหงส์กินคน ประวัติหงส์สีทอง วัดห้วยลึก

ตำนานหงส์กินคน ประวัติหงส์สีทอง วัดห้วยลึก

ตำนานหงส์กินคน ประวัติหงส์สีทอง วัดห้วยลึก   วันนี้ ทางเลขเด็ดออนไลน์ ได้นำเรื่องราว เกี่ยวกับ “ตำนานหงส์กินคน ประวัติหงส์สีทอง” มาให้ได้อ่านกัน.. วัดห้วยลึก ตั้งอยู่ที่ถนนเพชรเกษม หมู่ 5 ตำบลนาหูกวาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งวัดห้วยลึกแต่เดิมเป็นสำนักสงฆ์ห้วยหงษ์ทอง ต่อมาได้มีการขออนุญาตสร้างวัดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2523 ส่วนที่มาของหงส์ทองยักษ์..   ‘พระครูไพศาล’ อดีตเจ้าอาวาสวัด ได้มีการให้สร้างหงส์ทองยักษ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เป็นที่ที่รองรับเหล่าเทพเทวดาซึ่งแวะเวียนลงมา โดยสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2514 เสร็จราวปี พ.ศ.2518 โดยเป็นการสร้างก่อนที่จะมีการขยายถนน จึงเป็นเหตุว่าทำไมปัจจุบันจึงเห็นหงส์ทองยักษ์นั้นตั้งอยู่ริมถนน สำหรับเรื่องราวต่างๆ ที่เล่าขานกันมา เช่น ที่ปากหงส์ทองยักษ์จะมีรอยเลือด จึงต้องนำสีทองมาทาปกปิดรอยเลือดไว้ หรือระฆังที่ห้อยอยู่ที่ปากหงส์หล่นลงมาทับพระมรณภาพ ‘พระอธิการเดชา’  เผยว่า ไม่ได้มีเรื่องราวเช่นนั้น แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัยที่ต้องถอดออก เพราะเกรงว่าระฆังจะไปหล่นใส่รถของผู้ที่ขับผ่าน ส่วนเรื่องที่มีคนเล่าว่าเห็นหงส์ทองบินข้ามฝั่งถนนก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้เห็น แล้วแต่ว่าใครจะมีบุญบารมี   ‘พระอธิการเดชา’ ยังได้เผยถึงที่มาของหงส์อีกหนึ่งตัวที่ตั้งอยู่ข้างกัน โดยเล่าว่าขณะที่จำวัด ได้ยินเสียงที่ระบุว่าเป็นหงส์ทองยักษ์บอกว่าให้ช่วยสร้างหงส์อีกหนึ่งตัวเพราะต้องการคู่ […]

บทสวดบูชาองค์พระพิราพ บรมครูผู้ประทานโชคลาภความสุข ความเจริญ อำนาจบารมี

บทสวดบูชาองค์พระพิราพ บรมครูผู้ประทานโชคลาภความสุข ความเจริญ อำนาจบารมี

บทสวดบูชาองค์พระพิราพ พระพิราพ คือ อวตารปางหนึ่งของ พระอิศวร หรือ ศิวะอวตาร ถือเป็นบรมครูสูงสุดของทั้งฝ่ายนาฏศิลป์และดุริยางค์ศิลป์ โดยเชื่อกันว่า พระองค์นั้นเป็นภาคของ พระอิศวรปางไภรวะ (ปางดุร้าย) เสมือนหนึ่งพระแม่กาลี ซึ่งเป็นอวตารปางหนึ่งของ พระอุมา ในคติดั่งเดิมเรียกองค์พระพิราพว่า พระไภรวะ พระไภราวะ หรือ พระไภราพ ซึ่งเป็นคนละองค์กันกับ ยักษ์วิราธ หรือ พระพิราพป่า ในเรื่องรามเกียรติ์ พระองค์ คือ บรมครูยักษ์ เป็นมหาเทพแห่งสงคราม การทำลายล้าง บันดาลได้ทั้งความเป็นและความตาย เป็นมหาเทพปางขจัดความชั่วร้าย และขจัดสิ่งอัปมงคลทั้งหลายให้สิ้นไป โดยในประเทศอินเดียถือว่าพระพิราพ หรือ พระไภรวะ มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับนาฏศิลป์ เพราะท่านเป็นผู้ให้กำเนิดท่ารำที่เรียกว่า วิจิตรตาณฑวะ ซึ่งเป็นท่ารำท่าหนึ่งใน 108 ท่ารำของพระศิวะ ดังนั้นจึงถือว่าท่านเป็น นาฏราช ที่หมู่นาฏศิลป์อินเดียให้ความเคารพยำเกรง เมื่อนาฏดุริยางค์ศิลป์ของไทยนับเอาศาสตร์แขนงนี้มาจากอินเดีย คติการนับถือพระอิศวรนารายณ์ทวยเทพทั้งหลาย รวมไปถึง พระไภรวะ จึงติดตามมา โดยคติการนับถือพระพิราพ กับการแสดงนาฏศิลป์และดุริยางค์ศิลป์ ปรากฏหลักฐานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และมีการบันทึกหลักฐานเป็นที่แน่ชัดในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) บทสวดบูชาองค์พระพิราพ เทพอสูรผู้เป็นบรมครูสูงสุดแห่งนาฏศิลป์ มหาเทพปางขจัดความชั่วร้าย กรมศิลปากรได้มีการชำระประวัติของ พระพิราพ โดยนักวิชาการ และมีการเผยแพร่สร้างความเข้าใจให้แก่บุคคลทั่วไป แต่ก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก โดยในปัจจุบันคติการนับถือ พระพิราพ แพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากครูบาอาจารย์ และพระเกจิอาจารย์หลายสำนัก นิยมสร้างวัตถุมงคลที่มีลักษณะของพระพิราพขึ้น โดยส่วนใหญ่มักจะมีบทสวดบูชาดังนี้ อิมัง […]